สวัสดีค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ ที่ซื้อประกันชีวิตแบบบำนาญไว้เป็นเงินเก็บเงินออมเพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณ จะได้สิทธิประโยชน์ที่สำคัญ ก็คือ สามารถนำเบี้ยประกันที่จ่ายในแต่ละปีมาลดหย่อนภาษีได้ แต่ปัจจุบันทางกรมสรรพากรมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญค่ะ ซึ่งรายละเอียดเป็นอย่างไร K-Expert มีคำตอบมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ
เกณฑ์การลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญที่กรมสรรพากรกำหนดขึ้นมาใหม่เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2558 เกี่ยวกับเงินได้ที่ใช้เป็นฐานคำนวณสิทธิลดหย่อน โดยกำหนดว่าเป็น เงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในแต่ละปี เปลี่ยนจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าเป็น เงินได้พึงประเมิน ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป หมายความว่า เงินได้ที่จะใช้เป็นฐานคำนวณว่า เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญที่เราจ่ายไปในแต่ละปี สามารถลดหย่อนภาษีได้เท่าไร จะต้องเป็นรายได้ที่เสียภาษีเท่านั้น ซึ่งต่างจากเดิมที่สามารถนำรายได้ที่แสดงในแบบภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.) ทั้งหมด ทั้งรายได้ที่เสียภาษี และไม่เสียภาษี มาเป็นฐานในการคำนวณ สำหรับรายได้ไม่เสียภาษีมีหลายอย่างด้วยกัน เช่น เงินรางวัลจากการถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล กำไรจากการขาย LTF ที่ขายคืนแบบถูกเงื่อนไข เป็นต้นค่ะ
ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2558 สิทธิลดหย่อนภาษีจากเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญจะเท่ากับ 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ในปีนั้น สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ต้องไม่เกิน 500,000 บาทค่ะ แต่เพื่อนๆ ต้องดูด้วยนะคะว่า ประกันชีวิตแบบบำนาญที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ ต้องมีความคุ้มครองชีวิตตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ซึ่งการนับระยะเวลาคุ้มครองจะนับตั้งแต่อายุเริ่มทำประกันชีวิต จนถึงอายุสุดท้ายที่รับบำนาญ และไม่มีการจ่ายเงินคืนก่อนถึงอายุเกษียณที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ค่ะ
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น มาดูตัวอย่างการคำนวณกันค่ะ สมมติปี 2558 มีรายได้ทั้งปี 1,000,000 ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลได้เงิน 200,000 บาท ถ้าเป็นเกณฑ์เดิม เงินรางวัลจากสลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถนำมารวมเป็นฐานเงินได้เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อนๆ ก็จะลดหย่อนได้สูงสุด 15% x 1,200,000 = 180,000 บาท แต่ตอนนี้จะคิดใหม่ คำนวณใหม่ ตามเกณฑ์ใหม่ ซึ่งลดหย่อนได้สูงสุด 15% x 1,000,000 = 150,000 บาทนะคะ
ประกันชีวิตแบบบำนาญเป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้เพื่อนๆ มีเงินใช้จ่ายยามเกษียณ เนื่องจากประกันชีวิตแบบบำนาญมีเงื่อนไขการจ่ายเงินคืนให้แก่ผู้ทำประกัน เมื่อผู้ทำประกันมีอายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี โดยได้รับเป็นเงินบำนาญรายงวดอย่างสม่ำเสมอ จนถึงอายุไม่ต่ำกว่า 85 ปี ทำให้เพื่อนๆ มั่นใจได้ว่า อย่างน้อยก็มีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณไปจนถึงอายุไม่ต่ำกว่า 85 ปี แถมเพื่อนๆ ยังสามารถทำประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง หรือประกันอุบัติเหตุ เป็นสัญญาแนบท้ายประกันชีวิตแบบบำนาญ เพื่อเพิ่มความคุ้มครอง และช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้น
ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาประกันชีวิตแบบบำนาญให้ตัวเอง ควรศึกษารายละเอียดของกรมธรรม์ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเงื่อนไขการจ่ายเงินบำนาญ ความคุ้มครองชีวิต และที่สำคัญ นำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีตามสิทธิที่ได้รับด้วยนะคะ
------------------------------------------------------
Recommended! บทความที่เกี่ยวข้องกับบล็อกวันนี้