JACK
JACK
ชายแก่วัยเลย 60 คนหนึ่งคุยกับลูกชายที่ เพิ่งกลับมาเยี่ยมหลัง จากแต่งงานและย้าย ครอบครัวออกไปไม่กี่ปี ชายแก่...แจ๊ค (ชื่อลูกชาย) นั่นอะไรลูกเห็นลางๆ แจ๊ค...อ๋อ วัวแหนะพ่อ ผ่านไป 2-3 นาที ชายแก่...แจ๊ค นั่นอะไรลูก แจ๊ค...วัว ตัวเดิมนั่นแหละพ่อ ยังไม่ไปไหนเลย ผ่านไปอีก 2-3 นาที ชายแก่...แจ๊ค นั่นอะไรอีกละลูก แจ๊ค...(เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิด) วัวพ่อวัว วัวตัวเดิมที่เพิ่งถามนั่นแหละ เวลาผ่านไปอีก 2-3 นาที ชายแก่...แจ๊ค นั่นอะไรลูก แจ๊ค...เอ๊ะพ่อนี่ยังไงนะ ถามซ้ำๆซาก ผมจะบอกครั้งสุดท้ายแล้วนะว่าวัว ผ่านไปอีก 2-3 นาที ชายแก่...แจ๊ค นั่นอะไรลูก แจ๊ค...โอ๊ย ! พ่อเลอะเลือนแล้ว คุยไม่รู้เรื่อง ผมไม่คุยกับพ่อแล้ว แล้วแจ๊คก็ผละจากพ่อไปอย่างอารมณ์เสียเป็นที่สุด เวลาผ่านไป จวบจนตอนเย็น ได้เวลาอาหารค่ำ เมื่อไม่เห็นผู้เป็นพ่อลงมา แจ๊คจึงเดินไปตามที่ห้อง ณ ที่นั้น เขาได้พบชาย แก่คนนั้นนั่งเหม่อลอย ข้างๆมีไดอะรี่เก่าๆเล่มหนึ่งที่เพิ่งเขียน บันทึกในวันนี้เสร็จ แจ๊คถือวิสาสะเข้าไปอ่าน ความว่า... ครั้งหนึ่งเมื่อ 30 ปีมาแล้ว เรามีลูกชายคนหนึ่งที่เรารักมาก เราตั้งชื่อเค้าเองว่า แจ๊ค ในวันที่อากาศแจ่มใสวันหนึ่ง ตอนนั้นแจ๊คกำลังพูดได้เก่งทีเดียว เราพาเค้าไปนั่งที่สวนหลังบ้าน พอดีมีวัวผ่านมา...แจ๊คถามเราว่า พ่อนั่นอะไร...วัวไงลูก เราตอบ เวลาผ่านไปอีกไม่ถึง 1 นาที แจ๊คก็ถามคำถามเดิมเราอีก เราก็ตอบเช่นเดิมอีก เป็นอย่างนี้อยู่ถึง 25 ครั้ง...เราไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลยที่จะตอบคำถามเดิมๆเหล่านั้น เรากลับรู้สึกดีใจอย่างที่สุดที่ลูกสนใจ เราอย่างไม่เบื่อหน่าย.... แต่ในวันนี้ ณ ที่แห่งเดิม คน 2 คนที่เคยถามคำถามเดียวกัน หากแต่ว่าเราเป็นฝ่ายถาม แจ๊คเป็นคนตอบ...เพียง 5 ครั้งเท่านั้น ลูกก็ตวาดเรา หาว่าเราเลอะเลือน รังเกียจแม้แต่จะคุยกับเราต่อไป........