จิตใจของเรา ใกล้แสนใกล้ หรือไกลแสนไกล
จิตใจของเรา ใกล้แสนใกล้ หรือไกลแสนไกล
มีนิทานเรื่องหนึ่งเล่ากันสืบต่อมาในหมู่อินเดียนแดงเผ่าซูว่าเมื่อพระเจ้าได้สร้างโลกและสรรพสัตว์ขึ้นมาแล้ว
ก็ถึงคราวที่พระองค์จะสร้างมนุษย์ แต่แล้วพระองค์ก็เป็นห่วงว่าถ้ามอบปัญญาแก่มนุษย์แล้ว ต่อไปมนุษย์อาจทำตัวยิ่งใหญ่เกินกว่าพระองค์ได้
จึงมอบหมายให้สิงโตคิดอ่านหาวิธีซ่อนปัญญาของมนุษย์ สิงโตจึงเรียกประชุมบรรดาสัตว์ เพื่อหาอาสาสมัครที่จะทำภารกิจนี้ หมีเสนอตัวว่าจะเอาปัญญาของมนุษย์ไปซ่อนในภูเขาที่ไกลสุดขอบฟ้ามั่นใจว่ามนุษย์หาไม่เจอแน่ สิงโตคิดสักครู่แล้วก็ส่ายหัวพูดว่าวิธีนี้ไม่ได้ผล ไม่ว่าภูเขาลูกนั้นจะอยู่ไกลแค่ไหน มนุษย์ต้องหาเจอแน่
สักพักปลาวาฬก็ออกความคิดว่า เอาไปซ่อนในสะดือทะเลสิมนุษย์ไม่มีทางดำไปพบหรอก สิงโตส่ายหัวอีก
ไม่ว่าสะดือทะเลจะอยู่ลึกแค่ไหน สักวันมนุษย์ก็ต้องหาวิธีไปถึงจนได้ สัตว์นานาชนิดต่างออกหัวคิด แต่ก็ไม่มีวิธีไหนที่น่าพอใจ จนที่สุดก็หมดปัญญา ที่ประชุมตกอยู่ในความเงียบงัน
"ผมขออาสาเอง"
สัตว์ทั้งหมดหันไปมองเจ้าของเสียง พอรู้ว่าเป็นเจ้าหนูตัวน้อย ก็ฮาลั่น ต่างนึกในใจว่าช่างไม่เจียมตัวเสียเลยสิงโตถามอย่างเสียไม่ได้ว่า
"เจ้าจะเอาปัญญามนุษย์ไปซ่อนที่ไหน"
"เอาไปซ่อนไว้ในใจมนุษย์ไงครับ"
หนูกล่าว "ถ้าเอาไปซ่อนที่นั่น มนุษย์ไม่มีวันหาเจอแน่"
มาถึงวันนี้กาลเวลาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
วิธีการของสัตว์ตัวไหนที่แยบคายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นยอดเขาหิมาลัยใต้มหาสมุทรแปซิฟิก หรือสุดขอบกาแล็กซี มนุษย์ก็ยังหาทางไปถึงจนได้หรืออย่างน้อยก็สอดส่ายสายตาไปจนรู้ว่ามีอะไรอยู่ที่นั่นบ้าง
ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน เราก็สำรวจค้นคว้าไม่เลิกรา
แต่แล้วเราแทบจะไม่รู้จักจิตใจของเราเลย เราเดินทางไปทุกหนแห่งแต่กลับปล่อยจิตใจให้กลายเป็นแดนสนธยา ใช่หรือไม่ว่าเรารู้มากมายแต่ล้วนเป็นเรื่องนอกตัว
ไม่มีอะไรที่ใกล้แสนใกล้เท่ากับจิตใจของเรา
แต่แล้วมันกลับดูเหมือนไกลแสนไกล