กับคำว่า “พอ”
กับคำว่า “พอ”
จุดเริ่มต้นของความสุข ผมคิดว่าอยู่ที่การค้นหาตัวเองให้พบไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนใกล้ตายยังไม่รู้ว่าตัว
เองต้องการอะไร เพราะติดอยู่กับความหลง หรือติดอยู่กับกระแสอะไรก็ตาม ผมก็เช่นกันเคยถูกชักจูง
จากสังคม จากเพื่อนให้ไปทำงานหลายๆ อย่าง แต่ไม่ว่าทำงานอะไรก็ตาม ต้องทำด้วยความชอบ จึงจะ
ประสบความสำเร็จ และต้องรับผิดชอบต่องานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะเดียวกันไม่มีงานไหนราบรื่น
ไม่มีหรอกที่ตัวเราจะไม่เครียด หรือไม่มีความทุกข์ หรือไม่หงุดหงิด อยู่ที่ว่าแก้ไขให้ดีขึ้นได้ไหม ถึงจะไม่
ได้ทั้งหมด แต่อย่าเลวลงก็เท่านั้นเอง นั่นคือการดำรงชีวิตอยู่


จนเมื่อผมเข้าสู่วงการภาพยนตร์ ได้ไปถ่ายหนังตามสถานที่ต่างๆ จึงค้นพบว่าจริงๆ แล้วตัวเองชอบทำ
งานอิสระและไม่จำเจไม่มีเวลาทำงานตายตัว และไม่เครียด ทุกคนในกองถ่ายเป็นเพื่อนกันหมด ตั้งแต่
นั้นผมก็ติดอยู่กับงานแสดงมาตลอด
ซึ่งไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตามเราต้องทำตัวให้อยู่ได้นานที่สุดเท่าที่จะ
นานได้ ไม่ใช่อยู่ได้ด้วยการเอาตัวรอด เพราะการเอาตัวรอดไม่ใช่วิถีทางที่ถูกต้องกับทุกอย่าง แต่ด้วย
การรักษา และเคารพมารยาทในการอยู่ร่วมสังคมการทำงาน กับเพื่อนร่วมงาน ไม่แบ่งชั้นวรรณะ ทุกคน
มีความสำคัญในการทำงานเหมือนๆ กัน เพียงแต่รับผิดชอบหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง


รวมทั้งการจัดระเบียบวินัยให้กับชีวิต ไม่ใช่รับผิดชอบในการทำงานดี แต่ไม่ดูแลตัวเอง ในเมื่อพ่อแม่ให้
ร่างกายมาครบ 32 ประการ ก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องมีวินัยในตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสวยหล่อ หรือต้องใส่
แบรนด์เนม เพียงแค่ดูแลร่างกายให้สะอาด อยู่เสมอ ต่อให้ใส่อะไรก็ดูดีทั้งนั้น คนที่ทำงานหนักต้องพัก
ผ่อนบ้าง ไม่ใช่ทำงานจนสลบคาโต๊ะ คาเก้าอี้ หรือรอให้ป่วยก่อนแล้วค่อยไปหาหมอ ขณะที่รถป้ายแดง
กลับหมั่นเช็ดถูจนสีถลอก ทำไมจึงห่วงรถมากกว่าตัวเอง เหมือนกับชีวิตได้มาฟรีก็เลยไม่ดูแล
ขอให้คิดสัก นิดว่าชีวิตคนยืนยาวกว่าของใช้เยอะ


ณ วันนี้ผมมาถึงจุดที่ตัวเองเพียงพอแล้ว ได้ทำงานที่ชอบและได้มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ตัวเองรัก เสร็จ
งานกลับบ้านสวนที่จันทบุรี อยู่กับความเรียบง่ายของธรรมชาติอยู่กับการปลดปล่อยไม่บังคับตัวเองว่าจะ
ต้องกินอาหารเมื่อไร นอนหรือตื่นเมื่อไร ผมกินอาหารวันละมื้อมา 8 ปี จะกินก็ต่อเมื่อหิว และกินแค่พอ
อิ่มไม่ดื่มแอลกอฮอล์ การพักผ่อนที่ดีที่สุดคือนอนหลับ และจะตื่นเมื่อร่างกายต้องการ ไม่ได้บังคับว่าต้องตื่น
เพื่ออะไร เพราะอะไรก็ไม่หนีเราไปไหน ต้นไม้ยังรอ บ้านก็ยังรอเราอยู่


ผมใช้ชีวิตอย่างนี้มาสามสิบปีไม่เคยรู้จักความเหงา พอคนงานกลับไปหมด บ้านจะเงียบ ไม่มีคนอยู่ในสาย
ตา ผมปิดไฟ มองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า นอนฟังเสียงจักจั่น แค่นี้สำหรับผมก็พอแล้ว


******************************* นิรุตติ์ ศิริจรรยา

fw mail



Create Date : 24 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2550 23:17:14 น.
Counter : 722 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend