สนช.รับร่างกม.ให้จ่ายค่าปรับผ่านธนาคาร-ร้านสะดวกซื้อแก้ปัญหาตำรวจเก็บส่วย



ที่ประชุมสนช.มีมติรับร่าง พ.ร.บ.ชำระค่าปรับจราจร 181 เสียง เพิ่มช่องทางจ่ายผ่านธนาคาร-ร้านสะดวกซื้อ “วิษณุ” แจงเพื่ออำนวยความสะดวกต่อผู้ขับขี่ ล้อมคอกปัญหาตำรวจเก็บส่วย ด้านตำรวจจราจรเผยยอดใบสั่ง 1.4 ล้าน มาจ่ายค่าปรับแค่ 4 แสน เตรียมชงตัดคะแนนยึดใบขับขี่แทน พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาภายใน 30 วัน

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559 ที่รัฐสภา ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 เป็นประธาน ได้มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.จราจรทางบก (ฉบับที่ ...) พ.ศ...(เพิ่มช่องทางชำระค่าปรับ) ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)เสนอ ด้วยคะแนน 181 งดออกเสียง 3 พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาภายใน 30 วัน

โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงสาระสำคัญว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เพิ่มช่องทางการชำระค่าปรับตามใบสั่งในกรณีที่ไม่มีการเรียกเก็บใบอนุญาตขับขี่ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกให้กับกับผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ ทั้งนี้เป็นการชำระด้วยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิตหรือวิธีการอื่น โดยผ่านธนาคารหรือหน่วยบริการรับชำระเงิน เป็นไปตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนด โดยหลักในการเสนอกฎหมายนี้ ก็เพื่ออำนวยความสะดวก เตรียมมาตรการสำคัญในอนาคต และเป็นการพยายามคิดช่องที่ไม่ต้องมีการจ่ายเงินผ่านมือเจ้าหน้าที่ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดเรื่องเหมือนที่เกิดเป็นข่าวในขณะนี้ โดยทั้งหมดเชื่อว่าจะทำให้เกิดวินัยได้  

นายวิษณุ ได้ตอบคำถามของสมาชิกหลายคนที่แสดงความเป็นห่วงว่าจะมีการผูกขาดร้านสะดวกซื้อเฉพาะบางแห่ง ส่งผลต่อส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียม ว่า จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ชำระค่าปรับ โดยชำระที่ธนาคารโดยมีธนาคารกรุงไทยเป็นหลัก ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นอีก ถ้ายังจะจ่ายกันเพียง 40 เปอร์เซ็นต์อีก ก็คงจะต้องคิดมาตรการอื่นต่อไป

ทั้งนี้ ครม.มีมติให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงคมนาคม กฤษฎีกา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเตรียมยกเครื่อง พ.ร.บ.จราจรทางบกทั้งฉบับเพื่อสร้างเรื่องวินัยจราจร เพื่อแก้ปัญหาเรื่องค่าปรับ ความปลอดภัยบนท้องถนน รวมทั้งดูเรื่องการเพิ่มโทษและอายุความ ส่วนเรื่องศาลจราจรก็คิดกันมานาน แต่คำตอบที่ได้รับคิดว่ายังไม่เหมาะสม อาจจะยังไม่ถึงเวลา เพราะในบางประเทศที่เขามีศาลจราจรมีค่าใช้จ่ายทั้งภาครัฐในการดำเนินการ และเอกชนที่จะต้องไปศาลสูงมาก ซึ่งอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย

ด้าน พล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ชี้แจงว่า ธนาคารหลักที่จะรับชำค่าปรับตามกฎหมายนี้ โดยหลักคือธนาคารกรุงไทย ส่วนร้านสะดวกซื้อ ไม่จำกัดจะเปิดรับชำระทุกหน่วยทุกราย ด้าน พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร  ชี้แจงถึงการตั้งกล้องตรวจจับผู้กระทำผิดว่า ปัจจุบันตำรวจจราจรมีกล้องตรวจจับ 3 ประเภท กล้อง ตรวจจับสัญญาณไฟแดง มี 30 จุดทั่ว กทม. กล้องตรวจจับความเร็วใช้บนทางหลวงและทางพิเศษ และกล้องเปลี่ยนช่องทางจราจรที่มีเครื่องหมายห้ามเปลี่ยน

ตร.เล็งชงเบี้ยวจ่ายตัดคะแนน ถอนใบขับขี่

โดยการตั้งกล้องทุกจุดจะมีป้ายเตือนเป็นระยะๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถทราบและเป็นการปราม แต่ยังมีเจตนาฝ่าฝืนต้องถูกออกใบสั่ง ทั้งนี้ในปี 2558  กทม. ได้ออกใบสั่งจำนวน 1.4 ล้านใบ แต่มีผู้มาชำระเพียง 4 แสนราย 

อย่างไรก็ตามการที่ผู้กระทำผิดไม่ยอมเสียค่าปรับ คงต้องใช้มาตรการอื่น เช่น การตัดคะแนน เพิกถอนใบอนุญาตต่อไป ส่วนข้อเสนอเพิ่มความเร็วของรถเพื่อให้เหมาะกับถนนนั้นคิดว่าถ้าปรับความเร็วให้เหมาะกับสภาพรถและถนนปัจจุบัน  และกำหนดโทษเพิ่มขึ้นด้วย เชื่อว่าจะควบคุมไม่เกิดอุบัติเหตุได้

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้มีมติรับหลักการวาระ1 ด้วยคะแนน 181 งดออกสียง 3 พร้อมตั้งคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาภายใน 30 วัน

จราจรให้ตำรวจออก 4 นาย-อมเงินใบสั่ง

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2559 มีรายงานว่า พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.จร. เซ็นคำสั่งกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.)ที่ 217/2559 ลงวันที่ 19 เม.ย.59 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก พ.ต.ท.พัทธนนท์ เกียรติไพบูลย์ สว.งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. ,ด.ต.นิธิศ ผกาแก้ว ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร.,ด.ต.สุวรรณ์ ทองชมภู ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. และ ด.ต.ลภัส ขำพร้อม ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร.ถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่ง บก.จร.ที่ 206/2559 ลงวันที่ 18 เม.ย.59 เรื่องใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ทุจริต และประพฤติ มิชอบต่อหน้าที่ราชการ การเบียดบังหรือเอาไปซึ่งเงินที่ได้จากการชำระค่าเปรียบเทียบปรับเพื่อประโยชน์แก่ตนเอง หรือผู้อื่น

อันเป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบทางราชการปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเอง หรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และกระทำการใดๆอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง และมีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 3 (1) และ (2) คือ

ผู้ถูกกล่าวหาถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจ หากให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการ และจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนพิจารณา หรือจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้น และพิจารณาแล้วเห็นว่า การสอบสวนพิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

ดังนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 95 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการ และการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8.จึงให้ข้าราชการตำรวจทั้ง 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.59 เป็นต้นไป ผู้ถูกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ได้ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 105 ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่ง หรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์

สำหรับประวัติของ พ.ต.ท.พัทธนนท์ ชื่อเล่นว่า “เก่ง” เป็นบุตรชายนายสมพล เกียรติไพบูลย์ อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ เรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 52 เคยเป็นนายตำรวจติดตาม พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. เคยตกเป็นข่าวดังจากคลิปยึดรถจักรยานยนต์ขึ้นรถกระบะไปที่ บก.จร. หลังจับกุมผู้ขับขี่รถ จยย.ไม่สวมหมวกกันน็อกและไม่มีใบขับขี่ย่านประตูน้ำ จนเกิดปะทะคารมกันจนเป็นข่าวครึกโครม หลังผู้ถูกจับกุมไปร้องเรียน ฝ่ายสารวัตรเก่งออกมาชี้แจงว่า ตำรวจสามารถยึดรถ จยย.ไปตรวจสอบได้ตามกฎหมาย

พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น.กล่าวว่า ผบก.จร.ได้รายงานให้ทราบว่า จากการตรวจ สอบของสำนักงานตรวจสอบภายใน (สตส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า มีการกระทำผิดในเรื่องวินัย จึงตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ผลการสืบสวนพบว่า มีข้อมูลความผิด

จากนั้นตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง จนมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดการทุจริตยังไม่ได้รับรายงาน

มีรายงานว่า เรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากสำนักงานตรวจสอบภายใน (สตส.) สตช.ตรวจพบความผิดปกติการเบิกจ่ายเงินค่าปรับจราจรภายใน บก.จร.ส่อไปในทางทุจริต ก่อนหน้านี้ตรวจพบการทุจริตเรื่องค่าปรับที่ กก.3 บก.จร. (ศูนย์ข้อมูลใบสั่ง) ประจำศูนย์ตรวจสอบใบสั่งและเปรียบเทียบปรับซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานขนส่งเขตพื้นที่ 1 (บางขุนเทียน) เป็นหน่วยตรวจวัดควันดำ-เสียงดัง จนมีคำสั่งให้ตำรวจจราจรที่เกี่ยวข้องออกจากราชการไปแล้ว

หลังจากนั้น สตส.จึงเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดทุกหน่วยในสังกัด บก.จร. จากเดิมที่ใช้วิธีการสุ่มตรวจ จากการตรวจสอบพบว่า ที่งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. หรือตู้เปรียบเทียบปรับกำแพงเพชร ยอดเงินค่าปรับไม่ตรงกับใบเสร็จรับเงิน ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนว่า ที่ตู้เปรียบเทียบปรับกำแพงเพชรค่อนข้างโหด เปรียบเทียบปรับผู้ที่กระทำผิดกฎจราจรในอัตราโทษสูงสุด

เมื่อเปรียบเทียบกับยอดเงินค่าปรับที่นำส่ง บก.จร.ไม่ตรงกัน จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจนพบว่า มีมูลความจริง จึงมีคำสั่งให้ พ.ต.ท.พัทธนนท์พร้อมพวกออกจากราชการตามคำสั่งดังกล่าว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 22 เมษายน 2559    
Last Update : 22 เมษายน 2559 14:13:56 น.
Counter : 267 Pageviews.  

'ก.มหาดไทย' สั่งใช้ประกาศ คสช. จี้ผู้ว่าฯคุม อปท.ถลุงงบ ท่องเที่ยว ดูงานเมืองนอก



กระทรวงมหาดไทยส่งหนังสือด่วน จี้ผู้ว่าฯ คุมเข้ม 'องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น' ถลุงงบจัดทัวร์ดูงานเมืองนอก หลัง 'สตง.' ตรวจสอบพบปัญหาจัดทำโครงการไม่คุ้มค่า ยกโขยงไปท่องเที่ยว ระบุชัด พบใครหลีกเลี่ยงจัดการตามประกาศ คสช.ทันที

 

เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2559 กระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด รับทราบเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติการจัดฝึกอบรม สัมมนา และศึกษาดูงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลังได้รับแจ้งจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำโครงการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและศึกษาดูงาน โดย มีสถานที่ศึกษาดูงานตามโครงการไม่สอดคล้องกับหลักการ และเหตุผล และวัตถุประสงค์ของโครงการ

มีลักษณะเป็นการไปท่องเที่ยว โดย ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือเพิ่มศักยภาพให้แก่ ชุมชน หรือประชาชนในท้องถิ่นได้

ดังนั้น จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำชับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัด ถือปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย โดยเคร่งครัด หากพบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใด จงใจ หรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามระเบียบ ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 104/2557 เรื่อง การกำกับดูแลการใช้จ่ายงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่อไป (ดูรายละเอียดในหนังสือท้ายข่าว)

 

ในประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 104/2557 ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอ สามารถสั่งระงับ หรือยับยั้งการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้มีการตรวจสอบ ทบทวน หรือแก้ไขให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย และหากผลการตรวจสอบของคณะกรรมการ ปรากฏว่า การจัดซื้อจัดจ้างนั้น เป็นการดำเนินการที่มิชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอ มีอำนาจยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างในครั้งนั้น แล้วดำเนินการตามกฎหมายแก่บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือหน่วยงานที่ได้กระทำการ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตประพฤติมิชอบนั้นอย่างเฉียบขาด และรวดเร็ว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 22 เมษายน 2559    
Last Update : 22 เมษายน 2559 13:15:14 น.
Counter : 331 Pageviews.  

คสช.สั่งปลดอธิบดีกรมประมงตั้งรองฯขึ้นแทนเพื่อให้การทำงานกับ IUU คล่องตัวขึ้น



รัฐมนตรีเกษตรยอมรับปลดอธิบดีกรมประมงเพื่อให้การทำงานกับ IUU คล่องตัวขึ้นตั้งรองธิบดีขึ้นแทน เผยปลายเดือนพฤษภาคมเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน กรมชลประทานประเมินกลางเดือนกรกฎาคมเพาะปลูกได้

รายงานเปิดเผยว่า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ “คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๕๙ เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่ง” โดยมีเนื้อหาระบุว่า เพื่อให้การปฏิรูปการบริหารราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสม มากยิ่งขึ้น

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ นายวิมล จันทรโรทัย ตำแหน่ง อธิบดีกรมประมง ขาดจากตำแหน่งหน้าที่ และอัตราเงินเดือนเดิม เพื่อย้ายหรือโอนไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตามกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษที่จัดให้มีขึ้นในสำนักนายกรัฐมนตรี ตามข้อ ๑ แห่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๖/๒๕๕๘ เรื่อง มาตรการแก้ปัญหา เจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบและการกำหนดกรอบอัตรากำลังชั่วคราว ลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘

ข้อ ๒ ให้ นายอดิศร พร้อมเทพ พ้นจากตำแหน่ง รองอธิบดีกรมประมง กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ข้อ ๓ ให้ข้าราชการตามข้อ ๒ ปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งข้างต้นตั้งแต่วันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ เป็นต้นไป

ข้อ ๔ ให้สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงบประมาณ และส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเกี่ยวกับตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการดังกล่าวให้เรียบร้อยโดยด่วน

และให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งหรือพ้นจากตำแหน่ง ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๒๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗

ข้อ ๕ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๒๐ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๙

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

วันที่ 20 เมษายน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ โดยยอมรับว่ามีการปลดนายวิมล จันทรโรทัย ออกจากตำแหน่งอธิบดีกรมประมงจริงตามข่าวที่ปรากฏออกไป โดยต้องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนี้ เพื่อให้การทำงานของกรมประมงสอดคล้องกับไอยูยูของสหภาพยุโรป (อียู) ในการทำประมงนอกน่านน้ำไทย ส่วนสถานการณ์การเปลี่ยนผ่านของช่วงฤดูกาลด้วยว่า ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนประมาณสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤษภาคม 2559 โดยจะมีฝนอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งถือว่ามีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปี 2558 แต่ปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2559 จะเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นปกติของฤดูฝน จากนั้นจะมีฝนและปริมาณฝนจะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม

ทั้งนี้ ได้สั่งให้ผู้ตรวจราชการของกระทรวงฯ 11 คน ติดตามปัญหาภัยแล้งใน 40 จังหวัด 132 อำเภอ โดยจะให้เวลาถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้

ทั้งนี้ ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2559 ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้ร่วมตั้งจุดบริการประชาชนทั่วประเทศ 815 จุดให้บริการประชาชนรวม 430,000 คนให้ได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางช่วงที่ผ่านมา

พล.อ.ฉัตรชัยเปิดเผยว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ในปัจจุบันมีน้ำใช้การได้ 11,117 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ส่วนลุ่มเจ้าพระยา มีน้ำประมาณ 2,000 ล้าน ลบ.ม.

หากต่อจากนี้ไปฝนไม่ตกเลย ก็ยังขอยืนยันว่า ปริมาณน้ำดังกล่าวจะสามารถสนับสนุนการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศได้อย่างเพียงพอไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้แน่นอน

ทางด้านนายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ในเขตพื้นที่ชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา คาดการณ์ว่า วันที่ 1 พฤษภาคม 2559 ปริมาณน้ำต้นทุนจาก 4 เขื่อนหลัก คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จะมีน้ำใช้การได้เพียง 1,750 ล้านลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์น้อยมาก ไม่สามารถสนับสนุนภาคการเกษตรได้ ต้องสำรองน้ำไว้ให้มากที่สุด และสนับสนุนการใช้น้ำด้านการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่าที่จำเป็น

นายสุเทพ กล่าวว่าการเพาะปลูกพืชฤดูฝนที่จะถึงนี้จะให้ใช้น้ำฝนเป็นหลักไปก่อน โดยใช้กลไกของระบบและอาคารชลประทาน ในการจัดการน้ำท่าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งแยกได้ 2 ส่วน คือ พื้นที่ลุ่มต่ำ ประมาณ 1.4 ล้านไร่ แนะนำให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกได้ เมื่อกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศการเข้าสู่ฤดูฝนปี 2559

ส่วนพื้นที่ดอน ที่มีพื้นที่ประมาณ 6.2 ล้านไร่ จากการจำลองสถานการณ์ฝน พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและลำน้ำสาขาจะมีปริมาณน้ำมากพอ จึงแนะนำให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกได้ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 21 เมษายน 2559    
Last Update : 21 เมษายน 2559 12:29:24 น.
Counter : 266 Pageviews.  

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดสมัครสอบเข้ารับราชการ จำนวน 53 อัตรารับสมัคร ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน - 1



ประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่อง รับสมัครสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการในสังกัดกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดรับสมัครสอบเข้ารับราชการ จำนวน 53 อัตรา 11ตำแหน่ง สมัครทางอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน - 18 พฤษภาคม 2559

ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
1.ตำแหน่งเจ้าหน้าที่คดีพิเศษปฏิบัติการ
จำนวน 8 อัตรา

2.ตำแหน่งเจ้าหน้าที่คดีพิเศษปฏิบัติการ (จังหวัดชายแดนภาคใต้)
จำนวน 4 อัตรา

3.ตำแหน่งนักวิเทศสัมพันธ์ปฏิบัติการ
จำนวน 8 อัตรา

4.ตำแหน่งนักจัดงานทั่วไปปฏิบัติการ
จำนวน 7 อัตรา

5.ตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ปฏิบัติการ
จำนวน 1 อัตรา

6.ตำแหน่งนักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ
จำนวน 3 อัตรา

7.ตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน
จำนวน 11 อัตรา

8.ตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีปฏิบัติงาน
จำนวน 4 อัตรา

9.ตำแหน่งเจ้าพนักงานพัสดุปฏิบัติงาน
จำนวน 1 อัตรา

10.ตำแหน่งเจ้าพนักงานสื่อสารปฏิบัติงาน
จำนวน 5 อัตรา

11.ตำแหน่งนายช่างไฟฟ้าปฏิบัติงาน
จำนวน 1 อัตรา

การรับสมัคร
ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ทางอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน - 18 พฤษภาคม 2559 ที่เว็บไซต์https://dsi.job.thai.com ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ

รายละเอียดเพิ่มเติม

//www.xn--12c4cbf7aots1ayx.com/pdf/082557/1460465707.pdf

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 21 เมษายน 2559    
Last Update : 21 เมษายน 2559 9:24:55 น.
Counter : 262 Pageviews.  

มาแล้วจ้า Apple ประเทศไทย ประกาศราคา iPhone SE เครื่องเปล่าไม่ติดสัญญา เริ่มต้น 16,800 บาท



สำหรับใครที่กำลังเฝ้ารอติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์ iPhone SE ในประเทศไทย ในช่วงดึกคืนนี้ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะเตรียมตัวเตรียมเงินในมือเอาไว้ให้พร้อม โดยล่าสุดทางเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของ Apple ประเทศไทย ได้เปิดเผยราคาเครื่องเปล่าออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ

iPhone SE มีให้เลือกทั้งหมด 4 สีสัน คือสีเทาสเปซเกรย์, สีเงิน, สีทอง และ สีโรสโกลด์โดยมีแยกจำหน่ายเครื่องเปล่าสองรุ่นย่อยแบบไม่ติดสัญญา ดังนี้

  • หน่วยความจำ 16GB ราคา 16,800 บาท
  • หน่วยความจำ 64GB ราคา 20,800 บาท

โดยทั้งสองขนาดความจุ จะวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้

และสำหรับราคาเครื่องที่จัดจำหน่ายร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายทั้ง AIS, DTAC และ True Move H จะแข่งกันทำโปรโมชั่นออกมาได้แซ่บจี๊ดจ๊าดกระชากใจแค่ไหน ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าติดตามกันต่อไปในอีกไม่กี่อึดใจนี้ครับ

ที่มา macstroke




 

Create Date : 20 เมษายน 2559    
Last Update : 20 เมษายน 2559 17:40:38 น.
Counter : 226 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.