แอมเนสตี้ฯ ยื่น หนังสือถึง สนช.ปรับร่าง แก้กฎหมายคอมพิวเตอร์ หวั่นปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกออ



แอมเนสตี้ เครือข่ายพลเมืองเน็ต และไพรเวซี อินเตอร์เนชั่นแนล (Privacy International) ยื่นหนังสือถึง สนช. หวั่นร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์อาจปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออกออนไลน์และสิทธิในความเป็นส่วนตัวของประชาชนซึ่งได้รับการคุ้มครองตามกติการะหว่างประเทศ

       เมื่อวันที่  26 พฤษภาคม2559 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย พร้อมด้วยเครือข่ายพลเมืองเน็ต และไพรแวซี อินเตอร์เนชั่นแนล นำโดย น.ส.พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ รองประธานกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อพล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์(ฉบับที่) พ.ศ….ขอให้มีการแก้ไขเนื้อหาบางมาตราของร่างกฎหมายดังกล่าว เพื่อให้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกทางอิเล็กทรอนิกส์ และสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชน ได้รับการส่งเสริมและคุ้มครองตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคี

       ทั้งนี้ องค์กรทั้งสามมีความกังวลต่อบางมาตราในร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์(ฉบับที่) พ.ศ….ที่อาจปิดกั้นสิทธิในเสรีภาพ และสิทธิความเป็นส่วนตัว อาทิ มาตรา 14 อาจถูกตีความเพื่อใช้ลงโทษความผิดฐานหมิ่นประมาท และดำเนินคดีอาญากับผู้โพสต์ข้อมูลออนไลน์ที่ “ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายกว้าง อาจทำให้การแสดงความเห็นที่ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อความปลอดภัยสาธารณะ หรือความมั่นคงปลอดภัยของประเทศก็อาจมีความผิดอาญาได้ มาตรา 15 กำหนดให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต(Internet Service Providers)ต้องรับโทษเท่ากับผู้กระทำผิดตามมาตรา14 หากผู้ให้บริการไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้ให้ความร่วมมือหรือรู้เห็นเป็นใจให้กระทำผิด ซึ่งเป็นการผลักภาระในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์แก่ผู้ให้บริการ และอาจทำให้ผู้ให้บริการเซ็นเซอร์ตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการรับโทษปรับ

       น.ส.เพ็ญพร กล่าวว่า มาตรา20 เปิดช่องให้ผู้มีอำนาจสั่งระงับการเผยแพร่หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน แม้ว่าไม่ได้ขัดต่อกฎหมายใดก็ตาม นอกจากนี้ ยังเสนอให้สนช.พิจารณาแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว ให้มีการยุติการเอาผิดกับประชาชน และองค์กรที่รับโทษ และต้องคำพิพากษาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการการะทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550จากการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออก และสิทธิความเป็นส่วนตัวอย่างสงบ อันเป็นการละเมิดพันธกรณีตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ประเทศไทยตกลงไว้

ข้อมูลพื้นฐาน

มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

           (1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบาง ส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

          (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

          (3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการ ก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

          (4) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้

          (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)

มาตรา 15 ผู้ให้บริการผู้ใดให้ความร่วมมือ ยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา 14 ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา 14

            ให้รัฐมนตรีออกประกาศกำหนดขั้นตอนการแจ้งเตือน การระงับการทำให้แพร่หลายของข้อมูลคอมพิวเตอร์ และการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ออกจากระบบคอมพิวเตอร์

            ถ้าผู้ให้บริการพิสูจน์ว่าตนได้ปฏิบัติตามประกาศของรัฐมนตรีที่ออกตามวรรคสอง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ

มาตรา 20 ในกรณีที่มีการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์ ดังต่อไปนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้องพร้อมแสดง พยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบ ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์          

            (1) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้

            (2) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่ กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ 1 หรือลักษณะ 1/1 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

            (3) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดอาญาต่อกฎหมายอื่นซึ่งเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย นั้นได้ร้องขอ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน

            (4) ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ไม่เป็นความผิดต่อกฎหมายอื่นแต่มีลักษณะขัดต่อความสงบ เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนซึ่งคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูล คอมพิวเตอร์ดังกล่าวตามที่รัฐมนตรีแต่งตั้งมีมติเป็นเอกฉันท์ให้พนักงานเจ้า หน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐาน ต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบซึ่งข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นออกจากระบบคอมพิวเตอร์ได้

            คณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่รัฐมนตรีแต่งตั้งตามวรรหนึ่ง (4) ให้มีจำนวนห้าคนซึ่งสองในห้าคนต้องมาจากผู้แทนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง

            การยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ การไต่สวนคำร้อง และการทำคำสั่งของศาลตามวรรคหนึ่ง อาจกระทำได้ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของประธานศาลฎีกา

            ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม วรรคหนึ่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูล คอมพิวเตอร์นั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ก็ได้

            รัฐมนตรีอาจประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ ระยะเวลาและแนวทางการปฏิบัติสำหรับการระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูล คอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันภายใต้พัฒนาการทาง เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 27 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 27 พฤษภาคม 2559 20:44:22 น.
Counter : 228 Pageviews.  

อากาศร้อนจัดทำอูฐอินเดียคลั่ง! ถูกผูกตากแดดทั้งวัน กัดหัวเจ้าของขาด-เคี้ยวร่าง



อูฐอินเดียคลั่งอากาศร้อนฆ่าเจ้านายทิ้งหลังถูกล่ามทิ้งกลางแดดร้อนจัดของประเทศอินเดียมาทั้งวัน สร้างความตะลึงให้คนในหมู่บ้านอย่างมาก

เว็บไซต์ข่าวอินเดีย “ไทม์ส ออฟ อินเดีย”รายงานจากรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ว่า อูฐอินเดียคลั่งหลังเจ้าของลืมผูกมันไว้กลางแดดอุณหภูมิสูงถึง 51 องศาเซลเซียสทั้งวัน ขณะที่ตัวเองกำลังมีงานรื่นเริงกับแขกซึ่งมาหาที่บ้านพัก ตั้งอยู่ในเขตบาร์เมอร์ รัฐราชสถาน ทางตะวันตกของประเทศ โดยเมื่อนึกขึ้นได้เจ้าของอูฐซึ่งไม่ได้รับการระบุชื่อ รีบเดินออกไปปล่อยอูฐที่ผูกไว้เพื่อย้ายมันมาผูกในที่ร่มแต่อูฐกลับมาพฤติกรรมก้าวร้าวตรงเข้าทำร้ายเขาทันที

โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เจ้าของอูฐตัวนี้มัวแต่ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมบ้าน ตลอดช่วงกลางวันของวันเสาร์ที่ผ่านมา จนลืมไปเสียสนิทว่าได้ล่ามอูฐของตนไว้กลางแดด และเมื่อเขาเดินไปปลดเชือกที่ล่ามอูฐเอาไว้เพื่อให้มันเดินไปหาที่ร่ม มันกลับแสดงอาการโกรธจัด และงับศีรษะของเจ้านายยกขึ้นมาจนตัวลอย ก่อนจะโยนเขาลงพื้น และเริ่มเคี้ยวร่างกายของเจ้านายทั้งเป็น ซ้ำร้าย มันยังกัดศีรษะของเจ้านายจนหลุดออกจากร่างอีกด้วย

ทั้งนี้ชาวบ้านเปิดเผยว่า อูฐตัวดังกล่าวเคยทำร้ายเจ้านายมาแล้วครั้งหนึ่ง และครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุด โดยชาวบ้านต้องเกณฑ์คนมาถึง 25 คน และใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมง เพื่อช่วยกันปลอบให้มันสงบลง

อนึ่งในฤดูร้อนจัดของประเทศอินเดียช่วงนี้ พบว่าบางพื้นที่มีอุณหภูมิสูงสุดถึง 51 องศาเซลเซียส โดยรายงานระบุว่า ในรัฐราชสถาน มีคนเสียชีวิตแล้ว 16 ราย เพราะอากาศร้อนจัด ในขณะที่หมู่บ้านเกือบ 17,000 แห่ง กำลังเผชิญภัยแล้งอย่างหนักหนาสาหัส

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2559 22:39:11 น.
Counter : 233 Pageviews.  

อีกก้าวของ Project Titan เมื่อ Apple เดินหน้าค้นคว้าพัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จรถไฟฟ้า



อาจจะยังเป็นภาพจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายไม่ได้เป็นรูปร่างดีนัก แต่ก็ถือว่ามีความคืบหน้าออกมาอยู่เรื่อยๆ สำหรับโครงการ Project Titan หรือแผนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของ Apple ที่เราได้เคยหยิบยกมาพูดถึงกันไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าการพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในเยอรมันนั้นทั้งสองฝ่ายไม่สามารถประสบความสำเร็จในการเจรจาได้อย่างลงตัว จนทำให้ Apple ตัดสินใจที่จะเดินหน้าโครงการดังกล่าวนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งหลังจากนั้นพวกเขาก็นำเงินก้อนโตไปลงทุนกับ Didi Chuxing บริการจัดหาขนส่งในประเทศจีน

สำหรับความคืบหน้าล่าสุดในโครงการ Project Titan ดังกล่าวนี้ อ้างอิงการเปิดเผยจากสำนักข่าว Reuters ระบุว่าทาง Apple นั้นกำลังวางรากฐานของโครงการดังกล่าวนี้ด้วยการเดินหน้าค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีการชาร์จแบตเตอรี่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมอย่างขมักเขม้น โดยการตรวจพบข้อมูลในระบบเครือข่าย LinkedIn ว่ามีการว่าจ้างบุคลากรที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการประจุไฟฟ้าสำหรับระบบยานยนต์เข้าร่วมทีมจำนวนหลายคน รวมไปถึงการพูดคุยกับบริษัทผู้ให้บริการสถานีชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้าอีกหลายๆ เจ้า ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งอาจจถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมจุดสำคัญที่สุด เนื่องจากอัตราการครอบคลุมของสถานีชาร์จที่ยังมีอยู่น้อย รวมไปถึงเทคโนโลยีและซอฟท์แวร์ต่างๆ ที่ยังต้องขัดเกลาอีกมากเพื่อลดการเสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ ระหว่างรอประจุแบตเตอรี่ โดยความไม่พร้อมดังกล่าวนี้ก็อาจจะเป็นช่องทางโอกาสของ Apple ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในยุคต่อไปของบริษัทนั่นเองครับ

ที่มา macstroke




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2559 21:50:01 น.
Counter : 240 Pageviews.  

ปฏิบัตินำร่อง Foxconn ติดตั้งระบบหุ่นยนต์โรงงานในจีน ส่อลดจ้างงาน 60,000 ตำแหน่ง



นับเป็นการเดินหน้าก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมในโรงงานอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีรายงานเปิดเผยออกมาว่าทาง Foxconn ผู้รับจ้างผลิตประกอบอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์รายใหญ่ของโลก ได้ดำเนินการติดตั้งระบบหุ่นยนต์สำหรับโรงงานในเมือง Kunshan ประเทศจีนแล้วเป็นที่แรก ซึ่งจะเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาทดแทนการว่าจ้างคนงานได้มากถึง 60,000 คน จากปัจจุบันที่โรงงานแห่งนี้ต้องการบุคลากรในสายการผลิตกว่า 110,000 ชีวิตก็จะลดลงเหลือเพียง 50,000 รายเท่านั้น ตามแผนการลดค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างแรงงานที่เคยๆ มีข่าวออกมา

อย่างไรก็ดีทาง Foxconn นั้นได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว BBC ระบุว่า การนำระบบหุ่นยนต์โรงงานเข้ามาดำเนินการแทนกำลังคนงานนั้น อาจจะหมายถึงการลดอัตราการจ้างงานลงในอนาคต ซึ่งผู้รับจ้างผลิตอุปกรณ์รายนี้ได้ตอบในเชิงปฏิเสธ พร้อมเปิดเผยว่า หุ่นยนต์จะเข้าทำงานบางอย่างที่จำเป็นต้องทำซ้ำๆ กันอย่างต่อเนื่อง (Repetitive Tasks) เท่านั้น การทดแทนในครั้งนี้จะช่วยทำให้บุคลากรสามารถมุ่งมั่นกับงานที่ความสำคัญในกระบวนการขั้นตอนการผลิต เช่น งานพัฒนาและวิจัย หรือ ในส่วนของการควบคุมคุณภาพสินค้า ปิดท้ายด้วยการกำชับว่าจะยังไม่มีแผนการลดการว่าจ้างคนงานในจีนลงในเร็ววันนี้

ปฏิบัติการนำร่องที่ทาง Foxconn นำระบบหุ่นยนต์โรงงานมาใช้งานนี้อาจจะส่งผลกระทบขึ้นในระยะยาว เพราะ 35 บริษัทเอกชนจากไต้หวันรวมไปถึง Foxconn เองนั้นได้มีการลงทุนเม็ดเงินไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) รวมกันกว่า 4 พันล้านหยวน เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา ทำให้โรงงานอีกหลายๆ แห่งในเมือง Kunshan นั้นจะลงทุนพัฒนาโรงงานของตนเองตามรอย Foxconn ต่อไป

ที่มา macstroke




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2559 19:00:26 น.
Counter : 333 Pageviews.  

รื้อสุขบัญญัติ 10 ประการให้ทันสมัย สร้างทักษะชีวิต“เอาตัวรอดเหตุฉุกเฉินเป็น”



สบส. แนะรื้อสุขบัญญัติ 10 ประการ ให้ทันสมัย เจออุบัติเหตุ อุบัติภัย เด็กไทยเอาตัวรอดได้ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในพื้นที่ ป้องกันการสูญเสีย เซฟชีวิตผู้อื่น

26 พฤษภาคม 2559 นายแพทย์ภานุวัฒน์ ปานเกตุ รองอธิบดีกรมสบส.กล่าวว่า เหตุการณ์สูญเสียของนักเรียนจากเพลิงไหม้อาคารหอพักในโรงเรียนครั้งนี้ สะท้อนให้ว่าเด็กไทยยังขาดความรู้และทักษะในการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน อุบัติเหตุ อุบัติภัย ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้นับวันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศ โดยกรมสบส.ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสร้างความเข้มแข็งภาคประชาชนในการดูแลสุขภาพ และผลักดันการปลูกฝังสุขบัญญัติแห่งชาติ เพื่อสอนเด็กนักเรียนวัยประถมศึกษาตอนต้นและตอนปลายทั่วประเทศ สร้างพฤติกรรมและสุขนิสัยต่างๆในการดูแลสุขภาพ ไม่ให้เจ็บป่วย ใช้มา กว่า 38 ปี ซึ่งมี 10 ประการ และเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุ คือข้อที่ 7 ได้แก่ การป้องกันอุบัติภัยด้วยความไม่ประมาท จะต้องมีการแปลงเนื้อหาสุขบัญญัติแห่งชาติทั้ง 10 ประการให้ทันสมัย และแปลงออกมาในรูปของพฤติกรรม เพื่อทำให้เป็นทักษะที่เยาวชนในแต่ละพื้นที่จะต้องมี เพื่อการเอาตัวรอดได้อย่างปลอดภัย เช่นเดียวกับเด็กญี่ปุ่นที่มีทักษะในการหลบภัยเมื่อเกิดแผ่นดินไหว หรือสึนามิได้

นายแพทย์ภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของประเทศไทยก็เช่นกัน การให้ความรู้แก่เด็กอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ จะต้องฝึกทักษะให้เด็กทำเป็นด้วย ในเบื้องต้นนี้อาจคัดเลือกทักษะการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไป เช่น เพลิงไหม้ วาตภัย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยในพื้นที่ เช่น ในภาคเหนืออาจเป็นเรื่องของดินโคลนถล่ม แผ่นดินไหว ภาคกลาง ภาคตะวันอออก ภาคใต้ เช่นน้ำท่วมฉับพลัน สึนามิ เป็นต้น การสอนให้เด็กสามารถช่วยคนหมดสติเบื้องต้นได้ การจัดการเรียนการสอน และบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยป้องกันสาธารณภัย รวมทั้งเพิ่มเวลารู้ในเรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้นเพื่อป้องกันการสูญเสียให้ได้มากที่สุด และเด็กจะมีความรู้ติดตัวไปตลอดชีวิต สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้อีกด้วย

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 26 พฤษภาคม 2559 16:34:23 น.
Counter : 289 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.