กรมอุตุนิยมวิทยาเผยช่วงนี้ฝนตกและตกหนักใน 25 จังหวัด-ครึ่งแรกกรกฎาคมทิ้งช่วงมีฝนน้อย



กรมอุตุนิยมวิทยาเตือน 25 จังหวัดฝนตกและตกหนัก ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร เผยครึ่งแรกเดือนกรกฎาคมอาจเกิดฝนทิ้งช่วงมีฝนน้อย ส่วนครึ่งหลังฝนกลับมาตกและตกหนักมากบางพื้นที่ ปภ.เตือน 17 จังหวัดระวังฝนตกและหนักมาก

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันที่ 17 มิถุนายนถึง 06.00 น.วันที่ 18 มิถุนายน 2559 ดังนี้ บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

ส่วนมากฝนตกที่จังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก เลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม อุดรธานี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา รวม 25 จังหวัด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า จาก 17 มิถุนายนถึง 23 มิถุนายน 2559

คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 17-18 มิ.ย. บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ในช่วงวันที่ 19-21 มิ.ย. บริเวณประเทศไทยจะมีฝนลดลง

ในช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย. บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น

ข้อควรระวัง 

ในช่วงวันที่ 17-18 มิ.ย. และในช่วงวันที่ 22-23 มิ.ย.ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ในช่วงวันที่ 17-18 มิ.ย.

อากาศรายเดือน ประจำเดือนกรกฏาคม 2559   

คาดหมาย

ในระยะครึ่งแรกของเดือนกรกฎาคม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย โดยจะมีกำลังอ่อนเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านบริเวณตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งจะทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง และอาจส่งผลให้เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงได้หลายพื้นที่ในตอนบนของประเทศ

จากนั้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคม ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย กับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากบางพื้นที่

คาดว่าในเดือนกรกฎาคม ปริมาณฝนรวมส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกับค่าปกติ และมีโอกาสที่ได้รับอิทธิพลจากจากพายุหมุนเขตร้อนในทะเลจีนใต้ ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยจะสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย

ข้อควรระวัง

จะมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก และอาจเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก

ปภ.เตือน 17 จังหวัดรับฝนตกหนัก

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2559 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศ กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น และฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและตกสะสมในระยะนี้

ขณะที่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ทะเลอันดามันตอนบน คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงประสาน 17 จังหวัด แยกเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ เลย อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และ ตราด ภาคใต้ 7 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส

ทั้งนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัยและดินโคลนถล่ม โดยจัดเจ้าหน้าที่เตือนภัย ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสาธารณภัยตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น น้ำตก ชายฝั่งทะเล ถ้าหากอยู่ในสภาพปลอดภัย ให้พิจารณแก้ไขและสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวชั่วคราว ส่วนประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

 ที่มา thaitribune




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2559    
Last Update : 18 มิถุนายน 2559 11:14:15 น.
Counter : 341 Pageviews.  

สนช.เตรียมถอดสุกำพลเพื่อนทักษิณ-เผยคนไทยรักไทยถึงเพื่อไทยโดนคดีทุจริตประพฤติมิชอบหลายราย



สนช.เตรียมถอดถอนพล.อ.อ.สุกำพลเพื่อน ตท.10 ทักษิณพ้นตำแหน่งรมว.กลาโหมเหตุแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกลาโหม ประชุมนัดแรก 12 กรกฎาคม ประชา ประสพดี ไต่สวนครั้งแรก 30 มิถุนายนนี้ เผยคนในพรรคไทยรักไทยถึงเพื่อไทยโดนถ้วนหน้าเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบ

ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 มิถุนายน 2559  ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นประธานการประชุม โดยรับทราบรายงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ยื่นให้ถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่ง ในข้อหาเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เข้าไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมโดยมิชอบ

ทั้งนี้ป.ป.ช.มีมติเสียงข้างมาก ว่าพฤติการณ์ของพล.อ.อ.สุกำพล เป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งรมว.กลาโหมเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติราชการหรือการดำเนินงานในหน้าที่ประจำของคณะกรรมการปลัดกระทรวงกลาโหม ในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายโอน เลื่อนตำแหน่ง เลื่อนเงินเดือน ของข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งเป็นข้าราชการประจำ และไม่ใช่ข้าราชการของกลาโหม เพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น และพรรคการเมือง ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

การกระทำดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 (1)(2) และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตราฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมือง ข้อ15 พ.ศ.2551 มีมูลส่อว่าจงใจในการใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ปี 2550 และขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง จึงเป็นเหตุให้ถูกถอดถอน ตามพ.ร.บ.ป.ป.ช. 2542

นายพรเพชร กล่าวว่า ในความผิดทางอาญา ป.ป.ช.มีมติด้วยเสียงข้างมาก ว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล จึงทำให้ข้อหาตกไป

ส่วนข้อกล่าวหาที่ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ ขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 (3) จงใจใช้อำนาจหน้าที่ออกคำสั่งให้ทหารชั้นนายพลไปช่วยราชการโดยมิชอบ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่าฟังไม่ได้ว่า พล.อ.อ.สุกำพล มีพฤติการณ์ ตามที่กล่าวหาจึงให้ข้อกล่าวหาตกไป

สำหรับข้อกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ป.ป.ช.มีมติ ให้ข้อกล่าวหาตกไป เพราะไม่ปรากฏข้อเท็จจริงไม่มีมูล ทั้งกรณีที่เพิกเฉยไม่ดำเนินการไต่สวนหนังสือร้องทุกข์ของปลัดกระทรวงกลาโหม และยังนำความกราบบังคับทูลเพื่อให้โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระ ทรวงกลาโหม ทั้งที่ทราบดีว่าพล.อ.อ.สุกำพล เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งปลัดกระทรวงกลาโหม และปล่อยให้ใช้อำนาจหน้าที่ออกคำสั่งให้นายทหารไปปฏิบัติหน้าที่ในการโดยมิชอบ

นายพรเพชร กล่าวว่า ตามข้อบังคับเมื่อประธานสภา ได้รับรายงานจาก ป.ป.ช.ว่ามีมติชี้มูลกล่าวหาผู้ใดต้องนัดประชุมนัดแรก ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานจาก ป.ป.ช. ซึ่งป.ป.ช.ได้ส่งรายงานและความเห็นถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. จะครบ 30 วัน ในวันที่ 12 ก.ค.ดังนั้นตนขอกำหนดประชุมนัดแรก เพื่อกำหนดวันแถลงเปิดคดีของป.ป.ช.และผู้ถูกกล่าวหา และการขอเพิ่มพยานหลักฐานของผู้ถูกกล่าวหาจึงนัดประชุม ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้

ประวัติพล.อ.อ.กำพล สุวรรณทัต

พลอากาศเอกสุกำพล สุวรรณทัต เกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2494 เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10)รุ่นเดียวกับ ทักษิณ ชินวัตร เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ต่อมาวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555 ถูกปรับมารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและเป็นผู้ดำเนินการถอดยศของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนเป็นเหตุให้นำไปสู่การยื่นตรวจสอบคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์

เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2556 พล.อ.อ.กำพลถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี

ประชา ประสพดี-เจอข้อหาแทรกแซงอตก.

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 7 มิถุนายน 2559  ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิปสนช.) แถลงภายหลังการประชุมว่า สนช.เตรียมประชุมพิจารณาถอดถอน นายประชา ประสพดี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรณีเข้าไปก้าวกายแทรกแซงการทำงานของบอร์ดองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) ที่กำลังพิจารณาเรื่องการทุจริตของนายธีธัช สุขสะอาด อดีต ผอ.อตก.หลังจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ส่งเรื่องให้ สนช.ดำเนินการถอดถอนเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา วิปสนช.ได้พิจารณาและกำหนดวันไต่สวนนัดแรกวันที่ 30 มิถุนายนนี้

ต่อมาวันที่ 13 มิถุนายน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดให้ถอดถอน นายประชา ประสพดี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ขณะนี้เรื่องถอดถอนไปที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ นายประชายังมีความผิดในคดีอาญา จะส่งเรื่องไปให้อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทั้งถอดถอน รวมถึงคดีอาญาต่อนายประชา เนื่องจากกรณีนี้เข้าข่ายผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย ขณะนี้ได้ส่งสำนวนไปยัง อสส. แล้ว แต่ อสส. เห็นว่ายังมีข้อไม่สมบูรณ์ในคดีอยู่ จึงส่งเรื่องกลับมายัง ป.ป.ช. อีกครั้ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ระหว่าง อสส. และ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณากรณีนี้

 ที่มา thaitribune




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2559    
Last Update : 17 มิถุนายน 2559 20:22:21 น.
Counter : 383 Pageviews.  

โฆษกรัฐบาลตอกศิษย์วัดพระธรรมกายคนใช้อภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายต่างหากที่ไม่เป็นประชาธิปไตย



โฆษกรัฐบาลเผยเกินความคาดหมายลูกศิษย์วัดพระธรรมกายไม่ยอมรับอำนาจรัฐ เกรงคนมองวัดเสียหายยิ่งขึ้น ยันประเทศเป็นประชาธิปไตยทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน คนพยายามใช้อภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมายต่างหากที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2559  พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า หลวงพ่อธัมมชโย จะไม่มอบตัว โดยอ้างว่า บ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย ว่า รู้สึกเหนือความคาดหมาย ว่าทางศิษย์วัดพระธรรมกายใช้เหตุผลเช่นนี้ในการปฏิเสธที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้ให้เกียรติและปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ไม่เคยใช้อำนาจพิเศษใด ๆ

แม้ว่าบ้านเมืองขณะนี้อาจไม่ใช่ประชาธิปไตยในรูปแบบที่คุ้นเคย แต่ในทางปฏิบัติถือว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยไม่แพ้ประเทศเสรีนิยมใด ๆ ด้วยการทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ และบังคับใช้อย่างเท่าเทียม

 “ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน คนทำผิดต้องได้รับโทษโดยเท่าเทียม ไม่มีละเว้น นักการเมืองโกงกิน ซึ่งแทบจะไม่เคยถูกจับมาก่อน ก็ถูกลงโทษทั้งจำทั้งปรับในยุคนี้ การที่จะมีใครพยายามทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย หรือใช้อภิสิทธิ์เครือข่ายพวกพ้องปกปิดความผิดตนเองต่างหาก ถึงจะเรียกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย”โฆษกรัฐบาลกล่าว

พลตรี สรรเสริญ แสดงความเป็นห่วงว่าที่ผ่านมาวัดพระธรรมกายก็มักจะถูกสังคมตั้งข้อสงสัยว่า อิงการเมือง หรือฝักใฝ่การเมืองขั้วใดหรือไม่ ซึ่งทางวัดก็ปฏิเสธมาโดยตลอด ว่าวัดไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่การออกมาอ้างเหตุผลของศิษยานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงพ่อธัมมชโย ว่า หลวงพ่อจะไม่มอบตัวในครั้งนี้ น่าเป็นกังวลว่าจะยิ่งทำให้ประชาชนคิดไปได้ว่า วัดพระธรรมกายมิได้เป็นอย่างเช่นที่พยายามบอกสังคมมาโดยตลอด

 “ตามสามัญสำนึก และหลักเหตุผลพื้นๆ แล้ว หากศิษยานุศิษย์กลุ่มนี้มั่นใจในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อ ก็มิควรขัดขวางการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของหลวงพ่อ รวมทั้งควรเห็นแก่วัดพระธรรมกาย และศิษย์วัดคนอื่น ๆ ที่อาจจะต้องพลอยมัวหมองไปด้วยกับเรื่องอื้อฉาวในครั้งนี้ และไม่ควรทำให้ศิษย์วัดคนอื่น ๆ ต้องมาเดือดร้อน มานั่ง มานอน มาขวางทาง เจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่พยายามทำหน้าที่รักษากฎหมายตามกระบวนการยุติธรรมโดยชอบธรรม”พลตรีสรรเสริญกล่าว

พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่าโดยส่วนตัวมองไม่เห็นเหตุผลว่าจะรั้งรออะไรให้ชื่อเสียงวัด และตัวหลวงพ่อต้องมัวหมอง เพราะยิ่งปล่อยไว้ให้เรื้อรัง ก็อาจยิ่งทำให้ประชาชน หรือแม้แต่ผู้ที่ศรัทธาวัดพระธรรมกายเอง ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมจึงมีความพยายามยืดเยื้อเพื่อซื้อเวลาถึงเพียงนี้

“จึงอยากขอความร่วมมือศิษยานุศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงพ่อธัมมชโย อย่าได้ขัดขวางการมอบตัว เพื่อให้หลวงพ่อได้ชี้แจงความบริสุทธิ์ของท่าน ซึ่งถือเป็นการรักษาความถูกต้อง และรักษาความสงบของบ้านเมือง เชื่อว่า จะเป็นกุศลแรงยิ่งกว่าสร้างวัดสร้างเจดีย์มากนัก”โฆษกรัฐบาลกล่าว

 ที่มา thaitribune




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2559    
Last Update : 17 มิถุนายน 2559 15:16:18 น.
Counter : 194 Pageviews.  

แนะนำขั้นตอนการลงทะเบียน“พร้อมเพย์-PromptPay”ให้ประชาชนเข้าใจง่าย



แนะวิธีลงทะเบียน“พร้อมเพย์”เริ่ม15 ก.ค.บริการโอนเงิน-รับโอนใช้เลขบัตรประชาชนและเบอร์มือถือแทนบัญชีธนาคาร ไม่คิดค่าบริการโอนข้ามเขต-ข้ามธนาคารและค่าธรรมเนียมการโอนไม่เกิน 5,000 บาทฟรีทุกรายการ เริ่มใช้ 31 ต.ค.

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2559 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงิน 21 แห่ง  เตรียมเปิดให้บริการโอนเงินและรับโอนเงินแบบใหม่ “พร้อมเพย์-PromptPay” หรือชื่อเดิม คือเอนี ไอดี (Any ID)เปิดให้ประชาชนใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเบอร์โทรศัพท์มือถือผูกกับบัญชีธนาคาร 1 เลขหมายต่อ 1 บัญชี

ทั้งนี้สามารถผูกบัญชีได้สูงสุด 4 เบอร์ได้แก่ เลขบัตรประจำตัวประชาชน 1 และหมายเลขโทรศัพท์มือถืออีกไม่เกิน 3 เบอร์  โดยทุกคนสามารถโอนเงินระหว่างกันได้ไม่ต้องจำเลขบัญชีเงินฝากธนาคาร

ธนาคารพาณิชย์จะเปิดให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนผ่าน 4 ช่องทาง ประกอบด้วย 1.สาขาธนาคารพาณิชย์ 2.ตู้เอทีเอ็ม 3.อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง และ 4.โมบายแบงกิ้ง บางธนาคารที่มีความพร้อมเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 นี้ และจะพร้อมกันทุกธนาคารวันที่ 15 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป โดยไม่มีการกำหนดสิ้นสุดการรับลงทะเบียน

นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการ ธปท. ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน เปิดเผยว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์จาก “พร้อมเพย์” อย่างเต็มที่ ด้วยการได้รับเงินโอนระหว่างกันสะดวกมากขึ้น

นอกจากนี้ยังสามารถรับเงินจากรัฐได้โดยตรง ด้วยการผูกบัญชีธนาคารกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน เช่น เงินสวัสดิการ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เงินคืนภาษีของกรมสรรพากร รวมทั้งยังมีความปลอดภัยกว่าการใช้เงินสด และค่าธรรมเนียมถูกกว่า ซึ่งในระหว่างนี้จะเริ่มโอนเงินระหว่างประชาชนกับประชาชนไปก่อน

อย่างไรก็ตาม กรณีผู้ลงทะเบียนจะเปลี่ยนธนาคารที่ลงทะเบียนไว้สามารถยกเลิกกับธนาคารเดิมและไปลงทะเบียนกับธนาคารใหม่ หรือในกรณีที่ผู้ใช้บริการ“พร้อมเพย์”ต้องการเปลี่ยนแปลงหมายเลขบัญชีหรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้แล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน

สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนและระบบทำงานของ พร้อมเพย์ โดยสำนักข่าวอินโฟเควสต์ (InfoQuest)จัดทำกราฟฟิกให้เข้าใจง่ายๆดังนี้

 ที่มา thaitribune




 

Create Date : 17 มิถุนายน 2559    
Last Update : 17 มิถุนายน 2559 10:37:51 น.
Counter : 424 Pageviews.  

เมืองเชียงราย ติด 1 ใน 125 เมืองทั่วโลก ดูแลสิ่งแวดล้อมดีเยี่ยม



องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล(WWF) นำทีมมอบรางวัลโครงการปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน (Earth Hour City Challenge) ให้กับเชียงรายที่เป็น 1 ใน 125 เมืองทั่วโลกดูแลสิ่งแวดล้อมได้ดี แนะในอนาคตนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

วันที่ 16 มิถุนายน 2559  นายกอดอน คองดอน ผู้จัดการฝ่ายสิ่งแวดล้อมองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF:World Wild Fund For Nature) ได้เดินทางไปมอบรางวัลชนะเลิศระดับประเทศตามโครงการปลุกเมืองให้โลกเปลี่ยน (Earth Hour City Challenge) ของ WWF ที่ห้องดอยตุง โรงแรมดุสิตไอส์แลนด์รีสอร์ท อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีนายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมผู้บริหาร ผู้นำชุมชน รวมทั้งผู้บริหารจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ WWF จำนวน 5 แห่งเข้าร่วม ซึ่งเทศบาลนครเชียงรายได้รับการโหวตผ่านเว็บไซต์ www.welovecities.org ด้วยคะแนนมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศในฐานะเมืองที่น่าอยู่

นายกอดอนกล่าวว่า เชียงรายเป็นเมืองที่มีความสวยงาม และมีโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่ดี จนได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 125 เมืองจาก 21 ประเทศทั่วโลกที่สามารถดูแลรักษาสภาพแวดล้อมได้ดี โดยเฉพาะเรื่องปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ซึ่งประเทศไทยมีจำนวน 10 แห่งที่เข้าถึงรอบนี้ “ปัจจุบันพื้นที่เขตเมืองถือเป็นจุดที่สร้างปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 70% เพราะผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นและมีกิจกรรมภายในมากกว่าเขตพื้นที่อื่น เมืองจึงเป็นจุดเปลี่ยนของสิ่งแวดล้อม”

อย่างไรก็ตาม ตนก็มีข้อเสนอว่า ในอนาคตนครเชียงรายน่าจะมีการพัฒนาด้านการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมต่อไป ส่วน อปท.อื่นๆ ก็ควรมุ่งมั่นด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม เพราะเมื่อสิ่งแวดล้อมดีขึ้นก็ถือว่าชนะเลิศแล้ว

ด้านนายวันชัย และผู้บริหารเทศบาลนครเชียงรายได้ประชาสัมพันธ์ผลงานว่า เทศบาลนครเชียงรายมีเป้าหมายพัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน โดยในปัจจุบันมีการขุดลอกทางเดินน้ำต่างๆ ทั่วเขตเมือง รวมทั้งขุดลอกหนองปึ๋ง ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะ เพื่อเป็นสวนสาธารณะ และมีกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ รองรับตัวเมืองที่ขยายตัว ส่วนการบริหารจัดการด้านร่องน้ำ และทางระบายน้ำ ได้ลดปริมาณการเททิ้งน้ำมันปรุงอาหารเหลือใช้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการอุดตันท่อส่งน้ำรวมทั้งทำให้น้ำเสีย โดยมีการรับซื้อน้ำมันปรุงแล้วนำมาพัฒนาเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในพิธีฌาปนกิจศพตามฌาปนสถานต่างๆ ในเขตเทศบาลฯ ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ลดต้นทุนการซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงได้อีกด้วย

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2559    
Last Update : 16 มิถุนายน 2559 19:37:16 น.
Counter : 264 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.