ประวัติเทวรูปเมืองมอญเข้าสู่เมืองไทย
ศุภฤกษ์ เอมโอช ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กลักษณะไทย เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2559 ไว้ว่า เจ้าพ่อ เจ้าแม่แห่งเทวรูปเมืองมอญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวรามัญเมืองพระประแดงยังคงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีจากเหล่าอนุชนรุ่นหลังจนถึงยุคปัจจุบัน อาทิ เจ้าพ่อเจ้าแม่หมู่บ้านเว่ขะราว มีประวัติการเดินทางเข้าสู่สยาม เมื่อปี พ.ศ.๒๓๑๗ ชาวมอญได้อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร เนื่องจากทนการกดขี่ข่มเหงของพม่าไม่ไหว อพยพเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์ และทางเมืองตาก โดยมีพระยาเจ่งเป็นหัวหน้า สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงโปรดให้ตั้งภูมิลำเนาอยู่ในเขตเมืองนนทบุรี ตั้งแต่ปากเกร็ดจนถึงสามโคก ในการอพยพครั้งนี้มีชาวมอญบ้านเว่ขะราวได้ร่วมเดินทางเข้ามาด้วย พร้อมกับเทวรูปของเจ้าพ่อและเทวรูปของเจ้าแม่ โดยนายโกนทอและนายจั๊ก เป็นผู้หาบหามมาจนถึงประเทศไทย โดยพักอยู่ที่ปากเกร็ดชั่วคราว (จากคำบอกเล่าของครูทวน รัชตปกรณ์ ที่ได้ทราบจากบรรพบุรุษ) ต่อมารัชกาลที่ ๒ ได้สร้างเมืองนครเขื่อนขันธ์เสร็จเรียบร้อย ตามพงศาวดารกล่าวว่าให้ย้ายครอบครัวมอญจากปทุมธานี ชายฉกรรจ์ ๓๐๐ คน มาอยู่นครเขื่อนขันธ์ จึงอพยพตามกันมาและตั้งบ้านเรือนอยู่กลุ่มเดียวกัน พร้อมกับการสร้างศาลประจำหมู่บ้าน จากการประทับทรงนางทองเติม สุขพิศาล เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๗ เจ้าพ่อ (ศาลหมู่บ้านเว่ขะราว) ท่านเล่าว่าท่านเป็นแม่ทัพของมอญในสมัยที่เมืองเมาะลำเลิงเป็นราชธานี มีชื่อว่า "มิทะนาย" ส่วนน้องชายของท่านชื่อ "ชุมพล" เป็นชาวเมาะตะมะโดยกำเนิด ตำแหน่งของท่านเป็นแม่ทัพมีช้างเป็นพาหนะเป็นจำนวนพันๆเชือก พวกเราจึงเรียกกันว่า "เจ้าพ่อช้างพัน" ท่านเสียชีวิตในสนามรบเมื่ออายุ ๓๔ ปี เจ้าแม่ (ศาลหมู่บ้านเว่ขะราว) ท่านเป็นชาววังมีเชื้อเจ้ามีสององค์ องค์พี่ชื่อ "กาวทอ" องค์น้องชื่อ "กาวซอน" มีบุตรสาวชื่อ "กาวซะลอย" และบุตรีของเจ้าแม่องค์นี้เองได้แต่งงานกับเจ้าพ่อ "มิทะนาย" เจ้าแม่จึงไม่ใช่ภรรยาเจ้าพ่อ แต่เป็นแม่ยาย ซึ่งบางคนอาจเข้าใจผิด ส่วนเทวรูปภรรยาของเจ้าพ่อนั้นไม่ได้นำมาอยู่เมืองไทยด้วย ซึ่งช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์จะจัดให้มีพิธีทำบุญรำเจ้าพ่อ เจ้าแม่ในวันอาทิตย์ที่ ๑ พ.ค.๒๕๕๙ นี้ ที่มา thaitribune
Create Date : 30 เมษายน 2559 |
Last Update : 30 เมษายน 2559 19:59:08 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1015 Pageviews. |
|
|