เหมืองทองคำ : นรกสำหรับประชาชน โดย วสิษฐ เดชกุญชร



ประเทศไทยของเราทั้งประเทศอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุนานาชนิด เช่น ถ่านหิน ลิกไนต์ พลวง เหล็ก สังกะสี โปแตช ทองแดง และทองคำ

 

บริษัทต่างประเทศหลายประเทศได้สัมปทานและเข้ามาประกอบอุตสาหกรรมเหมืองแร่อยู่ในเมืองไทยเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว แต่ข้อเท็จจริงที่ไม่ค่อยรู้กันกว้างขวางนักก็คือ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่ทำกันอยู่นั้นแทบทุกชนิดเป็นภัยอย่างรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสุขภาพอนามัยของคนไทย ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับเหมืองแร่ 

ตั้งแต่ปี 2549 บริษัท อัคราไมนิ่งและบริษัทอื่นอีก 2 บริษัทได้รับ อาชญาบัตรพิเศษให้สำรวจแร่ทองคำและเงินในเขตจังหวัดพิจิตร เพชร บูรณ์ และพิษณุโลกในเนื้อที่หลายพันไร่ การสำรวจทำให้แหล่งน้ำธรรมชาติ เหือดแห้ง ชาวบ้านขาดน้ำสำหรับใช้ทำเกษตรกรรม ชาวบ้านต้องซื้อน้ำดื่ม  น้ำใช้ ร้ายยิ่งกว่านั้น การสำรวจทำให้เกิดมลพิษทางฝุ่นและเสียงและจาก แรงสั่นสะเทือนของการระเบิดหิน สารพิษจากสารหนู ไซยาไนด์ และแมงกานิสที่บริษัทใช้ในการแยกทองคำออกจากแร่ชนิดอื่น ปนเปื้อนลงสู่ดินและแหล่งน้ำ ทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วย สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ตรวจเลือด และปัสสาวะของชาวบ้านตำบลท้ายเหมือง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงเหมืองแร่ และพบว่ามีสารหนูสูงเกินค่ามาตรฐาน และผลการตรวจสมาชิกในครอบครัวก็ปรากฏว่าเป็นเช่นเดียวกันทั้งหมด ชาวบ้าน ใน 3 จังหวัดมีอาการเจ็บป่วยมากกว่า 600 คน

ในปี พ.ศ.2557 ประชาชนอำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตรที่ได้รับความกระทบกระเทือนจากการทำเหมืองแร่ได้ยื่นฟ้องรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง  กับบริษัทอัคราไมนิ่งจำกัด หรือบริษัทอัครา รีซอร์สเซสจำกัด (ชื่อใหม่)  ต่อศาลปกครองพิษณุโลกใน ข้อหาละเลยต่อหน้าที่ ปล่อยให้บริษัทสร้างบ่อทิ้งเก็บกากแร่และประกอบโลหกรรมส่วนย่อยโดยไม่ชอบหรือไม่ได้รับอนุญาตจากราชการ ออกโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยไม่ดูแลทางสาธารณประโยชน์ และศาลปกครองได้มีคำพิพากษาให้ทางราชการและบริษัทแก้ไขเปลี่ยนแปลงการทำเหมืองแร่ให้เป็นไปตามฟ้องของประชาชน แต่คำพิพากษาของศาลก็มีผลเพียงชะลองานของบริษัทไปชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น มิหนำซ้ำบริษัทยังฟ้องผู้ประท้วงฐานหมิ่นประมาทเสียด้วย

เหมืองทองในต่างประเทศเคยสำแดงพิษร้ายแรงของมันมาแล้ว กรณี ตัวอย่างเกิดขึ้นในปี 2543 ในเมืองบาจามาเร (Baja Mare) ประเทศโรมาเนีย เมื่อบ่อกากไซยาไนด์จากเหมืองทองคำรั่วแตกทำให้ไซยาไนด์และโลหะหนักไหลลงสู่ชุมชนและแม่น้ำทิซา (Tiza) ซึ่งไหลผ่านโรมาเนียและฮังการี ทำให้ประชาชนจำนวนมากป่วยและเสียชีวิต ที่สำคัญคือสิ่งมีชีวิตในน้ำ คือ กุ้ง หอย ปู ปลา และแม้กระทั่งแบคทีเรียตายลงเป็นจำนวนล้านตัว แม้แต่นกที่กินน้ำในแม่น้ำก็ตายด้วย

แม่น้ำทิซากลายเป็นแม่น้ำที่ปราศจากสิ่งมีชีวิตอย่างสิ้นเชิง ต้องใช้เวลากว่าสิบปีจึงฟื้นฟูให้คืนสู่สภาพเดิมได้

ขณะที่เขียนเรื่องนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังพิจารณาคำร้องของบริษัทอัคราไมนิ่ง ที่ขอต่ออายุใบอนุญาตการประกอบโรงงานโลหะอุตสาหกรรม (ทองคำ) และเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศและเครือข่ายภาคประชาชนอื่นๆได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการต่ออายุใบอนุญาตนั้น เนื่องจากที่แล้วมา บริษัทเอกชนผู้ได้รับสัมปทานไม่ได้แก้ไขและป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นแก่ประชาชนอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด 
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ อนามัย เรื่องมลพิษทำลายสิ่งแวดล้อม หรือเรื่องการทำลายวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

ถ้าหากรัฐบาลเห็นแก่ประโยชน์ที่ได้จากการอนุมัติให้บริษัททำเหมืองแร่ในประเทศไทย ก็น่าวิตกว่าในไม่ช้าเหมืองแร่เหล่านั้นจะแสดงพิษร้าย เช่นเดียวกับที่เคยแสดงมาแล้วในต่างประเทศ และเหมืองทองคำกับเหมืองแร่ชนิดอื่นจะกลายเป็นนรกสำหรับคนไทยจำนวนไม่น้อย และเป็นภาระอัน หนักหนาสาหัสสำหรับรัฐบาลเองในที่สุด.

ที่มา thaitribune




Create Date : 05 เมษายน 2559
Last Update : 5 เมษายน 2559 14:24:15 น. 0 comments
Counter : 289 Pageviews.

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.