ชีวิตมนุษย์มีองค์ประกอบถึง 7Q ไม่ใช่มีเพียง IQ และ EQ ตรวจสอบว่าคุณเองมีกี่ Q

เมื่อเข้าไปในกู้เกิ้ลแล้วพิมพ์คำว่า 7Q มีแหล่งที่มาจำนวนมาก แต่เขียนไว้ไม่แตกต่างกัน จึงไม่ทราบว่า“ต้นทาง”มาจากไหน แต่เมื่อเป็นสิ่งที่ทุกคนควรเรียนรู้ จึงขอนำมาจากหัวข้อ “7Q ที่ควรรู้…น้องๆ ชาว มรส.คงจะเคยได้ยินศัพท์ฮิตติดหูเกี่ยวกับตัว Q ทั้ง 7 ตัวคือ IQ EQ CQ MQ PQ AQ และ SQ กันมาบ้างนะครับ อิอิ น้อง ๆ อาจ อยากทราบว่าเราน่าจะมี Q ตัวไหนมากหรือน้อย มาลองอ่านความหมายของแต่ละ Q กันดูนะครับ”

 

1. IQ (Intelligence Quotient) ความฉลาดทางสติปัญญา เป็นความสามารถในการคิด วิเคราะห์ การคำนวณ และการใช้เหตุผล 

2. EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ตนเองและผู้อื่น สามารถควบคุม อารมณ์และยับยั้งชั่งใจตนเองและแสดงออกอย่างเหมาะสม รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักรอคอย รู้จักกฎเกณฑ์ระเบียบวินัย มีจิตใจร่าเริงแจ่มใส และ มองโลกในแง่ดี การเจริญพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา) จะช่วยเสริม EQ ได้ดีครับ

3. CQ (Creativity Quotient) ความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ มีความคิด จินตนาการหรือแนวคิดใหม่ๆ ในรูปแบบต่างๆ เช่น การ เล่น งานศิลปะ และการประดิษฐ์สิ่งของ นักวิจัยพบว่าการเล่นและท ากิจกรรมที่ส่งเสริมจินตนาการเช่น การเล่นศิลปะ การหยิบจับของใกล้ตัวมาเป็น ของเล่น การเล่านิทาน เป็นต้น จะทำให้มี CQ ดีครับ

4. MQ (Moral Quotient) ความฉลาดทางศีลธรรม จริยธรรม คือมีความประพฤติดี รู้จักผิดชอบ มีความซื่อสัตย์ รับผิดชอบ มี จริยธรรม เป็นแนวคิดที่มุ่งตอบคำถามว่าการที่เรามีคนที่ IQ ดี EQ สูง แต่ถ้ามีระดับจริยธรรมต่ำก็อาจใช้ความฉลาดไปในทางที่ไม่ถูกต้องก็เป็นได้ MQ จึงเน้นเรื่องการปลูกฝังความดีงามซึ่งตรงกับหลักศาสนาหลายศาสนาที่สอนให้คนเป็นคนดีครับ

5. PQ (Play Quotient) ความฉลาดที่เกิดจากการเล่น เกิดจากความเชื่อที่ว่าการเล่นพัฒนาความสามารถของเด็กได้หลายด้าน ทั้ง พัฒนาการด้านร่างกาย ความเฉลียวฉลาด ความคิดส ร้างสรรค์ อารมณ์และสังคม PQ จึงเน้นให้พ่อแม่เล่นกับลูก ถึงกับมีคำพูดที่ว่าพ่อแม่เป็น อุปกรณ์การเล่นที่ดีที่สุดของลูก

6. AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดในการแก้ไขปัญหา คือมีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวในการเผชิญปัญหาได้ดี และพยายาม เอาชนะอุปสรรคความยากล าบากด้วยตัวเอง ไม่ย่อท้อง่ายๆ มองปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย ไม่ใช่เรื่องที่ต้องจำนน (สู้ ๆ อิอิ)

7. SQ (Social Quotient) ความฉลาดทางสังคมที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้อื่น เพราะมนุษย์ไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่ง กันและกัน มีน้ำใจเอื้ออาทรต่อเพื่อนร่วมสังคมด้วยกัน ไม่คิดว่าตนเองเหนือกว่าใคร ต้องมีใจเปิดกว้างยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น อีกทั้งต้องไม่ เบียดเบียนซึ่งกันและกัน          

ท้ายสุดนี้พี่ไซเบอร์คุงอยากจะบอกว่า ปัจจุบันนักวิจัยยืนยันว่า IQ มีส่วนเกี่ยวข้องกับความสำเร็จในชีวิต เช่น การทำงาน การเรียน แค่ 20% เท่านั้นครับ ดังนั้นจึงไม่ควรยึดถือแต่เพียงระดับความฉลาดของสติปัญญา (ทางโลก) เท่านั้น ลองให้ความสนใจกับ Q ที่เหลือด้วยก็จะทำให้น้อง ๆ เป็นผู้หนึ่งที่ดำรงชีวิตอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างมีความสุขนะครับ

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 24 มีนาคม 2559    
Last Update : 24 มีนาคม 2559 11:09:44 น.
Counter : 605 Pageviews.  

กษัตริย์-พระราชินีเบลเยียมเสียพระทัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต-นายกฯประยุทธ์และรัฐมนตรีดอนส่งสารเสียใจต

กษัตริย์-พระราชินีเบลเยียมเสียพระทัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต นายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศส่งสารแสดงความเสียใจต่อเหตุระเบิดที่กรุงบรัสเซลส์ พร้อมกับประณามการกระทำอันขี้ขลาดครั้งนี้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 ว่าสมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปแห่งเบลเยียม ตรัสสุนทรพจน์ ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อ 22 ีนาคม แสดงความโศกเศร้าเสียพระทัยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่กรุงบรัสเซลส์ พร้อมตรัสว่า พระองค์และพระราชินีมาทิลด์ ทรงขอร่วมแบ่งปันความทุกข์โศกจากเหตุวินาศกรรมในครั้งนี้ เพราะการโจมตีเมื่อวันอังคารที่ 22 มีนาคมเป็นการกระทำที่ขี้ขลาด และน่าเกลียดชัง

พร้อมกันนั้น ทรงขอบพระทัยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและรักษาความปลอดภัยที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ

ขณะเดียวกันเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศได้รายงานว่าตามที่เกิดเหตุระเบิดที่ท่าอากาศยานนานาชาติซาเวนเทม (Zaventem) และสถานีรถไฟใต้ดินมาลเบค (Maelbeek) ในกรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 มีนาคม 2559 ทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก นั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีสารแสดงความเสียใจถึงนาย Charles Michel นายกรัฐมนตรีเบลเยียม และนาย Didier Reynders รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเบลเยียม ดังนี้

สารแสดงความเสียใจจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงนาย Charles Michel  นายกรัฐมนตรีเบลเยียม

Excellency,

I have been deeply shocked and saddened to learn of the devastating explosions in Brussels on the morning of 22 March 2016.

On behalf of the Royal Thai Government and people of the Kingdom of Thailand, I wish to convey my heartfelt condolences to Your Excellency, and through you, to the victims and the families of those who were afflicted by this tragic incident. Our thoughts and prayers are with the people of Belgium during this time of anguish.

Thailand stands with the international community and strongly condemns this senseless act of violence on innocent people. 

Accept, Excellency, the assurances of my highest consideration.                                                                 

General Prayut Chan-o-cha (Ret.)

Prime Minister of the Kingdom of Thailand

สารแสดงความเสียใจจากนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถึงนาย Didier Reynders รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเบลเยียม

Excellency,

I have learned with sadness of the loss of lives and injuries caused by the terrible explosions that occurred in Brussels on the morning of 22 March 2016.

In this moment of bereavement, I wish to extend to Your Excellency and the people of Belgium my sincere condolences and sympathies to the families of the victims for this dreadful event. Thailand strongly condemns these acts of violence and remains firmly committed to cooperate closely with the international community in the global fight against all forms of terrorism.

Accept, Excellency, the renewed assurances of my highest consideration.

Don Pramudwinai

Minister of Foreign Affairs of the Kingdom of Thailand

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 มีนาคม 2559    
Last Update : 23 มีนาคม 2559 18:28:40 น.
Counter : 335 Pageviews.  

ตำรวจดีๆบางท่านปั้นจิ้มปั้นเจ๋อไม่เป็น ! โดย สำเริง คำพะอุ

สำเริง คำพะอุ เขียนไว้ในเจ้าพระยานิวส์เมื่อวันที่ 23 มีนาคมกรณีรถเบนซ์ชนรถฟอร์ดเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ก็มีการส่งตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแหงชาติไปปั้นจิ้มปั้นเจ๋อกับญาติผู้เสียชีวิตเพื่อว่าชื่อเสียงของตำรวจที่ยับเยินไปแล้วจะดูดีขึ้นบ้าง แต่คนดูข่าว คนอ่านหนังสือพิมพ์ เขาอยากรู้อย่างตรงไปตรงมาว่าคนก่อเหตุเจอข้อหาอะไร? ทำไมปล่อย 3/4 วันค่อยไปสอบปากคำ ไอ้คนก่อเหตุมันเมาหรือไม่เมา มันกินยากล่อมประสาทหรือไม่กิน จะต้องสอบสวนสืบสวนกี่ปีกี่ชาติ เหมือนทายาทกระทิงแดงหรือเปล่า 4 ปีแล้วยังไม่ส่งฟ้อง ดังนี้.....

 

ตั้งแต่เกิดเหตุรถเบนซ์ชนรถฟอร์ด ไฟลุก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในรถฟอร์ด 2 ศพ ชื่อเสียงของตำรวจซึ่งไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วก็ยับเยิน เพราะตำรวจไม่ตรวจวัดแอลกอฮอร์คนขับรถที่ก่อเหตุ อ้างว่า เขาไม่ยอมให้ตรวจบ้าง ดมแล้วไม่ได้กลิ่นเหล้าบ้าง ผู้ก่อเหตุกลัวเข็มฉีดยาบ้าง

ในโลกของการสื่อสาร โซเซียลมีเดีย ก็กระหน่ำถากถาง กดดันตำรวจสารพัด จนในที่สุดก็ต้องย้ายผู้กำกับ รองผู้กำกับ และมีทีท่าว่าจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุที่ขับรถเบนซ์ซึ่งเป็นเศรษฐีมีเงิน รู้จักนักการเมืองระดับอดีตนายกรัฐมนตรีอย่างจริงจัง

เท่านั้นยังไม่พอ รองผู้บัญชาการตำรวจคนหนึ่ง เดินทางไปงานศพของผู้เคราะห์ร้าย

ยังไม่พอ รองผู้บัญชาการตำiวจคนเดียวกันนี้ เดินทางไปปลอบโยนและรับปากกับพ่อแม่ของเหยื่อตีนผีขี่เบนซ์ ถึงอำเภอขลุง จังหวัดจันทรบุรี โน่น

ด้วยหวังว่า ชื่อเสียง เกียรติยศของตำรวจไทย อาจจะดีขึ้นอีกหลายกระเบียด ด้วยฝีมือของ พลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

แต่ก็อีกนั่นแหละ ชื่อเสียงที่คาดหมายว่าจะดีขึ้น อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดก็ได้ เพราะวิธีการอย่างที่ พลตำรวจรวจเอกพงศพัศ ทำ ตำรวจในอดีต ไม่ว่าจะเป็น พลตำรวจโทต่อศักดิ์ ยมนาค พลตำรวจเอก มนต์ชัย พันธ์คงชื่น พลตำรวจเอกเสน่ห์ สิทธิพันธ์ พลตำรวจโท จำรัส จันทรขจร ฯลฯ ผมเชื่อว่าท่านทั้งหลายที่ผมเอ่ยนามมานี้ ไม่ทำวิธีนี้แน่

ถามว่าทำไมไม่ทำ ?

อย่างท่าน พลตำรวจโทต่อศักดิ์ ยมนาค ซึ่งดูแลพื้นที่เมืองกรุง เหตุการณ์ที่จะให้ตำรวจดูแลไม่ได้มีเพียงรายสองรายต่อวัน ยุคสมัยนั้นไม่ได้ซอยย่อยกรุงเทพฯเป็นสิบๆเขต หรือกรุงเทพฯ ธนบุรี ไม่ได้รวมกัน รถราไม่ได้มีมากมายอย่างทุกวันนี้ก็เถอะ ใครประสบอุบัติเหตุก็ต้องวิ่งไปปลอบโยน

ทำไม่ได้ ทำไม่ไหว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลิกของท่านเหล่านั้นมิใช่ประเภทไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเสนอหน้า

ท่านที่ผมเอ่ยนาม และอีกหลายๆท่าน(ตำรวจดีๆ) ที่มิได้เอ่ยนาม ทำงานด้วยความเข้าใจภาระหน้าที่ของตำรวจ คือพิทักษ์สันติราษฎร์ ปราบปรามจับกุมโจรผู้ร้าย ดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด โดยที่ไม่ต้องประกาศว่าคดีจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

ผลของคดีจะเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คนทั้งหลายเอง

ต่อให้ตีปี๊บทั้งวันเป็นข่าวในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ทุกวัน เปิดโทรทัศน์ เป็นเห็นหน้าทุกครั้ง ผู้คนเขาก็รู้ว่า ไอ้ตำรวจคนนี้มันเอาหน้า มันไม่มีผลงานในการจับโจรผู้ร้าย ไม่มีผลงานในการสืบสวนสอบสวน ไม่เคยทำสำนวนเอง

ขณะที่ตำรวจบางนายไม่เคยเป็นข่าว แต่โจรผู้ร้ายได้ยินชื่อก็ขยาด พ่อค้า เถ้าแก่ไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่รับเลี้ยง ไม่รับสินบน คดีความเป็นยังไง เป็นไปตามนั้น อย่ามาอ้าง ไอ้ปื้ด

โลกทุกวันนี้ เป็นโลกที่ข่าวสารรวดเร็ว แพร่หลาย บางคนเข้าใจว่า สามารถยึดกุมพื้นที่ข่าวได้ก็จะชนะ

ยึดกุมพื้นที่ข่าวได้ ประชาสัมพันธ์ให้คนเข้าใจได้ เช่นกรณีที่ เกิดเหตุรถเบนซ์จนรถฟอร์ด มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เอาใจใส่ไปงานศพ ไปปลอบญาติ พ่อแม่ผู้เสียชีวิต รับปากว่าจะดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา

คนดูข่าว คนอ่านหนังสือพิมพ์ ก็ต้องเกิดคำถาม ตรงไปตรงมา ที่นายตำรวจใหญ่ว่าอะไร ? คนก่อเหตุเจอข้อหาอะไร? ทำไมปล่อย 3/4 วันค่อยไปสอบปากคำ ไอ้คนก่อเหตุมันเมาหรือไม่เมา มันกินยากล่อมประสาทหรือไม่กิน จะต้องสอบสวนสืบสวนกี่ปีกี่ชาติ เหมือนทายาทกระทิงแดงหรือเปล่า 4ปีแล้วยังไม่ส่งฟ้อง

พื้นที่ข่าว หรือที่เข้าใจว่ายึดกุมข่าวได้ให้ความกระจ่างในเรื่องเหล่านี้ได้ไหม ?

ผมว่า ไม่นะ

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 มีนาคม 2559    
Last Update : 23 มีนาคม 2559 18:08:24 น.
Counter : 224 Pageviews.  

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 24-27 มี.ค. เตรียมรับพายุฤดูร้อน-ภาคอีสานอุณหภูมิลด5-7องศา ขอให้ประชาชนระมัดร

กรมอุตุ พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 23 มีนาคม 2559 ลักษณะอากาศทั่วไป หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกตอนบน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

 

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 24-27 มี.ค. เตรียมรับพายุฤดูร้อน

ในช่วงวันที่ 24-27 มีนาคม 2559 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกของประเทศไทยและทะเลจีนใต้

ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้ด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ในระยะแรก โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงได้บางพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลงได้ 5-7 องศาเซลเซียส ทำให้สภาพอากาศคลายความร้อนลง และขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 26-27 มีนาคม 2559 ทำให้อ่าวไทยตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ประกาศ ณ วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 11.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.00 น.

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยในอีก 7 วันข้างหน้า 23 มี.ค.59 - 29 มี.ค.59

คาดหมาย
การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 24-27 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ในระยะแรก และในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 5-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศคลายความร้อนลง

ในช่วงวันที่ 28-29 มี.ค. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีอากาศร้อนโดยทั่วไป สำหรับความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไปและมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง สรุปการคาดหมาย มีอากาศร้อนถึงร้อนจัด และมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง 

ข้อควรระวัง
ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศร้อนและหลีกเลี่ยงกิจกรรมในที่โล่งแจ้งนานๆ สำหรับเกษตรกรควรสวมใส่เครื่องนุ่งห่มให้เหมาะสมและดื่มน้ำบ่อยๆขณะที่ดำเนินกิจกรรมในระยะนี้ ส่วนในช่วงวันที่ 24-25 มี.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 มีนาคม 2559    
Last Update : 23 มีนาคม 2559 13:02:54 น.
Counter : 171 Pageviews.  

ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาให้รับฟ้องคดีกำนันสุเทพฟ้องธาริต เพ็งดิษฐ์และนสพ.หมิ่นประมาทเอี่ยวโรงพักตำรวจ

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้รับฟ้องคดีสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นโจทก์ฟ้องธาริต เพ็งดิษฐ์พร้อมหนังสือพิมพ์เป็นจำเลย หลังแถลงข่าวกล่าวหาเอี่ยวก่อสร้างโรงพักตำรวจ 396 แห่ง นัดตรวจหลักฐาน 16 พฤษภาคมนี้ เผยยังมีอีกคดีเดียวกันศาลอุทธรณ์กำลังพิจารณา

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องของศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำ อ.1640/2556 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. และอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ กับพวกประกอบด้วย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน),นายวรศักดิ์ ประยูรศุข บรรณาธิการ,บริษัท ข่าวสด จำกัด และ นายสุริวงศ์ เอื้อปฏิภาน บรรณาธิการ เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328

กรณีเมื่อวันที่ 27 ก.พ. - 5 มี.ค.2556 นายธาริต จำเลยที่ 1 ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กล่าวหาโจทก์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเปลี่ยนแปลงสัญญาโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทนจำนวน 396 โรงพัก จากประมูลรายภาครวมเป็นรายเดียว ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นข้อความเท็จทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค.2558 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าโจทก์ในขณะนั้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ไม่ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่ให้ก่อสร้างโรงพักทดแทน ให้กระจายตามรายภาค ซึ่งโจทก์กลับไม่ดำเนินการตามมติ ครม.ดังกล่าว

จำเลยในขณะนั้นเป็นอธิบดีดีเอสไอ มีหน้าที่ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียน คดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และเมื่อพบการกระทำทุจริตก็ได้ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เป็นการทำตามหน้าที่ของเจ้าพนักงานไม่เป็นการหมิ่นประมาท

ต่อมาโจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา

ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์ได้นำสืบให้เห็นถึงความเป็นมาของการอนุมัติโครงการก่อสร้างสถานีโรงพักทดแทน 396 แห่งว่ามีความเป็นมาอย่างไร และนำสืบว่าโจทก์ได้ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) การที่นายธาริตได้เเถลงข่าวขัดต่อข้อเท็จจริงเหรือขัดต่อกฎหมายอย่างไร เป็นเรื่องที่จะต้องมีการพิสูจน์พยานหลักฐานกันต่อไป

ในชั้นนี้พยานที่โจทก์นำสืบมีมูล จึงพิพากษากลับให้รับฟ้อง และให้ศาลชั้นต้นประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา พร้อมนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 16 พ.ค. 2559 เวลา 09.00 น.

ภายหลังจากนั้น นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความโจทก์ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้เกิดขึ้นสมัยที่นายสุเทพเป็นรองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจ 396 แห่ง และนายธาริตได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่านายสุเทพไม่ทำตามระเบียบคณะรัฐมนตรี เป็นเหตุให้นายสุเทพเสียหายจึงมีการฟ้องนายธาริตและพวกรวม 5 คน

ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องศาลชั้นต้นได้ยกฟ้องเนื่องจากคดีไม่มีมูล โจทก์จึงได้ยื่นอุทธรณ์ และในวันนี้ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าการที่โจทก์นำสืบข้อเท็จจริงความเป็นมาการก่อสร้างสถานีตำรวจ เพื่อชี้ให้เห็นว่านายธาริตแถลงข่าวขัดต่อข้อเท็จจริงหรือไม่ ตรงไหนอย่างไรบ้าง ส่วนรายละเอียดจะผิดหรือไม่นั้นต้องมีการพิสูจน์ต่อไป ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีมีมูลจึงมีคำสั่งประทับรับฟ้อง และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 16 พ.ค.นี้

นายสวัสดิ์เปิดเผยว่า  นายสุเทพมีคดีความฟ้องหมิ่นประมาทนายธาริตกรณีโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน ทั้งหมด 2 สำนวน เนื่องจากนายธาริตให้สัมภาษณ์หลายครั้ง โดยสำนวนแรกคดีหมายเลขดำ ที่ อ.495/2556 นั้น ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องนายธาริต ซึ่งนายสุเทพโจทก์ก็ได้ใช้สิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 23 มีนาคม 2559    
Last Update : 23 มีนาคม 2559 12:09:39 น.
Counter : 336 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.