หมอเปรมเปิดใจภาพกับเด็กม.5 รู้สึกอับอาย-ประกาศ“หมดเวลาหงอภายใต้อำนาจอธรรมของสื่อ”



หมอเปรมประกาศชักธงรบกับสื่อเผยเหตุรูปล่าสุดผูกข้อมือกับเด็กม.5 แล้วลงรูปเหมือน“การจับผมแก้ผ้าประจานให้อับอายต่อหน้าธารกำนัล” เผยหมดเวลาที่เราจะหงออยู่ใต้อำนาจอธรรมของสื่อ อัดสมาคมสื่อฯออกประณามคนไปทั่ว

 

เมื่อเวลาประมาณ 08.35 น. วันที่ 28 กรกฏาคม 2559 นพ.ดร.เปรมศักดิ์ เพียยุระ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊หัวข้อ“ผมคุกคามสื่อ หรือว่าสื่อคุกคามผม ว่าผมเป็นนักการเมือง เป็นบุคคลสาธารณะมายาวนาน ผมรู้ดีว่าต้องมีสัมพันธไมตรีและปฏิสัมพันธ์กับสื่ออย่างไร ต้องวางระยะใกล้ ระยะห่างอย่างใด จึงจะเหมาะสมและเคารพในการทำงานของสื่อมวลชนมาตลอด ในฐานะผมเป็นแหล่งข่าว และสื่อนั้นก็ต้องการนำเสนอข่าว เข้าทำนองน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าอัฌชาศัย

ผมกับพี่น้องสื่อสารมวลชนก็ดำรงความสัมพันธ์กันมาแบบนี้แหละครับ หนักนิดเบาหน่อยก็ต้องทนกันไป ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดแล้วเป็นผมที่ต้องอดทน หลายครั้งบางทีก็หวานอมขมกลืน แต่มาล่าสุดนี่สุดจะทนจริงๆ

เพราะสื่อเล่นงานผมหนล่าสุดนี่ ไม่ต่างไปจากการจับผมแก้ผ้าประจานให้อับอายต่อหน้าธารกำนัล

ดังนั้นต่อมาเมื่อสื่อคณะหนึ่งบุกรุกเข้ามาพบผมในห้องทำงานนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่ ก็อยากขอเรียนให้ทราบว่า ในฐานะรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับสื่อทุกท่านที่มาหาผมในวันนั้น ผมก็อดที่จะรู้สึกอยากขออุทธรณ์วิงวอนไม่ได้เลยว่า ทุกท่านก็รู้จักกับผมเป็นอย่างดี ไปมาหาสู่ก็สะดวกทุกช่องทาง ก่อนนำเสนอข่าวเผยแพร่ไปในทางที่เกิดความเสียหายแก่ผม ทำไมจึงไม่มาสอบถามข้อเท็จจริงเสียก่อน แล้วค่อยไปเผยแพร่ให้ครบถ้วนทุกด้าน จึงจะได้ชื่อว่าสื่อได้กระทำตามอาชีวปฏิญาณ

แต่นี่กลับกลายเป็นว่าสื่อมวลชนไปเห็นภาพจากไหนไม่ทราบ ก็ได้นำเสนอภาพและข่าวในทางเสียหายให้กับผมไปก่อนแล้ว จากนั้นจึงค่อยมาตามหาตัว ให้ผมไปแก้ข่าวในภายหลัง กระทำเสมือนให้ผมตกเป็นจำเลยสังคมเสียก่อน แล้วก็ตามมาสอบสวนกดดันรีดเค้น เสมือนว่าเพื่อหวังประจานผม มีคำภาษิตพังเพยกันอันเป็นเรื่องอัปลักษณ์เปรียบเปรยวงการสื่อว่า“ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียตังค์ลง”

อย่างผมดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี ทำงานทุ่มเทอุทิศตัวและกายใจเหนื่อยยากให้สมกับที่ประชาชนวางใจเลือกมา ได้รางวัลระดับประเทศนับไม่ถ้วน ส่งข่าวไปไม่เคยได้ลง ถ้าลงก็ต้องซื้อพื้นที่ประชาสัมพันธ์ ผมมีนโยบายสารพัดที่จะสร้างความเจริญก้าวหน้า สื่อไม่ลงข่าว ก็จะเสาะหาแต่ว่าผมมีเรื่องส่วนตัวซอกไหนมุมไหนเสียหายจะได้ไปขายข่าว เล่นยังกับว่าผมเป็นดารา ต้องไปจับคู่จิ้นกับใครต่อใคร เดี๋ยวก็คงตามไปทำข่าวว่าเตียงหักหรือยัง หรือมุดไปอยู่ใต้เตียงได้ก็คงทำ เป็นเรื่องไร้แก่นสารไม่มีสาระประโยชน์อันใดต่อสาธารณชนเลย

ผมและบุคคลในแวดวงต่างๆทั้ง นักการเมือง ผู้บริหารในคณะรัฐบาล พ่อค้านักธุรกิจ ดารา นักร้อง นักแสดง ศิลปิน นักกีฬา บุคคลสาธารณะในแวดวงต่างๆ ตลอดจนประชาชนพลเมืองโดยทั่วไปก็ตกอยู่ในสภาพเป็นเบี้ยล่างของสื่อมาตลอดนั่นแหละครับ เพราะท่านมีปากกาในมือ มีสื่อทุกแขนง ทั้งทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์

ในขณะที่พวกเราไม่ได้มีอะไรจะไปสู้รบปรบมือกับท่านได้ ท่านจึงกลายเป็นอภิสิทธิ์ชน จะกระทำการสิ่งใดก็ได้ตามอำเภอใจของท่าน เพราะท่านรู้ว่ามีแต่คนยอม มีหลังๆมานี้ ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ยอมขึ้นมาคนหนึ่ง ก็ได้รับเสียงสนับสนุนอย่างท่วมท้นจากประชาชนคนไทย ผมก็ว่าในเมื่อมีผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองยืนหยัดไม่ยอมซักคน ผมจะไม่ยอมทนอีกซักรายก็จะเป็นไปไร และว่าไปแล้วก็ไม่สมควรต้องมีใครจะไปต้องยอมกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่เฉพาะบุคคลสาธารณะ แต่รวมไปถึงพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วไปที่ถูกสื่อข่มเหงรังแกและรังควานกันมาชั่วนาตาปี

มีแต่คนรักใคร่ปรารถนาดีหวังดีเตือนผมมาว่ารบกับสื่อมีแต่เสียกับเสีย เพราะสื่อท่านมีอาวุธครบมือทั้งปากกา ทั้งกระดาษ ทีวี วิทยุ มัลติมีเดียสารพัด ผมเองคงจะโดนเล่นงานจนงอมพระราม ตายไม่มีฟื้น เพราะไหนท่านยังจะมีองค์กรสมาคมสื่อที่เก่งกล้าสามารถในทางออกแถลงการณ์ประณามใครต่อใครไปทุกวงการ ยกเว้นพวกท่านกันเอง เพราะแมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวัน

ส่วนสื่อค่ายไหน คนไหนดี มีจรรยาบรรณอันเคร่งครัด ทำมาหากินด้วยสุจริตโดยอาชีวะปฎิญาณ ท่านก็ไม่ต้องเดือดร้อนนะครับ ผมขอยกย่องสรรเสริญอย่างสุดใจ ผมไม่ได้คิดจะต่อว่าแบบเหมารวมแต่อย่างใด

แต่ไม่เป็นไร ผมไม่ได้จะไปรบราฆ่าฟันอะไรกับสื่อ เพียงแต่จะยืนหยัดขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองเท่านั้น สิ่งที่ผมทำก็เป็นไปโดยหัวเดียวกระเทียมลีบ หนังสือพิมพ์ผมก็ไม่มี ทีวี วิทยุ สื่ออะไรก็ไม่มี ก็มีแค่ Facebook เหมือนประชาชนคนไทย ชาวบ้านร้านช่องสามัญชนทั่วไปมีกัน ผมก็เลยต้องแถลงมาให้ทราบทางนี้ กับมีกฎหมายเป็นที่พึ่ง เหมือนคนไทยทั่วไปมีกฎหมายเป็นที่พึ่ง ผมก็ไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับทางตำรวจว่าผมโดนสื่อบุกรุกคุกคามกดดัน ผมก็มีเท่านี้จริงๆ

ชาวบ้านร้านช่อง และบุคคลสาธารณะในแวดวงต่างๆ ทั้ง นักการเมือง ผู้บริหารในคณะรัฐบาล พ่อค้านักธุรกิจ ดารา นักร้อง นักแสดง ศิลปิน นักกีฬา สารพัดวงการ และพี่น้องประชาชนคนไทยนั้นต่างก็โดนสื่ออภิสิทธิ์ชนคุกคามข่มขู่จับแก้ผ้าต่อหน้าธารกำนัล ว่าประจานให้อับอายมานักต่อนักแล้ว โดยที่พวกเราก็ทนนิ่งทนเงียบกันมาตลอด เพราะเป็นเบี้ยล่างของสื่อ สู้ไปก็มีแต่ย่อยยับอัปรา

แต่ผมได้สลัดความกลัวนั้นทิ้งไปแล้ว และยืนหยัดขึ้นประกาศให้ทราบชัดกันทั่วกันว่า หมดเวลาที่เราจะหงออยู่ใต้อำนาจอธรรมของสื่อแล้วครับ และได้เวลานับหนึ่งในการปฏิรูปสื่อแล้ว

ดร.นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ

นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น

ที่มา thaitribune




Create Date : 28 กรกฎาคม 2559
Last Update : 28 กรกฎาคม 2559 18:49:49 น. 0 comments
Counter : 302 Pageviews.

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.