เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 5 เม.ย. ที่วังวรดิศ นางประนอม แดงสุภา พร้อมด้วย น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวคนรอง เดินทางมาโดยรถโตโยต้า รุ่นวีออส ทะเบียน 3กน 4927 กรุงเทพมหานคร มารอการเจรจาที่ตึกใหญ่ ภายในวังวรดิศ โดยมีนายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนายความของนางประนอมเดินทางมาร่วมฟังการเจรจาด้วย ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมากมาเฝ้าสังเกตการณ์การพบระหว่างสองแม่-ลูกคนดัง

ทั้งนี้คดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 ศาลจังหวัดนครปฐม สั่งเลื่อนไต่สวนคดีที่นางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งบริษัทพิบูลย์ชัยนํ้าพริกเผาไทยแม่ประนอม จัดถอนฟ้องคดีนางศิริพร แดงสุภา บุตรสาวคนโต ว่าปลอมเอกสารโอนที่ดินสินสมรสของแม่ 9 แปลง ที่ อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม ไปเป็นของตัวเอง ไปอีก 2 เดือน เพื่อให้โอกาสแม่-ลูก ไกล่เกลี่ยยุติปัญหาความขัดแย้งอีกครั้ง โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นคนกลางในการเจรจาที่วังวรดิศวันที่ 5 เมษายน

ต่อมาเวลา 16.05 น. นางศิริพร แดงสุภา บุตรสาวคนโตของนางประนอม พร้อมด้วยนางอุรชา พีชาสารานนท์ บุตรสาวคนโตของนางศิริพรหรือหลานสาวของแม่ประนอมเดินทางโดยรถยนต์ Honda Odyssey ทะเบียน จอ 9595 กรุงเทพมหานคร เข้ามาภายในรั้ววังวรดิศ โดยติดฟิล์มดำและม่านเพื่อป้องกันไม่ได้สื่อมวลชนถ่ายรูป เข้าไปจอดหน้าตึกใหญ่ มีนางประนอมและนางศิริวัลย์ แม่และน้องสาวรออยู่ด้านในตึก

ต่อมาไม่นาน รถของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แล่นเข้ามาและไปจอดหน้าตึกใหญ่เช่นเดียวกัน โดยมีทีมงานที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีทยอยเดินเข้าไปในตึกเพื่อเตรียมความเรียบร้อยในการพูดคุยปรับความเข้าใจระหว่างแม่ลูก

การพูดคุยระหว่าง 2 ฝ่ายเริ่มขึ้นเวลา 16.30 น. ตามกำหนด โดยมีเพียง นางประนอม นางศิริพร บุตรสาวคนโต น.ส.ศิริวัลย์ บุตรสาวคนรอง นางอุรชา หลานสาวคนโตของนางประนอม และม.ล.ปนัดดา เป็นคนกลางรับฟังการเจรจา ทั้งนี้มีฝ่ายเลขานุการของ ม.ล.ปนัดดา จดบันทึกข้อตกลงในเรื่องทรัพย์สิน โดยไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่ใช่บุคคลในครอบครัว “แดงสุภา”และสื่อมวลชนร่วมรับฟัง โดยอนุญาตให้สังเกตการณ์อยู่บริเวณด้านนอก

หลังการพูดคุยเป็นเวลานานเกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อเวลา 18.30 น. ในที่สุดนางประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจน้ำพริกเผาแม่ประนอม ร้อมนางศิริพร แดงสุภา บุตรสาวคนโต น.ส.ศิริวัลย์ แดงสุภา บุตรสาวคนรอง นางอุรชา พีชาสารานนท์ หลานสาวคนโตและ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออกมาแถลงข่าวยุติความขัดแย้งภายในครอบครัว

ก่อนการแถลงข่าวนางศิริพรได้หลั่งน้ำตายกมือไหว้ขอโทษและสวมกอดนางประนอม ก่อนที่นางประนอมจะกล่าวว่า เรื่องความขัดแย้งยุติลงด้วยดี ยังไงพี่น้องก็รักกัน โดยแม่จะได้ทรัพย์สินคืนกลับมา และหลังจากนี้ลูกสาวคนโตจะรับตนกลับไปอยู่บ้าน ลูกๆจะช่วยกันดูแลแม่ต่อไป

“สามารถตกลงกันได้แล้ว ขอยุติในเรื่องต่างๆ และจะทำการถอนฟ้องคดีทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้อยากให้สื่อมวลชนช่วยแก้ข่าว และยืนยันว่าน้ำพริกแม่ประนอมจะอยู่กับคนไทยชั่วลูกชั่วหลาน สำหรับในส่วนของหุ้นนั้นตนได้รับคืนหมดเรียบร้อยแล้ว ไม่ติดใจอะไรแล้ว รักลูกค่ะ และลูกก็รักเรา พี่น้องรักกันดีค่ะ”แม่ประนอมกล่าว

ส่วนนางศิริพรกล่าวว่า ตนยังกตัญญูกตเวทีและรักแม่เหมือนเดิม แม่ขออะไรมา ตนก็พร้อมให้แม่หมด อย่างไรก็ตามนางศิริพรหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่องปัญหาการปลอมแปลงเอกสาร และรายละเอียดในข้อตกลงเรื่องทรัพย์สิน

ตลอดเวลาที่ผู้สื่อข่าวซักถาม นางศิริพรแสดงสีหน้าถึงความวิตกกังวลและไม่สบายใจ ก่อนตอบคำถามเพียงสั้นๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ว่า “ค่ะ”

ขณะที่ น.ส.ศิริวัลย์ บุตรสาวคนรอง กล่าวชี้แจงเพียงสั้นๆว่าในข้อตกลงดังกล่าว ตนไม่ได้หุ้น 350 หุ้นกลับคืน

ทางด้านม.ล.ปนัดดา ดิศกุล กล่าวในเวลาต่อมาว่า ดีใจที่สามารถเป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยในเรื่องนี้ยุติ แม่ลูกปรับความเข้าใจกัน อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นตัวอย่างของสังคม ครอบครัวที่รักกัน

นายพิสิษฐ์ ทนายของนางประนอม กล่าวว่าตนไม่ได้เข้าร่วมในการเจรจาดังกล่าว มีแต่บุคคลภายในครอบครัวแม่ประนอมเท่านั้น คาดว่าผลการเจรจาดังกล่าวไปในทิศทางที่ดี หากนางประนอมมีความประสงค์จะถอนฟ้องก็สามารถทำได้ภายใน 1 วัน โดยไปยื่นคำร้องต่อศาล อย่างไรก็ตาม ตนขอไปคุยในรายละเอียดก่อน เพราะยังไม่ทราบว่ารายละเอียดในข้อตกลงดังกล่าวมีอะไรบ้าง

เมื่อเวลา 21.30 น. แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดนางประนอมเปิดเผยว่าระหว่างพบปะเจรจาเพื่อยุติขัดแย้งระหว่างแมประนอม แดงสุภา กับนางศิริพร แดงสุภา บุตรสาวคนโต ในตึกใหญ่วังวรดิศนั้น นางศิริพรได้ยอมขอโทษแม่ประนอมในเรื่องที่เกิดขึ้น และพร้อมรับปากจะคืนทรัพย์สินให้แก่แม่ประนอมหลายรายการ แต่รายละเอียดทรัพย์สินมีอะไรบ้างยังไม่ยุติร้อยเปอร์เซ็นต์ คงต้องมีการพูดคุยและจัดทำรายละเอียดบัญชีทรัพย์สินให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวปิดเผยว่าเมื่อทุกอย่างตกลงกันได้หากทนายความทำเรื่องถอนฟ้องในวันที่ 11 เมษายนนี้ทั้งสองก็คงไม่ต้องขึ้นศาลตลิ่งชัน ในคดีแพ่ง

Create Date : 06 เมษายน 2559
Last Update : 6 เมษายน 2559 23:24:47 น.		0 comments
Counter : 308 Pageviews.
Share Tweet