ประชามติอังกฤษพ้น EU 51.89 ต่อ 48.11 % -นายกฯคาเมรอนแพ้โหวตลาออกมีผลตุลาคม



พลเมืองสหราชอาณาจักรลงประชามติออกจากสหภาพยุโรปด้วยคะแนน 51.89 ต่อ 48.11 % มีผู้มาออกเสียง 72 % นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ประกาศลาออกเหตุเพราะแพ้ประชามติ มีผลตุลาคมนี้ ผู้ว่าฯธปท.ชี้ตลาดเงินผนผวนให้บริหารความเสี่ยงต่อเนื่อง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559  ประเทศสหราชอาณาจักรหรือ UK เปิดให้พลเมืองของตนลงคะแนนเสียงลงประชามติที่เรียกว่า the UK referendum เพื่อออกจากสหภาพยุโรปหรืออียูที่เรียกว่า “เบร็กซิท” (Brexit)รวมทั้งหมด 382 เขตเลือกตั้ง

การนับคะแนนเสร็จทั้ง 382 เขตเลือกตั้ง เมื่อประมาณ 06.00 น.วันที่ 24 มิถุนายน (เวลาของสหราชอาณาจักร)  ผลปรากฎว่าคะแนนที่ต้องการพ้นจากสหภาพยุโรปคิดเป็น 51.89 % ส่วนกลุ่มที่ต้องการอยู่กับอียู 48.11 %  โดยมีผู้ไปออกเสียงประชามติ 72 % จากผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด 46.5 ล้านรายที่แสดงเจตน์จำนงลงคะแนน (registered to Vote) ในการมีส่วนร่วมประวัติศาสตร์ครั้งนี้  หรือคิดเป็น ต้องการพ้นจากอียู  17,410,742 ราย ส่วนผู้ต้องการอยู่ลงคะแนน 16,141,241 ราย

ทั้งนี้สหราชอาณาจักร(The United Kingdom) ประกอบด้วย อังกฤษ,สก๊อตแลนด์,เวลส์และไอร์แลนด์เหนือ

การลงประชามติครั้งนี้มีผู้มาลงมากกว่าการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วไป 2 ครั้งที่ผ่านมาคือในปี 2010 มีผู้มาลงคะแนน 65 % และปี 2015 มีผู้มาลงคะแนนเสียง 66 %  แต่ก็ยังน้อยกว่าการลงประชามติสก๊อตแลนด์ปี 2014 ที่มีผู้ลงคะแนนเสียง 85 %

ในจำนวนนี้เขตไอร์แลนด์เหนือมาลงคะแนนเสียงน้อยสุด 63 % ขณะที่เขตเซาท์เวสต์และยิบรัลตาร์ มีผู้ลงคะแนนเสียงมากสุด 76.5 %

ประเทศสหราชอาณาจักรเข้าเป็นสมาชิกอียูตั้งแต่ปี 1973 เมื่อนับรวมแล้วในปัจจุบันมีประเทศสมาชิกอียูทั้งหมด 28 ประเทศ

คณะกรรมการการเลือกตั้งสหราชอาณาจักร (Britain's Electoral Commission)เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 9 มิถุนายน 2016 มีการระดมทุนของ 2 ฝ่ายเพื่อสนับสนุนกลุ่มของตน ผลออกมาดังนี้  ฝ่ายต้องการพ้นจากอียูหรือ pro-Brexit ระดมได้ 15.6 ล้านปอนด์ (22.9 ล้านดอลลาร์) ในขณะที่ฝ่ายต้องการอยู่กับอียูต่อไป (Remain) ระดมได้ 11.9 ล้านปอนด์ ( 17.5 ล้านดอลลาร์) 

นายกรัฐมนตรีอังกฤษคาเมรอนประกาศลาออก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเมื่อเช้าวันที่ 24 มิถุนายน (เวลาของอังกฤษ)นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ออกมาแถลงด้านหน้าทำเนียบที่ 10 Downing Street สรุปได้ว่า “เราจะต้องหานายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อที่จะมานำประเทศต่อไปในการประชุมพรรคอนุรักษ์นิยมเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้”

ภายหลังจากข่าวกระจายออกไปนายซาดิค คาน นายกเทศมนตรีลอนดอนคนใหม่ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งกล่าวว่าเขาขอยกย่องนายเดวิด คาเมรอน ที่ตอบสนองหลังจากได้รับสารที่ชาวอังกฤษส่งถึงเขา (ในประชามติ)

“ผมเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีว่าบริเทนจะอยู่ได้และมั่งคั่ง แม้จะออกมาจากอียูแบล้วก็ตาม”นายคานกล่าวและว่า “ตอนนี้ก็เป็นเวลาของการเยียวยาหลังจากมีการรณรงค์หาเสียงกันมานาน รวมทั้งแสดงความเสียใจไปยังชาวยุโรปเป็นล้านคนที่อาสัยอยู่ลอนดอนด้วย”

 ที่มา thaitribune




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2559    
Last Update : 24 มิถุนายน 2559 21:42:52 น.
Counter : 342 Pageviews.  

กรุงโซลติดป้ายเตือนภัยสังคมก้มหน้าเดินเล่นมือถือ-หลังสถิติอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว



เกาหลีใต้ติดตั้งป้ายเตือนภัยใหม่กว่า 300 จุดตามถนนทั่วกรุงโซลหวังเตือนสติคนเดินถนนให้ระมัดระวังอันตรายจากการใช้สมาร์ทโฟน หลังยอดผู้ที่ได้รับอันตรายจากสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้น

 

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกาหลีใต้ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือมากที่สุดในโลก จนต้องมีมาตรการป้องกันปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากคนเดินเท้าตามท้องถนนที่ติดสมาร์ทโฟนจนไม่ดูทาง หลังพบยอดผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น

โดยสำนักข่าวโคเรียนไทมส์ของเกาหลีใต้ รายงานการติดตั้งแผ่นป้ายเพื่อเตือนคนเดินถนนที่เล่นสมาร์ทโฟนโดยไม่มองทางจำนวน 300 แผ่นป้าย ทั้งบริเวณทางเท้าและริมถนนทั้งติดกับเสาไฟเพื่อเตือนอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น หลังจากยอดผู้ที่ได้รับอันตรายจากสมาร์ทโฟนเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยจากผลการศึกษาของหน่วยงานความปลอดภัยด้านการขนส่งของเกาหลีใต้นั้น มีอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกี่ยวกับการใช้สมาร์ทโฟน 1,100 ครั้ง ในปี 2014ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 250% จากปี 2009 ซึ่งอยู่ที่ 437 ครั้ง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ศิลปินชาวสวีเดน 2 คนเคยนำไอเดียคล้ายกันนี้ทดลองใช้ในกรุงสตอกโฮล์มมาแล้ว ขณะที่การแก้ปัญหาของบางชุมชนในประเทศอื่นๆ มีทั้งทำเลนพิเศษขึ้นมาเพื่อแยกคนเดินช้าเพราะมัวแต่ดูมือถือจากกลุ่มคนที่เร่งรีบ

ทั้งนี้ มาตรการแก้ไขปัญหาด้วยการติดแผ่นป้ายเตือนของกรุงโซลได้ผลตอบรับที่ไม่ดีนัก โดยผู้คนตามท้องถนนที่เดินผ่านไปมาโดยมากไม่ได้สังเกตเห็น ผู้ใช้ทางเท้ามองว่าควรมีการรณรงค์เพิ่มเติมเพื่อให้คนทั่วไปตระหนักถึงปัญหานี้ เพราะลำพังเพียงแผ่นป้ายเตือนอย่างเดียว คงไม่สามารถหยุดพฤติกรรมการเล่นสมาร์ทโฟนขณะเดินบนทางเท้าได้

ปัญหานี้ที่เกาหลีใต้อาจรุนแรงกว่าหลายประเทศเพราะอัตราการใช้โทรศัพท์มือถือปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 80 % ของประชากรและจำนวนมากดูเหมือนมีความเชี่ยวชาญไม่น้อยในการเดินและส่งข้อความไปด้วย

สถิติในเกาหลีใต้ พบว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนใช้เวลาเฉลี่ยวันละ 4 ชั่วโมงไปกับการทวิตแชทหรือเล่นเกมและประมาณ 15 % มีอาการที่เข้าข่ายเสพติดอุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้ ทางการโซลจะติดตามประสิทธิภาพของป้ายเตือนจนถึงสิ้นปี ก่อนตัดสินใจว่าจะขยายโครงการออกไปหรือไม่

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2559    
Last Update : 24 มิถุนายน 2559 20:43:26 น.
Counter : 344 Pageviews.  

สกอ.เปิดรับสมัครทุนอุดมศึกษาพัฒนาภาคใต้ ปี 59 สำหรับผู้ที่ยังไม่มีที่เรียน 1,615 ที่นั่ง ผู้สนใจสมัค



สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ เปิดรับสมัครนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่สามารถสอบเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา

 

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ในฐานะโฆษกสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ เปิดรับสมัครนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่สามารถสอบเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา เข้ารับทุนอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีการศึกษา 2559 จำนวน 1,615 ที่นั่ง ที่ได้จากการสนับสนุนของสถาบันอุดมศึกษา 71 แห่งทั่วประเทศ ผู้สนใจสมัครด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 24 - 26มิถุนายน 2559 ณ อาคารเรียนรวม (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ระหว่างเวลา 08.30 - 16.00 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยในปีนี้ก่อนสมัครรับทุนฯ ผู้สมัครต้องเข้ารับฟังการแนะแนวรายละเอียดการสมัครด้วย

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.mua.go.th หรือโทรศัพท์ 02-6105419 

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2559    
Last Update : 24 มิถุนายน 2559 16:41:20 น.
Counter : 229 Pageviews.  

มันเส้นเกือบ 9 พันตันหายจากโกดังตรวจแล้วเป็นของรัฐบาลก่อน แถมยัดแกลบซ่อนความผิด



บอร์ดองค์การคลังสินค้า ตรวจสอบโกดังมันเส้นในโครงการแทรกแซงมันสำปะหลัง ยุคยิ่งลักษณ์ พบทุจริตปริมาณมันเส้นรัฐสูญหายเกือบ 9,000 ตัน เสียหาย 65 ล้าน ปิดอำพรางโดยสอดไส้แกลบบรรจุถุงบิ้กแบ็คกลบด้วยมันเส้นซุกซ่อนไว้ในคลังเอกชนที่ฝากเก็บ แถมเจ้าของโกดังหลบหนีไปแล้ว จ่อดำเนินคดีและให้ ปปง. ตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2559  พล.ต.ต.ไกรบุญ ทรวดทรง ประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้กองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 51 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สนับสนุนกระทรวงพาณิชย์ โดยองค์การคลังสินค้า ในการสำรวจปริมาณมันเส้นคงคลังของรัฐ ในการเตรียมเสนอรัฐบาลขออนุมัติระบายมันเส้นเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาและพลิกกอง ซึ่งต้องเสียใช้งบประมาณปีละหลายร้อยล้าน

โดยเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ทั้ง 3 หน่วยงานได้เข้าร่วมตรวจปริมาณมันเส้นขององค์การคลังสินค้าที่ฝากเก็บไว้ที่ หจก.ข้าวหอมอุบล จำกัด อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2554/55 (สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)

เบื้องต้น ผลการตรวจสอบปริมาณทางกายภาพ พบว่า มีมันเส้นคงเหลือประมาณ 1,930 ตัน ซึ่งจากเดิมฝากเก็บไว้ปริมาณ 10,743 ตัน หายไปประมาณ 8,800 ตัน รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 65.4 ล้านบาท ผลการคัดแยกปริมาณมันเส้นที่เหลือ โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้รถตักคัดแยก พบว่า มีการนำแกลบบรรจุถุงบิ้กแบ็กซุกซ่อนไว้ภายใน และใช้มันเส้นปิดทับ ซึ่ง องค์การคลังสินค้า จะได้ทำการคัดแยกเพื่อประเมินมูลค่าความเสียหาย ที่รัฐต้องเสียค่าฝากเก็บ ในเบื้องต้นได้ประมาณการมันเส้นที่สูญหายตามจำนวนที่นำแกลบมาซุกซ่อนไว้แทนอีกประมาณ 10.5 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหาย และค่าปรับ ประมาณ 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ ได้ไปตรวจสอบที่ภูมิลำเนาของเจ้าของโกดังที่เป็นคู่สัญญากับองค์การคลังสินค้า พบว่า ได้หลบหนีไปแล้ว แต่การดำเนินการตามกฎหมายยังคงดำเนินการต่อไป โดย องค์การคลังสินค้า จะได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่กองปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ร่วมกระทำความผิด และหากพบว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน จะได้ประสานงานกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ องค์การคลังสินค้า ได้ทยอยสำรวจมันเส้นฝากเก็บในลักษณะดังกล่าวมาโดยตลอด พบความเสียหายที่ผ่านมา และมีการดำเนินคดีไปแล้ว 120 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 296 ล้านบาท

 ที่มา thaitribune




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2559    
Last Update : 24 มิถุนายน 2559 15:28:06 น.
Counter : 310 Pageviews.  

แพทย์เตือนซื้อยาลดความอ้วนในเน็ตชี้เสี่ยงตาย-ระวังเจอยาชุดผสมโหดอันตรายร้ายแรง



แพทย์จุฬาฯ เตือนซื้อยาลดอ้วนในเน็ต ระวังเจอยาชุดผสมโหด ชี้เสี่ยงตาย ด้าน ตร.เผยผลตรวจหญิงกินยาลดอ้วนเสียชีวิตพบผสมยาขับปัสสาวะมีผลไตวาย ย้ำยาลดน้ำหนักเป็นยาที่ควรใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

จากกรณีผู้จัดการสาวบริษัททัวร์ชื่อดังบนเกาะสมุย กินยาลดความอ้วนช็อกดับภายในห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัวยาหลายชนิด รวมทั้งยาลดความอ้วนที่ผู้นำมากิน ส่งไปให้เภสัชกรตรวจสอบ ล่าสุดวันที่ 23 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว ได้รับการเปิดเผย จาก ร.ต.อ.นาวี จิตรบาล ร้อยเวร เจ้าของคดี สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าเบื้องต้นได้นำตัวยาที่พบในที่เกิดเหตุทั้งหมด และยาแผงสีเขียว ที่เป็นวิตามินบีรวม ซึ่งเป็นยาสำหรับลดความเครียด ยาเม็ดสีส้มเป็นยาขับปัสสาวะ และยาที่แก้โรคหืดหอบ นำไปให้เภสัชกรตรวจสอบ ทราบว่า ตัวยาที่กินแล้วส่งผลข้างเคียง และอาจถึงแก่ชีวิต คือ ยาขับปัสสาวะ หากกินติดต่อกัน อาจทำให้ไตวายได้ ทั้งนี้ตัวยาทั้งหมดจะนำไปมอบให้กับแพทย์ตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมกับรอผลชันสูตรศพผู้ตายอย่างละเอียดต่อไป

ทางด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์พิสนธิ์ จงตระกูล อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานคณะทำงานสร้างเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.) ให้ความรู้ว่า ยาลดน้ำหนักเป็นยาที่ควรใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์จะใช้ต่อเมื่อมีน้ำหนักตัวเกินเข้าข่ายเป็นโรคอ้วน โดยให้ยาร่วมไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดการกินอาหารและเพิ่มการออกกำลังกายร่วมไปด้วยเสมอ

ในอดีตยาที่เคยนำมาใช้ คือ เฟนฟลูรามีน (fenfluramine) หรือ เด็กซ์เฟนฟลูรามีน (dexfenfluramine) ซึ่งใช้ร่วมกับ เฟนเทอร์มีน (เฟนเทอร์มีน) เพื่อเสริมฤทธิ์ทำให้ความอยากอาหารลดลงมาก แต่ในปัจจุบันประเทศไทยได้มีมติให้เพิกถอนใบสำคัญการขึ้นทะเบียนตำรับทุกตำรับที่มีเฟนฟลูรามีนหรือเด็กซ์เฟนฟลูรามีนผสมอยู่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2543 (เมื่อ16 ปีที่แล้ว) เนื่องจากมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อโรคลิ้นหัวใจรั่ว

ไซบูทรามีน (sibutramine) เป็นยาอีกขนานหนึ่งที่เคยมีการขึ้นทะเบียนเพื่อจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งต่อมาบริษัทแอบบอต (Abbot) เจ้าของผลิตภัณฑ์นี้ในสหรัฐอเมริกาได้ประกาศยุติการจำหน่ายยานี้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2553 เนื่องจากทำให้หัวใจวายและหลอดเลือดสมองอุดตันได้ ซึ่ง อย. ได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวังอันตรายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ลักลอบใส่ยาไซบูทรามีนเพื่อลดความอ้วน ซึ่งในปัจจุบันไซบูทรามีนยังคงหาซื้อได้ง่ายทางอินเตอร์อินเตอร์เน็ต โดยโฆษณาหลอกลวงให้หลงเชื่อว่า เป็นยาที่ปลอดภัยที่สุดในเวลานี้ ไม่มี yoyo effect กินได้นานโดยไม่มีอันตราย และผ่าน อย.อเมริกา ยุโรป และไทยแล้ว ซึ่งเป็นข้อความเท็จ ประชาชนไม่ควรหลงเชื่อ ยาลดความอ้วนที่ซื้อขายและใช้กันอย่างไม่ถูกต้องตามหลักเวชปฏิบัติที่มีจัดไว้เป็นชุดในสถานพยาบาลเอกชนบางแห่ง จะมียาหลายชนิดให้กินร่วมกันในคราวเดียวกัน ซึ่งมีด้วยกันมากมายหลายสูตร เช่น ที่ตรวจพบโดยสำนักงานอาหารและยา มีลักษณะดังนี้

รูปแบบที่ 1  เฟนเทอร์มีน ยาระบาย ยากล่อมประสาท ไวตามิน

รูปแบบที่ 2 เฟนเทอร์มีน ยาระบาย ยากล่อมประสาท ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ ยาขับปัสสาวะ

รูปแบบที่ 3 เฟนเทอร์มีน ยากล่อมประสาท ยาขับปัสสาวะ ยาควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ

รูปแบบที่ 4 เฟนเทอร์มีน ยาระบาย ยากล่อมประสาท ยาขับปัสสาวะ ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ ยาควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ

รูปแบบที่ 5 เฟนเทอร์มีน เฟนฟลูรามีน ฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์

ทั้งหมดถือเป็นยาลดความอ้วนสูตรที่อันตรายมาก ยาที่สั่งยุติการจำหน่ายแล้ว ก็ยังลักลอบนำมาใช้ ดังเห็นได้จากข่าวอยู่เนืองๆ ว่ามีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาลดความอ้วน อันตรายร้ายแรงเหล่านั้นเกิดได้เสมอไม่ว่าจะซื้อหามาใช้เองทางอินเตอร์เน็ตหรือไปรับเป็นชุดๆ จากคลินิกหรือโรงพยาบาล ประชาชนจึงควรหลีกเลี่ยงยาลดความอ้วนทุกชนิด ทุกรูปแบบ ยกเว้นกรณีเป็นโรคอ้วนที่ได้รับการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โรงพยาบาลของรัฐ

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 24 มิถุนายน 2559    
Last Update : 24 มิถุนายน 2559 14:32:25 น.
Counter : 310 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.