ว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เลกเชอร์นักข่าวมี 3 ประเภท-นักรบเสนอความจริง-กระบอกเสียงและอีแร้งข่าว



ว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ไม่สนถูกนักข่าวคว่ำบาตร บอกไม่ต้องไปทำข่าวเขาก็ได้พร้อมกับเปิดเลกเชอร์นักข่าวฟิลิปปินส์ 3 ประเภทจากกลุ่มเสนอความจริง-กลุ่มกระบอกเสียง-กลุ่มรับเงินอย่างเดียวใครไม่ให้ก็เขียนทำลาย

เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2559 สื่อฟิลิปปินส์หลายฉบับรายงานว่าเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนนายร้อดริโก้ อาร.ดูเตอร์เต้ ว่าที่ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เปิดแถลงข่าวอีกครั้งที่ทำเนียบมาลากันยังแห่งภาคใต้ (the Malacañang of the South) ที่ตั้งอยู่ในตำบลพานากัน เมืองดาเวา พร้อมกับเปิดเลกเชอร์แจกแจงนักข่าวฟิลิปปินส์มี 3 ประเภท

“แมก บอยคอต นา กาโย”นายดูเตอร์เต้เริ่มเป็นภาษาตากาล้อคพร้อมกล่าวว่า “ผมไม่สนใจหรอก หากไม่มีใครมาทำข่าวผม”  

ทั้งนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานายดูเตอร์เต้ประกาศว่านักข่าวที่ฉ้อฉลสมควรตาย เป็นเหตุให้สื่อจากหลายสำนักออกแถลงประณามจนถึงประกาศคว่ำบาตรหรือบอยคอต ประกอบด้วย The National Union of Journalists of the Philippines ,กลุ่มสื่อต่างชาติหลายประเทศรวมทั้ง the Committee to Protect Journalists และ Reporters San Frontieres

นายดูเตอร์เต้กล่าวว่าตนอยากให้เป็นประวัติศาสตร์ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ไม่ต้องมาทำข่าวตน นี่เป็นการขอร้อง ไม่ต้องกลับมาอีกเลย จากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์เริ่มเครียดขึ้นมาทันทีในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวจำนวนมากต้องรอถึง 3 ชั่วโมงก่อนที่นายดูเตอร์เต้จะปรากฎตัวแถลงข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทุกคนหวังว่านายดูเตอร์เต้จะเข้ามากล่าวขออภัย  ต่อสิ่งที่เขาได้แถลงไปวันอังคารที่ผ่านมาแต่กลับกระหน่ำราวกับยิงกระสุนใส่นักข่าว “อย่าคิดว่าผมมานี่เพื่อที่จะมาอวยนักข่าว นั่นไม่ใช่ธุระของผม ในกรณีเรื่องที่ถูกฆ่า (นักข่าว) มันเกิดขึ้นได้ทุกแห่ง”นายดูเตอร์เต้กล่าว

จากนั้นก็เปิดเลกเชอร์ว่าสื่อของฟิลิปปินส์มี 3 พวกโดยกลุ่มแรกเป็น“พวกนักรบที่เหมือนทำสงครามครูเสด,พูดความจริง,แฉมันหมดเปลือกให้สาธารณะได้รับรู้  บางครั้งก็โจมตีธุรกิจขนาดใหญ่หรือผู้ที่ซ่อนความจริงไม่นำออกมาเปิดเผยแก่ประชาชน พวกนี้เขาจะไม่รับเงิน(ซองขาว)”

นายดูเตอร์เต้กล่าวอีกว่า “นักหนังสือพิมพ์พวกนี้ถือว่าตัวเองเป็นนักวิชาชีพและบอกความจริงให้โลกได้รับรู้ นักข่าวพวกนี้ไม่ค่อยตาย เพราะความคิดเห็นของเขาน่าเคารพนับถือและพวกเขามีความชอบธรรม”

นักข่าวประเภทที่สองทำตัวเป็นกระบอกเสียงที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ( the mouthpieces of vested interests ) พวกนี้จะเป็นได้ทุกอย่าง บางทีเราก็เรียกว่าเป็นนายหน้าที่ต่อเชื่อมกับธุรกิจและการลงทุน พวกเขาจะออกมาปกป้อง (ผลประโยชน์) นักข่าวพวกนี้อาจจะเรียกว่านักประชาสัมพันธ์หรือพวก the PROs (public relations officers) ก็ได้

ส่วนพวกที่สามนายดูเตอร์เต้กล่าวว่าพวกนี้เหมือน“สื่ออีแร้ง”(the vultures of journalism)พร้อมกับวาดภาพว่าเป็นนักหนังสือพิมพ์ที่ชีวิตชั้นต่ำจะเรียกว่าต่ำทรามก็ได้ “ยอมรับเงินจากแหล่งผิดกฎหมาย,รับเงินแล้วก็ปิดปากเงียบ กลุ่มนี้เป็นพวกตะกละแบบไม่สิ้นสุด เมื่อเขาได้รับไปแล้วจากนั้นก็จะขออีก  หากไม่ได้พวกนี้ก็จะพูดมาก สามารถทำลายคนและครอบครัวผู้อื่นได้ -เขาจะต้องตาย”นายดูเตอร์เต้กล่าว

นายดูเตอร์เต้กล่าวอีกว่าขอหนังสือพิมพ์อย่าได้มายุ่งกับตน ตอนนี้เรามาเปิดใจกัน และเราจะต้องไม่ปฏิเสธความจริง “นักข่าวประเภทที่ 3 เป็นพวกทำเงิน(จากวิชาชีพของตัวเอง),เหมือนได้เงินค่าปรับและตบทรัพย์จากประชาชน แต่พวกนี้ก็(ยัง)ได้รับเกียรติเพราะเป็นนักข่าว”

“อย่าคิดว่าคุณอยู่ในทุ่งแห่งความบริสุทธิ์ และผมก็ไม่อาจคุ้มครองนักข่าวได้ทั่วฟิลิปปินส์”นายดูเตอร์เต้กล่าวพร้อมกับแนะนำว่า นักข่าวก็เหมือนทหารจะต้องเสี่ยงต่อการถูกฆ่า “หลายคนพูดความจริงและหนักแน่น เหมือนกับเขาเชิญอันตราย(มาหาเขา)”

ดูเตอร์เต้ยังเปรียบเปรยว่าภาพนี้เหมือน“การเสแสร้ง”(hypocrisy)ว่ามีมาตรฐานทางจริยธรรมสูงกว่าคนอื่นที่ยังมีอยู่ในโบสถ์แคธอลิค โดยเขาเห็นว่าเป็นพวกเจ้าเล่ห์ที่พล่ามโว(bullshitry)มากกว่า

“เมื่อเขาลงมือทำ มันก็ดูดี, เช่นเมื่อขอรถยนต์ให้กับประธานและได้รถอเนกประสงค์ (SUV)มา,แต่ก็จะมีข้อยกเว้นเช่นคุณบอกว่ามันเป็นการกุศล,รถหรูหราเพื่อการกุศล โถท่านบิชอปที่รัก ? นี่หรือมาตรฐานทางจริยธรรมอันสูงส่ง”ดูเตอร์เต้เน้น

รายชื่อผู้ช่วยงานประธานาธิบดี

ในวันที่ 2 มิถุนายนนายดูเตอร์เต้ยังเปิดเผยชื่อบุคคลที่ได้รับแต่งตั้งประกอบด้วย Martin Andanar  พิธีกรข่าวจากสถานีทีวีมาทำหน้าที่เลขาธิการประธานาธิบดีฝ่ายสื่อสาร( Secretary of the Presidential Communications Operations Office)โดยมีนาย Eduardo del Rosario เป็นรองฯ นาย Christopher “Bong” Go ที่ปรึกษาพิเศษอยู่ในสำนักงานthe Presidential Management Staff.

มีรายงานว่าดูเตอร์เต้จะแต่งตั้งบุคคลเข้ารับหน้าที่ฝ่ายบริหารให้ครบทุกตำแหน่งก่อนพิธีสาบานตนวันที่ 30 มิถุนายนนี้

ทำเนียบมาลากันยังภาคใต้

ปกติแล้วทำเนียบมาลากันยังจะอยู่ที่กรุงมะนิลา เป็นที่พักของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เหมือนทำเนียบขาวเป็นที่พักของประธานาธิบดีสหรัฐ  ปัจจุบันฟิลิปปินส์มี “ทำเนียบมาลากันยังแห่งภาคใต้” หรือ the Malacañang of the South

ตามประวัติสร้างโดยนายเฮอร์โมยีนส์ เอ็บดาเน รัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการระหว่างปี 2005-2006 และแล้วเสร็จปี 2007 ทำไว้เป็นที่พักของประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย่ ขณะที่เธอเดินทางมายังเมืองดาเวา  ทำเนียบนี้อยู่ติดชายทะเลทาด้วยสีขาว หลังคาสีเขียวและรั้วสีส้ม  ค่าก่อสร้าง 24 ล้านเปโซ (ประมาณ 15 ล้านบาท)

นายคริสทอเฟอร์ “บอง” โก  ผู้ช่วยดูเตอร์เต้เปิดเผยในวันแถลงข่าวว่าขณะนี้อาคารทั้งหมดกำลังได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมเล็กน้อย“จะเก็บไว้เป็นที่ทำงานและรับแขกบ้านแขกเมือง”นายโกกล่าว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2559    
Last Update : 3 มิถุนายน 2559 17:37:17 น.
Counter : 225 Pageviews.  

กรมอุทยานฯสั่งปิดการท่องเที่ยวเกาะตาชัยในหมู่เกาะสิมิลัน-เกาะยูงในหมู่เกาะพีพีเพื่ออนุรักษ์ปะการัง



อธิบดีกรมอุทยานฯออกประกาศ 2 ฉบับสั่งปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน บริเวณพื้นที่บนเกาะ ชายหาดและแนวปะการังรอบเกาะตาชัย ยกเว้นบริเวณแหล่งดําน้ำลึก 2 มีผล 15 ตุลาคม และปิดเกาะยูง บริเวณอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีเพื่ออนุรักษ์ปะการังและทรัพยากรทางทะเล มีผลทันที

เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2559 มีรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 2 ฉบับ ฉบับแรกประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่องปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน บริเวณพื้นที่บนเกาะ ชายหาดและแนวปะการังรอบเกาะตาชัย ยกเว้นบริเวณแหล่งดําน้ำลึก 2 แห่งเป็นการชั่วคราว ดังนี้

“ด้วยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาแล้วเพื่อให้เป็นไปตามหลักวิชาการและแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสิมิลัน จึงปิดการท่องเที่ยวพื้นที่บนเกาะ ชายหาด และแนวปะการังบริเวณรอบเกาะตาชัย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งเป็นเขตสงวนสภาพธรรมชาติ (Primitive Zone) ตามแผนแม่บทการจัดการพื้นที่แหล่งอนุรักษ์ ทะเลอันดามัน สําหรับแหล่งดําน้ำลึก ๒ แห่ง ที่เป็นเขตนันทนาการและศึกษาหาความรู้ (Outdoor Recreation Zone) ให้เปิดการท่องเที่ยวเหมือนเดิม

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ธัญญา เนติธรรมกุล

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช”

ฉบับที่ 2 ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชเรื่อง ปิดเกาะยูงเพื่ออนุรักษ์ปะการังและทรัพยากรทางทะเล

“ด้วยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ปรับเปลี่ยนเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตามหลักวิชาการจัดการอุทยานแห่งชาติและความเหมาะสม ตลอดจนสอดคล้องกับสภาพพื้นที่ในปัจจุบัน บริเวณเกาะยูงด้านตะวันตกและทิศเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแนวปะการังอุดมสมบูรณ์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้เพื่อเป็นแหล่งพ่อแม่พันธุ์ของปะการัง กําหนดให้เป็นเขตหวงห้าม (Strict Nature Reserve Zone) ไม่อนุญาตให้ประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ยกเว้นการศึกษาวิจัยที่ต้องได้รับการอนุญาตก่อน และพื้นที่บริเวณเกาะยูงด้านตะวันออกและทิศใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแนวปะการังเสื่อมโทรมจากกิจกรรมของนักท่องเที่ยว กําหนดให้เป็นเขตฟื้นฟูสภาพธรรมชาติ (Recovery Zone) ไม่อนุญาตให้ประกอบกิจกรรมท่องเที่ยวทุกรูปแบบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาแล้วเพื่อให้เป็นไปตามหลักวิชาการตลอดจนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขอปิดเกาะยูง อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๙

ธัญญา เนติธรรมกุล

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช”

มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้นนายธัญญาได้ลงนามปิดการท่องเที่ยวเกาะตาชัยในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงาแล้ว บริเวณชายหาดและแนวปะการังน้ำตื้น โดยเป็นการปิดไม่มีกำหนด ขณะเดียวกัน สาเหตุที่ปิดแบบไม่มีกำหนดเพราะว่ามีผลการศึกษาทางวิชาการที่ระบุถึงความ เสื่อมโทรมของชายหาดและปะการังรอบเกาะ ดังนั้น จึงมีข้อเสนอปิดเพื่อให้ฟื้นตัว เบื้องต้นปิดขั้นต่ำ 1 ปี แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นก็ต้องปิด 2 ปี จนกว่าธรรมชาติจะฟื้นตัวกลับมา อย่างไรก็ตาม กิจกรรมดำน้ำลึกยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวได้

อกจากนี้ กรมอุทยานฯ ยังมีการปิดการท่องเที่ยวเกาะยูงในเขตอุทยานฯ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ด้วย

ก่อนหน้านั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมด้วยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กรมการท่องเที่ยว, นักวิชาการด้านปะการัง และตัวแทนจากไอยูซีเอ็น เข้าร่วมหารือประชุมติดตามสถานภาพและมาตรการรับมือปะการังจากการฟอกขาว ปี 2559 หลังอิทธิพลของปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง ส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลมีค่าสูงเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1-2 องศาเซลเซียส ในปีนี้อาจมีโอกาสที่ปะการังจะฟอกขาวเสียหายถึงร้อยละ 80

ในส่วนของคณะทำงานปะการัง ได้ข้อเสนอพิจารณาปิดแหล่งปะการังที่อ่อนไหวต่อการฟอกขาวที่รุนแรง เพื่อลดผลกระทบจากกิจกรรมท่องเที่ยวการดำน้ำ และบางจุดจะปิดเพื่อเป็นแหล่งอนุรักษ์พ่อแม่พันธุ์ปะการัง ทั้งสิ้น 32 จุด แบ่งออกเป็นแนวปะการังฝั่งทะเลอันดามัน 15 จุด เช่น ฝั่งตะวันออกของเกาะสิมิลัน จ.พังงา, เกาะสุรินทร์ เหนืออ่าวไทรเอน, เกาะตาชัย, เกาะยูง, เกาะไผ่ หินกลาง จ.กระบี่, เกาะแอว จ.ภูเก็ต และปิดหาดตะวันออกเฉียงเหนือ เกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต และเกาะอาดังราวี จ.สตูล

ส่วนฝั่งทะเลอ่าวไทยอีก 17 จุด เช่น เกาะช้างน้อย จ.ตราด, เกาะยักษ์ใหญ่, เกาะหินเกือกม้า, เกาะกูดฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณอ่าวกล้วย, อ่าวเมา ฝั่งตะวันออก จ.สุราษฎร์ธานี, อ่าวลึก, เกาะพะงันตอนเหนือและทางใต้บริเวณหาดบ้านใต้, เกาะสมุย, เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์, เกาะค้างคาว จ.ชลบุรี เป็นต้น

ทั้งนี้ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในประกาศแล้ว จะทำการปิดเกาะเพื่อป้องกันปะการังฟอกขาวเป็นระยะเวลา 1 ปี อย่างไรก็ดี หากมีการประกาศปิดเกาะ อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว จึงจะต้องมีการพูดคุยกับผู้ประกอบการเพื่อทำความเข้าใจในส่วนนี้ด้วย

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 03 มิถุนายน 2559    
Last Update : 3 มิถุนายน 2559 13:43:08 น.
Counter : 338 Pageviews.  

หลายประเทศเน้นการขยายช่องทางและประสิทธิภาพการรับชม การมีส่วนร่วมของคนดูหลายช่องทาง แต่เน้นเรื่องกีฬา



June 1, 2016

Attended BroadcastAsia International conference whole day on techno & contents development. Live streaming & virtual reality have become a popular viewers expetiences. More competitive but complementary with other screens. Still many challenges & concerns. More to report.

Now prep for my talk tmr at @BroadcastAsia : A case study of Thailand on audio broadcasting tech & policy.
A bit tough as the audiences came from the industry with a technical background which I didn’t. They paid highly to attend the sessions. Do my best to be informative & inspiring the audiences!

1 มิ.ย. 59
วันที่ผ่านมาอยู่ในงาน @BroadcastAsia ทั้งวัน นั่งฟังสลับห้องพูดคุยด้านเทคโนโลยี กับห้องที่พูดเรื่องการพัฒนาเนื้อหา ใช้สมาธิเลยไม่ได้ทวิตสด เทรนด์ของอุตสาหกรรมโทรทัศน์หนีไม่พ้นการหลอมรวมกับกิจการ IP หรือการเชื่อมต่อกับบริการด้านโทรคมนาคม สารสนเทศ ในมิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เทรนด์การถ่ายทอดสด และ virtual reality มีมากขึ้นในภูมิภาคนี้ ประเทศอื่นๆเขาเน้นเนื้อหาสันทนาการเช่นกีฬา (ขณะที่ไทยเราเพิ่งเน้นข่าวอาชญากรรม)

ตัวอย่าง ของสิงคโปร์ที่ใช้สื่อดิจิตอลผนึกกำลังกับสื่อหลักคือทีวีในการถ่ายทอดสดซีเกมส์ปีก่อน เช่นสดผ่าน Youtube ด้วยภาพคมชัด คนเข้าไปดูล้นหลาม เขาใช้อาสาสมัครจำนวนมากช่วยส่ง contents สดจากสนามกีฬามาด้วย มีการทำ war room ด้าน social media เป็นเรื่องเป็นราวในการถ่ายทอดสด

การใช้เทคโนโลยีแบบ immersive เพื่อสร้างความประทับใจให้คนดูก็แพร่หลาย ทีวีดิจิตอลของไทยหลายช่องก็ลงทุนเรื่องนี้ ทีวีพูลของไทย ยังกระจุกตัวครองสิทธิ์ในการถ่ายทอดกีฬาสำคัญอยู่ 4 – 5ช่อง ในขณะที่หลายประเทศเขาเน้นตอบสนองคนดูให้เต็มที่ เข้าถึงฟรีหลายช่องทาง หลายประเทศเน้นการขยายช่องทางและประสิทธิภาพการรับชม การมีส่วนร่วมของคนดูหลายช่องทาง แต่เน้นเรื่องกีฬา สันทนาการ ถ้ายกเคสของไทย เน้นอะไรดี ไว้มาเล่าเพิ่มเติมค่ะ เก็บตกภาพบรรยากาศวันที่ผ่านมา สลับห้องเนื้อหาและเทคโนโลยี ‪#‎BroadcastAsia2016

ที่มา supinya




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2559    
Last Update : 2 มิถุนายน 2559 18:48:44 น.
Counter : 405 Pageviews.  

ฟังชัดๆจากทนาย กรณี “ปู่วัย 70 แต่งสาววัย 17” ทำได้จริงหรือไม่ ผิดกฎหมายหรือไม่?



ตามที่โลกออนไลน์แชร์ภาพชายวัย 70 ปีและสาวแรกรุ่นวัย 17 ปี เข้าสู่พิธีสมรสกันโดยมีพยานพ่อแม่ฝ่ายหญิงนั่งด้านหลังคู่บ่าวสาว ภาพดังกล่าวสร้างความสงสัยให้กับชาวโซเชียลว่า เมื่อฝ่ายหญิงอายุเพียง 17 ปีสามารถทำการสมรสได้หรือไม่

จากประเด็นวิพากษ์วิจารย์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทนายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ ออกมาไขข้อสงสัยให้ชาวโซเชียลผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “tanaiwirat.comทนายวิรัช” ว่ากรณีการแต่งงานของชายหญิงที่เกิดขึ้นลักษณะดังกล่าวสามารถทำได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จึงสอบถามถึงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกฎหมายนี้ โดยทนายชื่อดังระบุว่า เรื่องอายุของคู่สมรสนั้นมีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1448 , 1454 , 1436

ระบุไว้ว่า บุคคลจะทำการสมรสกันจะต้องเป็นชายหญิง ที่มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ต้องได้รับการยินยอมจากบิดามารดา หรือหากอายุต่ำกว่านี้ เช่น อายุ 15 ปีจะสมรสได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากบิดามารดาหรือกรณีศาลสั่งที่เกิดจากการฟ้องร้อง เมื่ออีกฝ่ายร้องขอให้ศาลสั่งให้ทำการสมรสกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะพิจารณาจากความจำเป็น เช่น

“จำเลยมีเพศสัมพันธ์ด้วยภาวะจำยอมหรือไม่ก็ตามแล้วฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ โดยปกติคดีลักษณะนี้จะไกล่เกลี่ยตกลงกันก่อน หากคู่กรณีตกลงแต่งงานกันได้ศาลก็จะออกคำสั่งให้แต่งงานกัน ซึ่งเมื่อแต่งงานแล้วจะบรรลุนิติภาวะทันที ซึ่งปกติจะบรรลุนิติภาวะที่อายุ 20 ปีบริบูรณ์ แต่หากกรณีหย่าร้างในภายหลังก่อนอายุ 20 ปี สถานะเยาวชนจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่นั้น ด้านกฎหมายยังไม่ได้ระบุชัดเจน และเมื่อหย่าแล้วฝ่ายชายไม่สามารถเรียกคืนสินสอดได้ เนื่องจากเป็นการยินยอมตั้งแต่ต้นโดยมีการจดทะเบียนสมรสที่อำเภอเป็นหลักฐาน” ทนายวิรัชกล่าว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 02 มิถุนายน 2559    
Last Update : 2 มิถุนายน 2559 15:55:18 น.
Counter : 252 Pageviews.  

ศาลตัดสินจำคุก 5 รายปลอมโฉนดอุทยานฯสิรินาถภูเก็ต-รัฐได้ที่คืน 428 ไร่ค่ากว่าหมื่นล้าน



ศาลภูเก็ตจำคุก 5 ราย 5 คดีคนละ 8-14 ปีปลอมโฉนดเขตอุทยานฯสิรินาถและป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวก-เขาเมือง ภูเก็ต ปรับรายละกว่า 9 ล้านบาท เผยรัฐได้ที่คืน 428 ไร่คิดเป็นมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ขยายผลจับผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง

เมื่อวันที่ วันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ที่ศาลจังหวัดภูเก็ต อ่านคำพิพากษาในคดีที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฟ้องร้องนายนคร วงษ์สีทอง ข้อหานำเอกสารสิทธิ ส.ค.1 เลขที่ 32 เนื้อที่ 80 - 2 - 73.4 ไร่ และ นายจันทร์ พงษ์พา นำเอกสารสิทธิ ส.ค.1 เลขที่ 110 เนื้อที่ 80 - 0 - 72.8 ไร่ ซึ่งเป็น ส.ค.1 ปลอมมาออกโฉนดในเขตอุทยานฯ สิรินาถและป่าสงวนแห่งชาติป่าเขารวก-เขาเมือง ในพื้นที่ หมู่ที่ 2 และ 3 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ติดทะเลบริเวณอ่าวใสคู ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเพราะอยู่ในเขตป่าไม้

ศาลจังหวัดภูเก็ต มีคำพิพากษาตัดสินให้จำคุกนายนคร วงษ์สีทอง 13 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้ปรับเป็นเงิน 9,873,726 บาท และจำคุกนายจันทร์ พงษ์พา 8 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญาและให้ปรับเป็นเงิน 9,969,344 บาท

นายกิตติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ กล่าวภายหลังจากศาลมีคำพิพากษาว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากอุทยานฯได้ฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกพื้นที่อุทยานฯสิรินาถ และป่าสงวนฯป่าเขารวก-ป่าเขาเมือง จำนวน 5 คดี ก่อนหน้านี้ ศาลจังหวัดภูเก็ตมีคำพิพากษาไปแล้ว 3 คดีประกอบด้วย

1.เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 พิพากษาจำคุก น.ส.อโนมา ฝางเสน เป็นเวลา 14 ปี พร้อมสั่งปรับเป็นเงิน 9 ล้านบาทเศษ ข้อหาบุกรุกอุทยานฯ และป่าสงวนฯ เนื้อที่ 96 -2 - 86.3 ไร่ โดยอ้าง ส.ค.1 เลขที่ 23 ปลอมมาออกโฉนด

2.พิพากษาจำคุก นายประภาส แซ่อ๋อง เป็นเวลา 12 ปีพร้อมสั่งปรับเป็นเงิน 9 ล้านบาทเศษ ข้อหาบุกรุกอุทยานฯ และป่าสงวนฯ เป็นเนื้อที่ 74 - 3 - 4 ไร่ โดยอ้าง ส.ค.1 เลขที่ 44 ปลอมมาออกโฉนด โดยไม่ให้ประกันตัวทั้ง 2 คน

3.เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ศาลจังหวัดภูเก็ต พิพากษาจำคุกนายประภาส แซ่อ๋อง ซ้ำอีกคดี เป็นเวลา 12 ปี พร้อมสั่งปรับเป็นเงิน 9 ล้านบาทเศษ ข้อหาบุกรุกอุทยานฯ และป่าสงวนฯ เป็นเนื้อที่ 96 - 3 - 45 ไร่ โดยอ้าง ส.ค.1 เลขที่ 45 ปลอมมาออกโฉนด

นายกิตติพัฒน์ เปิดเผยว่าทั้ง 5 คดี ที่ศาลพิพากษาได้ที่ดินกลับมาเป็นของรัฐ รวม 428 ไร่ ถ้าคิดเป็นมูลค่าที่ซื้อขายกันไร่ละ 30 ล้านบาท ก็ประมาณหมื่นกว่าล้านบาท ส่วนบุคคลที่ถูกพิพากษาส่วนใหญ่เป็นเพียงตัวแทนของผู้อยู่เบื้องหลังรายใหญ่ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กำลังสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้มีอิทธิพลรายสำคัญนี้ต่อไป

 หัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ กล่าวว่า การดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 5 รายที่นำส.ค.1 มาขอออกโฉนดในอุทยานฯสิรินาถ สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ตรวจพบว่าหลักฐาน ส.ค.1 ที่นำมาใช้ในการออกเอกสารสิทธิเป็นหลักฐานของที่ดินแปลงอื่น จึงได้ถอนคำขอ และที่สำคัญกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่ง ส.ค.1 จำนวน 7 ฉบับ ไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมก็พบว่าเป็นเอกสารปลอมทั้งหมด จึงส่งข้อมูลประสานมายังหัวหน้าอุทยานฯ สิรินาถ เพื่อนำไปประกอบการร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ที่ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินทั้ง 5 ราย

อย่างไรก็ตามผู้กระทำผิดทั้ง 5 ราย ได้ยื่นฟ้องสำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ออกโฉนดให้กับผู้ร้องดังกล่าว อันเป็นการแสดงการยึดถือครอบครองอุทยานฯ สิรินาถและป่าสงวนฯ ป่าเขารวก-ป่าเขาเมือง โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต สาขาถลาง ร่วมกันเป็นพยานต่อศาลจังหวัดภูเก็ต จนในที่สุดศาลจังหวัดภูเก็ตได้มีคำพิพากษา จำคุกทั้ง 5 รายดังกล่าว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2559    
Last Update : 1 มิถุนายน 2559 19:11:24 น.
Counter : 302 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.