มึนไปตามใจฝัน
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
2 กันยายน 2553

ป่วย ป่วย

คราวก่อนตัดบทไปดื้อๆ พอดี ไปถ่ายรูปวง The Passion of Anna ซ้อม
ซึ่งอาจจะเอาไปใช้ใน Single ที่จะออกขายเร็วๆ นี้ด้วย :D (แต่ไม่รู้จะได้ใช้ป่าวนะ)

วันนั้นทางวงมีเล่นที่ร้าน Wink แถวรัชโยธินด้วย
แต่กว่าจะเล่นก็เกือบ 5 ทุ่ม ระหว่างรอ ผมเลยไปตัดผมมันซะเลย

ที่เคยบ่นไปว่าอยากตัดผม แต่ไม่ได้ตัดซะที
ก็เลยใช้เวลาเนี่ยแหละ

วันนั้นสนุกดี มีวงพี่เม่น วง the 21 guns เล่นด้วย
ผมชอบเพลงพี่เม่นนะ เพราะดี
ส่วนวง the passion of anna วันนั้น ซาว์นดีกว่าที่ no space
โดยรวมก็สนุกดี
กลับถึงบ้านตี 1 ครึ่ง T_T
สรุปสัปดาห์ที่แล้ว กลับบ้าน หลังตี 1 มา 5 วันติด เฮ้อ


...
(2 กย. 2553)

ช่วงที่ผ่านมา ผมพักผ่อนน้อยเกินไป
บางทีไม่ได้ไปปาร์ตี้หรืออะไรหรอก
แต่เล่นเน็ตดึกตื่น ;p

มาวันนี้สุขภาพก็ทรุดจนได้
ป่วยเป็นไข้ ปวดหัว ปวดตา ปวดเมื่อยตามข้อต่อ
เลยขอลางานนอนพักอยู่บ้านหนึ่งวัน

พอนอนมากก็ไม่หลับ เลยเอาหนังมาดู
ผมเลือก Vertigo ของ อัลเฟร็ก ฮิตค็อก
พอดีวันก่อนเห็นพี่คนนึงเขียนใน fb ว่าดูเรื่องนี้แล้วรู้สึก inception เจ๋งน้อยลง

ผมมีแผ่นเรื่องนี้มานาน แต่ยังไม่ได้ดูซะที
ดูจบแล้วชอบมาก
ฮิตค็อก เขาเป็นอัจฉริยะ จริงๆ
คือมันเหลือเชื่อที่เขาสร้างเรื่องนี้ในปี 1958
แต่หนังดูไม่เชยเลย
สิ่งนึงที่เห็นได้ชัดในหนังของฮิตค็อก หนังเขาจะเล่นกับจิตวิทยา
ตัวละครจะมีปม เพื่อให้คนดูเข้าใจกฎเกณฑ์นั้น
และยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาสร้างเหตุผลที่น่าเชื่อถือ ดูเป็นจริง
แต่สิ่งอื่นใด หนังเขาดูสนุกด้วย
มันเลยลงตัวไปหมด


ส่วนหนังอีกเรื่องที่ผมเอามาดู
ตอนแรกผมเอาเรื่อง The Postmodern Life my aunt ซึ่งเป็นหนังจีน
มาดู แต่ดูได้นิดเดียว แผ่นดันกระตุก
เลยต้องเลิกดู พร้อมกับทิ้งแผ่นนั้นไป T_T

กำลัังคิดอยู่ว่าจะเอาอะไรมาดูดีนะ
ก็นึกถึง Ashes of Time Redux ที่พี่เล็กไรท์มาให้

เลยมาดู
ตอนแรกจะรู้สึกแปลกๆ ภาพมันปรับสีซะนิ้งเชียว
ส่วนระบบเสียงก็กระหึ่มขึ้นมาก
ส่วนเรื่องผมยังรู้สึกชอบเหมือนเดิม
แต่ผมชอบสีตุ่นๆ แบบเดิมมากกว่าแฮะ

ขอเกริ่นหน่อยว่า
Ashes of time คือหนังที่ หว่อง กา ไว กำกับ
ซึ่งแต่งเรื่องขึ้นจาก นิยายเรื่อง มังกรหยก
เขาเอาตัวละครอย่าง อึ้งเอี้ยะซื้อ, อ้าวเอียฮง, อักชิงกง, มู่ย่งเอี้ยน
มาเล่าเรื่องสมัยก่อนจะเป็นจอมยุทธเลื่องชื่อในมังกรหยก

ส่วนที่เจ๋งมากๆ ก็คือ เขาทำให้ตัวละครพวกนี้ มีปมความรัก ความพยาบาท
และที่สำคัญคือ บทพูดเรื่องนี้ มันเต็มไปด้วยความเฉือดเฉือนเหลือเกิน

ความรักคือการแข่งขัน, แต่เริ่มต้นข้าก็เป็นผู้แพ้เสียแล้ว,
คนเราทุกข์เพราะลบความทรงจำไม่ได้
หากต้องการเก็บสิ่งที่มีค่าไว้กับเรา ควรเก็บไว้ในความทรงจำ(เพราะลบไม่ได้)
อะไรประมาณนั้น
คือผมไม่ได้ก็อปมาเปะๆ นะ
แต่ใครดูแล้วจะรู้ว่า หนังมันพูดแต่ประโยคเท่ห์ เหงาๆ กินใจแบบนี้ทั้งเรื่องเลย

เป็นวันป่วยที่ดีจังแฮะ
ดูหนังดีๆ ไปสองเรื่อง รู้สึกดี




 

Create Date : 02 กันยายน 2553
0 comments
Last Update : 2 กันยายน 2553 23:37:03 น.
Counter : 1173 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


วัชเจียเหว่ย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วัชเจียเหว่ย's blog to your web]