Group Blog
 
<<
กันยายน 2564
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 กันยายน 2564
 
All Blogs
 
No. 1018 ค้าแบบนี้ พอไหวมั้ง...?

No.  1018  ค้าแบบนี้ พอไหวมั้ง......?



ก่อนโควิดมาเยือนทำงานประจำรายได้อยู่พอมีเงินเก็บ แต่โชคดีได้เริ่มทำงานพิเศษเริ่มทำก็ อาย
แต่ไม่น่าเชื่อใช้ทริคนิดหน่อยทำเงินยอดขายเดือนละหลายบาท (กาลครั้งหนึ่งนะครับ 555)
ค่อยเรียนรู้ไปแต่ดันไปเป็น ศิราณีให้คำแนะนำปรึกษาค่อนข้างเสี่ยงก็ ๆ เขาท้อง...อุ้ยเป็นแบบไหนลองอ่านดู
 
ตอนเป็นเด็กรุ่นกระทงอายุ 12 -13 ปี  ปลูกผักกาด ชะอม คะน้า หอม ผักกาดขาวปลี ยอดฟัก เลี้ยงหมูไว้
คนละตัวกับพี่ชาย ใช้ขี้หมูตากจนแห้ง โรยแปลงผัก.. ผักงามจนกินไม่หมด พี่คนหนึ่งรับอาสา
นำไปขายที่ตลาดสดช้างเผือก..เชียงใหม่
ผม อายไม่กล้าขาย..แต่ก็ไปยืนดูเขาขายกัน พี่สาวคนที่ว่า ขอไปห้องน้ำ ผมก็เห็น
คนเก็บค่าแผงขายของเดินมา..
 
ภาพข้างล่างเป็นภาพแทน.. เป็นตลาดที่ลาว ลักษณะคล้ายที่เชียงใหม่สมัยก่อน..

ไอ้หนู คนขายไปไหน  คนของเจ้าของตลาดช้างเผือกมาเก็บค่าวางของขาย
บ่าฮู้ครับ สงสัยจะไปห้องน้ำ 
เลยไม่ต้องเสียค่าวางของขาย
พอโตเป็นหนุ่มไม่เคยขายอะไรเลย จนกระทั่งไปทำงานประจำ สาขาพิษณุโลก เพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านหนังสือ ชวนให้
ไปขายหนังสือมือหนึ่ง มือสองที่ งานวัดใหญ่ ก็ไปกับเขาด้วยเพื่อน ๆ ช่วยกันขายสนุกดีแต่ผม ยังคงอายขายไม่เป็น



 
โชคดีบริษัทย้ายไปอยู่หลายสาขา เห็น ผจก.สาขา อบรม พนักงานขายใหม่ หรือเร่งเร้า แนะวิธีการ
ตลาดให้.. คนฟังก็เคลิ้ม... เขาใช้หลักเดียว คือ ฐานสามเหลี่ยม สร้างทีมขายหรือที่เรียกในการขายตรง ทีมไหนขายได้
หมื่นบาทหัวหน้าทีมจะได้ส่วนเกินจาก คอมมิชชั่นอีก .75 %  ของยอดขายลูกน้อง
ถ้ายอดขาย สองหมื่น ได้คอมปกติ หัวหน้าทีม ได้ส่วนเกินอีก 2.75 %  เรียกว่าก้าวกระโดด.. แต่บริษัทมีสินค้าใช้ได้จริง
 และดีด้วย ผมเลยจำ ๆ วิธีการไว้
จนกระทั่งได้เข้าทำงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ มีสาขากระจายไปทั่วประเทศมีพนักงานกับแผนกอื่นมาก
วันหนึ่ง น้องสาวที่อยู่สมุทรปราการ นำผ้าชิ้นมาขายแถวบ้าน อ่อนนุช เลยรู้ว่ากำไรดีมากน้องสาวเงินหมุนไม่ทันเลยชวน
ทุน ผมเลยนำทองไปจำนำ หุ หุ ได้มา 5 พันบาทน้องสองคนนำไปซื้อผ้าชิ้นมาขาย...วันเดียวผ้าหมด
แต่ผมยังอาย ขายไม่เป็นนะครับ 55
เลยนำทองไปจำนำ เพิ่ม ได้เงิน ผ้ามาเยอะ.. ตอน เช้าจะขับรถไปส่งให้น้องที่กรมชลประทาน



รถโฟล์คเก่า ๆ คันแรกที่มีไว้ใช้ เป็นพาหนะซื้อขายสินค้าทำเงินได้มากจริง ๆ ต่อมาเปลี่ยนรถใช้อีกหลายคันและไปส่งของ

 
ที่กรมทางหลวงขายไปบ่อย และหลายจุด วันหนึ่งเกิดพลิกล๊อค น้องไม่ว่าง ถุงผ้าอยู่ในรถโฟล์คเต่า กลัวผ้าหายเลยหิ้งถุง

  ไปที่ทำงานแถวเพลินจิต น้อง ๆ ในแผนกขอดูเลยบอกว่า ถ้าสนใจเอาผ้าไปก่อนสิ้นเดือนจ่ายครึ่ง
 อีกเดือนจ่ายหมด.. คนมุงดูเลือกซื้อ จดชื่อ ราคาใส่สมุดเกือบไม่ทันผ้าเกือบหมดทั้งสองถุงใหญ่
วันหลังก็แกล้งนำไปอีก แหะ ๆ ชักขายเป็น ใบหน้าหยิกไม่ค่อยเจ็บแล้ว ก็ได้เงินนี่นาขายดีแต่ ตำแหน่งหน้าที่มันค้ำอยู่
 ไม่เหมาะแน่ จะเหมือนกับการบีบให้คนช่วยซื้อกลัวคนจะว่า พวกน้อง ๆ เพื่อนจะซื้อด้วยความเกรงใจ
เลยให้ต้อย ลูกน้องคนสนิท ช่วยจดบัญชีว่า ใครเอาไปมั่ง และช่วยเก็บเงินให้ด้วย
เดือนแรกก็ยก ค่าผ้าที่ต้อยช่วยซื้อ 1  ชิ้น
ดูแล้วต้อยเขาพอใจ..เลยบอกว่า ผมจะนำผ้ามาต้อยช่วยขาย และเก็บเงิน ดูแลว่าใครควรจะปล่อยให้ซื้อบ้างเดือนหนึ่ง
ต้อยเก็บเงินส่งประมาณ 10,000 กว่าบาท เลยแบ่งให้ 10 % เยอะนะครับ พนง.ทั่วไปเงินเดือนประมาณ 2 พันบาท
มีเวลาว่างก็ไปแหล่งขายแถวฝั่งธนบุรี แถวบางกรวยมีเพื่อนรุ่นน้องอยู่ คือโรงจักรไฟฟ้ามี จนท.เยอะมากน่าจะดี
 เข้าไปข้างในยาก อาศัยรู้จักคนข้างในกับหัวหน้าผู้หญิง
ผมก็ฝากหัวหน้าช่วยดูให้ อ้างว่าไม่คุ้นเคยกับใคร
หัวหน้าช่วยจดชื่อคนซื้อราคาให้ผมด้วย
 ได้ซิ หัวหน้ายิ้ม
พอสิ้นเดือน ผมก็ยกค่าผ้าชิ้นที่หัวหน้า ซื้อไปฟรี ทีแรกเขาไม่กล้ารับ ผมเลยขยั้นขยอให้หัวหน้า
เขาเลยต้องรับแบบอาย ๆ
เดือนต่อมาแหะ ๆ หัวหน้าช่วยเก็บเงินให้สองหมื่นกว่าบาท ผมก็ใช้วิธีแบ่ง 10 % แอบให้ไม่ให้ใครเห็น บอกว่า
หัวหน้ารับไปเถอะครับ ผมช่วย ๆ น้องเขาขาย สงสารน้อง
 จริง ๆ แล้วสินค้าเป็นของผมหมดแหละ
ผมเริ่มเดินทางไปคุย คนรู้จักตามจังหวัดต่าง ๆ ให้ช่วยขายตรงต่อลูกค้าในที่ทำงาน หรือบ้านเลือกคนที่น่าจะขายสินค้าได้

 
ไม่ถึงปีผมขยาย แหล่งขายในกรุงเทพ ต่างจังหวัดในภาคเหนือ ภาคใต้มี นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี หาดใหญ่
ปัตตานี นราธิวาส มีคนช่วยขาย 17  คนยอดขายรวมเยอะ ต้องใช้สั่งซื้อผ้า/สินค้าวันละ 10,000 - 20,0000
ผมขายทั้งผ้าตัดเป็นชิ้นใหญ่ ตัวอย่างผ้าชิ้นเล็กพึงใจก็ตัดส่งไป ขายแม้กระทั่งผ้านวม เครื่องไฟฟ้าเครื่องเสียง
สินค้าส่งทางไปรษณีย์ รถทัวร์ น้อง ๆ คนขายสิ้นเดือนก็โอนเข้าบัญชี/ส่งธนาณัติ/ดร๊าฟท์ให้
 
จำต้อยที่ ช่วยผมขายผ้าได้เปล่า...ต้อยคนนี้ผมสัมภาษณ์และรับเข้าทำงานด้วยตนเอง
ช่วยตรวจสัญญา เอกสาร เอกสารทั้งหมด แล้วค่อยให้ผมดูเซ็น..ต้อยจะดูแล น้ำชากาแฟเมื่อผมมีแขกต่างสาขามาติดต่อ
งาน ต้อยทำหน้าที่คล้ายเลขา...เราทั้งสองเลยสนิทกันมากต้อยมีปัญหาก็มาปรึกษาเล่าให้ฟัง
 
ต้อยกำพร้า พ่อแม่ เลยอยู่กับแม่บุญธรรม กับพี่สาวมาตั้งแต่เด็ก รักแม่มากแต่พี่สาว แรงมากคอยกลั่นแกล้งตลอดคงเกลียด
ต้อยที่ไม่ใช่น้องของตน..ต้อยก็สะสมความเครียดระวังตัวตลอด
ให้บังเอิญ สาวคนนี้ชอบกับ สาทิตย์ ลูกคนจีน เป็นเซลแมน บริษัทขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ บริษัทอยู่แถวถนนเพชรบุรี
ต้อยพาแฟนไปพบปะแม่ ๆ ก็ยกมื้อไหว้ข้างเดียว แล้วไม่พูดอะไรเลย
หนาว..กันทั้งสองคน
คือแม่เขาไม่ชอบ ลูกคนจีน หาว่า เคี้ยวอาหารอ้าปาก แต่งกายไม่ดี พูดเสียงดัง กะล่อน
ผมรับฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองเขาก็คบหากันเรื่อยมา อีกปีกว่า
พี่ไวน์ หนูอยากแต่งงาน กับสาทิตย์ คุณแม่คงไม่ยอม หนูกลุ้ม ทำไงดี
ก็ลองพาไปพูดกับคุณแม่อีกสักครั้ง ว่าจะส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอซิ
เรื่องเงียบอีกหลายวัน ต้อยก็นั่งร้องให้
เป็นไรไปต้อย
คุณแม่ไม่ยอม ชี้ไปที่ประตูให้สาทิตย์ ออกไปจากบ้าน ต้อยเสียใจ พี่สาวก็ด่าต้อยหาว่า
ร่านไม่รักดี.. ทำไงดีคะพี่ไวน์
ผมนั่งอึ้งไปพักใหญ่ นึกหาวิธี ได้
 ต้อยไปกระซิบบอกคุณแม่ ว่า
ต้อยท้องได้ สามเดือนเมนส์ขาด 
ต้อย ๆ ไม่เคย... นอนกับสาทิตย์ เอ้อ ถ้าบอก คงถูกคุณแม่ ตีแน่เลย.. แต่จะลองดูคะ
อีกอาทิตย์ต่อหน้า


 
พี่ไวน์ คุณแม่ตกใจ ..พูดไม่ออก สอบถามว่าต้อยไป ๆ กับสาทิตย์กี่ครั้ง ต้อยตอบไม่ได้ งงไม่ได้เตรียมเรื่องเลยนั่งร้องไห้
 คุณแม่เลยลงนั่งข้างตัว ปลอบใจ..ให้สาทิตย์ส่งผู้ใหญ่ไปขออีกสิบวัน อากู๋กับเตี่ยจะไปสู่ขอคะ
เฮ้อ.. โล่งอก... ทั้งสองแต่งงานกัน อยู่กันอย่างมีความสุข อีก 5 ปีต่อมาทั้งสองซื้อ
อาคารพาณิชย์อยู่แถว ปัฐวิกร... ฐานะการเงินดีขึ้นเรื่อย ๆ
เขียนเล่า เผื่อจะเป็นประโยชน์เพื่อนที่คิดจะค้าขายควบคู่ไปกับงานประจำงานหนักมากแต่ได้เงินเยอะค้าขายแบบไดเร็คเซลก็น่าจะใช่ เพียงแต่ให้ลูกทีมไปขายถึงตัว เพราะตอนนั้นยังไม่มีโทรศัพท์ให้เห็นตัวคู่สนทนา ปัจจุบันเห็นคนขายสินค้าทำท่าแปลก ๆ น่ารักดี บางทีก็ แหะ ๆ  พูดไม่ได้.....
แต่อย่าไปให้คำปรึกษาชีวิตแบบผมนะครับบาป
เพื่อน ๆ บล๊อกเกอร์ก็พวกเรา ๆ  ทำงานประจำและทำงานพิเศษควบคุ่มาหลายปี และเห็นหลายคนระยะโควิดมาเยือนเลยไม่ค่อยเดือดร้อนเท่าใด  น่าสนใจ..มีใครบ้างบอกกันบ้างนะครับน่าจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง
ขอบคุณเพื่อนผู้เอื้อเฟื้อภาพ (re 708/654.)
st ผู้เข้าชม  1,997,815.
ขอบคุณเพื่อนผู้แวะมาเยือน กรุณาเม้นท์/ทิ้งร่องรอยนิด ผมจะได้กลับไปเยี่ยมตอบแทนถูกครับ
 
Diarist
 



Create Date : 03 กันยายน 2564
Last Update : 3 กันยายน 2564 7:30:37 น. 15 comments
Counter : 969 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณkae+aoe, คุณ**mp5**, คุณSweet_pills, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณทนายอ้วน, คุณRinsa Yoyolive, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณmultiple, คุณtoor36, คุณชีริว


 
ถ้าหน้าที่การงานไม่ค้ำคอ ยังฟันรายรับได้อีกเพียบนะคะ

ขายของในที่ทำงานก็ดีไปอย่างเสียอย่าง

ได้แค่ลูกค้ากลุ่มเดียว


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:6:13:21 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์

ผมเคยช่วยแม่ขายขนมครกที่กาดช้างเผือกด้วยครับ
วันธรรมดาขายอยู่ที่กาดสมเพชร
เสาร์-อาทิตย์มาขายที่กาดช้างเผือก
แต่ขายตรงด้านหน้า
ด้านข้างจะคึกคักกว่า ขายไปจนสายเลย

เศรษฐกิจดี
ค้าขายอะไรก็สนุกนะครับพี่
จับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด

เศรษฐกิจแย่
ทองที่มีในมือ
ยังไม่มีราคาเลย




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:6:42:06 น.  

 
พี่ไวน์ขายาวขนาดนั้น อุตส่าห์ยัดตัวเอง
เข้าไปในรถโฟลค์ได้เนอะ



โดย: หอมกร วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:8:02:15 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:9:31:41 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์
เห็นลูกฟักข้าวหลงดีใจว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการกิน กลายเป็นเรื่องการค้าขาย อ่านแล้วคาดไม่ถึงว่าธุรกิจขายผ้าทำรายได้ดี
ถ้าเป็นปัจจุบันคงขายไม่ออก เพราะสมัยนี้นิยมใส่เสื้อผ้าสำเร็จรูป
เพราะว่าสะดวกรวดเร็วทันต่อความต้องการใช้งาน พี่ไวน์เป็นนักบัญชี
เป็นนักธุรกิจ เป็นจินตกวี เป็นนักกีฬา เป็นนักร้อง เป็นพุทธมามะกะ
คือทำได้ทุกอย่างด้วยความอุตสาหะ (อย่าคิดว่าเยินยอนะคะ)
สุดท้ายนี้ชอบรถโฟลค์มากค่ะ(รถในฝันอยากขับได้ค่ะ)


โดย: จินดา IP: 58.8.111.233 วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:10:16:08 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไวน์

ยังไม่เคยเดินตลาดสดช้างเผือกแต่เคยเดินช่วงค่ำๆที่เป็นตลาดโต้รุ่งค่ะ

บรรยากาศตลาดสดคล้ายในภาพน่าเดินนะคะพี่ไวน์ อาจเป็นผักที่พ่อค้าแม่ค้าปลูกเอง ได้พูดคุยดูเป็นกันเอง
บางแห่งต้องไปแต่เช้ามืดเพราะตลาดวายเร็ว

มีงานประจำทำและมีอาชีพเสริมก็สร้างความมั่นคงให้ครอบครัวยิ่งขึ้นนะคะ
บางคนนำงานอดิเรกที่ชอบเปลี่ยนมาเป็นอาชีพเสริมหรือมีความสามารถหลายด้าน
ก็ได้ทำงานที่รักและได้รายได้ด้วย

คุณต้อยเปรียบเสมือนเลขาช่วยพี่ไวน์ในการค้าขายผ้าคนแรก
คำปรึกษาของพี่ไวน์ได้ผล น่ายินดีกับครอบครัวคุณต้อยด้วยค่ะ

ถึงมีรถรุ่นใหม่ๆออกมามากแต่รถโฟล์คเต่ารุ่นนี้คลาสสิคดีนะคะ
แม้เลิกผลิตแล้วก็น่าจะมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับผู้ที่รักรถโฟล์คอยู่


โดย: Sweet_pills วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:11:40:58 น.  

 
ปีนี้ผลผลิตจากสวนณ มนยังขายได้ค่ะ แต่ถ้าโควิดยังอยู่อีกยาวแบบนี้ ปีหน้าคงต้องหาช่องทางอื่นๆหารายได้มาเสริมนอกจากการทำสวนอินทผลัมแล้วล่ะค่ะ


โดย: ณ มน วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:13:31:24 น.  

 
สวัสดีครับพี่ไวน์

รถโฟล์คเต่าเท่มากครับ อิจฉาเลยที่พี่ไวน์ได้ขับรถรุ่นนั้น สมัยก่อนขัยบนถนนนี่คงเท่น่าดู ขนาดตอนนี้ยังเท่เลยครับ
อาผมมีคันนึงครับสีฟ้า มีงานมีตติ้งมีละครั้งกับแก๊งรถเต่าด้วยกัน อารมณ์คงเหมือนพวก แก๊ง เวสป้า เท่ๆ

อ่านเรื่องคุณต้อย ลุ้นแทนครับ แต่สุดท้ายก็ได้มีครอบครัวที่สุขสันต์ ดีที่มีพี่ชายดีๆ อย่างพี่ไวน์คอยให้คำปรึกษาครับ ^^


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:13:50:54 น.  

 
ปล.
ลืมตอบเม้นครับ 5555

อยากเดินตากฝนเล่นที่เชียงใหม่เหมือนกันครับ คงบรรยากาศดีมากๆ
แต่ระวังป่วยนะครับพี่ เหมือนฝนสมัยนี้ไม่สะอาดเหมือนสมัยก่อนๆ ฝุ่นลงมาด้วย คันๆ เลย ^^


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:13:52:44 น.  

 
รินอ่านในกระทู้พันทิปที่คนมาโพส มาระบายกัน
เห็นคนลำบากกันมากจริงๆ นะคะ
ยอมให้ยึดรถ ยึดบ้าน จะไม่มีทีอยู่
เงินไม่มีหมุนเวียนเลย ต้องไปวัดขอข้าวพระมากินด้วยซำ
อ่านแล้วไม่น่าเชื่อ
แต่ทุกวันได้เห็นเรื่องราวเหล่านี้ผ่านตามากจริงๆ ค่า
ส่วนตัวคือคิดว่ายังไงต้องมีฟูก มีเงินเก็บให้เยอะให้มาก
หากฉุกเฉินจะได้ไม่เดือดร้อนอะไรแบบนี้
และไม่สร้างหนี้ด้วยค่ะ ข้อนี้สำคัญสุด



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 3 กันยายน 2564 เวลา:22:16:15 น.  

 
ค้าขายจะว่าง่ายก็ไม่ง่ายนะครับ
ตัวสินค้าก็ต้องดีพอ ต้องมีช่องทาง มีโอกาส และลูกทีมที่ดี ซื่อสัตย์ คุณพี่ไวน์ โชคดีที่มีครบเลยนะครับ

ปล.รถโฟล์คสีสวยนะครับ ถ้ายังอยู่นี่แจ่มเลย
อ.เต๊ะ เคยนั่งของเพื่อน เปิดกระโปรงหน้าหาเครื่องไม่เจอครับ 555

ขอบคุณที่แวะไปฟังเพลงนะครับ





โดย: multiple วันที่: 4 กันยายน 2564 เวลา:3:01:55 น.  

 
บางทีวิธีแบบนี้อาจจะดีก็ได้นะ เพื่อนผมหลายคนพ่อแม่เรียกสินสอดมากเกินไป มากจนไม่รู้ว่ากี่ปีถึงจะหามาได้ ก็ใช้วิธีคล้ายๆ แบบนี้แหละ ไม่งั้นก็คงไม่ได้แต่งแน่นอน

ขายของถ้าขายได้มันสนุกนะครับ ไม่เบื่อเลย แต่ถ้าขายไม่ได้นี่เซ็งมาก


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 4 กันยายน 2564 เวลา:20:53:37 น.  

 
ตัวเลขจากรัฐบาล
บอกตามตรง
ว่าผมไม่เชื่อเลยครับพี่ 555

ตัวเลขส่งออก
ไม่รู้เอาตัวเลขจากไหนมาก็ไม่รู้นะครับพี่
จะเป็นไปได้ยังไง



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 กันยายน 2564 เวลา:22:45:07 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับพี่ไวน์



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 กันยายน 2564 เวลา:7:16:59 น.  

 
น้ำฟักข้าว กินครั้งแรกที่ตลาดน้ำไหนสักแห่งครับ
ที่ร้านข้าวแกงบ้านสวนก็มีขายนะ แต่ใส่น้ำตาลซะหวานจนกินไม่ได้เลย

ตลาดชาวเขาแบบขายของกองกับดิน ให้ความรู้สึกสดปลอดสารพิษดี
ผักบางอย่างราคาถูกกว่าบนที่ราบจมหูเลยด้วย

ส่วนพี่ไวน์นี่สุดยอดเซลส์แมน ขายได้ทุกอย่าง ทุกภูมิภาค
สกิลเจรจาทำได้ยันปรึกษาปัญหาชีวิต
ช่วยไปเจรจากับคนร้ายที่ยึดสภาเป็นที่หลับนอนอยู่ทีเถิด


โดย: ชีริว วันที่: 5 กันยายน 2564 เวลา:22:48:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไวน์กับสายน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





เขียนการเดินทาง
ด้านธรรมชาติ
จักรยานเสือภูเขา



หลังไมค์ครับ
Friends' blogs
[Add ไวน์กับสายน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.