ยึดคัมภีร์ฮวงจุ้ย “ซื้อบ้าน-คอนโด” มีแต่เฮง เฮง เฮง !


ซินแสธนากร แนะเลือกซื้อบ้าน-คอนโด ตามศาสตร์ฮวงจุ้ย ตำแหน่งพลังดาว 9 ดวง ที่คำนวณจากตำแหน่งทิศบ้านและตามนักษัตร (ปีเกิด) ของผู้อยู่อาศัยเป็นตัวกำหนดโชคชะตา พร้อมเคล็ดลับเลือกชั้นคอนโดอยู่แล้วดี ชี้อนาคตอีก 9 ปีข้างหน้าความเจริญจะส่งต่อไปพื้นที่โซนถนนพระราม 2 ซึ่งความรุ่งเรืองนี้เป็นผลจากศาสตร์พลังดาวที่มีการเปลี่ยนไปทุกๆ 20 ปี เช่นเดียวกับกระแสของโลกที่จีนกำลังส่งต่อความเจริญไปที่อินเดีย แนะหัวใจของฮวงจุ้ยต้องมีข้อใดข้อหนึ่งใน “ฟ้า-ดิน-คน” ที่เป็นตัวกำหนดโอกาส ทำเล และความสามารถของมนุษย์ ให้สมดุลส่งผลให้กิจการรุ่งเรืองตามยุคสมัย และหากใครมี 3 ข้อนี้จะพบกับสุดยอดแห่งความสำเร็จ

ฮวงจุ้ย ศาสตร์ที่ว่าด้วยดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งนิยมกันอย่างแพร่หลายในประเทศจีนว่าเป็นการดึงธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ ด้วยความสอดคล้องที่สมดุลกับธรรมชาติในที่นั้นๆ และไม่ทำร้ายธรรมชาติ และในปัจจุบันศาสตร์นี้ได้เข้ามาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนไทยในการตกแต่งที่อยู่อาศัย หรือนำมาเป็นกฎเกณฑ์ในการเลือกซื้อบ้านและคอนโดมิเนียม

       อาจารย์ธนากร ตันอาวัชนการ ซินแสชื่อดัง กล่าวกับ Special Scoop ว่า ชะตาส่วนหนึ่ง และฮวงจุ้ยส่วนหนึ่ง แต่ในความเห็นส่วนตัวยกให้ชะตาชีวิตเพียง 25% แต่ให้ฮวงจุ้ยถึง 75% เพราะแม้ว่าชะตาเราจะไม่ดีอย่างไร แต่หากอยู่ในบ้านที่ดี เจอคนที่ดีทั้งหมด ย่อมจะชักนำเราไปสู่สิ่งที่ดีได้

       ตามความหมายของฮวงจุ้ย อันที่จริงแล้วคำว่า “ฮวง ที่แปลว่า ลม” และ “จุ้ย ที่แปลว่า น้ำ” ทั้งลมและน้ำสอดคล้องตามหลักความเชื่อของคนจีนในสมัยก่อนใช้สำหรับฮวงซุ้ย เพื่อให้อากงและอาม่าหรือคนที่เสียชีวิตไปแล้วได้นอนหลับอย่างมีความสุข

       แต่ในปัจจุบันที่คนยุคนี้นิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อมุ่งหวังให้กิจการมีความเจริญก้าวหน้า หรือมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมีความสุข


ฮวงจุ้ยยึดกฎ 4 ข้อ

ทั้งนี้หลักโบราณเปรียบเทียบวิชาฮวงจุ้ยอยู่ภายใต้ 4 กฎหลัก ดังนี้

       อันดับแรก คือ ชัยภูมิของที่นั้นๆ เป็นอะไร เพราะหากว่ามีชัยภูมิที่ดีจะทำให้มีคนไปมาหาสู่มากมาย จะร้ายจะดีอย่างไรทำเลนี้ก็ยังสามารถค้าขายได้

       อันดับสอง คือ ทิศทางของภูเขาหรือตัวบ้านที่อยู่อาศัยหรือหลุมฝังศพ ซึ่งการหาตำแหน่งทิศทางเป็นหลักของฮวงจุ้ย จะใช้เข็มทิศโบราณอันใหญ่เพื่อวัดองศา แต่ปัจจุบันนี้มีการคำนวณ 2 สไตล์ คือเข็มทิศจีน และเข็มทิศสวีเดน ซึ่งมีไว้ใช้สำหรับคนเป็นโดยเฉพาะ และแบ่งออกเป็นช่องๆ ทั้งหมด 24 ทิศ เรียกได้ว่าเป็นฮวงจุ้ยที่คนรุ่นใหม่หาเจอ หนีออกจากคนรุ่นเก่า เพื่อนำมาเทียบกับสถานที่นั้นๆ แล้วคำนวณออกมาว่า ทิศทางของลมและน้ำควรอยู่ที่ไหนของบ้าน และสามารถจะจับจุดฮวงจุ้ยทั้งหลายได้ว่า ตำแหน่งในทิศไหนควรมีน้ำ หรือลม เพื่อให้บ้านที่อยู่อาศัยมีความสุข ช่น การเปิดร้านกาแฟต้องเปิดในชัยภูมิที่มีคนเยอะ เพราะร้านกาแฟถือเป็นศูนย์รวมที่คนทุกอาชีพนัดพบปะหารือกันที่นี่ จุดนั้นควรจะเป็นทำเลที่ไหน

       อันดับสาม คือ ฤกษ์ยามที่จะทำกิจการ หรือ ฤกษ์ยามเมื่อจะปลูกต้นไม้ให้งอกงามต้องปลูกในฤดูฝน เพราะธรรมชาติช่วยรดน้ำ เช่นเดียวกัน การหาฤกษ์ยามที่ถูกต้องกับการทำกิจกรรมนั้นๆ

       อันดับสี่ คือ ชะตามนุษย์ หมายถึงคน แบ่งออกเป็นระบบ 5 ธาตุ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และธาตุไม้ ที่บ่งบอกว่าคนคนนั้นเป็นคนสไตล์ไหน ชอบบริการ ทำงานแบบบริการ งานขายของ การเอาใจใส่ดูแล หรือบางคนเกิดมาเป็นครู เพราะฉะนั้นในลักษณะนี้ต้องทำให้คนสอดคล้องกับอาชีพ ทำให้ทำงานอย่างสบายใจ

       ทั้งนี้หากว่าอยู่ในกฎใดกฎหนึ่งภายใต้ 4 กฎหลักก็เรียกได้ว่า เข้าหลักการของวิชาฮวงจุ้ยแล้ว

       นอกจากนี้หัวใจสำคัญของฮวงจุ้ยยังสรุปออกมา 3 ปัจจัยหลัก

       ปัจจัยแรก คือ “ฟ้า” (เทียน) ที่เป็นตัวกำหนดโอกาสที่เราจะทำกิจการ หรือ การจับโอกาสตามยุคสมัยนั้น และนั่นคือ การรวยเพราะฮวงจุ้ยกำหนด

       ส่วนปัจจัยที่สอง คือ “ดิน หมายถึง สถานที่ทำเลที่ตั้ง” (ตี่) หากว่าตรงนี้มีรถผ่านมากน่าจะเปิดปั๊มน้ำมัน เรียกว่า สถานที่ให้สอดคล้องกับคน ซึ่งหมายถึงน้ำที่ไหล ถ้าเปิดกิจการในที่ที่ไม่มีถนนก็จะไม่มีน้ำไหล

       ปัจจัยที่สาม คือ “คน หรือมนุษย์” (นั้ง) ที่มีความสามารถไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ถ้ามีความสามารถทำอาหารอร่อย เปิดร้านในที่เดินทางไปด้วยความลำบากยากเข็ญลูกค้าก็ตามไป หรือสินค้ายี่ห้อไหนดีขายที่ไหนก็ขายได้ เช่นสตาร์บัคส์ เชนร้านกาแฟชื่อดังสัญชาติอเมริกา หรือเอ็มเคสุกี้ เปิดสาขาที่ไหนคนก็เต็ม

       ตามศาสตร์ของฮวงจุ้ยแล้ว หากว่าใครได้ 1 ใน 3 ปัจจัยนี้จะพบกับความสำเร็จเลย หากได้ทั้ง 3 ปัจจัยถือว่าสุดยอดแล้ว


ฮวงจุ้ยการเลือกบ้านและคอนโด

อย่างไรก็ดี การตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดโดยยึดหลักฮวงจุ้ยเป็นเรื่องที่ดีเพราะเกี่ยวข้องกับศาสตร์การคำนวณพลังดาว 9 ดวง แบ่งเป็นยุคที่ 1 ถึงยุคที่ 9 ซึ่งวิชานี้เป็นความลับของซินแสสิ่นเต๊กย้ง ฮวงจุ้ยระดับปรมาจารย์นำมาใช้ และวิชานี้ที่ประเทศฮ่องกงนิยมกันมาก เพราะเป็นเรื่องหัวใจของภูเขาและแม่น้ำเก้า ซึ่งเราแบ่งทิศในบ้านออกเป็น 8 ทิศ และแบ่งบ้านสี่เหลี่ยมออกเป็น 8 ช่อง และมีช่องตรงกลางเป็นตัวกำหนด ซึ่งตรงนี้ดาว 9 ดวงจะอยู่ใน 9 ช่องนี้ทั้งหมด คือ วิถีโลก กระแสของโลกที่วนเวียนเปลี่ยนไปทุกๆ 20 ปี

       ปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่ 8 กลางยุค และที่ผ่านมายุค 7 ประเทศสหรัฐอเมริกามีความเจริญรุ่งเรือง และเมื่อเข้ายุค 8 เห็นได้ชัดว่าอเมริกาเริ่มเสื่อมไปแล้ว เข้ามาสู่ยุคที่ประเทศจีนเจริญรุ่งเรือง และในอนาคตใน 9 ปีข้างหน้านี้ จีนจะเสื่อมถอยลงและจะเริ่มส่งต่อไปที่ประเทศอินเดียที่เริ่มมีชีวิตชีวา มีความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น ซึ่งวิถีนี้จะเปลี่ยนไปเป็นวัฏจักรวนเรื่อยๆ ไป


แต่เมื่อนำเราเข้ามาอยู่ในบ้านของเราโดยใช้ 24 ทิศ ที่แบ่งเป็น 24 ช่องในเข็มทิศมาเป็นตัวกำหนดตามเข็มทิศ เมื่อเข้าไปยืนอยู่ในบ้านแต่ละหลังจะมีองศา 24 ช่อง ประกอบไปด้วย 12 นักษัตรกับอีก 12 คือตัวกำหนดราศีบนตัวฟ้า ตัวดิน ผู้ใหญ่ เด็ก การสะสมเงิน ตัวความร่ำรวย รวมกัน ป็น 24 ทิศ

       ยกตัวอย่างเช่นบ้านหันหน้าไปทางทิศเหนือ ทิศเหนือจะแบ่งออกเป็น 3 ตัว เรียก ฟ้า ดิน ฝน ตามที่บอก อาจจะเป็นเหนือตรงๆ เหนือเอียงซ้าย เอียงขวา ในเหนือนั้นมี 3 ช่อง ช่องเหล่านั้นจะไปตกทิศใดทิศหนึ่งใน 24 ทิศ พอคำนวณดาวทั้ง 9 ดวงก็จะรู้ว่าใน 8 ทิศนี้มีดาวที่เจริญรุ่งเรืองอยู่ตรงไหนในบ้าน


แปลนบ้านถูกหลักฮวงจุ้ยอยู่แล้วรวย

โดยในหลักการของบ้านก็เช่นกัน เป็นเรื่องของความสมดุลที่เรียกว่า อินเอี๊ยง หรือหยินหยาง คือมีความมืดและความสว่าง ถ้ามีความสว่างมากเกินไปก็จะกระตือรือร้นมากเกินไป มุ่งมั่นแต่เรื่องเงินอย่างเดียว แต่หากเป็นความมืดก็คือความนิ่ง ความสงบ ถ้าความมืดน้อยก็จะไม่สงบ

       ดังนั้นต้องแบ่งหน้าบ้านกับหลังบ้านให้สมดุลกัน โดยหน้าบ้านต้องสว่าง หลังบ้านต้องทึบ ต้องมืด เปรียบได้กับหน้าบ้านสว่างเป็นน้ำ น้ำไหลเข้ามา หลังบ้านทึบเป็นภูเขารับน้ำ แต่ถ้าอยู่สลับที่กันเช่นหลังบ้านโล่ง แปลว่าไม่มีภูเขา ภูเขาตกน้ำ คนที่อยู่ภายในบ้านจะสุขภาพไม่ดี เป็นเรื่องระหว่างเงินกับคน ดูเงินให้ดูที่ความเคลื่อนไหว ดูว่าจะเก็บอยู่หรือไม่ให้ดูความนิ่ง

       ข้อห้ามที่ว่าไม่ให้ 2 ประตูตรงกัน แปลว่ามีแต่เงินเข้ามาแต่ทำเท่าไรก็ไม่เหลือ เราจึงต้องอุดข้างหลัง เหมือนโบราณถ้ามีคู่ต้องให้คู่เก็บ สามีทำงาน ภรรยาอยู่บ้านให้เก็บเงิน ไม่มีคนอยู่บ้าน ทำแทบตายไม่มีคนเก็บ คอนโดก็เช่นกัน ต้องแบ่งครึ่ง หน้ากับหลัง กฎของแม่น้ำกับภูเขาก็ใช้ได้ด้วยกัน

       กฎของสว่างกับทึบต้องตรงข้ามกัน ทุกครั้งที่มีเข้ามาต้องมีการรับ เช่นถ้ามีประตูต้องไม่มีหน้าต่างตรงกัน แสงก็เช่นกัน ต้องมีความสมดุลระหว่างสว่างและมืด ที่ว่าหน้าบ้านเป็นโบสถ์ วัด โรงเจ ถือว่าเป็นความมืด จะแก้ด้วยการติดไฟสว่างไว้ 1 ดวง เพื่อแก้ให้มีความสว่างเกิดขึ้น หรือหากหน้าบ้านมีรถไฟฟ้าเปรียบเสมือนภูเขาอยู่ตรงหน้า อาจไม่ดี ต้องแก้ด้วยความโล่งโปร่ง จึงมีการวางน้ำพุ ลานน้ำผุดขึ้นมาแก้สร้างความสมดุล ความทึบคือความมั่นคงคือบุคคล ความโล่งคือการเงินหรือสุขภาพ

       ความสมดุลของบ้าน เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ส่วนจะรู้ว่าสมดุลหรือไม่นั้น หลักการคำนวณเริ่มจากยืนจากหน้าบ้านใช้เข็มทิศวัด ว่าบ้านนี้หันหน้าไปทางทิศไหน หลังตั้งอยู่ทิศอะไร แล้วมาคำนวณ เบื้องต้นบ้านที่ดีต้องแบ่งด้านหน้าออกเป็น 3 ช่องได้เท่าๆ กัน

       สำหรับลักษณะของบ้านที่ดีต้องเข้าตรงกลาง โดยให้เปรียบสัมพันธ์กับหน้าตาของคนเรา ทางเข้าถ้าเบี้ยวซ้าย เบี้ยวขวาเหมือนปากไม่ตรง กินไม่ถนัด และบ้านที่เอาบันไดไว้หน้าบ้านก็ไม่ดี เพราะเปรียบเสมือนเอาภูเขาไปอุดอยู่ข้างหน้า บ้านที่เป็นรูปลักษณะที่ดีคือเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ไม่ด้านตั้งก็ด้านยาว การต่อเติมที่ไม่สมดุลมีส่วนเกินมาก ทำให้ไม่ครบองค์ประกอบ 8 ทิศไม่สมบูรณ์ก็จะไม่ดีในแง่ฮวงจุ้ย

       ในการพิจารณาตามศาสตร์ฮวงจุ้ยต้องดูเฉพาะตัวบ้าน ไม่ต้องสนใจที่ดิน ประตูบ้านสำคัญกว่าประตูรั้ว เพราะเป็นตัวกำหนดสิ่งที่เข้ามาหาเรา รูปลักษณะบ้านก็ต้องอยู่ในความสมดุล โดยบ้านที่ดีคือ บ้าน 2 ชั้นขึ้นไป ประตูกับบันไดควรสัมพันธ์กัน ทางเข้าต้องมีบันไดรับ ซ้ายหรือขวาได้ แต่ต้องไม่ใช่ตรงกลางบ้าน เปรียบเสมือนการรับทรัพย์และนำเข้าไปในตัวบ้าน

       บ้านที่ดีต้องมีห้องรับแขก เข้าประตูมาแล้ว อยู่ซ้ายหรือขวาแล้วแต่ทิศทางเป็นตัวกำหนด

       บ้านที่ดี โดยหลักการทั่วไป ห้องใหญ่ที่สุดคือห้องของหัวหน้าครอบครัว คือคนที่หาเงินได้มากที่สุด

       บ้านที่ดี มุมของพ่อแม่ควรเป็นมุมสงบอยู่ชั้นล่าง

       บ้านที่ดี ห้องครัวเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ถือเป็นมุมทรัพย์อีกแบบหนึ่ง ไม่โปร่งโล่งเกินไป ควรเป็นมุมที่ต้องแอบซ่อน เห็นครัวง่ายก็จะมีคู่แข่งตลอด อาหารการกินก็จะมีคนมาแย่งกิน กรณีนี้ยกเว้นสำหรับร้านอาหาร และครัวไทยที่ทำนอกบ้าน

       บ้านที่ดี การทำครัวให้เลี่ยงการประจันหน้าระหว่างเตาไฟกับอ่างล้างจาน เพราะน้ำกับไฟเจอกัน จะทำให้คนในบ้านทะเลาะกัน

       บ้านที่ดี โดยหลักการฮวงจุ้ย การดูครัวให้ใช้ดวงชะตาของแม่บ้านเป็นหลัก เพราะถ้าแม่บ้านไม่มีแรง กลับบ้านมาก็ไม่มีใครป้อนอาหารให้มีความสุขได้

       บ้านที่ดี ควรเว้นการทำห้องน้ำตรงกลางบ้าน และตรงกลางของหลังบ้าน ห้ามส่วนที่เป็นจุดศูนย์กลางทั้งหมด เพราะจะทำให้ประธานมีปัญหา

       หน้าต่างและบันไดบ้านควรจัดสมดุลด้วยสายตาและยึดหลักจำนวนเลขคี่ เพราะเลขคี่ คือ พลังการเคลื่อนไหว ส่วนเลขคู่ คือพลังหยุดนิ่ง

       หลังคาบ้าน เปรียบเสมือนหมวก หากว่าออกแบบชายคาต่ำกว่าสายตา ทำให้คนในบ้านมองไปไม่ไกล ทัศนวิสัยไม่ดี เหมือนปิดหน้าปิดตาไว้

       การเลือกแปลนบ้านให้ใช้เกณฑ์ของกระแสที่ไหลมาเป็นตัวกำหนด คือให้ถนนเป็นหลัก หากว่าเป็นหลังสุดท้ายและติดริมรั้วเลยถือว่าไม่ดี เรียกว่าปลายน้ำ ยิ่งเป็นรั้วที่ติดกับหมู่บ้านและมีบ้านที่อยู่ภายนอกบังอยู่ด้วยยิ่งไม่ดี แต่ถ้าติดรั้วและอีกฝั่งเป็นที่โล่งยังถือว่ามีกระแสลมพัดผ่าน ไม่เข้าหลักเกณฑ์ข้อนี้ อย่างไรก็ตามยังต้องมองว่าต้นทางกับปลายทางสู้กลางทางไม่ได้

       ที่สำคัญทางสามแพร่งถือเป็นข้อห้ามอันดับหนึ่ง เพราะกระแสจะวิ่งตรงเข้ามาชนตัวบ้าน ชนประตู จะมีปัญหามาก คนที่อยู่บ้านลักษณะนี้จะไม่มีความสุขเพราะกระแสแรง ส่งผลต่อคนแต่ละคนและมีทิศทางเป็นตัวกำหนด หากพุ่งชนทิศตะวันออกจะเกี่ยวข้องกับคำพูด ลม ปากและคอแห้ง มักจะมีปัญหาสุขภาพเรื่องปอด ทิศตะวันตกมักจะมีปัญหาเรื่องอุบัติเหตุ ทิศเหนือมีปัญหาเรื่องมดลูก ทิศใต้มีปัญหาเรื่องสายตา อย่างไรก็ตามบ้านลักษณะนี้เงินทองจะเข้าดีแต่สุขภาพจะไม่ค่อยดี


การเลือกทิศบ้านตามปีนักษัตร

ขณะเดียวกันในตำแหน่งของบ้านหากเลือกตามหลักการฮวงจุ้ยตามปีนักษัตรจะทำให้คนในบ้านมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข ประกอบด้วย

       บ้านที่หันประตูสู่ทิศใต้ เหมาะกับคนเกิดปีชวด วอก มะโรง ฉลู แต่ไม่ดีกับคนปีมะเมีย ขาล จอ และมะแม

       บ้านที่หันประตูสู่ทิศเหนือ เหมาะกับคนปีมะเมีย ขาล จอ และมะแม แต่ไม่ดีกับคนชวด วอก มะโรง และฉลู

       บ้านที่หันประตูสู่ทิศตะวันออก เหมาะกับคนปีระกา มะเส็ง ฉลู แต่ไม่ดีกับเถาะ กุน มะแม จอ

       บ้านที่หันประตูสู่ทิศตะวันตก เหมาะกับคนปีเถาะ กุน มะแม จอ แต่ไม่ดีกับระกา มะเส็ง ฉลู และมะโรง


เลือกซื้อคอนโดชั้นไหนถูกโฉลกผู้อยู่

ซินแสธนากร บอกอีกว่า ในการเลือกซื้อคอนโดนั้นตามศาสตร์ฮวงจุ้ยยังสามารถตัดสินใจซื้อได้ตามระบบ 5 ธาตุ

       ธาตุดิน คือคอนโดที่เป็นสี่เหลี่ยม ควรซื้อชั้นที่ 5, 10, 15, 25

       ธาตุไม้ คือคอนโดที่เป็นลักษณะสูง เป็นแท่งขึ้นไป ควรซื้อชั้นที่ 3, 8, 16, 38, 61

       ธาตุทอง คือคอนโดทรงกลม ควรซื้อชั้นที่ 10, 15, 49, 94

       อีกทั้งคอนโดที่มีการก่อสร้างเป็นลักษณะตัว U จะถูกตามหลักฮวงจุ้ย คือมีรูปลักษณะที่ดีเหมือนปากโอ่ง รับซ้ายขวามาเก็บไว้



 ส่วนคนที่เกิดนักษัตรใด ควรเลือกซื้อคอนโดชั้นไหนจึงจะส่งผลดีต่อการอยู่อาศัย

       ปีชวด มะโรง วอก อยู่ในกลุ่มธาตุน้ำ ชั้นที่ดีคือชั้นที่ลงท้ายด้วย 1 กับ 6 ทั้งหมด

       ปีฉลู ระกา มะเส็ง อยู่ในกลุ่มธาตุทอง ชั้นที่ดีคือชั้นที่ลงท้ายด้วย 9 กับ 4 ทั้งหมด

       ปีขาล มะเมีย จอ อยู่ในกลุ่มธาตุไฟ ชั้นที่ดีคือชั้นที่ลงท้ายด้วย 2 กับ 7 ทั้งหมด

       ปีเถาะ มะแม กุน อยู่ในกลุ่มธาตุไม้ ชั้นที่ดีคือชั้นที่ลงท้ายด้วย 3, 8, 1 และ 6 ทั้งหมด

       รวมทั้งในตัวคนเราจะมีกลุ่มถ่อฮวย คือจุดเสน่ห์ ซึ่งคือทิศทางที่ทำให้นักษัตรเรามีพลัง

       ปีชวด มะโรง วอก มุมเสน่ห์ คือทิศตะวันตก

       ปีฉลู ระกา มะเส็ง มุมเสน่ห์ คือทิศใต้

       ปีขาล มะเมีย จอ มุมเสน่ห์ คือทิศตะวันออก

       ปีเถาะ มะแม กุน มุมเสน่ห์ คือทิศเหนือ

       ในทิศที่เป็นมุมเสน่ห์ต้องไม่ให้มีห้องน้ำ ถังขยะหรือสิ่งสกปรก ควรทำให้มีสิ่งเคลื่อนไหว มีสิ่งสวยงาม สดชื่นเช่นดอกไม้ เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา ถ้าแก้ไม่ได้เช่นเป็นห้องน้ำ ต้องรักษาความสะอาด ฝาห้องน้ำต้องทำให้สวยงาม หาต้นไม้ ดอกไม้สวยๆม าวางไว้ ไม่ใช้ต้นไม้แห้ง ต้นไม้ตายแล้ว คนจีนอาจจะใช้เป็นต้นกวนอิม คนอยากมีคู่อาจจะเป็นกุหลาบ หรือคนทำการค้า ต้องมองทิศนี้เป็นทิศพลังเพื่อเรียกลูกค้า วางสินค้าโชว์ มีของหอม มีดิสเพลย์สวยๆ รับลูกค้า เป็นต้น



ซื้อคอนโดมือ 2 ดูภูมิหลังคนเก่า 

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาเลือกซื้อคอนโดตามหลักการเสริมพลังแล้ว ยังต้องดูดวงชะตาของผู้พักอาศัยเป็นอันดับต่อไป แต่หากเราไปซื้อคอนโดที่มีการอยู่อาศัยแล้ว หรือไปซื้อต่อจากเจ้าของเก่า ผู้ที่จะซื้อต้องดูปูมหลังและลักษณะว่าเจ้าของเก่านั้นอยู่แล้วประสบความสำเร็จ หรืออยู่แล้วมีแต่เรื่องเดือดร้อน เช่นมีเรื่องครอบครัวแตกแยก การค้าถูกโกง หรือมีอุบัติเหตุหรือไม่ เพราะอาจเป็นปัจจัยจากที่อยู่ หาก จำเป็นต้องซื้อควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดู แต่ถ้าสามารถเลี่ยงได้ควรเลี่ยง เพราะผู้ที่อยู่อาศัยจะมีผลกับฮวงจุ้ย ของนั้นมีสิ่งไม่ดี เมื่อคนเข้าไปก็จะมีผลเช่นกัน

       กรณีที่มีการฆ่าตัวตายในห้องหรือที่อาคาร หลายกรณีคอนโดมีลักษณะตะขอ มีสิ่งที่แขวน มีที่เกี่ยวพัน บางรายเช่นคอนโดที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนปืน คือเป็นรูปตัว L คนที่อยู่บริเวณปลายกระบอกปืนจะมีปัญหา จึงเป็นที่เรียกว่ารูปลักษณะของคอนโดส่งผลกับตัวผู้อยู่ เพราะปลายตัว L เป็นลักษณะที่ไม่ครบ หายไปส่วนหนึ่ง อาศัยตรงปลายปืน ผู้อยู่อาศัยจะมีความเครียดบ่อย หรือคนที่อยู่บ้านทางแพร่ง มีรถมาผ่านหน้าบ้านบ่อย ก็เหมือนมีเคียวมาคว้านอยู่ตลอด จะรู้สึกไม่สบายใจ เหมือนมีคนทรยศตลอดเวลา

       เคล็ดแบบนี้จะบอกเฉพาะเจาะจงยาก เพราะใน 24 ทิศจะไม่เหมือนกัน แต่ละเคสจะต่างกันไป อาจใช้หลักการง่ายๆ คือให้สังเกตตัวเองว่านอนในห้องแล้วตรงไหนรู้สึกว่าหลับสบาย สงบ มุมนั้นจะเป็นมุมที่ดี ให้ทิ้งคำว่าตะวันตก ตะวันออกตามความเชื่อออกไปเลย


เส้นพระราม 2 กำลังมาแรง

อาจารย์ธนากร บอกอีกว่า บ้านในกรุงเทพฯ มีกระแสของดาว เป็นตัวกำหนดชี้ว่าความเจริญไม่ตายตัวอยู่ในทำเลใดทำเลหนึ่งเสมอไป เช่นในยุคหนึ่งความเจริญจะอยู่ในโซนทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ เช่น ถนนรามอินทรา แต่ในยุคความเจริญถัดไป ความเจริญจะขยายไปที่โซนจังหวัดนนทบุรี จากนั้นต่อเนื่องไปเส้นทางลงไปสายใต้ นั่นหมายถึงว่ายุคดาวที่ 8 เข้าสู่ยุค 9 นั้น ความเจริญกำลังจะขยายไปในย่านถนนพระราม 2 ไม่กี่ปีข้างหน้า เรียกได้ว่า กระแสของยุคที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนไป จะมีวงจรที่เปลี่ยนไปอย่างนี้ตลอดในอีก 9 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งใน พ.ศ. 2567




Create Date : 29 กรกฎาคม 2558
Last Update : 29 กรกฎาคม 2558 10:07:20 น.
Counter : 1525 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 922554
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



กรกฏาคม 2558

 
 
 
1
5
9
11
12
18
19
23
26
27
30
31
 
 
All Blog