"โมเดอร์นฟอร์ม" บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับท็อปทรีในวงการเฟอร์นิเจอร์ วัดจากยอดรับรู้รายได้ปีที่ผ่านมากว่า 4,300 ล้านบาท กำลังเข้าสู่ช่วงการปรับโมเดลการทำธุรกิจ ต่อไปรายได้หลักจะไม่ได้มาจากการขายเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น แต่จะเติบโตจากธุรกิจอื่นมากขึ้น ล่าสุด "ทักษะ บุษยโภคะ" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงวิชั่นและมุมมองธุรกิจเฟอร์นิเจอร์

- โมเดลธุรกิจโมเดอร์นฟอร์ม

ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์แข่งขันสูง แต่โชคดีที่คนรู้จักแบรนด์โมเดอร์นฟอร์มอยู่แล้ว ผมว่าหนึ่งคือเราอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องมีพันธมิตร อะไรที่ซื้อแล้วถูกกว่าผลิตเองก็ซอร์ซซิ่งเข้ามา สองคือต้องมีวินัย ระมัดระวังเรื่องการเงิน เพราะเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ปัจจุบันสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของเราต่ำ 06-0.7 ต่อ 1 เท่านั้น สามคือเราจะไม่ทุ่มไปที่ใดที่หนึ่ง เลือกกระจายความเสี่ยงให้ครอบคลุม และสี่สำคัญมากคือ หาคนเก่ง ๆ มาร่วมงาน เพราะคุณเก่งคนเดียวไม่ได้

ผมมักพูดเสมอต่อหน้าพนักงาน 2,800 คนว่า ซักเซสแฟกเตอร์ของโมเดอร์นฟอร์ม คือ โชคดีที่มีคนทำงานกับผมเยอะ ๆ แต่โชคร้ายที่เป็นจุดอ่อนคือ...ผมมีคนดี ๆ ไม่พอ อย่างไรก็ตาม ทำธุรกิจต้องดูแลพนักงานเยอะ เงินเดือนและสวัสดิการเราให้สูงกว่าในอุตสาหกรรมเล็กน้อย

- อีก 5 ปีบริษัทจะเป็นอย่างไร

มีคนถามว่าอีก 5 ปีโมเดอร์นฟอร์มจะเป็นอย่างไรผมไม่รู้ แต่เราไม่น่าจะเป็นบริษัทที่ขายเฟอร์นิเจอร์อย่างเดียวอีกต่อไป ! เพราะธุรกิจนี้แข่งขันสูง ใครจะเข้ามาทำได้ ผู้ถือหุ้นก็คาดหวังสูง ปัจจุบันเราเป็นกึ่ง ๆ "โฮลดิ้งคอมปะนี" เข้าไปลงทุนในบริษัทอื่น ๆ และมีขายหุ้นออกไปสัดส่วนรายได้ 30% มาจากบริษัทที่เราเข้าไปลงทุน เมื่อไตรมาส 2/57 เราขายหุ้นที่ถือในเอ็มเฟลกซ์ (บมจ.เอ็มเอฟอีซี) ส่วนรายได้อีก 70% มาจากการขายสินค้า ในเชิงตัวเลขรายได้อีก 5 ปีก็ควรจะได้สัก 1 หมื่นล้าน

ตอนนี้อะไรที่ขายได้เราเอาหมด ขายประตูแล้ว พื้นหิน พรม ไม้ ไวนิล เฟอร์นิเจอร์เฮลท์แคร์เกี่ยวกับโรงพยาบาลและผู้สูงอายุก็ไปได้ดี อนาคตก็ต้องขายสินค้าอื่นด้วย แน่นอนถ้าสร้างบ้านทั้งหลังเราไม่ทำ แต่ขายในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่เรา กลยุทธ์คือเราไม่ขยายกำลังผลิตเอง แต่ใช้วิธีเอาต์ซอร์ซหรือหาพันธมิตรที่มาเลเซียก็มีบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ มีดีลเลอร์ในอเมริกา สปป.ลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ส่วนพันธมิตรในไทยเรื่องระบบแสงสว่างก็ บมจ.ไลต์ติ้งแอนด์ อิควิปเมนท์ ผ้าก็โคกับแบรนด์พาซาย่า ที่ผ่านมาเราไม่ได้ขยายโรงงานมาหลายปีแล้ว แต่ล่าสุดเพิ่งซื้อที่ดินเรื่องโลจิสติกส์และคลังสินค้าแถวบางขุนเทียนใกล้ ๆ โรงงาน เพราะ 2 ปีนี้งานโครงการมีดีเลย์รับสินค้า ต้องไปเช่าสถานที่ ค่าเช่าก็แพง เป็นตัวหนึ่งที่ทำให้กำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ลดลง

- โครงการใหม่ลดลงปรับตัวอย่างไร

ตอนนี้เรากำลังหางานของปี′59-60 แบ็กล็อก (ยอดขายรอรับรู้รายได้) ปัจจุบันมีแล้ว 3,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี′60 ตัวเลขยังเท่าเดิมเพราะเศรษฐกิจชะลอตัว ตอนนี้งานโครงการอสังหาฯบางบริษัทปรับมาใช้วิธีอีบิดดิ้ง (ประมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์) เราสู้ราคาไม่ได้ ก็พยายามไปหางานที่ยากขึ้น งานที่ต้องออกแบบสินค้าใหม่ เช่น โครงการคอนโดฯเดอะแบงคอค สาทรของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ใช้เฟอร์นิเจอร์ออกแบบใหม่ ตอนนี้ก็กำลังดูโครงการของสิงห์ เอสเตท

ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดงานโครงการของโมเดอร์นฟอร์ม ถ้าตอบแบบคอนเซอร์เวทีฟน่าจะ 20% บริษัทอสังหาฯเกือบทุกรายที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นลูกค้าเรา เราทำชุดครัว ตู้เสื้อผ้า เตียง ประตู เฟอร์นิเจอร์ห้องน้ำ แบบฟูลลีเฟอร์นิช ยกเว้นผ้าม่าน สุขภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้ทำ ส่วนงานพื้นได้เป็นบางโครงการ จะได้งานพื้นหินหรือพื้นไม้ที่ราคาสูง

- คีย์ซักเซสงานโปรเจ็กต์

อยู่ที่โครงสร้างสายการผลิต ถ้าผลิตเพื่อขายปลีก ไลน์การผลิตต้องยาว ผลิตเยอะให้ได้ต้นทุนถูก แล้วสต๊อกไว้ สั่งปุ๊บก็ส่งแต่งานโครงการจะเปลี่ยนแบบบ่อย ๆ ไลน์ผลิตจะต้องสั้นและมีหลายไลน์ ค่ายที่ทำรีเทลมาก่อนพอมาจับงานโครงการก็สู้สปีดไลน์ผลิตยาว ๆ ไม่ได้ พอเปลี่ยนแบบบ่อยต้นทุนก็แพงกว่า

ส่วนเรื่องการตั้งราคาบางรายไม่มีประสบการณ์ เช่น ตึกเสร็จช้ากว่ากำหนด น้ำรั่วถูกสินค้าเสียหาย ลืมคิดต้นทุนตรงนี้ เสนองราคาไปถูก ๆ สุดท้ายไปไม่ได้ นอกจากนี้ โจทย์ใหญ่คือทีมติดตั้งเรามีเป็นพันคน เฉพาะของบริษัทเป็นหลักร้อย ที่เหลือเอาต์ซอร์ซ ทุกวันนี้เรามีคนงานออนไซต์ไม่ต่ำกว่า 60 ไซต์ทุกวัน ภูเก็ตมีงานทั้งปีตั้งออฟฟิศเลย

- ตลาดเฟอร์ฯเมืองไทยตันหรือยัง

ไม่ตัน แต่เปลี่ยนรูปแบบไปทางดีไซน์มากขึ้น ขายของมีคุณค่ามากขึ้น พวกไม้ยางพาราขายถูกทยอยเจ๊ง ของถูกให้เพื่อนบ้านเราทำเถอะ อิเกียก็เหมือนกัน ผมว่าเขาไปโตทางพร็อพเพอร์ตี้ด้วย มีธุรกิจศูนย์การค้าให้เช่าพื้นที่ ถ้าขายเฟอร์นิเจอร์อย่างเดียวก็เหนื่อย

- คำแนะนำผู้บริโภค

ซื้อกับรายไหนก็ได้ที่มีความรู้จริงเรื่องการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ เพราะเดี๋ยวนี้มีรายใหม่เข้ามาเยอะ สักแต่ซื้อมาขายไป ออฟฟิศต้องรู้หลักการจัดวาง การโฟลว์ทำอย่างไรให้พนักงานทำงานมีประสิทธิภาพ ดูเหมือนง่ายแต่ยาก ชุดครัวก็เหมือนกัน เช่น อ่างล้างจานต้องมีที่วางด้านข้าง หยิบของจากตู้เย็นควรจะใกล้กับอะไร บานไหนควรเป็นลิ้นชักหรือบานเปิด พวกนี้ต้องอาศัยโนว์ฮาว

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat