ค่าบาทอ่อนดันยอดขายอสังหาฯ ไทยกับลูกค้าต่างชาติโต แสนสิริลุยเปิดตลาดปักกิ่งรับดีมานด์ลูกค้าจีน
แสนสิริ เผยค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่ำกว่า 36 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำสุดในรอบ 6 ปี 6 เดือน เอื้อต่างชาติซื้ออสังหา ฯไทยราคาถูกลง เชื่อช่วยดันยอดขายคอนโดไทยโตได้อีก เผยคอนโดภูเก็ตมาแรงในตลาดจีน และไต้หวัน เหตุนิยมซื้อเพื่อเป็นคอนโดตากอากาศ ด้านคอนโดกรุงเทพฯ ยังฮอตต่อเนื่องในกลุ่มนักลงทุนฮ่องกง และสิงคโปร์ ล่าสุด เตรียมส่ง 6 โครงการคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ และภูเก็ตโรดโชว์ตลาดสิงคโปร์-ฮ่องกง-ไต้หวัน กระตุ้นต่างชาติชอปอสังหาฯ ไทยต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าบุกตลาดใหม่ “ปักกิ่ง” รับดีมานด์คนรวยจีนหวังกวาดยอดขายลูกค้าต่างชาติกว่า 3,000 ล้านบาทในปีนี้

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า ปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุด ทะลุ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี 6 เดือน โดยธนาคารพาณิชย์ให้ความเห็นว่าค่าเงินบาทไทยจะอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเริ่มแข็งตัว ในขณะที่ค่าเงินประเทศเพื่อนบ้านไทยอย่างมาเลเซีย และอินโดนีเซียอ่อนตัวลง จึงฉุดค่าเงินบาทไทยให้อ่อนลงไปด้วย ประกอบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการเมืองไทยที่ต่างชาติยังต้องการดูความชัดเจน ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ประมาณการค่าเงินบาทว่าจะแกว่งตัวในระดับ 35.75-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีนี้ และมีโอกาสไปถึง 38-40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 2559

       “แสนสิริมองว่าค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจะส่งผลที่ดีต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยโดยตรง เพราะจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวของชาวต่างชาติถูกลง จึงทำให้มีต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนกลุ่มนี้อาจจะเป็นกลุ่มคนที่สนใจซื้ออสังหาฯ ไทยในอนาคตได้ นอกจากนั้น เงินบาทที่อ่อนค่าลงยังเป็นปัจจัยบวกต่อชาวต่างชาติที่สนใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยอีกด้วย เพราะสามารถซื้ออสังหาฯ ในราคาที่ถูกลงถึง 9% เมื่อเทียบกับค่าเงินบาทเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จึงเป็นเหตุให้ลูกค้าต่างชาติทั้งที่ซื้ออสังหาฯ เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ และซื้ออสังหาฯ เพื่อการลงทุนปล่อยเช่าสามารถตัดสินใจในการซื้อคอนโดมิเนียมได้เร็วขึ้น”

       นายอุทัย กล่าวต่อว่า กลุ่มลูกค้าต่างชาติในประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกงยังคงนิยมซื้อลงทุนในคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ เป็นหลัก โดยพิจารณาจากทำเลใกล้รถไฟฟ้า และผลตอบแทนเรื่องอัตราเช่าเป็นสำคัญ ซึ่งโซนที่นิยมก็ยังคงเป็นทำเลสีลม เพลินจิต อโศก พร้อมพงศ์ และทองหล่อ เพราะเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจ และไลฟ์สไตล์ แต่ในช่วง 1-3 ปีที่ผ่านมาโซนพระโขนง และอ่อนนุชเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะทำเลติดรถไฟฟ้าสายหลักที่เดินทางไปยังย่านธุรกิจ และความบันเทิงได้ง่าย แต่ราคาคอนโดมิเนียมถูกกว่าถึง 30-60% ขณะที่ให้ผลตอบแทนจากค่าเช่าถึง 5-7% ด้านลูกค้าต่างชาติในประเทศจีน และไต้หวันให้ความสนใจคอนโดมิเนียมในภูเก็ตมากกว่า เนื่องจากต้องการที่พักตากอากาศในเมืองชายทะเลที่สามารถปล่อยเช่าในช่วงที่ไม่ได้เดินทางมาพักผ่อนได้ด้วย

       “แสนสิริเล็งเห็นโอกาสในการเพิ่มยอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติในช่วงนี้ จึงวางแผนจัดโรดโชว์โครงการคอนโดมิเนียมกรุงเทพฯ คือ เดอะ เบส พาร์คเวสท์ และเดอะ เบส พาร์คอีสต์ ในประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง รวมทั้งโรดโชว์โครงการในภูเก็ต คือ บ้านไม้ขาว เดอะ เดค ป่าตอง เดอะ เบส ไฮท์ ภูเก็ต และเดอะ เบส อัพทาวน์ ภูเก็ตในไต้หวันในเดือนกันยายนนี้”

       นอกจากนั้น แสนสิริจะเปิดตลาดปักกิ่ง ประเทศจีน เพิ่มขึ้นอีกตลาดหนึ่งเพื่อนำโครงการคอนโดมิเนียมในภูเก็ตไปโรดโชว์ในเดือนนี้ด้วย เพราะมองว่ากลุ่มลูกค้าระดับบนชาวจีนน่าจะมองหาคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เพื่อมาพักผ่อนในช่วงไฮซีซันปลายปี รวมทั้งยังนับเป็นอีกช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นจีน ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าการโรดโชว์ในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องจะสามารถช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าต่างชาติเป็น 10%ในปีนี้ได้ หรือคิดเป็นมูลค่าการขายกว่า 3,000 ล้านบาท จากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 5% ทั้งนี้ ระหว่าง 1 มกราคม-9 กันยายน 2558 แสนสิริมียอดขายจากลูกค้าต่างชาติแล้วถึง 2,000 ล้านบาท จากการขายโครงการเดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 71 และโครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา

“อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้ยอดขายและรายได้ของแสนสิริได้รับผลกระทบจากการผันผวนของค่าเงินที่เกิดขึ้น บริษัทจึงมีการตั้งราคาขายคอนโดมิเนียมเป็นเงินบาท แต่ก็เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการตัดสินใจของลูกค้าต่างชาติ เพราะกระแสการซื้อลงทุนอสังหาฯ เพื่อลงทุนในประเทศไทยในภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวน และค่าเงินแกว่งตัวกำลังมาแรงมากในช่วงปลายไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีนี้”




Create Date : 14 กันยายน 2558
Last Update : 14 กันยายน 2558 10:11:53 น.
Counter : 470 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 922554
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



กันยายน 2558

 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
17
18
19
20
21
23
25
27
28
29
 
 
All Blog