ส.อาคารชุดปรับเป้าอสังหาฯ ปี 58 โต 13% หลังคอนโดฯ หรูครึ่งปีแรกโตพุ่ง 72% ทาวน์เฮาส์โต 20%
ส.อาคารชุด เล็งปรับประมาณการอสังหาฯ ปี 58 โต 13% จากเดิมคาดการณ์โต 5% เผยตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีแรกโต 31% หรือ 1.79 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งจากคอนโดฯ หรูโตพุ่ง 72% ทาวน์เฮาส์โต 20% ขณะที่บ้านเดี่ยวติดลบ 14% ฉุดตลาดรวมโตตาม เหตุดอกเบี้ยต่ำดึงดูดนักลงทุนแห่ซื้อ เตือนระวังเก็งกำไรหนุนตลาดโอเวอร์ซัปพลาย
นายประเสริฐ แต่ดุลยาสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยภายในงานสัมมนาวิชาการ 33 ปี เอ็มบีเอ จุฬา ก้าวสู่ความหยั่งยืนทางธุรกิจ ว่า ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนเติบโตขึ้นอย่างมาก จนไปดึงตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมโตตามไปด้วย ซึ่งในเร็วๆ นี้ สมาคมจะปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าตลาดจะโต 5% เป็น 13% หรือมูลค่า 330,000 ล้านบาท โดยคาดว่าตลาดคอนโดฯ จะเติบโตที่ระดับ 27% ในขณะที่ตลาดบ้านเดี่ยวติดลบ 4%
ทั้งนี้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์เติบโตถึง 31% หรือ 179,344 ล้านบาท โดยเฉพาะคอนโดฯ ระดับบน ส่วนคอนโดฯ ระดับกลางถึงล่างยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร โดยภาพรวมคอนโดฯ โตราว 72% ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมเติบโตนั้นมาจากดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เพราะราคาตลาดสูงกว่าราคาขาย แต่ทั้งนี้ สมาคมฯ เตือนให้ระมัดระวังความต้องการซื้อเทียม หรือการเก็งกำไรที่อาจส่งผลให้มีสินค้าล้นตลาดภายหลังได้ ส่วนตลาดทาวน์เฮาส์ในช่วงครึ่งปีแรกโต 20% แต่บ้านเดี่ยวติดลบถึง 14%
สำหรับในส่วนของบริษัทพฤกษา เรียเอสเตท จำกัด (มหาชน) ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 10% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 43,026 ล้านบาท และคงเป้าหมายยอดขายโต 20% หรือ 47,000 ล้านบาท เนื่องจากมียอดขายรอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) ประมาณ 36,000-37,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้หลังจากนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังอีก 45-48 โครงการ ทำให้ปีนี้รวมแล้วปีนี้เปิดโครงการใหม่ 70-75 โครงการ มูลค่ารวม 60,000 ล้านบาท
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ปีนี้เป็นปีของบริษัทขนาดใหญ่ และโครงการขนาดใหญ่ เพราะกฎหมายเอื้อทำให้แนวโน้มการซื้อกิจการ ควบรวมกิจการ และการร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะต้องใช้ฐานเงินทุนที่ใหญ่ อีกทั้งเศรษฐกิจยังไม่ดีนัก ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กดำเนินธุรกิจยากลำบากมากขึ้น สะท้อนได้จากส่วนแบ่งทางการตลาด 51% เป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ 12 แห่งเท่านั้น
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
