ผ่านมาครึ่งทางสำหรับปี 2558 อาจกล่าวได้ว่าเป็นปีที่ยากลำบากอีกปีหนึ่ง เพราะภาวะเศรษฐกิจมีปัจจัยลบรุมเร้าสุมอกทั้งภายในและนอกประเทศ "ประชาชาติธุรกิจ" สัมภาษณ์ "น.พ.สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม" กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง หรือ NC บริษัทพัฒนาที่ดินขนาดกลางที่ยังมองแนวโน้มครึ่งปีหลังอย่างมีความหวัง

- ผลประกอบการครึ่งปีแรก

เศรษฐกิจชะลอตัว เรากระทบบ้างแต่ไม่เยอะมาก ตอนแรกก็ดูดี ไตรมาส 1 ตัวเลขดีมาก ไตรมาส 2 เริ่มตกลงมา แต่เฉลี่ยแล้วยังอยู่ในเกณฑ์แผนธุรกิจ ผมมองว่าครึ่งปีหลัง (กำลังซื้อ) น่าจะกลับมา เพราะมองว่าจะเซตเทิลดาวน์ มู้ดจับจ่ายใช้สอยจะกลับมา เราขายในสิ่งที่เป็นเรียลดีมานด์ ไม่ได้เก็งกำไร เพราะฉะนั้น สถานการณ์ต้องบอกว่าตลาดเก็งกำไร จะเป็นตลาดที่ต้องดร็อปลงไป

ถามว่าแยกผู้ซื้อเก็งกำไรกับอยู่จริงดูยังไง ก็ดูจากของเราดีกว่า คนที่มาซื้อกับเราส่วนใหญ่รับโอนกรรมสิทธิ์ ซื้อแล้วอยู่เลย 60-70% แน่นอนต้องมีลูกค้าเก็งกำไรบ้างสัก 10% ซึ่งไม่เยอะมากมาย

การที่เราเน้นเจาะลูกค้าตลาดเรียลดีมานด์ พอ (ผู้ซื้อ) ทุกคนหายกลัวว่าตัวเองจะตกงานไหม หรือรายได้ตัวเองจะหดไหม ถ้าไม่มีปัญหานั้น ภายใน 3-4 เดือนนี้น่าจะรู้แล้วแหละ นี่คือแนวโน้มที่มองว่าภายในไตรมาส 4 เราจะสามารถพลิกยอดขายกลับมาได้และผมมั่นใจว่าผลประกอบการของเราไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

แนวคิดการตั้งราคาขายของNC ไม่สนับสนุนเก็งกำไรมาก จะให้บอกชี้ชัดไปเลยว่า ลูกค้าเรียลดีมานด์นั้นพูดยาก เพราะไม่ว่าราคาไหนก็ตามก็มีลูกค้าเก็งกำไรได้ทั้งนั้น แต่ถ้าจะให้ดูจริง ๆ นิยามเก็งกำไรคือมีคนมาซื้อแล้วให้ส่วนลดเยอะ เพื่อให้ไปเก็งกำไรต่อ นั่นแหละคือการเก็งกำไร

- ตัวเลขยอดพรีเซล

ยอดขายต่ำกว่าเป้าหน่อยหนึ่ง แต่พูดมากไม่ได้ (ยิ้ม) เพราะยังมีกฎกติกาควบคุมอยู่ เพราะเราเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ สิ่งที่บอกได้คือไตรมาส 3 ยังต้องลุ้น ไตรมาส 4 น่าจะกลับมาดีขึ้น สุดท้ายยอดรับรู้รายได้น่าจะเข้าเป้า

- ภาพรวมครึ่งปีหลัง

น่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ แบบค่อย ๆ ฟื้น ที่ยอดขายตกลงเยอะเพราะปัญหาส่งออก ข่าวภัยแล้งมันแรงมาก ก็หวังว่าพอพ้นครึ่งปีแรก ทุกคนจะรู้ตัวแล้วว่าได้รับผลกระทบแค่ไหน เรื่องการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาเพราะเข้าช่วงไฮซีซั่น นั่นคือภาพใหญ่

ในส่วนของภาคอสังหาฯ ผมพูดเฉพาะสินค้าของเรา โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมแบรนด์ "เนทูเรซ่า" อยู่ในพัทยาซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว คิดว่าผลประกอบการจะกลับมาดีเหมือนเดิม อันนี้หมายถึงยอดขาย ยอดจองนะ ยอดรับรู้ไม่น่าห่วง เพราะเรามีแบ็กล็อก (ยอดขายรอโอน) คอนโดฯเหลือ 300-400 ล้าน จะรับรู้ภายในครึ่งปีหลังส่วนคอนโดฯแบรนด์ "ดิอามองต์" ที่เชียงใหม่ ปลายปีจะทยอยรับรู้รายได้เช่นกัน

- ประสบการณ์ออกต่างจังหวัด

เรารู้อยู่แล้วว่าต่างจังหวัดเป็นตลาดไม่ใหญ่มาก ธุรกิจอสังหาฯตลาดใหญ่สุดอยู่ที่ กทม.-ปริมณฑล ขณะที่ปีนี้ต่างจังหวัดกระทบด้วยภาวะท่องเที่ยวและภัยแล้งมากกว่าคนกรุงเทพฯ ซึ่งรับเงินเดือนประจำ ลูกค้ากลุ่มนี้ถ้าไม่ตกงานจะไม่มีปัญหา นั่นหมายความว่าทำให้ตลาดต่างจังหวัดอ่อนไหวมากกว่า เวลาถูกกระทบด้วยสิ่งต่าง ๆ จึงค่อนข้างเร็ว การปรับตัวต้องค่อนข้างเร็ว ยืดหยุ่นสูงกว่าตลาดกรุงเทพฯ

อย่างน้อยที่สุดในต่างจังหวัดจะเห็นว่า ตลาดอสังหาฯเริ่มโตขึ้น เป็นแนวโน้มที่ดีอย่างหนึ่งของประเทศเรา การเติบโตไม่ได้สะสมแค่กรุงเทพฯและปริมณฑล แสดงว่าความเจริญเริ่มขยายออกไปข้างนอก เราน่าจะดีใจที่เห็นการเติบโตออกไปอย่างนี้ เพราะจะเกิดการขยายตัวที่แรงและเร็วกว่า จีดีพีของประเทศก็จะโตได้เร็วกว่า เพราะจุดการเจริญเติบโตถ้าพึ่งพิงจุดเดียวคือกรุงเทพฯ เหมือนในอดีต กับจะมี 20-30 จุดมาช่วย ๆ กัน จะสะสมทำให้เศรษฐกิจภาพรวมโตขึ้น

สำหรับ NC คงออกต่างจังหวัดในจุดที่เราสามารถทำได้มากกว่าออก (ลงทุนพัฒนาโครงการ) ทุกจุดคงไม่ได้ ขึ้นกับความพร้อมของคนและเงินทุน แผนพัฒนาโครงการจึงขยายงานตามความสามารถของเราแหละ ซึ่งก็คือที่พัทยากับเชียงใหม่ถ้าให้ผมมองข้ามชอตไปถึงปี"59 ก็มองว่าประเทศไทยยังมีโอากสขยายตัวและเติบโตได้เยอะ ต้องกลับมาเรื่องเดิมคือเปิดประเทศเป็นเออีซี (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) ถ้าทำได้จริง ประเทศไทยมีศักยภาพมาก เราน่าจะสามารถทำให้ประเทศเรามีการเติบโตได้เยอะ

- เทรนด์ยุคนี้ต้องเทกโอเวอร์

เทรนด์พวกนี้ก็มีข้อดีข้อเสีย การรวมกันมีข้อดีทำให้อสังหาฯเป็นรายใหญ่มากขึ้น ขีดสามารถลงทุนมากขึ้น แต่ข้อเสียคืออย่าให้เกิดมากเกินไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดโมโนโพลี(ผูกขาด) คิดดูถ้าฮุบ (ควบกิจการ) ได้หมด อีกหน่อยก็ฮั้วกันขึ้นราคาบ้าน เรา NC คงยังไม่ควบกิจการใคร (หัวเราะ)

- อะไรเหนื่อยสุดในครึ่งหลัง

ก็ยังมองว่าเศรษฐกิจนั่นแหละ รัฐจะผลักดันให้โตขึ้นได้หรือเปล่า เออีซีถ้าเปิดแล้วประเทศเราแข็งแรง เราจะได้ประโยชน์เยอะ แต่ถ้าไม่แข็งแรงจะเสียโอกาส ผมมองว่าตอนนี้ไทยยังไม่แข็งแรงนะ ภาพโดยรวมขีดสามารถเรายังไม่ค่อยดี เราเก่งประชาสัมพันธ์อย่างเดียว ไม่ได้เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องอุดหนุนเงิน ลดภาษีอย่างเดียว โจทย์น่าจะอยู่ที่ทำยังไงให้วินัยคนเพิ่มมากขึ้น

ภาคอสังหาฯกระทบมากไหม ? อืมม์ เฉย ๆ นะ เราเติบโตตามสถานการณ์ คือไม่สามารถไปฝืนธรรมชาติของมันอยู่แล้ว ก็เติบโตไปเรื่อย ๆ ไม่น่าจะมีอะไร สิ่งที่กลัวคือภาวะแวดล้อมที่ควบคุมไม่ได้มากกว่า

ติดตามข่าวสารผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat