ฟันธงพระราม4ที่ดินพุ่งปรี๊ด เซ็นจูรี่เผยทำราคาสูงกว่า2ล้าน/วา ทุบสถิติแพงที่สุดในประเทศไทย
เซ็นจูรี่ 21 แนะจับตาสถิติซื้อขายราคาที่ดินใหม่ย่านพระราม 4-ศาลาแดง คาดพุ่งสูงกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวา แพงสุดในประเทศไทย ชี้รายใหญ่ยังคงซื้อต่อเนื่อง ส่วนศรีราชาเมืองชลก็ซื้อขายคึกคัก


นายกิตติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2558 เป็นที่น่าพอใจแต่ละหน่วยธุรกิจก็มีผลประกอบการอยู่ในระดับที่ดีสวนทางกับภาวะของตลาดโดยรวมที่การซื้อขายค่อนข้างชะลอตัว โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้สามารถทำยอดขายรวมได้ 90% ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโต 30% เมื่อเทียบปี 2557 ส่วนการซื้อขายที่ดินนั้น ยังมีความเคลื่อนไหวในการซื้อขายที่ดินอย่างต่อเนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ โดยที่ดินที่น่าจับตามองที่คาดว่าจะทำลายสถิติการซื้อขายใหม่ด้วยราคาสูงสุด ก็คือที่ดินย่านพระราม4-ศาลาแดง ที่คาดว่าจะมีราคาสูงที่สุดในกรุงเทพฯคือ สูงกว่าแปลงสุขุมวิท 24 ที่ซื้อขายกันที่ 2 ล้านบาทต่อตารางวา นอกจากนี้ ยังพบว่าทำเลที่มีการซื้อขายที่ดินคึกคักอีกที่คือพื้นที่ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม เช่น ศรีราชา ชลบุรี ซึ่งปัจจุบันราคาซื้อขายก็เพิ่มขึ้นสูงมาก แต่การที่ดีลจะจบหรือไม่จบนั้นก็ยังคงขึ้นอยู่ว่าผู้ซื้อซื้อไปแล้วจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่อย่างไร ซึ่งตรงนี้น่าจะเป็นตัวสะท้อนว่าราคาที่ดินควรจะอยู่ที่ราคาไหน

นายกิตติศักดิ์ยังได้กล่าวถึงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจว่าบริษัทจะยังคงเดินหน้าขยายแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ "เซ็นจูรี่21" ที่ปัจจุบันมี 50 สาขาทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดและจะมีอีก 3 รายที่กำลังเซ็นสัญญาและจะเปิดสาขาใน 1-2เดือนนี้ และในปีนี้ตั้งเป้าเปิดแฟรนไชส์ใหม่เพิ่มอีก 20 สาขา ทำให้สิ้นปีน่าจะมีสาขาแฟรนไชส์รวมทั้งสิ้น 80 สาขา แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว ก็ยังมีผู้ที่สนใจเข้ามาคุยปรึกษาถึงเรื่องการดำเนินธุรกิจซื้อขายเช่า อสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง เพราะแนวโน้มในอนาคตตลาดจะซื้อขายผ่านมืออาชีพและผ่านตัวแทนที่มีไลเซนส์มากขึ้น

"ด้านตลาดบ้านมือสอง หรือรีเซล ก็ถือได้ว่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ได้หวือหวามาก แต่คาดว่าต่อจากนี้ตลาดรีเซลน่าจะเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทมากขึ้น เพราะโครงการที่อยู่ในทำเลดีๆ ที่สามารถพร้อมอยู่แล้วมีจำนวนจำกัด ทำให้ลูกค้าที่ต้องการโครงการเหล่านั้น เข้ามาใช้บริการเอเยนต์บ้านมือสองเพิ่มขึ้น" นายกิตติศักดิ์กล่าว และว่า ส่วนอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีหลายปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาฯให้ชะลอตัว ได้แก่ 1.กำลังซื้อที่คาดว่าจะไล่ไม่ทันราคาซื้อขายที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น 2.อัตราการเติบโตของจีดีพีที่ระดับ 3% ยังไม่เอื้ออำนวยให้ภาคธุรกิจอสังหาฯเติบโตแบบก้าวกระโดดเหมือนในอดีต 3.ปัญหาภัยธรรมชาติ คือภัยแล้ง ซึ่งมีผลกระทบต่อทุกๆ ส่วน และ 4.หนี้สินภาคครัวเรือนยังอยู่ในอัตราที่สูง จะทำให้สภาพคล่องในระบบการเงินเกิดภาวะตึงตัวทำให้สถาบันการเงินระมัดระวังการปล่อยกู้


ที่มา : นสพ.มติชน




Create Date : 26 สิงหาคม 2558
Last Update : 26 สิงหาคม 2558 9:55:23 น.
Counter : 303 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 922554
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



สิงหาคม 2558

 
 
 
 
 
 
2
5
7
8
9
11
12
14
15
16
17
20
21
23
25
27
29
30
 
 
All Blog