ภายในโครงการประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ 1) สโมสรกีฬาและสุขภาพ ขนาด 1 หมื่นตร.ม. ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสโมสรกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่มีสระว่ายน้ำแบบชายทะเลสไตล์รีสอร์ท 2) พื้นที่ร้านค้าปลีก ขนาด 2 หมื่นตร.ม.

3) พื้นที่สำนักงาน ขนาด 3 หมื่นตร.ม. ในคอนเซ็ปต์ co-working space ที่จะออกแบบให้มีลักษณะเปิดโล่ง ทันสมัย ใกล้ชิดธรรมชาติ และมี Innovative Ecosystem เป็นพื้นที่สร้างสรรค์วิจัยนวัตกรรม และมีพื้นที่ให้คำปรึกษาทางธุรกิจและเครือข่ายระดมทุนแบบ Crowd Funding 4) พื้นที่โครงการที่พักอาศัย 3 อาคาร รวมพื้นที่ 1.4 แสนตร.ม. ซึ่งจะมีระบบ Smart Home Automation System สามารถสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ดวงไฟ เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ได้จากระยะไกลแม้อยู่นอกบ้าน



และโครงการยังจัดให้มี Whizdom Track (วิสซ์ดอม แทร็ก) ซึ่งเป็นเลนจักรยานและลู่วิ่งลอยฟ้าแบบหลายระดับภายในอาคาร วิ่งผ่านทั้งพื้นที่ทั้งในและนอกอาคาร ความยาว 1.3 กม. เป็นแห่งแรกในประเทศไทย

นายวิสิษฐ์กล่าวว่า โครงการ Whizdom 101 มีกำหนดก่อสร้างเสร็จในปี พ.ศ.2561 ตอบรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่เชื่อว่าผู้ซื้อมีความต้องการโครงการที่มีมาตรฐาน ซึ่งโครงการนี้ MQDC ได้พันธมิตรออกแบบดีไซน์ระดับโลก คือ เกนสเลอร์ (Gensler) และร็อคเวล กรุ๊ป (Rockwell Group) ร่วมงาน และกลุ่มบริษัทคลับคอร์ป (Club Corp) ซึ่งเป็นผู้บริหารสโมสรกีฬาชั้นนำ มาบริหารสโมสรกีฬาในโครงการ

"การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลายเป็นเรื่องของการนำเสนอและส่งมอบไลฟ์สไตล์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตให้กับผู้คน ไม่ใช่เป็นแค่การก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป"



"ผู้คนจะมีพื้นที่ชุมชนและพื้นที่สีเขียวที่เป็นธรรมชาติ สามารถใช้เวลาของตัวเองอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ มากกว่าการใช้เวลาว่างอยู่ในคอฟฟี่ช็อปและร้านค้าเพียงอย่างเดียว ดังนั้นโครงการโดยรวมจะเป็นที่ดึงดูดใจสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีบุตรหลานซึ่งกำลังเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษาจำนวนมากที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับโครงการ" นายวิสิษฐ์กล่าว

Cr.//www.prachachat.net/