ถึงต้องรอมาพักหนึ่ง แต่ในที่สุดสถาบันการเงินก็ทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 ตาม ธปท.-ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดต่อกัน 2 ครั้ง รวม 0.5% จาก 2% เหลือ 1.75% และล่าสุดเหลือ 1.5% แน่นอนว่าทุกครั้งลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง ย่อมส่งผลต่อผู้ซื้อที่อยู่อาศัย
ลดต้นทุนผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก
จากการสำรวจความเห็นจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มจาก "ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต"นายกสมาคมอาคารชุดไทย มองว่าผลดีกับธุรกิจอสังหาฯมี 2 ส่วน ได้แก่ 1)ฝั่งผู้ประกอบการรายกลาง-รายเล็ก ที่ใช้เงินกู้สถาบันการเงิน จะมีต้นทุนดอกเบี้ยถูกลง
และ 2)ฝั่งผู้ซื้อบ้าน การที่สถาบันการเงินลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง รวม 30-40 สตางค์ จะเพิ่มความสามารถการกู้ได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 3% เช่น ฐานรายได้ปัจจุบันเคยซื้อบ้านได้ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ก็จะเพิ่มเป็น 1.03 ล้านบาท ฯลฯ อย่างไรก็ตามจะส่งผลกับคนที่ซื้อบ้าน-คอนโดฯพร้อมอยู่หรือถึงกำหนดโอนในช่วงนี้
กระตุกดีมานด์ใหม่ได้ผลน้อย
ขณะที่ "เนรมิต สร้างเอี่ยม" เอ็มดี บจ.แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ ที่พัฒนาคอนโดฯแบรนด์ "ยู-ยูดีไลท์" มองว่า การที่ธนาคารทยอยปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้รอบที่ 2 คงไม่ได้ทำให้เกิดแรงจูงใจในการซื้อบ้านอย่างมีนัย อย่างไรก็ตามถือเป็นข่าวดีที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาพรวมเศรษฐกิจ ส่วนสำหรับกลุ่มลูกค้าวางเงินดาวน์ไปแล้วก่อนหน้านี้และใกล้ถึงกำหนดโอน ก็เสมือนได้โบนัสเพราะจะเพิ่มความสามารถในการกู้ได้มากขึ้น
สอดคล้องกับ "ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม" กรรมการและรองเอ็มดีค่ายศุภาลัย ระบุว่า ทุกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง 25 สตางค์ ช่วยเพิ่มความสามารถกู้ซื้อบ้านราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 1-2% และโดยรวมน่าจะส่งผลดีกับโครงการแนวราบมากกว่า เพราะซื้อคอนโดฯวันนี้ หากเป็นตึกสูง 20 ชั้น ต้องใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี จึงไม่ได้มีผลกับการตัดสินใจซื้อ
ส่วน "ชัยรัตน์ โกวิทจินดาชัย" ผู้อำนวยการสำนักงานกรรมการผู้จัดการจากปริญสิริมองว่า สถานการณ์ปัจจุบันผู้บริโภคยังมีเงิน แต่ไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจจึงชะลอการใช้เงิน โดยเฉพาะบ้าน-คอนโดฯที่มีราคาสูง ดังนั้นถึงแม้ลดดอกเบี้ยลง แต่เศรษฐกิจยังไม่ดี ผู้บริโภคก็ยังชะลอการซื้อบ้าน
ชี้แบงก์ลดดอกเบี้ยน้อย
ขณะที่ "วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต" รองประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคชี้ว่า ถึงแบงก์ชาติปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง รวม 0.5% ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ปรับลดลง2 ครั้งจริง แต่ลดลง 0.30-0.35 สตางค์ถือว่าไม่มาก ในทางปฏิบัติจึงช่วยให้ผู้ซื้อบ้านที่รายได้ยังต่ำกว่าเกณฑ์ของธนาคารอยู่เล็กน้อย มีโอกาสจะกู้ผ่านได้ แต่กับการตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ มีผลน้อยมาก
ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง วิเคราะห์ว่าอาจได้เห็นอัตราดอกเบี้ยปรับลดลงอีก 1 ครั้ง ที่ 25 สตางค์ ก็ถือว่าพอช่วยกระตุ้นธุรกิจอสังหาฯได้บ้าง แต่ไม่มากนัก
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat