นางสุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารกลุ่มสินค้า บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด ศูนย์จำหน่ายสินค้าบ้านและวัสดุก่อสร้างครบวงจร ทั้งในรูปแบบของค้าปลีกและค้าส่ง เปิดเผยว่า บริษัทยังคงแผนธุรกิจ 5 ปี ภายใต้เป้าหมายขยายครบ 20 สาขา ภายในปี 2560 ภายหลังจากเมกาโฮมเปิดให้บริการจะครบ 2 ปี ในเดือนตุลาคมนี้ โดยล่าสุดมี 5 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาที่มีนบุรีและที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ใช้งบลงทุนแห่งละ 400-500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 2,800 ล้านบาท ในปี 2557 โดย 6 เดือนแรกมียอดขายแล้วเกือบ 2,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 11% ขณะที่สัดส่วนลูกค้า 70% เป็นผู้อยู่อาศัย อีก 30% เป็นผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ขนาดกลาง-ย่อม หรือเอสเอ็มอี โดยกำลังซื้อครึ่งปีแรกค่อนข้างดี ปัญหาภัยแล้งยังส่งผลบวกทำให้ยอดขายในกลุ่มท่อน้ำและเครื่องสูบน้ำขายดีจนเกิดภาวะสินค้าขาดตลาด ส่วนแผนการตลาดช่วงครึ่งปีหลังบริษัทพยายามเจาะกลุ่มนี้มากขึ้น ด้วยการทำกิจกรรมการตลาดและการโฆษณาผ่านรายการวิทยุท้องถิ่นมากขึ้น พร้อมกับจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบเชิงลึก

"ปัจจุบันสาขารังสิตเป็นสาขาที่สร้างยอดขายสูงที่สุด ขณะที่สาขา อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งฐานลูกค้าหลักนอกจากเป็นผู้รับเหมาช่วงงานก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยและโรงแรมของผู้ประกอบการท้องถิ่นแล้ว ยังมีฐานลูกค้าสำคัญคือพ่อค้าคนกลางที่ซื้อไปจำหน่ายในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งปัจจุบันมีการขยายตัวของงานก่อสร้างเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับสาขาหนองคายที่สามารถรองรับการขายไปถึงเมืองเวียงจันทน์ ประเทศลาว ส่วนสาขาบ่อวิน จ.ชลบุรี มีทั้งฐานลูกค้าเจ้าของบ้าน ผู้รับเหมาซ่อมแซมและผู้รับเหมาช่วง" นางสุพรศรีกล่าว และว่า จะเติบโตอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเป็นโมเดลธุรกิจใหม่ทำให้การขยายสาขาพร้อมไปกับการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในเชิงลึก โดยมีสินค้า 23 หมวด ถือว่าครบทุกรายการเพราะมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมดกว่า 1 แสนรายการ

นางสุพรศรีกล่าวว่า จุดแข็งของเมกาโฮมไม่ใช่เรื่องราคา แต่มีความครบครันของสินค้าเกี่ยวกับคนทำบ้านตัวจริง ไม่ว่าจะอิฐ หิน ปูน เหล็กเส้น โคมไฟ ไม้ รางปลั๊ก เก้าอี้ จาน ชาม ช้อน หลอด และอื่นๆ ทำให้ลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายผู้รับเหมาต่อเติม-ซ่อมแซมบ้าน และผู้รับเหมาสร้างบ้าน มาที่เดียวสามารถประหยัดเวลา ลดต้นทุน และทำให้งานเสร็จไว ส่วนนโยบายการขยายสาขายังคงอยู่ภายใต้ 3 รูปแบบ คือ การเปิดสาขาบริเวณปริมณฑล สาขาบริเวณชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านหรือจังหวัดที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ อาทิ จ.ตราด จ.มุกดาหาร และ อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมองสาขาบริเวณนิคมอุตสาหกรรมด้วย




ที่มา : นสพ.มติชน