ราคาที่ดินลาดพร้าวปรับเพิ่ม 65% -- รัฐเตรียมช่วยคนซื้อบ้านใหม่ปีหน้า -- ค่าไฟฟ้าขึ้นหน่วย 14 สตางค์

. . .


ธปท.ยืนยันธนบัตรชนิด 100 บาทและ 500 บาท มีเพียงพอ หลังประชาชนกลัวแบงก์ 1,000 บาทปลอมระบาด

นายนพพร ประโมจนีย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายจัดการธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า หลังจากประชาชนกังวลปัญหาธนบัตรปลอม ทำให้มีการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มเป็นธนบัตรใบละ 500 บาท และ 100 บาท มากขึ้น จนทำให้แบงก์ดังกล่าวหมดตู้เอทีเอ็ม ซึ่งยืนยันว่า ธนบัตรทุกชนิดราคาจะไม่ขาดแคลน โดย ธปท.มีการจ่ายธนบัตรให้ธนาคารพาณิชย์ เพื่อแจกจ่ายผ่านเคาน์เตอร์และตู้เอทีเอ็ม สำรองไว้ถึง 3.5 เดือน และในช่วงเทศกาลจะเพิ่มการสำรองอีกร้อยละ 50 จึงมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาการขาดแคลนแน่นอน

ส่วนที่มีความกังวลว่า การเบิกเงินผ่านตู้เอทีเอ็มแล้วจะพบธนบัตรปลอม ทาง นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย ได้ยืนยันก่อนหน้านี้แล้วว่า ทางธนาคารรับประกัน หากมีปัญหาแบงก์ปลอมก็สามารถคืนได้ และจากการประสานงานกับฝ่ายบริหารเงินสด พบว่ามีเครื่องมือในการตรวจสอบธนบัตรได้ จึงเชื่อว่าธนบัตรปลอมคงจะไม่หลุดรอดออกมา ขณะเดียวกัน การเบิกจ่ายผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร พนักงานจะต้องระวังเป็นพิเศษ ตรวจสอบ 100% ก่อนนำออกจ่ายให้ประชาชน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ธนบัตรหมวด 9A, 2D มีการปลอมแปลงมากที่สุด ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะธนบัตรปลอมกระจายอยู่ในทุกหมวด ขอให้ประชาชนสังเกตธนบัตรทุกครั้ง จะช่วยยับยั้งธนบัตรปลอมได้

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปัญหาที่ประชาชนตื่นธนบัตรปลอมจะเป็นภาวะชั่วคราว เพราะประชาชน พ่อค้า จะเรียนรู้เกี่ยวกับการสังเกตธนบัตรปลอมมากขึ้น
นายนพพร กล่าวว่า ธปท.ได้ประสานกับตำรวจ เพื่อสาวให้ถึงต้นตอการปลอมแปลงธนบัตร ซึ่งเคยจับกุมผู้ผลิตได้ และได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกไปให้ข้อมูลตามแหล่งสำคัญต่างๆ เช่น ตลาดโรงเกลือ ตลาดไท และที่ จ.ขอนแก่น เพราะการปลอมธนบัตรมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน จึงต้องเร่งรัดมากขึ้น จับกุมในรายสำคัญให้ได้

ทั้งนี้ ธปท.มีการนำธนบัตรใบละ 1,000 บาท ออกหมุนเวียนในระบบประมาณ 500 ล้านฉบับ คิดเป็นมูลค่า 500,000 ล้านบาท โดยช่วงที่ผ่านมาการปลอมแปลงธนบัตรสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไปแล้ว 12 ล้านบาท

. . .



คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ “เรกกูเลเตอร์” ระบุค่าเอฟทีงวดใหม่ ม.ค.-เม.ย.52 ขยับขึ้นแน่ 14.85 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากใช้ราคาต้นทุนค่าก๊าซย้อนหลัง 6 เดือนมาคำนวณ

นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกกูเลเตอร์) แถลงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การกำกับกิจการพลังงาน โดยมุ่งเน้นการกำกับดูแลและปกป้องผลประโยชน์ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งผู้ใช้ไฟฟ้า ผู้ผลิตไฟฟ้า และภาครัฐ โดยกล่าวว่า ค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ เริ่มเดือนมกราคม-เมษายน 2552 จะต้องปรับขึ้นอีกตามค่าก๊าซธรรมชาติ (แอลพีจี) ที่ปรับสูงขึ้น

นายดิเรก ระบุว่า ค่าก๊าซแอลพีจีที่ใช้ผลิตไฟฟ้า จะปรับตามราคาน้ำมัน แต่นำไปคิดสูตรโดยใช้ราคาย้อนหลัง 6-12 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันพุ่งถึง 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงที่สุดในรอบหลายสิบปี หลังจากนั้น ราคาน้ำมันก็ร่วงลงต่อเนื่องมาตลอด โดยในเดือนธันวาคม 2551 ราคาน้ำมันลดลงเหลือประมาณ 36-37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งการนำตัวเลขย้อนหลัง 6 เดือนมาคำนวณ ส่งผลให้ราคาก๊าซในงวดนี้ปรับสูงขึ้น

นายดิเรก ระบุว่า ตัวเลขล่าสุดปรับขึ้นจาก 240 บาทต่อล้านบีทียู เป็นประมาณ 260 บาทต่อล้านบีทียู ทางเรกกูเลเตอร์กำลังเกลี่ยความเหมาะสม ว่า อัตราการปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดใหม่ ควรจะเป็นเท่าใด

อย่างไรก็ตาม นายดิเรก กล่าวว่า งวดที่ผ่านมา ยังเหลือค่าไฟฟ้าที่ยังไม่ปรับขึ้นประมาณ 57 สตางค์ ดังนั้น ต้องนำอัตราดังกล่าวมาเกลี่ย ซึ่งหมายความว่า ค่าไฟงวดนี้จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 14.85 สตางค์ต่อหน่วย แต่จะปรับเพิ่มมากน้อยขนาดไหน ก็คงจะดูว่าสามารถเกลี่ยได้มากน้อยเพียงใด เพื่อประโยชน์ของประชาชน

. . .


กระทรวงการคลัง กระตุ้นการซื้อบ้านใหม่ปี 52 ให้ผู้ซื้อนำดอกเบี้ยกู้ซื้อบ้าน หักลดหย่อนภาษีได้เพิ่มจาก 1 แสนบาทเป็น 2 แสนบาท

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้นำกระเช้าดอกไม้ที่มีผู้มาแสดงความยินดีในการรับตำแหน่ง มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจต่างๆ เพื่อให้กระเช้าที่ได้รับเกิดประโยชน์ และได้เปิดเผยว่า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์ให้ฟื้นตัว เนื่องจากในปีหน้าจะมีปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงมากขึ้น

ดังนั้น หลังจากรัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว จะออกมาตรการระยะสั้นด้านอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับมาตรการอื่น ด้วยการให้นำภาระดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้านไปใช้หักลดหย่อนภาษีจากเดิมไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็นมากกว่า 200,000 บาทต่อปี ทำให้ผู้ซื้อบ้านใหม่ราคาไม่เกิน 7-8 ล้านบาท ได้รับประโยชน์จากมาตรการดังกล่าว

โดยจะให้เฉพาะผู้ซื้อบ้านใหม่ในปี 2552 เพื่อส่งเสริมและช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านใหม่ หากซื้อในปีต่อไปก็ได้รับสิทธิลดน้อยลงไป และเห็นว่าแนวทางดังกล่าวไม่เป็นภาระทางการคลังมากเกินไป จึงสามารถดำเนินการได้

นอกจากนี้ ยังจะมีมาตรการช่วยเหลือการเลิกจ้างด้วยการฝึกทักษะเพื่อรองรับความต้องการแรงงานในอนาคต และการสร้างงานใหม่เพิ่มเติม ด้วยมาตรการทางการคลัง และอาจจะมีข่าวดีจากการตัดสินใจเกี่ยวกับหวยบนดิน ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้นในเดือนมกราคม

สำหรับการขยายตัวเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ของปีนี้ ยอมรับว่า คงจะติดลบ เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และอาจทำให้จีพีดี ในปี 2552 ขยายตัวในอัตราร้อยละ 0-2

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค. คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2551 จะชะลอลง จากที่ขยายตัวร้อยละ 4.9 ในปี 2550 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.0 ในปี 2551

สาเหตุที่การขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้ชะลอลง เนื่องจากการใช้จ่ายภายในประเทศฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการ มีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมมาก ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และการปิดสนามบินซึ่งส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้า และนักท่องเที่ยวในช่วงท้ายปี

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2552 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 1.0 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 0-2 โดยมีปัจจัยลบจากการใช้จ่ายในประเทศที่ยังมีแนวโน้มอ่อนแอ ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการในปี 2552 คาดว่าจะหดตัวลงมาก ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า

. . .



การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพิ่มขบวนรถโครงการ “รถไฟฟรีเพื่อประชาชน” อีก 18 ขบวน รับเทศกาลปีใหม่

นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้นโยบาย รฟท. จัดเพิ่มขบวนรถไฟ ในโครงการ “รถไฟฟรี เพื่อประชาชน” เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน ในเทศกาลปีใหม่ รฟท.ได้จัดเพิ่มขบวนรถอีก 18 ขบวน จากเดิมที่โครงการดังกล่าวมีรถไฟวิ่งให้บริการสายสั้นวันละ 164 ขบวน และสายยาว 8 ขบวน ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนใช้บริการในโครงการมากกว่าวันละ 95,000 คน

การเพิ่มขบวนรถไฟในเทศกาลปีใหม่จะดำเนินการตั้งแต่การเดินทางในช่วงขาไป วันที่ 27 ธันวาคมนี้ จำนวน 10 ขบวน ใน 3 เส้นทาง คือ
สายเหนือ กรุงเทพฯ- เชียงใหม่ 2 ขบวน(ไป-กลับ)
สายตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพฯ – อุดรธานี 4 ขบวน (ไป-กลับ) และกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี 4 ขบวน (ไป-กลับ) รวม 10 ขบวน
ที่เหลือ จะเป็นเที่ยวรับคนกลับอีก เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 - 6 มกราคม 2552 ซึ่งจะเพิ่มเที่ยวรถไฟอีก 8 ขบวน ใน 3 เส้นทางดังกล่าว
นายยุทธนา กล่าวว่า การเพิ่มขบวนรถไฟอีก 18 ขบวนดังกล่าว จะรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 10,000 คน

สำหรับโครงการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในวันที่ 25 ธ.ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะแถลงถึงโครงการรถขนส่งสาธารณะฟรีอีกหลายรายการ เช่น รถโดยสารประจำทางฟรี และทางด่วนฟรีด้วย

. . .



กรมธนารักษ์ปรับราคาที่ดิน 9 เขตใน กทม. ลาดพร้าวขยับขึ้นสูงสุด

นายแคล้ว ทองสม ผู้อำนวยการสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ได้ปรับราคาที่ดินในเขตกรุงเทพฯ เป็นรายแปลง จำนวน 9 เขต ประกอบด้วย เขตดอนเมือง หลักสี่ ประเวศ สวนหลวง บึงกุ่ม สะพานสูง คันนายาว ลาดพร้าว และจตุจักร และได้ปรับปรุงราคาในภูมิภาคเป็นรายแปลง 52 จังหวัด 120 อำเภอ โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2552

นายแคล้ว กล่าวว่า การปรับราคาที่ดินเป็นรายปีจะพิจารณาความแตกต่างของราคาประเมินทุนทรัพย์ของกรมธนารักษ์กับราคาซื้อขายในตลาด หากพื้นที่ใดมีความแตกต่างกันมาก ก็จะขยับราคาขึ้นตามความเหมาะสม สำหรับการปรับราคาในเขตกรุงเทพฯ มีราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 35 โดยเขตลาดพร้าวเพิ่มขึ้นสูงสุดร้อยละ 65.77 ส่วนภูมิภาคเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 12.8 โดยราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด คือ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.23

สำหรับเขตลาดพร้าว ราคาที่ดินปรับขึ้นสูง เพราะมีการตัดถนนผ่านบริเวณดังกล่าวหลายเส้นทาง รวมทั้งมีแผนก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า เพื่อแก้ปัญหาจราจรในเขตลาดพร้าว เช่น
ที่ดินบริเวณ ถ.เสนานิคม 1 ราคาเดิม 30,000-50,000 บาท/ตารางวา เพิ่มเป็น 50,000-70,000 บาท/ตารางวา
ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม ราคาเดิม 60,000 บาท/ตารางวา เพิ่มเป็น 70,000-80,000 บาท/ตารางวา
ถ.สุคนธสวัสดิ์ ราคาเดิม 25,000-30,000 บาท/ตารางวา เพิ่มเป็น 50,000-70,000 บาท/ตารางวา
เขตดอนเมือง เนื่องจากมีการสร้างศูนย์ราชการที่ ถ. แจ้งวัฒนะ ทำให้ราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวเพิ่มจาก 85,000 -100,000 บาท/ตารางวา เป็น 100,000-125,000 บาท/ตารางวา
ถ.เลียบคลองประปา เพิ่มจาก 10,000-38,000 บาท/ตารางวา เป็น 17,000-38,000 บาท/ตารางวา

ส่วนราคาในภูมิภาค อ.วังจันทร์ จ.ระยอง มีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด เพราะการปรับราคาในครั้งที่ผ่านมาข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงได้มาปรับราคาในรอบนี้ ทำให้ที่ดินในเขตเทศบาลชุมแสง บริเวณ ถ.บ้านบึง-แกลง ราคาเดิม 357 บาท/ตารางวา เพิ่มเป็น 1,250 บาท/ตารางวา

ทั้งนี้ หากต้องการทราบรายละเอียดราคาที่ดินใหม่ ทั้งประชาชนทั่วไป เจ้าของที่ดิน สถาบันการเงิน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ สามารถดูราคาประเมินที่ดินได้ที่กรมที่ดิน ถ.ราชบพิธ และ สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทั่วประเทศ หรือ //www.treasury.go.th

. . .

Create Date : 24 ธันวาคม 2551		2 comments
Last Update : 24 ธันวาคม 2551 19:34:15 น.
Counter : 824 Pageviews.
Share Tweet