Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
18 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
. . .หวั่นการเมืองรุนแรง ตลาดหุ้นร่วง1.04% . . .

...

หวั่นการเมืองรุนแรง ตลาดหุ้นร่วง1.04%

ตลาดหุ้นภาคเช้าร่วงลงกว่า 1.04% นักลงทุนผวาปัญหาการเมืองมีทีท่ารุนแรงมากขึ้น หลังกลุ่มพันธมิตรฯประกาศชุมนุมใหญ่หน้าทำเนียบศุกร์นี้ เทขายหุ้นกลุ่มแบงก์-พลังงาน

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยเช้านี้ นักลงทุนยังคงมีความกังวลกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ หลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศชุมนุมประท้วงหน้าทำเนียบรัฐบาลในวันศุกร์ที่ 20 มิ.ย.นี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความรุนแรง

โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีปรับตัวลดลงต่ำสุดแตะที่ 765.35 จุด และปรับตัวสูงสุดที่ 769.98 จุด ก่อนปิดตลาดในภาคเช้าที่ 769.06 จุด ลดลง 8.11 จุด หรือ 1.04% มูลค่าการซื้อขาย 7,571.54 ล้านบาท

อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซื้อที่ 32.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และขายที่ 33.33 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ

นายอภิศักดิ์ ลิมป์ธำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ นครหลวงไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาไม่นานก็ร่วงลงกว่า 10 จุด เนื่องจากช่วงนี้ตลาดฯมีน้ำหนักไปในเชิงลบมาก ทั้งเรื่องการเมืองที่เริ่มมีความร้อนแรงมากขึ้น จากการที่จะมีการชุมนุมกันครั้งใหญ่ในวันศุกร์นี้ (20 มิ.ย.) ซึ่งคาดว่าส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังคงขายหุ้นหลักออกมา

ส่วนปัจจัยจากภายนอกประเทศก็มีความกังวลเกี่ยวกับสถาบันการเงินในสหรัฐฯ หลังจากที่ทางโกลด์แมนแซคได้ออกรายงานว่าธนาคารในสหรัฐฯ จะต้องเพิ่มทุนอีกมากเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของงบดุล นอกจากนี้ เรื่องเงินเฟ้อก็ยังเป็นปัจจัยที่มากดดันทั่วโลกอยู่ ด้านตลาดหุ้นอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ทรงตัว ไปจนถึงลบเล็กน้อย สำหรับกรอบการคเลื่อนไหวตลาดหุ้นวันนี้คาดอยู่ที่ระดับ 760-770 จุด

...



ผู้บริหาร บลจ. เอ็มเอฟซี คาดแรงขายหุ้นของต่างชาติเป็นเพียงระยะสั้น

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นการตอบสนองกับปัญหาการเมืองในระยะสั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่คาดเดายากว่าการเมืองจะออกมาในทิศทางอย่างไร

ดังนั้น นักลงทุนจึงเห็นว่าเป็นความเสี่ยงจึงชะลอการลงทุน ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่กำลังเร่งตัวสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนยิ่งเพิ่มความกังวล จึงมีการโยกย้ายเงินลงทุนออกจากตลาดหุ้นไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำซึ่งคาดว่าจะเป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้น

"เห็นว่าการชุมนุมประท้วงเป็นเรื่องปลายเหตุ แม้จะมีความไม่ลงตัว แต่หากตอบนักลงทุนต่างประเทศได้ว่าประเทศไทยมีกติกาที่แน่นอน ทุกฝ่ายเคารพกติกาบ้านเมือง ต่างชาติก็จะคลายความกังวล เพราะความขัดแย้งทางการเมืองมีทุกประเทศ แต่ขอให้เดินไปตามกติกา อย่าเกิดเหตุนอกกติกา ไม่เช่นนั้นจะน่าเป็นห่วง" นายพิชิต กล่าว

นายพิชิต กล่าวว่า พื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศไทย ยังคงแข็งแกร่ง หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ประเทศไทยยังมีความสามารถทางการแข่งขันที่ดี การเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในกรอบที่คาดการณ์ที่ร้อยละ 4.5-5.5 เพราะรัฐบาลมีแผนการลงทุนและการใช้จ่ายของรัฐบาลที่ชัดเจน ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรยังดี ดังนั้น จึงเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจไทยได้

...


กระทรวงพาณิชย์ ไฟเขียวสินค้า 60 รายการขึ้นราคา

นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภครายใหญ่ประเภทของใช้ประจำวัน 6 ราย ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดถึงร้อยละ 90 ว่า ทางกรมการค้าภายในจะไม่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ขยายเวลาในการลดราคาสินค้าต่อไปหลังจากครบกำหนดขอความร่วมมือลดราคาสินค้าของใช้ประจำวัน 60 รายการ ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้

โดยจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งสินค้าประเภทของใช้ประจำวันมีการแข่งขันในตลาดสูงมาก เช่น นม ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ครีมนวดผม ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แป้งโรยตัว

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ยังกล่าวว่า ขอประชาชนผู้ใช้อย่าได้วิตกกังวลจนเกินไปว่า จะมีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เพราะทางกรมการค้าภายในจะติดตามสถานการณ์ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กลไกตลาดทำงานอย่างเต็มที่

…


ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ยันไม่ขึ้นราคาสินค้าถึงสิ้นปี

นายประพจน์ นันทวัฒน์ศิริ กรรมการผู้จัดการฝ่ายขายบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น จากราคาน้ำมันและค่าขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบ เช่น แชมพู และสบู่ แต่โอกาสที่ผู้ประกอบการจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น มีน้อยมาก เนื่องจากภาวะตลาดมีการแข่งขันสูง การปรับราคาจะทำให้ผู้บริโภคลดลง ทางผู้ประกอบการ จึงได้พิจารณาปรับขนาดบรรจุภัณฑ์ประเภทสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน และยังคงส่วนแบ่งตลาดไว้ได้

นางพงษ์ทิพย์ เทศะภู ผู้จัดการทั่วไปองค์กรสัมพันธ์บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่าทางบริษัทไม่มีแผนจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปีนี้จากการแข่งขันที่สูง

...


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานยังไม่ยืนยันจะไม่ปรับราคาก๊าซครัวเรือน ก.ค.นี้

กลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกส์หวั่นต้นทุนแพง ขอใช้ก๊าซราคาเดียวกับก๊าซครัวเรือน ด้าน รมว.พลังงานยืนยันแยก 2 ราคาแน่ แต่ยังไม่ชัดว่าราคาภาคครัวเรือนจะไม่ปรับขึ้น พร้อมวิงวอนประชาชนชะลอการติดแอลพีจีรถยนต์

พล.ท.(หญิง)พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้จะปรับราคาก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ออกเป็น 2 ราคา โดยทำให้ราคาภาคยานยนต์-อุตสาหกรรมสูงกว่าภาคครัวเรือน แต่ยังไม่ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ปรับราคาภาคครัวเรือน เนื่องจากในขณะนี้ไทยมีแนวโน้มการนำเข้าก๊าซแอลพีจีสูงขึ้น

เดือนมิ.ย. นี้ต้องนำเข้าถึง 40,000 ตัน และมีส่วนต่างของราคานำเข้าสูงถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยราคานำเข้าอยู่ที่ 900 ดอลลาร์ต่อตัน แต่ราคาขายในประทศอยู่ที่ประมาณ 320 ดอลลาร์ต่อตัน

“ต้องขอร้องประชาชน อย่าหันไปใช้แอลพีจีในยานยนต์กันมากนัก เพราะต้องนำเข้า และที่สำคัญยิ่งใช้อุปกรณ์มือสองก็ยิ่งน่าหวั่นเกรงเรื่องอันตราย ขณะนี้ภาครัฐได้ส่งเสริมพลังงานทางเลือกด้านอื่นๆ เช่น เอ็นจีวี ไบโอดีเซล-แก๊สโซฮอล์ ในระดับหมู่บ้าน โรงเรียน ก็ได้ส่งเสริมให้นำขยะมาผลิตก๊าซชีวภาพแทนก๊าซหุงต้มก็ใช้ได้ดี” รมว.พลังงาน กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พรุ่งนี้ (19 มิ.ย.) ทางกระทรวงพลังงานยินดีนำน้ำมันราคาถูกที่ได้รับความช่วยเหลือจากโรงกลั่นไปช่วยภาครถบรรทุก แต่จะต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้การช่วยเหลือลงไปถึงประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่ผลประโยชน์ตกกับผู้ประกอบการ และขณะนี้ไม่มีแผนขอเพิ่มน้ำมันดีเซลราคาถูกจากโรงกลั่นที่ขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือในปริมาณ 122 ล้านลิตรต่อวัน เป็นเวลา 6 เดือน ล่าสุดนอกจากกลุ่มรถเมล์ กลุ่มรถบรรทุกที่ขอใช้น้ำมันราคาถูกแล้ว ยังมีกลุ่มประมง กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้ง ก็ได้ขอใช้น้ำมันส่วนนี้เช่นกัน

ขณะนี้ ได้มีหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้แอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิกส์ จังหวัดลำปาง ได้ทำหนังสือถึงสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ให้ชะลอการปรับขึ้นราคา หรือขอให้ราคาเดียวกับก๊าซภาคครัวเรือนหลังปรับ เป็น 2 ราคา เพราะการปรับราคาทำให้ต้นทุนพุ่งสูงมากขึ้น

ขณะเดียวกันกลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคารที่ใช้ก๊าซฯ ถังใหญ่เป็นเชื้อเพลิง (ถังขนาด 48 กก.) ก็จะถูกตีความเป็นก๊าซอุตสาหกรรม ก็จะได้รับผลกระทบการปรับราคาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม หากไม่แบ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มอุตสาหกรรม โดยให้เป็นกลุ่มครัวเรือนก็อาจจะเกิดปัญหาลักลอบไปขายกลุ่มยานยนต์ได้ เพราะถังใหญ่เช่นนี้สามารถถ่ายเทไปยังปั๊มรถยนต์ได้โดยง่าย

...


กรมการขนส่งทางบก เตือนประชาชนระวังแก๊งมิจฉาชีพตั้งโต๊ะรับต่อทะเบียนรถ หลอกเป็นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก

นายชัยรัตน์ สงวนชื่อ รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพ หลอกลวงประชาชน โดยตั้งจุดให้บริการรับชำระภาษีรถยนต์ตามแหล่งชุมชนหรือภายในหมู่บ้านต่างๆ โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด โดยเก็บเงินค่าภาษีและนำสมุดจดทะเบียนรถไป ซึ่งภายหลังพบว่าไม่ได้มีการนำไปดำเนินการทางทะเบียนแต่อย่างใด สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก

กรมการขนส่งทางบกจึงขอเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ หรือมอบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถให้ผู้ที่ไม่รู้จักไปดำเนินการใดๆ โดยเด็ดขาด

หากประชาชนถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงนำสมุดคู่มือจดทะเบียนรถไป ขอให้ไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำหลักฐานการแจ้งความมาขออายัดสมุดคู่มือจดทะเบียนรถเล่มดังกล่าว หรือขอออกสมุดคู่มือจดทะเบียนรถเล่มใหม่ ยังสำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพนำไปปลอมแปลงจนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการและเจ้าของรถ

นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนสามารถใช้บริการชำระภาษีรถประจำปี ที่หน่วยให้บริการนอกสถานที่ของกรมการขนส่งทางบก เช่น ในวันเสาร์และอาทิตย์ ที่ห้างคาร์ฟูร์ 9 สาขา ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือที่ศูนย์บริการร่วมคมนาคมเชิงสะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน ในวันเวลาราชการ

สำหรับในต่างจังหวัดใช้บริการได้ที่จุดบริการบริเวณห้างสรรพสินค้าหรือหน่วยงานต่างๆ ภายในจังหวัด ซึ่งมีป้ายประชาสัมพันธ์ของสำนักงานขนส่งจังหวัด และมีเจ้าหน้าที่ขนส่งประจำอยู่ที่จุดบริการ ซึ่งสามารถให้บริการรับชำระภาษี และออกเครื่องหมายเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ให้แก่เจ้าของรถได้ทันที ไม่มีการเก็บสมุดคู่มือจดทะเบียนรถไว้ดำเนินการ

...


กรมทางหลวงปิดจราจรสายมีนบุรี-ลาดกระบัง 21-22 มิ.ย.นี้

กรมทางหลวงแจ้งว่าตามที่กรมฯ กำลังดำเนินการก่อสร้างสะพานลอยคนเดินข้าม พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนสะพานลอยดังกล่าว รวมทั้งงานทางในทางหลวงหมายเลข 3119 ช่วงมีนบุรี-ลาดกระบัง (ร่มเกล้า) กม. 8+125 บริเวณหน้าโรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า ซึ่งขณะนี้ดำเนินการถึงขั้นตอนการยกคานคอนกรีตอัดแรงงานสะพานลอยคนเดินข้าม จึงมีความจำเป็นต้องปิดการจราจรตั้งแต่เวลา 23.00 น. วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน จนถึงเวลา 05.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน 2551

...





Create Date : 18 มิถุนายน 2551
Last Update : 18 มิถุนายน 2551 14:58:38 น. 3 comments
Counter : 489 Pageviews.

 
...

สูตร...ชะลอความแก่

ความเฒ่าชราเป็นสิ่งไม่อาจหลบเลี่ยง มาเรียนรู้เคล็ดลับเพื่อให้ดูหนุ่มสาว ด้วยวิธี "เวชศาสตร์อายุรวัฒน์"

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : “เรามีความแก่เป็นธรรมดา ยังไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้”
ประโยคที่เราๆ ท่านๆ ต่างทราบดีว่า ความแก่ชราเป็นของไม่เที่ยง แต่จะมีวิธีไหนที่เราสามารถชะลอความชราได้ แน่นอนว่า ไม่มียาตัวไหนที่จะช่วยให้ดูหนุ่มดูสาวตลอดไป

เรื่องนี้มีเคล็ดลับเพื่อให้ดูหนุ่มดูสาวด้วยวิธีเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ (Anti-Aging) นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ (International Anti-Aging Medicine Institute) ภายหลังจากจบแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางไปศึกษาต่อด้านเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ที่อเมริกา จนเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ บอกว่า ถ้าอยากมีชีวิตที่ดีต้องปฏิบัติด้วยตัวเอง ให้อยู่กับสิ่งที่เป็นธรรมชาติ

“มีเรื่องอะไรบ้างที่จะศึกษาได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า กายจรดใจ และใจจรดจิตวิญญาณ ที่ผมเห็นก็เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ (Anti-Aging Medicine) เป็นศาสตร์ที่สามารถศึกษาเรื่องพวกนี้ พอได้ไปศึกษาตำรา Anti-Aging ซึ่งเป็นเรื่องของการป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพก่อนป่วย แต่ต้องเอามาปรับให้เข้ากับคนไทยถึงจะสมบูรณ์”

คุณหมอเล่าให้ฟังและบอกว่า ขณะที่การแพทย์แผนปัจจุบันเน้นการรักษาด้วยยา แต่ Anti-Aging ต้องปฏิบัติด้วยตัวเอง อย่างนอนดึกจะทำให้เราแก่เร็ว ก็ต้องออกกำลังกายกระตุ้นฮอร์โมนหนุ่มสาว

หลักการง่ายๆ ของ Anti-Aging มีอยู่สามอย่าง คือ

1. Healthy Weight ถ้าไม่อยากแก่ต้องรักษาน้ำหนัก ไม่ให้อ้วนเกินไป จากปกติรับประทานอาหาร 100% ให้ตัดออก 40% เหลือ 60% อาจงดอาหารสักมื้อหนึ่ง อย่ารับประทานแป้ง และน้ำตาลเยอะ อาหารทั้งสองอย่างเป็นสาเหตุทำให้แก่เร็ว แป้งไม่ได้มีอยู่ในข้าวอย่างเดียว ยังมีในอาหารชนิดอย่างอื่นด้วย อาทิเช่น ฟักทอง

"ข้าวเป็นอาหารของคนไทยมานาน จะให้เลิกกินไปเลยคงไม่ได้ เราควรเลือกกินข้าวซ้อมมือ ข้าวมันปู ข้าวโอ๊ต เพราะจะมีกากใยอาหาร ทำให้น้ำตาลไม่เข้าสู่เลือดเร็วเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แก่เร็ว ถ้าน้ำตาลเข้าไปจับกับโปรตีนเร็ว จะทำให้โปรตีนในตัวเราเสีย ซึ่งจะทำให้ปลายประสาทต่างๆ เสื่อมเร็วกว่าคนปกติ อย่างคนที่เป็นเบาหวาน ถ้าน้ำตาลไปจับที่ตา ตาก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติ

"พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า กินพอประมาณ ยามวิกาลโภชนา ท่านก็มิได้ให้ตัดเลยทีเดียว สามารถดื่มน้ำปานะได้ ซึ่งตะวันตกเพิ่งมาเรียนรู้ในเรื่องการจำกัดแคลอรี (Calorie Restriction) เราต้องกินสารอาหารให้เพียงพอแก่ร่างกาย" คุณหมอกล่าว

2. Healthy diet and Life style โดยจะเริ่มที่ Healthy diet คือ อาหารสุขภาพ ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารเสริมราคาแพง อาหารจากธรรมชาติ พวกผักต่างๆ โดยเฉพาะคะน้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นราชาแห่งผักเลยก็ว่าได้ แต่ที่สำคัญคือต้องรับประทานให้เหมาะสม ถ้าน้อยเกินไปก็ไม่เห็นผล บางคนชราภาพแล้วก็อาจจะไม่สะดวกในการกินผัก อาจกินอาหารเสริม

คุณหมอ ย้ำเรื่อง ธรรมนูญอาหารเสริม 4 ประการ มีดังนี้

1.ให้เลือกกินอาหารธรรมชาติมากที่สุด ข้างฉลากกล่องจะเขียนว่า Natural และ BIOIDENTICAL (ใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด)

2. ให้เลือกอาหารเสริมที่มีปริมาณมากพอ อย่างวิตามินซี ถ้าจะรับประทานควรประมาณ 500-1,000 มิลลิกรัม

3. อาหารเสริมที่ทานต้องจับคู่ให้ถูกต้อง ถ้าจะทานวิตามินเอ อย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องมีวิตามินซีและวิตามินอีด้วย ถ้าจะกินแคลเซียมก็ต้องเลือกกินแมกนีเซียมด้วย เพราะแมกนีเซียมจะช่วยดึงแคลเซียมเข้าไปในกระดูก

และ 4. ราคาของอาหารเสริมไม่ควรถูกเกินไป ถ้าถูกเกินไปอาจเป็นวิตามินสังเคราะห์ ซึ่งอันตราย และไม่ควรเลือกแพงเกินไป และที่สำคัญก็คือ อย่าพึ่งพาอาหารเสริมอย่างเดียว ต้องมีอาหารธรรมชาติด้วย

ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์ อย่างการออกกำลังกายแบบ Interval Training ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรให้สิ้นเปลือง แค่การวิ่งสัก 2 นาทีสลับกับเดินอีก 2 นาที ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องประมาณ 20 นาที เพื่อออกกำลังหัวใจและปอดโดยตรง และนี่เป็นการต้านความชรา

และ 3. Healthy Mind ออกกำลังใจ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

1. ออกกำลังสมอง มีวิธีการง่ายๆ ให้ลองหัดทำอะไรที่ไม่เคยทำ อย่างเคยเขียนหนังสือมือขวา ก็ลองเขียนมือซ้าย หัดแปรงฟันมือซ้าย หวีผมมือซ้าย หรือเล่นกีฬาที่เราไม่เคยเล่น ลองคบเพื่อนใหม่ เพื่อทำให้สมองอีกด้านที่ไม่ได้ใช้ได้ออกกำลัง

2. ออกกำลังใจ เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่มีการวิจัยเพื่อทำให้อายุทางชีวภาพเด็กลง นั่นก็คือ ทำสมาธิ

คุณหมอแนะว่า บางคนอาจไม่เคยนั่งสมาธิมาก่อน จะทำได้ยาก หากทำสมาธิมาถึงจุดหนึ่งจะมีสารความสุขหลั่งออกมา ดร.ริชาร์ด เดวิดสัน (Dr.Richard Davidson) ที่สหรัฐอเมริกาเคยทำวิจัยพระในทิเบตที่นั่งสมาธิเปรียบเทียบกับคนธรรมดา แล้วเอามาสแกนสมอง ปรากฏว่าคนที่ทำสมาธิจะมีสมองที่ไวและหนุ่มกว่าอายุจริง เพราะหัวใจทำงานน้อยลง ไม่เหนื่อยง่าย

"ท่านใดไม่เคยฝึก ก็ลองทำสมาธิแบบง่ายๆ คือ การทำจิตให้อยู่กับปัจจุบัน ถ้ายังทำไม่ได้ ก็อาจหาหนังสือดีๆ มานั่งอ่านเป็นการฝึกจิตให้รู้จักการจดจ่อ หรือจะฟังเพลงก็ได้ อะไรที่ทำให้เราต้องจดจ่ออยู่กับจิต ไม่จำเป็นต้องนั่งสมาธิอย่างเดียว

"ถ้าได้ออกกำลังใจ สติปัญญาก็จะเกิด จะรู้จักคำว่า แก่ก่อนแก่ เจ็บก่อนเจ็บ ตายก่อนตาย แล้วเราจะไม่กลัวความตาย คนที่กลัวแก่กลัวเจ็บและกลัวตาย มักจะตายเร็ว แต่ถ้าเราไม่กลัวเราจะไม่แก่เร็ว ทำให้มีสุขภาพที่ดีด้วย อันนี้คือหลักสูตรของ Anti-Aging ที่ฝรั่งไม่เคยสอนเลย แต่พระพุทธเจ้าทรงสอน ทางสถาบันจะมีนโยบายหลักก็คือ Buddhalogy หรือเทคโนโลยีทางพุทธ เข้ามา ซึ่งทำให้ชีวิตสมบูรณ์” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเวชศาสตร์ กล่าว

Anti-Aging เป็นเรื่องที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถทำได้ เพราะเชื่อว่า เราเป็นหมอให้ตัวเองได้

หมายเหตุ : สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เบอร์ติดต่อโทร. 0-2276-2191

...


โดย: loykratong วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:15:16:18 น.  

 
...

กระทรวงคมนาคมเห็นชอบขึ้นค่าแท็กซี่ ร้อยละ 12 แล้ว เตรียมส่งเรื่องลงประกาศในราชกิจนุเบกษา คาดมีผลในสัปดาห์นี้

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังจากหารือร่วมกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเรื่องการพิจารณาขึ้นค่าแท็กซี่ ซึ่งนายสันติ ได้เห็นชอบตามที่คณะทำงานศึกษาการปรับอัตราค่าแท็กซี่ เสนอมา โดยได้มีการลงนามประกาศตามกฎกระทรวงแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นได้ส่งเรื่องลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะไม่เกินสัปดาห์นี้ โดยการปรับอัตราค่าแท็กซี่จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12% โดยรถแท็กซี่ทุกคันจะต้องกดมิเตอร์ทุกครั้ง แม้จะวิ่งไปในต่างจังหวัด

นายบุญชัย รุ่งเรืองไพศาลสุข ประธานเครือข่ายคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ ได้มายื่นหนังสือถึง นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ให้ระงับขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ และนายบุญชัย เตรียมฟ้องศาลปกครองกลาง หากมีการประกาศกฎกระทรวงเรื่องนี้ออกมา โดยเห็นว่าเป็นการสร้างความเดือดร้อน และเป็นการซ้ำเติมประชาชน และเหตุผลในการปรับขึ้นก็ยังขาดความชัดเจน เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการรถแท็กซี่เกินไป
เนื่องจากเห็นว่า การแก้ปัญหาโดยให้ขึ้นค่าโดยสารตามที่ผู้ขับรถแท็กซี่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะต้นเหตุของปัญหาเกิดจากปริมาณรถแท็กซี่ในปัจจุบันมีเกือบ 100,000 คัน ซึ่งมากเกินความต้องการของประชาชน ในความเป็นจริงควรอยู่ที่ 60,000 คัน

ขณะเดียวกัน เจ้าของรถให้เช่าเก็บอัตราค่าเช่าสูงเกินไป ทำให้คนขับประสบปัญหาค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ขณะที่เจ้าของรถมีรายได้จากค่าเช่าสูงถึงเดือนละ 30,000 บาทต่อคัน

นอกจากนี้ได้ยื่นหนังสือถึง นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม ยับยั้งการปรับขึ้นค่าโดยสารเรือประจำทาง โดยเห็นว่า เรือโดยสารยังมีผลกำไรในการประกอบการ ราคาน้ำมันที่ขึ้นทำให้กำไรลดลงเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้ ตนก็ได้ยื่นหนังสือฟ้องศาลปกครองไปแล้ว โดยคดีอยู่ในการพิจารณาของศาล อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรัฐมนตรีได้ส่งคนมารับเรื่องเพื่อนำไปพิจารณาต่อไป

...


กระทรวงพาณิชย์ ไฟเขียวสินค้า 60 รายการขึ้นราคา

เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. มีการหารือระหว่างกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับผู้ประกอบผลิต และจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภครายใหญ่ประเภทของใช้ประจำวัน 6 ราย อาทิ เช่น สหพัฒน์ฯ, ดูเม็กซ์, จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน, เนสเล่ย์, ไลอ้อน, และ ยูนิลีเวอร์ ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสินค้าอุปโภค-บริโภครวมกันถึงร้อยละ 90

นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ทางกรมการค้าภายในจะไม่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขยายเวลาในการลดราคาสินค้าต่อไป (หลังจากได้ขอความร่วมมือลดราคาสินค้ามาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 3 เดือน) และ จะครบกำหนดขอความร่วมมือลดราคาสินค้าของใช้ประจำวัน 60 รายการ ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
โดยจะปล่อยให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งสินค้าประเภทของใช้ประจำวันมีการแข่งขันในตลาดสูงมาก เช่น นมผงสำหรับเด็ก, ผงซักฟอก, สบู่, ผลิตภัณฑ์แชมพู ครีมนวดผม, ยาสีฟัน, แปรงสีฟัน, แป้งโรยตัว, และผลิตภัณฑ์ล้างจาน ที่ได้ปรับลดราคาลงมาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม เป็นต้นมา

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขอประชาชนผู้ใช้อย่าได้วิตกกังวลจนเกินไปว่า จะมีการปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เพราะทางกรมการค้าภายในจะติดตามสถานการณ์ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กลไกตลาดทำงานอย่างเต็มที่

นายประพจน์ นันทวัฒน์ศิริ กรรมการผู้จัดการฝ่ายขายบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น จากราคาน้ำมันและค่าขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าที่ใช้น้ำมันเป็นวัตถุดิบ เช่น แชมพู และสบู่ แต่โอกาสที่ผู้ประกอบการจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น มีน้อยมาก เนื่องจากภาวะตลาดมีการแข่งขันสูง

การปรับราคาจะทำให้ผู้บริโภคลดลง ทางผู้ประกอบการ จึงได้พิจารณาปรับขนาดบรรจุภัณฑ์ประเภทสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน และยังคงส่วนแบ่งตลาดไว้ได้

นางพงษ์ทิพย์ เทศะภู ผู้จัดการทั่วไปองค์กรสัมพันธ์บริษัท ยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่าทางบริษัทไม่มีแผนจะปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้นจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากการแข่งขันที่สูง

...



ธปท.เผยเงินทุนไหลกลับ ส่งผลค่าเงินบาทเริ่มนิ่ง

นางสุชาดา กิระกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายตลาดการเงิน กล่าวถึงค่าเงินบาทในช่วงนี้ว่า เริ่มกลับเข้าสู่เสถียรภาพมากขึ้น หลังจากที่อ่อนค่าลงในช่วงก่อนหน้า เนื่องจาก 2-3 วันที่ผ่านมา เงินทุนเคลื่อนย้ายเริ่มกลับมาเป็นสุทธิไหลเข้าอีกครั้ง หลังจากที่มีเงินไหลออกจากการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนหน้ารวมกันประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 33,000 ล้านบาท

ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท.กล่าวต่อว่า ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ และการลงทุนโดยตรง เงินทุนต่างชาติที่เข้ามาก็อยู่ในลักษณะที่ชะลอตัวลงเช่นกัน

โดยในตลาดตราสารหนี้ เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ตลาดตราสารหนี้จะมีผลกระทบเร็วกว่าตลาดอื่น ทำให้ต่างชาติชะลอการลงทุนเพื่อรอดูภาวะดอกเบี้ย

ในขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หากเป็นการลงทุนระยะสั้น เมื่อพบกับสถานการณ์เงินเฟ้อสูง และการเมืองภายในของไทย อาจจะลังเลในการลงทุน ซึ่งทำให้ประเทศเสียโอกาส

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในประเทศไทยอยู่แล้ว เชื่อว่าจะไม่ถอนการลงทุนไปจากสถานการณ์ในขณะนี้ เพราะพื้นฐานประเทศไทยยังดีอยู่

หากเป็นนักลงทุนที่ลงทุนระยะยาว หรือลงทุนในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ (เมกะโปรเจกต์) คงไม่ได้สนใจปัจจัยระยะสั้น แต่น่าจะเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง

...



ธปท.ชี้ ดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ 4% จับตาเงินเฟ้อ ก.ค.-ส.ค.ทะลุ 10%

ธปท.ส่งสัญญาณใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ย เข้าควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่มีอัตราเร่งจนน่ากลัว คาดเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ มีโอกาสทะลุ 10% ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากในระบบธนาคารพาณิชย์ติดลบมานาน และมีตัวเลขพุ่งสูงถึง 4% ประชาชนแห่ถอนออกไปใช้จ่ายเกลี้ยง

นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ไม่ต้องการให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริง ติดลบมากเป็นระยะนานเกินไปเพราะจะทำให้ประชาชนไม่ต้องการออมเงิน แต่จะใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะกดดันให้เงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้นไปอีก

แต่ ธปท.ก็คงไม่สามารถจะขึ้นดอกเบี้ยจนทำให้อัตราดอกเบี้ยแท้จริงกลับมาเป็นบวกได้

โดยตอนนี้ ดอกเบี้ยแท้จริง ติดลบประมาณ 4% ถ้าไม่ทำอะไร 2-3 เดือนข้างหน้าก็น่าจะลบมากขึ้น และคาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะเร่งตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในเดือน ก.ค. หรือ ส.ค.นี้ หากราคาน้ำมันไม่เพิ่มขึ้นกว่าปัจจุบันมากนัก เนื่องจากฐานปีที่แล้วอยู่ในระดับต่ำ โดยยอมรับว่าจะมีบางเดือนที่เงินเฟ้ออาจเพิ่มขึ้นไปเป็นเลข 2 หลัก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานก็มีโอกาสเกินเป้าของ ธปท.ที่ 3.5% เป็นบางเดือน ในช่วงปลายปี

อย่างไรก็ตาม การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ครั้งต่อไปในวันที่ 16 ก.ค. นี้ จะมีการปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีใหม่ จากที่ก่อนหน้านี้ ธปท.คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 51 จะอยู่ที่ 4.0-5.0% และคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อฟื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงาน ไว้ที่ 1.5-2.5%

...




โดย: som IP: 203.146.31.234 วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:17:31:47 น.  

 

เรื่องเกี่ยวกับ Anti-Aging เนี่ยชอบจังเลยค่ะ มีประโยชน์มากๆ ค่ะ จะนำไปปฎิบัติทุกข้อเลยค่ะ ขอบคุณสาระดีๆ นะคะ อิอิอิ อ่านตั้งหลายรอบแล้วค่ะ ตอนนี้ก็กำลังเรียนโยคะ Body Relax, Body Balance ค่ะ ทุกอย่างเน้นสมาธิกับการเคลื่อนไหวของร่างกายให้เป็นหนึ่งเดียวกัน Body Relax กับ Body Balance เป็นของ Australia นะค่ะแต่ก็เน้นสมาธิเหมือนกัน ดีจังเลยค่ะมีเรื่องเกี่ยวกับ Life Style ด้วย การออกกำลังกายแบบ Interval Training ก็น่าสนใจจังเลยนะคะ พรุ่งนี้ถ้าไม่หมดแรงจาก Burn & tone เสียก่อนจะลองวิ่งสลับเดินดูนะคะ
ข่าวไหนก็ไม่น่าสนใจไม่ชอบใจเท่าข่าวนี้ค่ะ อิอิอิ .....55555.....
สวัสดีค่ะ ... ราตรีสวัสดิ์ค่ะ




โดย: ทิวาจรดราตรี วันที่: 18 มิถุนายน 2551 เวลา:22:15:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.