Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
26 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 

“ผลกระทบการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ”

. . .


“ผลกระทบการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ”


รายได้การท่องเที่ยวสูญกว่าแสนล้านบาท

ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ระบุการปิดสนามบินสุวรรณภูมิครั้งนี้ จะทำให้สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวกว่าแสนล้านบาท

นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยบุกปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิจะมีผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวของไทยไม่ต่ำกว่า 6 เดือน โดยเฉพาะระยะนี้ซึ่งเป็นช่วงเข้าสู่ไฮซีซั่นด้านการท่องเที่ยว และโดยปกติรายได้จากการท่องเที่ยวช่วงเดือน พ.ย.-ก.พ. จะอยู่ที่ร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมดจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท ดังนั้น การปิดสนามบินสุวรรณภูมิครั้งนี้ คาดว่าทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวหายไปเกือบครึ่งหนึ่ง หรือราวๆแสนล้านบาท

อย่างไรก็ดี ทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ประสานกับสภาท่องเที่ยวทุกจังหวัดที่มีสนามบินนานาชาติ เช่น ภูเก็ต เป็นต้น ให้เน้นการดูแลนักท่องเที่ยวในเรื่องที่พักให้เรียบร้อย และรอการตัดสินใจของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) และ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าจะมีการอนุญาตให้เครื่องบินทำการบินตามปกติได้เมื่อใด

นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า การเข้าไปปิดสนามบินสุวรรณภูมิของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหาย ยากที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญต่อสนามบินนานาชาติมากว่ามีความปลอดภัยสูง และสนามบินถือเป็นด่านแรกในการเข้าประเทศ

ขณะนี้ นักท่องเที่ยวทยอยยกเลิกเดินทางเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในระยะเวลาหนึ่งปีหลังจากนี้การท่องเที่ยวไทยก็คงจะยังไม่ฟื้น และธุรกิจที่เกี่ยวข้องจะเสียหายหลายแสนล้านบาท

นายเอนก ศรีชีวะชาติ นายกสมาคมส่งเสริมท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น และประธานที่ปรึกษาสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว กล่าวว่า การปิดสนามบินสุวรรณภูมิขณะนี้ในด้านท่องเที่ยวถือว่า จบแล้ว พังแล้ว มีแต่ "เจ๊งกับเจ๊ง" การปิดสนามบินประเทศอื่นไม่ทำ หากมีการชุมนุมจะไม่เกี่ยวข้องกับสนามบินเลย เพราะเป็นสถานที่เข้าออก ทำให้มองได้ถึงความเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัย ส่วนความเสียหายขณะนี้ประเมินค่าไม่ได้ และอย่าหวังในปีหน้าที่ตั้งความหวังไว้กับเรื่องท่องเที่ยวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ลำบากมาก

สำหรับนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ติดค้างเวลานี้มีไม่มากนักเพียงหลักร้อย โดยเฉลี่ยนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เข้ามาประเทศไทยช่วงนี้ประมาณ 60 เที่ยวบินไฟลท์ต่อวัน หรือประมาณ 10,000-20,000 คน เชื่อว่าหายหมดแน่นอน และจะกระทบยาวนานอย่างน้อยเป็นปี หากไม่สามารถคลี่คลายเหตุการณ์ให้จบในเวลาอันรวดเร็ว รวมทั้งนักท่องเที่ยวตลาดจีนที่บินมาวันละประมาณ 80 ไฟลท์ ร่วม 20,000 คนก็หายหมด

. . .



แอร์คาร์โก้ เสียหาย 1,000 ล้านบาทต่อวัน


นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และประธานกลุ่มโลจิสติกส์ กล่าวว่าการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ จะทำให้บริการขนส่งสินค้า หรือแอร์คาร์โก้ มีความเสียหายนับ 1,000 ล้านบาทต่อวัน จึงเรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเปิดสนามบินสุวรรณภูมิโดยด่วน

ซึ่งภาพที่ออกไปทั้งการปิดคาร์โก้และสนามบิน ทำให้เกิดความเสียหายทั้งภาพลักษณ์โดยรวมของประเทศไทย การท่องเที่ยว และระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ถือเป็นการซ้ำเติมผลกระทบที่ประเทศไทยได้รับจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหาส่งผลต่อการตกงานอยู่แล้ว ทำให้เกิดปัญหาหนักมากขึ้น

นายธนิตกล่าวว่า ความรักชาติ สามารถแสดงออกได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง และควรเคารพสิทธิ์ของทุกฝ่าย ซึ่งภาวะในขณะนี้เท่ากับประเทศไทยไมใช่ระบบนิติรัฐ ที่มีรัฐควบคุมได้

อย่างไรก็ตาม ทางออกของปัญหาจะต้องมีผู้เสียสละ ซึ่งเมื่อทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า ไม่ยอมรับการปฏิวัติ ทางออกก็ควรคืนอำนาจแก่ประชาชน โดยก่อนที่จะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ทุกฝ่ายรวมทั้งพันธมิตรฯ รัฐบาล และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องตกลงกันก่อนว่า หากมีการเลือกตั้งใหม่แล้ว พันธมิตรจะต้องยอมรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะมาจากกลุ่มใดก็ตาม ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาเหมือนรัฐบาล 2 ชุดที่ผ่านมา ที่มาจากการเลือกตั้งแต่พันธมิตรไม่ยอมรับ

สำหรับแอร์คาร์โก้ ที่ได้รับความเสียหายมีมูลค่าสูง แม้ว่าจะหยุดไปเพียง 1 วัน เนื่องจากการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบิน เป็นสินค้าที่ต้องใช้ความเร่งด่วนในการขนส่งและมีมูลค่าสูง ทั้งสินค้าเพื่อโรงงานที่ใช้เป็นส่วนประกอบการผลิตด้านต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์, และผักผลไม้ ที่ต้องใช้ความเย็นในการดูแล และตรงต่อเวลา ดังนั้นเมื่อขนส่งไม่ได้ ความเสียหายจึงมาก

. . .



การบินไทย เผยสูญเสียรายได้วันละ 500 ล้านบาท


พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) แถลงว่า หลังจากสนามบินสุวรรณภูมิปิดการบริการตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา จนถึงเวลา 13.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ทางการบินไทยได้ยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วรวม 62 เที่ยวบิน

ส่วนเที่ยวบินที่เหลือที่บินจากต่างประเทศเข้าไทย ทางการบินไทยได้เตรียมแผนให้นำเครื่องลงที่สนามบินอู่ตะเภา และดอนเมืองแทน

สำหรับผู้โดยสารที่ตกค้างจำนวนประมาณ 3,300 คน ทางการบินไทยได้ดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งเร่งหาไฟลท์บินเพื่อส่งต่อ รวมทั้งกรณีที่ไม่สามารถเดินทางได้ ก็จัดรถไปรับนำมาพักตามโรงแรมต่างๆ และดูแลการตกค้างในสนามบิน มีการจัดหาอาหารจากครัวการบินไทยโดยตลอด และดูแลผู้โดยสารของสายการบินอื่นๆ ตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ให้ดูแลอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม หวังว่าการปิดสนามบินจะสามารถหาข้อยุติได้โดยเร็วที่สุด เพราะหากปิดสนามบินต่อเนื่อง จะสร้างความเสียหายต่อประเทศมหาศาล
สำหรับการบินไทยสูญเสียรายได้วันละ 500 ล้านบาท จากผู้โดยสารรวม 30,000 คนต่อวัน รวมทั้งการบริการของครัวการบินที่บริการให้กว่า 40 สายการบิน มีรายได้ประมาณ 10 ล้านบาทต่อวัน และรวมถึงการบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่มีรายได้ประมาณ 483 ล้านบาทต่อสัปดาห์ นอกจากจะเสียโอกาสด้านรายได้แล้ว ยังมีรายจ่ายเพิ่มในการดูแลผู้โดยสาร

. . .



ทอท. ประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท พร้อมสั่งสนามบินในสังกัดเปิดบริการรับเที่ยวบินที่เปลี่ยนจากสุวรรณภูมิ


บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินความเสียหายเบื้องต้น เฉพาะค่าธรรมเนียมการจอดและหลุมจอดไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ยังไม่รวมความเสียหายในส่วนของสายการบิน

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ตามที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ประกาศงดเที่ยวบินทุกเที่ยวตั้งแต่เวลา 04.00 น.ของวันที่ 26 พ.ย. ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท.ทั้งหมด คือ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ เตรียมพร้อมในการรองรับเที่ยวบินที่อาจมีการเปลี่ยนมาลงที่ท่าอากาศยานดังกล่าว

นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ ทอท. มีความพร้อมในการรองรับ ณ ตอนนี้ได้มีเที่ยวบินบางเที่ยว เช่น สายการบินไทยได้ไปลงที่ท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว ซึ่งหากผู้โดยสารต้องการจะถามข้อมูลเพิ่มเติมที่หมายเลข 02-515-9999, 02-132-1882 และ 02-132-1888 ซึ่งท่าอากาศยานภูมิภาคได้มีการเพิ่มเติมอีกจำนวน 10 คู่สาย หรือติดต่อสอบถามสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ที่ 02-325-6901 และ Call Center ของบริษัท การบินไทยฯ 02-536-1111

รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกาศงดเที่ยวบิน ตั้งแต่เวลา 22.00 – 18.00 น. มีเที่ยวบินที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 402 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 204 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออก 198 เที่ยวบิน

. . .



“ผลกระทบการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ”


รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ช่วงไฮซีซั่น) ลดลงประมาณ 1 แสนล้านบาท

รายได้จากธุรกิจบริการขนส่งสินค้า (Air cargo) เสียหายวันละ 1,000 ล้านบาท

รายได้การบินไทย สูญเสียรายได้วันละ 500 ล้านบาท

รายได้ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ค่าธรรมเนียมการจอด และหลุมจอด 50 ล้านบาท

เที่ยวบินที่รับผลกระทบ ทั้งหมด 402 เที่ยวบิน –ขาเข้า 204 เที่ยวบิน --ขาออก 198 เที่ยวบิน

. . .



มุมมองภาครัฐ - เอกชน - นักวิชาการ ต่อการปิดสนามบิน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ-ความเชื่อมั่นการลงทุน-ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง


ภาครัฐ

นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลกระทบต่อภาพพจน์ของประเทศเสียหายอย่างมาก เพราะเป็นประตูแรกในการเดินทางเข้าประเทศของนักลงทุน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงกระทบต่อความเชื่อมั่นและรายได้จากการท่องเที่ยว เพราะทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกเที่ยวบินเข้าประเทศ จึงขอวิงวอนกลุ่มพันธมิตรให้เลิกกระทำการดังกล่าว

นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการปิดสนามบิน ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น กระทบการลงทุน และกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยว และตอนนี้หลายประเทศเตือนประชาชนของตนเองที่จะเข้ามาในประเทศไทยให้ระมัดระวัง นอกจากนี้ นักลงทุนที่เดินทางมากับเครื่องบิน เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็อาจตัดสินใจเลือกไปลงทุนประเทศอื่นแทน

ภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจ ปีนี้ประมาณการว่า เศรษฐกิจของไทย จะเติบโตร้อยละ 4-5 แต่ปีหน้า มีหลายสำนักประเมินว่า จะขยายตัวที่ร้อยละ 2.5-3.0 ซึ่งกระทรวงการคลัง มีความเห็นสอดคล้องกับหน่วยงานอื่น ซึ่งนอกจากผลกระทบจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกแล้ว ปัญหาการเมืองในประเทศ ส่งผลต่อเศรษฐกิจด้วย เรื่องดังกล่าวจึงน่ากังวล อยากให้คนไทยช่วยกันดูแล เพราะทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน


ภาคเอกชน

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย ประเมินว่า การปิดสนามบินครั้งนี้ส่งผลต่อความเสียหายทางธุรกิจมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความเชื่อมั่นของนักธุรกิจต่างชาติ ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย จึงขอให้ทุกฝ่ายเร่งยุติปัญหา

นายเฉลิมชาติ นครังกุล รองประธานหอการค้า จ.เชียงใหม่ ระบุว่า การปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลกระทบต่อภาคการลงทุนการท่องเที่ยว และจะส่งผลให้ผู้นำประเทศต่างๆ ที่จะเดินทางมาประชุม “อาเซียน ซัมมิท” ที่ จ.เชียงใหม่ ต้นเดือนหน้าขาดความเชื่อมั่น

ขณะที่หอการค้า จ.สงขลา และหอการค้า จ.นครราชสีมา เห็นตรงกันว่า การชุมนุมปิดสนามบินกระทบต่อการท่องเที่ยว และการลงทุน และทำให้นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในความปลอดภัย

ส่วนที่สนามบินนานาชาติภูเก็ต เชียงใหม่ และเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีนักท่องเที่ยวตกค้างเป็นจำนวนมาก หลังจากสายการบินต่างๆ ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน

ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนามบินนานาชาติ จ.กระบี่ ยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ เนื่องจากมีสายการบินนานาชาติ บินตรงไปรับนักท่องเที่ยว 3 สายการบิน คือ สายการบินฟินแลนด์, สายการบินสวีเดน, และกัวลาลัมเปอร์แอร์ไลน์ ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเปลี่ยนแผนไปใช้บริการสนามบินอื่นๆ แทน


นักวิเคราะห์-นักวิชาการ


ปิดสนามบินท่องเที่ยว-รร.-รพ.กระทบหนักสุด

สถาบันวิจัยนครหลวงไทย ประเมินปิดสนามบินสุวรรณภูมิ กระทบจีดีพีปีนี้เหลือโต 4.55% ปีหน้า 3.05% มองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกระทบหนักสุด รองลงมา ธุรกิจการบิน และโรงพยาบาล

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : สถาบันวิจัยนครหลวงไทย วิเคราะห์สถานการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรฯ เข้าปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิว่า ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ (Real GDP Growth) โดยได้ปรับประมาณการลดลง 0.15%-0.25% จากระดับค่าเฉลี่ยเดิมที่ 4.55% และ 3.05% เหลือ 4.40% และ 2.90% ตามลำดับ

ทั้งนี้มองว่ามี 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้โดยตรง ได้แก่ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว กลุ่มธุรกิจการบิน และกลุ่มโรงพยาบาล

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มท่องเที่ยวที่ SCRI มีแนวโน้มปรับประมาณการในอนาคตลงอย่างชัดเจน เนื่องจากการเติบโตจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2551 คาดจะลดลงมากเป็นประวัติการณ์และลดลงต่ำกว่าวิกฤตการณ์ระเบิดที่ตึกเวิร์ดเทรด ประเทศสหรัฐอเมริกาและเหตุการณ์สึนามิในปี 2545 และ 2548 ที่ระดับ -2% และ -1% ตามลำดับ

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มโรงพยาบาล แม้ในระยะสั้นอาจได้รับผลกระทบจากจำนวนผู้ป่วยที่ปรับลดลง แต่ SCRI ประเมินในระยะยาว หากปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว โรงพยาบาล ยังเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูงและสามารถสร้างผลตอบแทนต่อเนื่อง ดังนั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากประเด็นดังกล่าวจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและอยู่เพียงวงจำกัด

โดยประเมินว่า ภาคการท่องเที่ยวในปี 2551 จะเสียหายประมาณ 60,000- 100,000 ล้านบาท ซึ่งในเบื้องต้นแล้วจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ลดลงอยู่ในช่วง 0.15 - 0.25% เท่านั้น

ทั้งนี้จากการที่มีการออก Travel Warning หลังจากหลายประเทศ และคาดว่าจะมีเพิ่มเติมจากหลายประเทศ คาดว่าจะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงอีกครั้งจากระดับ 14.6 ล้านคน เหลือ 13.9 - 14 ล้านคน หรือลดลงจากประมาณการเดิม ประมาณ 4.3% และสะท้อนระดับที่ลดลง 3.6% yoy (year on year) ซึ่งเป็นระดับที่ลดลงมากเป็นประวัติศาสตร์

สำหรับผลกระทบระยะยาวจะทำให้เม็ดเงินในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เคยประเมินว่าจะเหลือ 40,000 - 100,000 ล้านบาท จากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองเดือนกันยายนที่ผ่านมา ครั้งนี้จะทำให้การท่องเที่ยวสูญเสียรายได้เพิ่มขึ้นอีกเป็นประมาณ 60,000 - 100,000 ล้านบาท

ขณะที่ธุรกิจด้านการบิน ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซั่น การหยุดชะงักของจำนวนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าวจึงทำให้เกิดการสูญเสียรายได้ในช่วงระยะเวลาที่สำคัญ ทั้งนี้ อิงจากสัดส่วนจำนวนผู้โดยสายและเที่ยวบินปีที่ผ่าน ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ถึงไตรมาสแรกของปีหน้าสัดส่วนผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวคิดเป็นประมาณไตรมาสละ 27%-28% ของปริมาณรวมทั้งปี

เบื้องต้นหากประเมินผลกระทบทางตรงในระยะสั้นจากการปิดสนามบินคาดจะกระทบรายได้ต่อปีวันละประมาณ 0.29% หรือประมาณเบื้องต้นวันละ 52-53 ล้านบาท ทั้งนี้ AOT มีค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่โดยสัดส่วนหลัก เช่น ค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายพนักงาน รวมประมาณ 47 ล้านบาท/วัน

ขณะที่ผลกระทบระยะยาวจะเกิดจากการชะลอตัวของจำนวนผู้โดยสายและเที่ยวบินจากภาวะธุรกิจท่องเที่ยวที่คาดจะซบเซาลง โดย AOT ได้คาดว่า รายได้ที่เกี่ยวข้องกับการบินประมาณ 77% (อิงสัดส่วนรายได้จากรอบ 9M/51) หากประเมินผู้โดยสารลดลงทุก 1 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนที่กระทบต่อรายได้ต่อปีประมาณ 1.37%

ขณะที่การบินไทย ประเมินว่า สัดส่วนรายได้ที่กระทบโดยตรงมาจากรายได้ค่าโดยสารและค่าน้ำหนักส่วนเกินซึ่งมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 81% ของรายได้รวม(อิงรอบ 9M/51) ทั้งนี้ หากจำนวนผู้โดยสารปรับลดไปทุก 1% คาดกระทบรายได้ทั้งปีประมาณ 0.81%

สำหรับกลุ่มโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้อย่างมาก คือ โรงพยาบาลที่มีจำนวนผู้ป่วยต่างชาติสูง ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ สมิติเวช บีเอ็นเฮช โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

โดย SCRI ประเมิน ความไม่แน่นอนทางการเมือง อาจทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลงแบ่งได้เป็น 2 กรณี

1) กรณี Base Case: สถานการณ์สามารถควบคุมได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับความเชื่อมั่นในธุรกิจโรงพยาบาลของประเทศไทยยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ 90% ของผู้ป่วยยังเข้ามารักษาตัวสม่ำเสมอ แต่ 10% ในกลุ่มนักท่องเที่ยวคาดจะยังชะลอตัวเนื่องจากนักท่องเที่ยวอาจต้องการประเมินสถานการณ์เพื่อความมั่นใจอีกครั้ง

2) กรณี Worst Case: สถานการณ์ยืดเยื้อ คาดจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เข้ารักษาตัวในประเทศจะอยู่ในระดับ 60% ของผู้ป่วยรวม ขณะที่อีก 40% ของผู้ป่วยต่างชาติจะปรับลดลง



นายไพรัช ตระการศิรินนท์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การปิดล้อมสถานที่ต่างๆ ของพันธมิตรฯ จะไม่เกิดขึ้น หากรัฐบาลมีการประเมินสถานการณ์ และเตรียมมาตรการรับมือที่ดี โดยเฉพาะเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อไม่ให้ปิดสนามบิน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล ที่ไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้

นายสุทธิพงษ์ หกสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มองว่าทุกฝ่ายต้องวิเคราะห์เหตุการณ์การปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิอย่างรอบด้าน ด้านพันธมิตรฯ เองก็ต้องรับผิดชอบความเดือดร้อนของประชาชนโดยทั่วไป และรัฐบาลก็ควรจะแสดงความรับผิดชอบด้วย ที่ไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ สื่อมวลชนควรทำหน้าที่เสนอข่าวอย่างเป็นกลาง และไม่ควรเสนอข่าวเฉพาะเหตุการณ์ เพราะจะทำให้สถานการณ์บานปลายมากขึ้น

. . .




 

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2551
18 comments
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2551 19:39:05 น.
Counter : 2587 Pageviews.

 

ปัญหาเหล่านี้ ใครจะรับผิดชอบ? เดือดร้อนกันไปหมดเลยคะ

 

โดย: หมูเรนเจอร์ตัวที่ 3 (shinjung2231 ) 26 พฤศจิกายน 2551 20:27:17 น.  

 

เป็นความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทั้งเสียภาพพจน์ของประเทศอีก ใครล่ะ จะช่วยกู้กลับมาได้ คนบ้าพวกนี้เที่ยวอาละวาดเพื่อให้ได้ดังใจ ไม่สนใจว่าใครจะฉิบหายเท่าไหร่ไม่น่ามาอยู่บนแผ่นดินนี้เลยจริง ๆ Air Cargo ยิ่งแล้วเลยสินค้าบางตัวเป็นของสดซึ่งเน่าเสียได้ หากไม่ได้ส่งให้ถึงที่หมายตามเวลา แล้วใครจะจ่ายค่าเสียหายนี้ล่ะ เฮ้อ...

 

โดย: Jujastar 26 พฤศจิกายน 2551 20:58:37 น.  

 

ละหนูจะกลับเมืองไทยยังไงอ่ะเนี่ย???

เซร็งเจรงๆนะ การเมืองไทย ....

 

โดย: pineapplekiss 26 พฤศจิกายน 2551 21:05:56 น.  

 

...
พันธมิตรเขาทำเพื่อกู้ชาติ
เราต้องยอมๆ
...
ข้อเรียกร้องเปลี่ยนรายวัน
วันนี้นาทีนี้บอกนายกต้องลาออก
ถาม
ถ้านายกฯลาออกพันธมิตรจะยอมรับผิดมั้ย
กฏหมายไม่เคารพ ใช้กฏหมู่

ต่อไปใครอยากได้อะไรก็ทำตามอย่างพันธมิตรอย่างนั้นหรือ

เขาว่าทักษิณโกงเป็นพันล้าน แต่เมืองไทยยังอยู่ดี
พันธมิตรบอกว่าทำเพื่อชาติแค่วันเดียวพังเป็นพันๆล้าน
และคงไม่รับผิดชอบอะไร คงโยนไปที่รัฐบาลอีกเช่นเคย

คราวนี้คงได้กู้ซากกันจริงๆ
ปวดใจ

 

โดย: สิงห์อมบ๊วย IP: 119.42.82.33 26 พฤศจิกายน 2551 22:29:47 น.  

 


. . .


เกี่ยวกับเรื่องคุณสมบัติผู้นำนั้น ผมคิดว่าไม่มีเรื่องไหนสามารถสาธิตประเด็นนี้ได้ชัดเจนเท่าเรื่องของพญาวานรในนิทานชาดกชื่อมหากปิชาดก

ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ถือกำเนิดเป็นพญาลิงผู้มีพละกำลังมหาศาลและมีบริวารอยู่แปดหมื่นตัว ในขณะที่พญาลิงพาบริวารมาเก็บผลมะม่วงรสดีกินอยู่ในป่าหิมพานต์นั้น บังเอิญมีมะม่วงผลหนึ่งตกลงไปในแม่น้ำ และลอยไปติดข่ายของพระราชาเมืองพาราณสี พระราชาทรงชิมผลมะม่วงแล้วเกิดติดใจจึงยกไพร่พลออกค้นหาต้นมะม่วงที่อยู่ต้นน้ำ ครั้นพบฝูงลิงปีนป่ายอยู่บนต้นมะม่วงเต็มไปหมดก็สั่งทหารถืออาวุธไปล้อมไว้ เตรียมจะประหัตประหารไม่ให้มีเหลือแม้ตัวเดียว

ฝ่ายพญาลิงเห็นบริวารตกอยู่ในห้วงอันตรายจึงกัดเครือหวายตั้งใจว่าจะผูกเป็นสะพานเชื่อมระหว่างต้นมะม่วงกับต้นไม้ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แต่หวายยาวไม่พอจึงตัดสินใจใช้มือยึดกับต้นมะม่วงและทอดร่างต่อจากเส้นหวายให้บริวารได้เหยียบข้ามไปสู่ความปลอดภัย จนกระทั่งบริวารลิงหนีพ้นภัยไปสู่ฝั่งตรงข้ามได้ครบทุกตัว แต่เคราะห์กรรมของพญาลิงผู้เป็นหัวหน้าก็คือลิงตัวหนึ่งซึ่งเป็นพระเทวทัตมาเกิดได้ถือโอกาสนี้กระโดดใส่หลังพระโพธิสัตว์ที่เป็นพญาวานรอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บ และไม่อาจหนีตามฝูงของตนไป

สุดท้ายพระราชาซึ่งเห็นภาพทั้งหมดเกิดรู้สึกสะเทือนพระทัย จึงโปรดให้นำพญาลิงมารักษาพยาบาล แต่อาการท่านสาหัสเกินกว่าจะเยียวยาจึงสิ้นใจไป ก่อนหน้านั้น พระราชาได้ตรัสถามพญาลิงว่าทำไมจึงยอมเจ็บตัว พญาลิงได้กล่าวกับพระราชาว่า'เราเป็นพญาลิง ปกครองฝูงลิงทั้งหมด เมื่อพวกเขาตกอยู่ในอันตราย เราจึงต้องนำความสุขมาให้ผู้อยู่ภายใต้การปกครอง'
ผมไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม ท่านทั้งหลายก็คงประจักษ์ชัดแล้วว่าคุณสมบัติผู้นำตามหลักพุทธศาสนานั้นเป็นเช่นใด

แต่พูดก็พูดเถอะ การเป็นผู้นำการเมืองนั้นไม่จำเป็นต้องหมายถึงบุคคลที่กุมอำนาจการปกครองแต่ฝ่ายเดียว ฝ่ายต่อต้านคัดค้านที่รวบรวมกำลังคนมาตั้งเป็นพรรคเป็นพวกหรือตั้งเป็นขบวนการเมืองในชื่อต่างๆก็สามารถเป็นผู้นำการเมืองได้ หรือจะเป็นแค่ผู้แสวงหาอำนาจธรรมดาๆก็ได้ ถ้าหากไม่ยึดถือในหลักธรรม ถ้าหากมองไม่เห็นว่างแห่งอำนาจ

ผมได้พูดไว้แล้วข้างต้นว่าปรมัตถ์กับบัญญัติไม่ได้แยกขาดจากกัน เพราะฉะนั้นเรื่องการเมืองนี้ถ้าทำให้ถูกให้ดี ก็เท่ากับสามารถอาศัยวัฏสงสารเป็น'พาหนะเดินทาง'ไปสู่นิพพาน ถ้าทำไม่ถูกต้องก็วนเวียนอยู่ในวัฏจักรแห่งความทุกข์ร้อนไม่สิ้นสุดเช่นกัน

ถ้าเราเข้าใจอำนาจแห่งความว่าง และเข้าถึงความว่างแห่งอำนาจเราจะรู้ว่าการขัดแย้งทางการเมืองล้อมรอบสมมุติสัจจะนั้น ควรจะมีขอบเขตอยู่ตรงไหน และอาศัยวิธีการเช่นใด

ถ้าเราหยั่งถึงอิทัปปัจยตา (หรือ ปฏิจจสมุปบาท) ก็จะมองเห็นว่าความรักบ้านรักเมืองไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยชัยชนะเหนือคู่แข่งอย่างเดียว บางครั้งการยอมแพ้กลับเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่กว่า แสดงความรักบ้านรักเมืองได้มากกว่า เหมือนมารดาพร้อมยกบุตรให้ผู้อื่นในยามที่ตัวเองดูแลปกป้องไม่ได้

แพ้ชนะถึงที่สุดแล้วก็เป็นสุญญตา ไม่มีความจริงรองรับ มีแต่เราเองไปบัญญัติมันขึ้นมา

พูดกันตามหลักรัฐศาสตร์ อำนาจนั้นเปลี่ยนมือได้เสมอ ถ้าผู้ปกครองไม่สามารถแก้ปัญหาให้ผู้อยู่ใต้การปกครองได้ หรือมีวิกฤตฉันทานุมัติอย่างต่อเนื่อง

แต่เปลี่ยนแล้วจะดีขึ้นหรือไม่ ยังไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัวเสมอไป มันขึ้นอยู่กับผู้นำการเปลี่ยน แปลงว่ามีปัญญาญาณมากน้อยเพียงใด คนในสังคมเห็นพ้องต้องกันในทิศทางของการเปลี่ยนแปลงแค่ไหน หากสังคมยังไม่เห็นพ้องต้องกันในทิศทางการเปลี่ยนแปลง การล้มลงของระบอบเก่าหรืออำนาจเก่าก็รังแต่จะนำไปสู่สภาพกลียุคและอนาธิปไตย

จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ บางครั้งอำนาจใหม่กลับฆ่าคนเสียยิ่งกว่าอำนาจเก่าที่ล่มสลาย เนื่องจากทิฐิที่ยึดติดในการเปลี่ยนแปลง และไม่ต้องการรอคอยให้ผู้คนเห็นด้วย เรื่องเช่นนี้เคยเกิดมาแล้วในหลายๆประเทศ ซึ่งเราควรถือเป็นบทเรียน

ดังนั้น ในทัศนะของท่านอาจารย์พุทธทาส ระบอบการเมืองแบบไหนยังไม่สำคัญเท่ากับว่ามีธรรมะหรือไม่ เพราะถ้าไม่มีธรรมมะ ถึงอย่างไรก็สร้างสันติสุขให้บังเกิดมิได้ และท่านถือว่าภาวะไร้สันติภาพเป็นปัญหาร้ายแรงที่สุดของมนุษย์

การไม่ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข นับเป็นเคราะห์กรรมอย่างยิ่งของแผ่นดิน
ด้วยเหตุนี้ ความพยายามที่จะรักษาระบอบการเมืองก็ดี ความพยายามที่จะปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงระบอบการเมืองก็ดี จึงไม่อาจสำเร็จได้ด้วยความชัง ไม่อาจใช้โลภะโทสะโมหะมาขับเคลื่อน เราจะสร้างสังคมที่สันติสุขได้อย่างไรหากวิธีการขัดแย้งกับจุดหมายเสียตั้งแต่ต้น สำหรับชาวพุทธแล้วมรรควิถีมีค่าเท่ากับจุดหมายปลายทาง

. . .


เป็นบางส่วนจาก ปาฐกถา เสกสรรค์ ประเสริฐกุล : “อำนาจแห่งความว่าง ความว่างแห่งอำนาจ”
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2551 ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ได้ปาฐกถาชุด"พุทธธรรมพาไทยพ้นวิกฤต" จัดโดยมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ณหอประชุมมหิศร สำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)


อ่านฉบับเต็มได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=loykratong&group=2


. . .

 

โดย: ส้ม IP: 118.173.223.131 27 พฤศจิกายน 2551 14:43:59 น.  

 

วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เจ๋ง !!!
สัมเก่งจัง

 

โดย: ป้าซ่าส์ 27 พฤศจิกายน 2551 19:48:18 น.  

 

. . .



ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขยายเวลางดให้บริการขึ้น-ลงเที่ยวบินถึง 18.00 น.เสาร์นี้


นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงชุมนุมที่หน้าอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นวันที่ 3 และยังไม่มีทีท่าว่าจะสลายการชุมนุม

ดังนั้นจึงจำเป็นต้องประกาศงดการให้บริการขึ้น-ลงของเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต่อไปอีกจนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งขณะนี้ได้ออกประกาศแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานทางอากาศ (Notice to Airmen : NOTAM) แล้ว

นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า สำหรับท่าอากาศยานดอนเมือง ยังคงไม่สามารถเปิดให้บริการได้เช่นเดียวกัน โดยได้มีการประกาศแจ้งให้ผู้ปฏิบัติงานทางอากาศ จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551

จึงขอให้ผู้โดยสารไม่ต้องเดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง จนกว่าจะมีการเปิดให้บริการได้ ซึ่งจะมีการแจ้งให้ทราบต่อไป หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ โทร. 02-132-1888 และ 02-535-6781-3

. . .



ผู้ส่งออกหาทางระบายสินค้าผ่านเส้นทางอื่นแทนสนามบินสุวรรณภูมิ


นายเกริกกล้า สนธิมาศ ประธานสหพันธ์โลจิสติกส์ไทย กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าทางอากาศได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทผักผลไม้ ทางสหพันธ์ฯ พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หาทางแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการส่งออกและนำเข้าวัตถุดิบ ผ่านทางบกไปยังประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ หลังจากนั้นจึงส่งสินค้าไปทางเครื่องบิน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้อย่างช้าวันที่ 28 พ.ย.นี้ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อชื่อเสียง และเห็นว่าเป็นผลดีมากกว่าการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า

หลังจากเกิดปัญหาปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็ได้รับข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการประมาณ 100 ราย ที่ติดขัดในการส่งออกสินค้า ซึ่งกำลังเร่งหาทางออกให้เร็วที่สุด

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองเลขาธิการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความเสียหายในส่วนของการขนส่งสินค้าว่า มูลค่าการขนส่งสินค้าทางอากาศต่อวันจะมีประมาณ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าขาเข้า 1,200 ล้านบาท และสินค้าขาออก 1,800 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีความเสียหายแล้วประมาณ 9,000 ล้านบาท หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อไปอีกหนึ่งเดือน จะส่งผลเสียหายประมาณแสนล้านบาท

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ทางกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำทั่วโลกชี้แจงกับคู่ค้าและทำความเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลกระทบระยะสั้น และคงไม่ถึงขั้นยกเลิกการสั่งซื้อสินค้า

สำหรับการขนส่งทางอากาศ นายศิริพลกล่าวว่าแต่ละวันจะมีการส่งออกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 1,000 ตัน แต่มูลค่าไม่สูงมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผักและผลไม้ สำหรับผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ ทางกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนให้ผู้ส่งออกที่โทร. 0-2512-0123, และ 0-2507-7000

. . .



กรมการขนส่งทางอากาศพร้อมออกใบอนุญาตทุกสายการบินลงอู่ตะเภาได้


นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาการอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ เปิดเผยว่า การปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ส่งผลให้การให้บริการเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ กรมการขนส่งทางอากาศจะแก้ปัญหาโดยออกใบอนุญาตให้สายการบินทุกแห่งทำการบินขึ้น-ลงรับส่งผู้โดยสารที่สนามบินอู่ตะเภาได้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย เป็นต้นไป

สายการบินที่ประสงค์ใช้สนามบินอู่ตะเภาขอให้แจ้งเรื่องขออนุญาตใช้สนามบินอู่ตะเภามาที่กรมการขนส่งทางอากาศทันที

ทั้งนี้ ได้ประสานงานให้สนามบินอู่ตะเภามีสิ่งอำนวยความสะดวก และอุปกรณ์บริการภาคพื้นของอากาศยานไว้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานแล้ว โดยส่วนอุปกรณ์บริการภาคพื้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดอุปกรณ์เข้าไปดูแลให้บริการแก่เครื่องบินที่มาลงที่สนามบินอู่ตะเภา

สำหรับผู้โดยสารที่มีความประสงค์จะเดินทางไปร่วมพิธีฮัจญ์ในต่างประเทศ จะมีเที่ยวบินให้บริการจากสนามบินอู่ตะเภาไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย กรมการขนส่งทางอากาศ จะจัดรถอำนวยความสะดวกจากกรุงเทพฯ-สนามบินอู่ตะเภาด้วย

. . .



การบินไทยยืนยันความพร้อมเปิดบินที่อู่ตะเภา


พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในการประชุมฝ่ายบริหารของการบินไทยวันที่ 27 พ.ย. ได้หารือแนวทางแก้ไขปัญหากรณีการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง โดยฝ่ายบริหารได้เตรียมพร้อมให้การบินไทยไปทำการบินขึ้น-ลงที่สนามบินอู่ตะเภา

พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, กรมศุลกากร, การให้บริการเติมน้ำมันอากาศยาน, และครัวการบิน ซึ่งมั่นใจว่าสนามบินอู่ตะเภามีความพร้อมสามารถดำเนินการได้

. . .



เอกชนห่วงผลกระทบการปิดสนามบินสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างมากขึ้น


นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง ว่า ผลกระทบจะขยายวงกว้าง ทั้งเรื่องการขนส่งสินค้า ผัก อาหารสด และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนปัญหาทางด้านการท่องเที่ยว นายสันติ กล่าวว่า เป็นผลเสียที่ประเมินค่าไม่ได้

นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบไปถึงการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกลางเดือนธันวาคมนี้ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพอีกด้วย ขณะที่การลงทุนของต่างประเทศ คงจะชะลอตัวออกไป เพราะขณะนี้ความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่มีต่อประเทศไทยมีน้อยลง

สำหรับมาตรการการแก้ไขจะต้องมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท. ก่อน และประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ต้นเดือนธันวาคมนี้ เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันอ่อนไหว และกระทบกระเทือนได้ง่าย

นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยาน นอกจากจะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวในฤดูท่องเที่ยวช่วง เดือนพฤศจิกายนปีนี้ ถึงกุมภาพันธ์ ปีหน้า เสียหายรวมกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 6 เดือนแล้ว ยังจะกระทบต่อการจ้างงาน ซึ่งปัจจุบันธุรกิจท่องเที่ยวจะมีบุคลากรอยู่ประมาณ 1.2 ล้านคน คาดว่าได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70

. . .


ไปรษณียภัณฑ์ตกค้าง 25,000 ชิ้นหลังสุวรรณภูมิปิดให้บริการ


นางปาริษา ปานะนนท์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่าการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจนไม่สามารถเปิดให้บริการได้ทั้งสายการบินในและต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนเป็นต้นมา ทำให้ไม่สามารถรับส่งพัสดุระหว่างประเทศได้ ทำให้มีถุงเมล์ขาออกตกค้างประมาณ 1,000 ถุง คิดเป็นจำนวนไปรษณียภัณฑ์ประมาณ 25,000 ชิ้น โดยเป็นไปรษณีย์ด่วนพิเศษราว 4,000 ชิ้น และหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อต่อไปอีก คาดว่าปริมาณการตกค้างจะมากขึ้น แต่ยืนยันจะดูแลไปรษณีย์ทุกชิ้นอย่างดีที่สุด และจัดส่งทันทีที่ท่าอากาศยานสามารถเปิดให้บริการได้

. . .



การปิดสนามบิน กระทบ SMEs ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง นักท่องเที่ยวต่างชาติยกเลิกทัวร์ถึงกลางปีหน้า


ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์และเตือนภัย SMEs รายสาขา (SAW) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังงานสัมมนา “ฝ่าวิกฤติปีหนูไฟ อนาคต SMEs ไทย สดใสจริงหรือ?” ว่า ผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมือง โดยเฉพาะการปิดสนามบิน ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อธุรกิจท่องเที่ยวกลุ่ม SMEs ที่เดิมคาดว่าจะลำบากอยู่แล้ว ในปี 2552 มีแนวโน้มปิดตัวกว่า 3.43% หรือ 375 ราย เมื่อเจอปัญหาดังกล่าวซ้ำเดิมเข้าอีก จากการสอบถามข้อมูลล่าสุด พบว่า คณะทัวร์ต่างๆ ได้ยกเลิกออเดอร์เที่ยวเมืองไทยแล้วจนถึงกลางปีหน้า
และเมื่อรวมความเสียหายของธุรกิจ SMEs ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ภาคบริการ การค้า สปา สินค้าของชำร่วย ที่ระลึก และสินค้าโอทอป ฯลฯ คาดว่า จะสูญเสียรายได้ 1 -2 แสนล้านบาท และหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อ ความเสียหายจะมากขึ้นไปอีก

นอกจากนั้น ผลกระทบทางอ้อม จากทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยเศรษฐกิจภายนอกชะลอตัว น่ากังวลว่า ปีหน้าจะเกิดวิกฤตภาคการค้า โดยผู้ค้าปลีกค้าส่งข้ามชาติรายใหญ่ หรือโมเดิร์นเทรดต่างๆ จะแข่งขันด้านสงครามราคา โดยผลักภาระการลดต้นทุนมาสู่ผู้ประกอบการ SMEs ภาคผลิตที่ต้องส่งสินค้าเข้าจำหน่ายในสรรพสินค้าเหล่านี้ ทำให้ SMEs ต้องยอมผลิตสินค้าได้กำไรน้อยลงกว่าเดิม
รวมถึง SMEs บางรายที่ยกระดับตัวเองมาสู่ระดับ ODM โดยมีแบรนด์ของตัวเอง ต้องถูกบีบให้กลับไปสู่ภาค OEM หรือแค่รับจ้างผลิต ได้ผลตอบแทนน้อยอีกครั้ง

ด้านการเลิกจ้างเฉพาะธุรกิจ SMEs จริงๆจะมีประมาณ 120,000 คน โดยรัฐบาลต้องเตรียมแผนรับการถูกเลิกจ้างงานทั้งระบบ ทั้งภาคการผลิต การค้า และบริการ และหากมีการเลิกจ้างงานในภาคเอกชน อยากให้รัฐบาลขยายองค์กรภาครัฐที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ โดยรับกลุ่มผู้ตกงานเข้าทำงาน นอกจากจะช่วยสร้างงานแล้ว ยังเป็นการนำบุคลากรที่มีคุณภาพจากภาคเอกชนมาพัฒนาการทำงานของภาครัฐด้วย

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า อยากให้ทบทวนละเว้น หรือลดหย่อนการเก็บภาษีแก่ SMEs สาขาที่ได้รับผลกระทบรุนแรง รวมถึงกลุ่มผู้ถูกเลิกจ้าง

นอกจากนั้น อยากให้หันมาให้ความสำคัญแก่ SMEs อย่างแท้จริงเสียที เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าใครจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลต่างชูนโยบายส่งเสริม SMEs แต่การปฏิบัติกลับตรงกันข้าม ซึ่งต่างจากประเทศอย่างญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ ที่ให้สำคัญอย่างแท้จริง ทำให้มี SMEs เป็นสัดส่วน GDP ของประเทศมากกว่า 55% ประเทศเหล่านี้จึงมีพื้นฐานเศรษฐกิจแข็งแรง ขณะที่ประเทศไทยมี SMEs เป็นสัดส่วน GDP ไม่ถึง 40 %

. . .



แรงกดดันการเมืองผลักดัชนีหุ้นไทยติดลบ


ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการเมืองในประเทศ ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวผันผวน ก่อนจะปิดตลาดที่ 389.81 จุด ลดลง 5.41 จุด หรือร้อยละ 1.37 ด้วยมูลค่าซื้อขาย 9,074 ล้านบาท

นักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ 244 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 88 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 157 ล้านบาท

น.ส.จิตรา อมรธรรม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นหลัก จากการชุมนุมปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งกระทบเศรษฐกิจทุกกลุ่ม ทั้งส่งออก โรงพยาบาล และสื่อสาร ทำให้หุ้นไทยลดลงขณะที่ตลาดหุ้นประเทศเพื่อนบ้านล้วนกระเตื้องขึ้น จากการที่หลายประเทศร่วมมือกันแก้ปัญหาวิกฤติการเงินโลก

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 28 พ.ย. ยังขึ้นกับการเมืองในประเทศเป็นหลัก ซึ่งต้องติดตามเป็นรายวันว่าจะมีพัฒนาการอย่างไร และมีความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่ โดยประเมินแนวรับที่ 380-383 จุด และแนวต้านที่ 400 จุด

. . .

 

โดย: loykratong 27 พฤศจิกายน 2551 21:34:24 น.  

 

อยากฟังความคิดเห็นของพ่อส้มเอง แบบพอสังเขปน่ะจ๊ะ

นิมนต์จ้า.....

 

โดย: ป้าวี IP: 124.120.199.169 28 พฤศจิกายน 2551 18:06:59 น.  

 

โดยเฉพาะเรื่องปิดสนามบินน่ะจ๊ะ
เพื่อกดดันให้ สมชายลาออก แลกกับ หนึ่งแสนล้านที่ฉิบหายและเมืองไทยถอยหลังไปอีก 20 ปี คุ้มมั๊ยจ๊ะ

 

โดย: ป้าวีอีกที IP: 124.120.199.169 28 พฤศจิกายน 2551 18:12:33 น.  

 

 

โดย: ดราก้อนวี 29 พฤศจิกายน 2551 9:43:31 น.  

 

พันธมิตรทำไม่ถูก ถ้าตัวเองต้องการอะไร ก็ให้มาเจรจากันดีดี ไม่ใช่มาทำให้บ้านเมืองต้องวุ่นวายแบบนี้ เนี่ย...แล้วก็ให้นายกพิจารณาตัวเอง ซึ่งที่จริงพวกพันธมิตรน่าจะดูตัวเองก่อนจะว่าผู้อื่นจะดีกว่าไหม แล้วถ้ารัฐบาลยอมลาออกจะให้ใครมาเป็นนายก หรือว่าจะให้พรรคฝ่ายค้านมาเป็นหรือไง มันจะไม่มีพิรุธหน่อยเหรอ ทำซะออกหน้าออกตาขนาดนี้ บ้านเมืองจากสวยสวยก็มาเป็นที่รกรกของชนกลุ่มน้อยที่ทำให้บ้านเมืองล่มจม คนจะกลับประเทศก็กลับไม่ได้ เสือกมายึดสนามบิน อยากรู้ที่บอกว่ามาชุมนุมด้วยใจ นัดกันพูดหรือเปล่า รู้สึกว่า มันจะเหมือนกันทุกคนเลยนะ สงสัยจะซ่อมกันท่องซะคล่องปากเลย

 

โดย: ผู้หวังดี IP: 61.19.69.2 1 ธันวาคม 2551 15:44:37 น.  

 

ทำแบบนี้ได้งัย รู้ไหมมันทำไห้เราไปจุฬาฯไม่ได้ อารมณ์ เสียเว่ยรู้ไหมงานนี้ 3ปีมีครั้งนะเฟ้ยมัวทำตัวเป็นเศษสวะขยะสังคมอยู่ได้(ผู้นำพันธมิตร) แล้วเล่นมาปิดสนามบินแบบนี้รู้ไหมว่ามันส่งผลต่อประเทศชาติยังไงบ้างแต่ละคนก็เรียนจบชั้นสูงมาไม่ใช่หรอทำไมถึงไม่ใช้หัวสมองคิดบ้าง ถ้ามันแก่กกกกกกกจนคิดไม่ออกจะบอกให้ก็ได้ ว่ามันทำให้รายได้ของประเทศชาติหายไปเป็นล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยนะไอ้งั่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง TOT

 

โดย: คนอารมณ์เสีย IP: 61.19.69.2 1 ธันวาคม 2551 15:47:51 น.  

 

Nu Life นู ไลฟ์

 

โดย: Nu Life นู ไลฟ์ (mlmboy ) 1 ธันวาคม 2551 16:38:05 น.  

 

คืนนี้พระจันทร์ยิ้ม
ปลุกปลอบให้กำลังใจ
ฉันยิ้มตอบพระจันทร์

 

โดย: ดราก้อนวี 1 ธันวาคม 2551 19:05:20 น.  

 






 

โดย: loykratong 1 ธันวาคม 2551 20:01:08 น.  

 

. . .


Earth Shine เป็นปรากฎการณ์แสงโลก จะสังเกตได้ดีในช่วง วันขึ้น 1 - 3 ค่ำ หรือ แรม 12 - 14 ค่ำ เราจะเห็นแสงเรื่อๆ จากด้านมืดของดวงจันทร์ แสงนี้ไม่ใช่แสงจากดวงอาทิตย์โดยตรง แต่เป็นแสงของดวงอาทิตย์ที่สะท้อนยิวโลกไปยังดวงจันทร์และสะท้อนกลับมายังผู้สังเกตบนโลกอีกต่อหนึ่งครับ






 

โดย: loykratong 1 ธันวาคม 2551 20:21:02 น.  

 

ต้นเหตุก็คือทักษินโกงกินหาประโยชน์ให้พวกพ้องมากซะจนประชาชนที่รับรู้ทนไม่ได้ โดนไล่ออกไปแล้วก็ยังพยายามกลับมาสร้างอำนาจ ด้วยการตั้งรัฐบาลนอมินี่พยายามแก้รัฐธรรมนูญลบล้างความผิด .. พันธมิตรต้องอาศัยแรงกดดันจากภายนอกประเทศ เพื่อให้สมชายลาออก ถึงต้องปิดสนามบิน วันนี้ ประเทศชาติเสียหายก็จริงแต่ยังเป็นของคนไทย วันหน้ายังฟื้นคืนกลับมาได้ .. แต่ถ้าไม่มีพันธมิตร ทรัพย์สินส่วนใหญ่ในประเทศจะกลายเป็นของกลุ่มทักษินไปแล้ว และวันนั้น ประเทศจะไม่เป็นของคนไทย แต่เป็นของทักษิน ... ทำไมไม่รับรู้ความเลวของทักษิณกันบ้าง

 

โดย: เหตุและผลอยู่ที่ทักษิน IP: 202.129.9.24 8 ธันวาคม 2551 14:32:32 น.  

 

ทำไมบางคน เข้าใจเพียงว่า ทักษิณโกงเงินแค่พันล้าน
พวกคุณไม่รู้หรือ มันโกงไปเป็นแสนล้าน ...ทรัพย์สินที่ถูกอายัดอยู่ในอังกฤษก็แสนกว่าล้านแล้ว

ฝรั่งเขากลัว ระเบิดรายวันกลางเมืองต่างหาก และอันธพาลไล่ตีคนใส่เสื้อเหลือง

 

โดย: skeptic IP: 125.27.140.121 12 ธันวาคม 2551 1:37:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.