|
|
|
- อาทิตย์ จันทร์ เมฆา และวายุ...
- ... กินเจปี’52 ฯ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ...
- ... ขนมไหว้พระจันทร์ปีนี้ ยอดขายดีกว่าปีก่อน...โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย...
- ... สภาพคล่องในงบดุลของธนาคารพาณิชย์ไทย ส.ค. 52 … เพิ่มขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย....
- ... กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ... ผลกระทบต่อธุรกิจกองทุนรวม ...
- บริการคงสิทธิเลขหมาย…กระทบผู้ให้บริการ หลังเปิดใช้ 3G โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ภาวะเงินเฟ้อติดลบใกล้สิ้นสุด ...
- ... ส่งออกรถยนต์ไทยครึ่งหลัง 2552 มีสัญญาณดีขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ...
- . . . Digital Content Industry . . .โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 : ผลกระทบต่อหลากธุรกิจ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ... . ตลาดหนังสือปี’52 : อัตราขยายตัวชะลอลง...สำนักพิมพ์ต้องเร่งปรับตัว โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย.
- ...พันธบัตรออมทรัพย์ไทยเข้มแข็ง ... ผลต่อสภาพคล่องและดอกเบี้ยแบงก์ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย...
- ... ยางธรรมชาติครึ่งหลังปี 52 โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย...
- การจัดสรรเงินออม...ภายใต้ปัจจัยเสี่ยงในช่วงครึ่งหลังของปี’52 โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ... แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง 2552 ... โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ... แนวโน้มเงินบาทครึ่งหลังปี 2552 ...
- ... กรมธนารักษ์เปิดจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชุดใหม่ครบทุกชนิดราคา ...
- ... ท่องเที่ยวครึ่งหลังปี 2552...มีโอกาสฟื้นตัวปลายปี....
- ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนพฤษภาคม 2552
- ธนาคารกรุงไทยจัด 2 โปรโมชั่นกระตุ้นการใช้จ่าย
- ...วิกฤตการณ์ทางการเงินของโลก : เงินทุนต่างชาติชะลอตัว... ผลต่ออสังหาริมทรัพย์ไทย...
- ... ส่งออก-ลงทุน-ท่องเที่ยว ไทย-จีน : มีทิศทางปรับดีขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ...
- ... ตัวเลขว่างงานเดือนเมษายน 2552 พุ่งขึ้น 49.7% ...
- คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25%
- การส่งออกไม่รวมทองคำในเดือนพฤษภาคมหดตัว 27.3%
- ...เศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวเพิ่มมากขึ้น... แต่...
- กฎหมายกู้เงินฉุกเฉิน 4 แสนล้านบาท … เปิดทางกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- .... ทำไม ต้องทำประกัน???.... (ด้วยคะ)........
- ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาว : ความท้าทายของเศรษฐกิจไทย
- การนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้
- การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์: ฟื้นตัวแล้ว?
- เงินบาทแข็งค่าสูงสุดในรอบ 8 เดือน
- . . . .กระแสรักสวย-รักงาม...ยังคงทำให้ธุรกิจขยายตัว . . . .
- เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 2/2552 อาจยังคงหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
- เศรษฐกิจไทยอาจฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในครึ่งปีหลัง … แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องระวัง
- . . .ราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นลิตรละ 80 สตางค์ ส่วนดีเซลเพิ่มขึ้นลิตรละ 60 สตางค์ วันที่ 21 พ.ค.นี้
- ตัวเลขว่างงานเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ... ลดลงเพราะผลจากฤดูกาล
- . ตลาดหุ้นไทยร่วง 26 จุด - บุหรี่ในขึ้น 10-13 บาท บุหรี่นอก 15-17 บาท
- ผู้บริโภคร้องเรียนร้านค้ากักตุนบุหรี่กว่า 200 ราย
- . . . กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอ ครม. ตัดสินขึ้นภาษีที่ดิน . . .
- . . . ข่าวดี ที่เกิดขึ้น ก่อนวันพระ หนึ่งวัน . . .
- . . .ขึ้นภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย . . .
- ครม.ไฟเขียวให้ลูกจ้าง-นายจ้างลดส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเหลือ 3% จาก 5%
- . . .อัตราเงินเฟ้อเดือนเมษายน52 ...ติดลบเป็นเดือนที่ 4 . . .
- ขึ้นน้ำมันทุกชนิดลิตรละ 1.55 บาท ยกเว้นอี 85 มีผลวันที่ 1 ก.พ.นี้
- ครม.มีมติเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันทั้งเบนซิน-ดีเซล มีผลวันที่ 1 ก.พ. นี้
- คลังเตรียมพิจารณากฎหมายเพื่อเก็บภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงภาษีมรดก
- เตือนภัยหญิงไทยที่ติดต่อชาวต่างชาติผ่านทางระบบ Internet ระวังถูกหลอกให้เสียเงินจากการรับสินค้า
- 7 มาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ-- ปิดปั๊มหลังเที่ยงคืน 31 ม.ค.ก่อนขึ้นราคาน้ำมัน
- กรมสรรพากรชี้แจงเงื่อนไขหักลดหย่อนภาษีเบี้ยประกันชีวิต สำหรับกรมธรรม์ที่ทำหลังวันที่ 1 ม.ค.52
- ราคาก๊าซรถยนต์(แอลพีจี)อาจเพิ่มขึ้น 2 บาทต่อกก.-กระทรวงแรงงานจัดงาน “ตลาดนัดแรงงาน” ทุกวันเสาร์. . .
- กนง. ลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 เหลือร้อยละ 2.00 -- รมว.แรงงานแจงช่วยค่าครองชีพจ่าย 2,000 บาท ครั้งเดียว
- ครม.อนุมติงบกลางปี 1.15 แสนล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ 18 โครงการ
- ต่ออายุ 6 มาตรการฝ่าวิกฤติ - นัดพบแรงงานทุกวันเสาร์ - อนุมัติงบช่วยเหลือผู้ว่างงาน
- ขึ้นราคาน้ำมันลิตรละ 60 สตางค์ 7 ม.ค.นี้
- เงินเฟ้อปี 51 - 5.5% --- หุ้นวันแรกบวก 28 จุด -- ตรึงราคาก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี. . .
- ราคาน้ำมันปีหน้า มีแนวโน้มทรงตัว แต่ค่าไฟฟ้าช่วงครึ่งปีแรกจะปรับขึ้น
- นายกเตรียมปรับลดใช้น้ำฟรีเหลือ 30 หน่วยต่อเดือน - สายด่วนประกันภัย 1186
- ราคาน้ำมันลดลงลิตรละ 60 สตางค์ 26 ธ.ค.นี้
- ราคาที่ดินลาดพร้าวปรับเพิ่ม 65% -- รัฐเตรียมช่วยคนซื้อบ้านใหม่ปีหน้า -- ค่าไฟฟ้าขึ้นหน่วย 14 สตางค์
- ตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ย. หดตัวสูงถึง 18.6%
- รถไฟฟ้าบีทีเอสขยายเวลาเปิดให้บริการคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ถึง 02.00 น.
- ธปท.เตือนประชาชนระวังธนบัตรปลอมระบาด--รฟท. เพิ่มขบวนรถไฟ 18 ขบวน
- ปตท.เตรียมขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีจาก 8.50 บาท เป็น 11 บาท มีผล 1 ม.ค.52--ลดค่าโดยสารขสมก.-บขส.
- ลดราคาดีเซลลิตรละ 0.50 บาท - เก็บเงินเบนซิน 95 เข้ากองทุนน้ำมันลิตรละ 3 บาท - รัฐบาลใหม่
- คาดเฟดลดดอกเบี้ย 0.5% - โอเปกประชุม 17 ธ.ค.นี้ - ราคายางตกต่ำสุดในรอบ 10 ปี
- บขส-รถร่วมเตรียมลดค่าโดยสาร--แบงก์ออมสินลดดอกเบี้ย--ปีใหม่ แบงก์หยุด 5 วัน. . .
- อีก 5 ปี . . . ประชาชนจะกลายเป็นมนุษย์ไฮเทค . . .
- แนวโน้มยอดขายรถยนต์ในประเทศ : ชะลอลงต่อเนื่องถึงปีหน้า
- น้ำมันลดลง 60-80 สตางค์ต่อลิตร--ปีหน้าว่างงาน 9 แสนคน--เบียร์ช้างชะลอเข้าตลาดหุ้น--คลังหนุนปรับภาษี
- เงินบาทแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 22 เดือน ที่ 35.83 / หุ้นปิดที่ 392 แนวต้าน 400 แนวรับ 380
- สุวรรณภูมิพร้อมเปิดเต็นรูปแบบ 5 ธ.ค.นี้ 11.00--บขส.เปิดจองตั๋วล่วงหน้าช่วงปีใหม่-น้ำมันลด 40-60 สต.
- เปิดใช้สนามบินดอนเมือง 4 ธ.ค.-สุวรรณภูมิ 5 ธ.ค.--กนง.ลดดอกเบี้ย 1%--น้ำมันถั่วเหลืองลดราคา 3.50 บาท
- สนามบินสุวรรณภูมิเปิดรับส่งสินค้าทางอากาศได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.
- น้ำมันลดลงลิตรละ 0.40 บาท-- เงินเฟ้อเดือนพ.ย.2.2% ต่ำสุดรอบ 14 เดือน--สนามบินยังปิดอยู่...
- ผลกระทบการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ
- ..วิกฤติเศรษฐกิจโลก-วิกฤติเศรษฐกิจไทยปี 2552 - ท่องเที่ยว-โรงแรมยอดขายลด 10-15% -- หุ้นบวก 5.73 จุด.
- ราคาน้ำมันลดลงอีก 60-80 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันที่ 25 พ.ย.นี้
- ค่าบาทอ่อน - ตลาดหุ้นแนวโน้มทดสอบ 384 - น้ำมันลด 60-0 สตางค์ -ทองคำพุ่ง 400 บาท -คนตกงานกว่า 4 แสนคน
- ผลการประชุม กรอ.- กระทรวงคลังเตรียมปรับลดภาษี
- จีเอ็มลดคนงาน-คำสั่งซื้อยานยนต์ลดลง-ธกส.พร้อมจ่ายเงินรับจำนำข้าว-หุ้นปิดที่ 408.51 ลดลง 11.46 จุด
- เสนอครม.ลดภาษีนิติบุคคลลง 5% - ขึ้นภาษีสินค้าฟุ่มเฟือย - ปรับเกณฑ์ซีลลิ่ง-ฟลอร์หุ้นใหม่ 2 ธ.ค.นี้
- ราคาน้ำมันลดลงลิตรละ 40-80 สตางค์-ซิตีกรุ๊ปประกาศปลดคนงาน 53,000 คนทั่วโลก
- ก.แรงงานรับวิกฤติคนตกงาน-รถติดตั้งแก๊สลดฮวบ ตามราคาน้ำมัน-เผยแพร่ทีโออาร์เช่ารถเมล์ผ่านเว็ป
- เงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงทั้งสัปดาห์
- ขึ้นราคาก๊าซก.ก.ละ 6 บาท-เตือนธุรกิจเกษตร, ส่งออก, เอสเอ็มอีรับผลกระทบปีหน้า
- ลอยกระทงกันดีกว่า เมี๊ยวๆ...
- ราคาน้ำมันเบนซินลด 80 สตางค์--กกร.เสนอลดภาษี--แนวโน้มตกงานเพิ่ม--การใช้พืชพลังงานลดลง
- โอบามา-ผลกระทบต่อไทย
- แก๊สโซฮอล์-เบนซนลด 60-80 สตางค์-
- เงินเฟ้อต.ค.3.9%ต่ำสุดรอบ 10 เดือน--รัฐกู้เงินรับจำนำข้าว--หุ้นฟื้น 32 จุด--จดทะเบียนแรงงานต่างด้าว
- เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 19 เดือน-ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.ย.ส่งสัญญาณชะลอตัว
- เฟดลดดอกเบี้ย 0.5%-- หุ้นขึ้นพ้น 400 --เว้นเกณฑ์ silent period--กองทุนยางพารา
- น้ำมันดีเซลลง 60 สตางค์--หุ้นตก 13 จุด--หม่อมอุ๋ยแนะเอาเงินฝากแบงก์เล่นหุ้น--SMEควบบสย.
- ขยายเวลาค้ำเงินฝาก 3 ปี-จำนำข้าวโพด-มันสำปะหลัง--TDRI--สศค.
- เซอร์กิตเบรกเกอร์ (circuit breaker)หยุดซื้อขายหุ้นครั้งที่ 3 -ดัชนี 387 ต่ำสุดรอบ 5 ปี-ยอกตกงาน 6แสน
- งดขายทองคำแท่งเสาร์-อาทิตย์--โอเปคลดการผลิต--หุ้นต่ำสุดรอบ 5 ปี--คาดเฟดลดดอกเบี้ยอีก
- ข้าวแกงลดราคา -- กบง.เก็บเงินเพิ่มเข้ากองทุนน้ำมัน -- เบียร์ช้างเข้าตลาดหุ้น -- รถไฟฟ้ารอเข้าครม.
- กระทรวงการคลังเสนอแนวคิดขยายเวลาค้ำเงินฝากทั้งจำนวนอีก 3 ปี - กดค่าบาทให้อ่อนลงอีก 5% อุ้มส่งออก
- แนวโน้มอุตสาหกรรมไทยท่ามกลางมรสุมเศรษฐกิจโลก
- น้ำมันลดลง 10%--ค่าโดยสารรถ-เรือเตรียมปรับลงตาม--ยางพาราราคาตก 43%
- ราคายางลดลงเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ : สาเหตุ ผลกระทบ และทางออก
- วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ - วิกฤติการเงินไทยปี 2540 - ผลกระทบที่แตกต่าง - 6 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย
- ราคาน้ำมันดีเซล-เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลดลงลิตรละ 1 บาท 15 ต.ค.นี้
- ผู้ค้าน้ำมันประกาศลดราคาเบนซิน 40 สต.-ดีเซล 80 สต.พรุ่งนี้
- ไอซ์แลนด์ยึดแบงก์โคปทิง--สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ยืนยันฐานะมั่นคง--ธ.กลางทั่วโลกลดดอกเบี้ย...หุ้นฟื้น 1%
- ทำไมเราต้องดูจิต, วิธีการ "ดูจิต", วงจรกระแสจิต, อานิสงส์ของการแผ่เมตตา, วิธีแผ่เมตตา...
- ลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลงลิตรละ 60 สตางค์ --หุ้นหลุด 500
- ภาคเอกชนเป็นห่วงสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทุกภาคส่วน
- ราคาน้ำมันทุกประเภทลดลง 20-80 สตางค์---หุ้นตกต่ำสุดรอบ 5 ปี--กกร.เสนอ 7 มาตรการเร่งด่วน. . .
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด กนง. คงอัตราดอกเบี้ย 3.75%
- รอลุ้นแผนกูวิกฤติการเงินสหรัฐฯ
- ธุรกิจสถานีบริการก๊าซ LPG ปี51--เงินเฟ้อเดือนก.ย.แนวโน้มชะลอลง
- เงินเฟ้อก.ย.6.0%-ปตท.คาดน้ำมันดิบแกว่งตัว 90-100 USD/Barrel. . .
- กินน้อยตายยาก กินมากตายง่าย
- เศรษฐกิจเดือนส.ค.สะท้อนสัญญาณชะลอตัว
- Emergency Economic Stabilization Act of 2008 (link to full and summary in pdf file)
- โครงการที่น่าติดตามภายใต้รัฐบาลสมชาย 1
- วิกฤตการเงินในสหรัฐฯ ... ผลกระทบต่อภาคการเงินไทย
- ความเชื่อมั่นธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย--กรุงไทยขายกรมธรรม์ประกันภัยรูปแบบใหม่. . .
- เชลล์ขึ้นราคาน้ำมัน 60 สตางค์--คลัง แบงก์ชาติ คปภ มั่นใจสภาพคล่องการเงิน--รายชื่อครม.สมชาย1. . .
- มาตรการกู้วิกฤติการเงินสหรัฐวงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์
- กระทรวงพาณิชย์อาจนำทองคำเป็นสินค้าควบคุม--กินเจ 29 ก.ย.- 7 ต.ค.ผักแพง--พันธบัตรคลังปี 52. . .
- นักวิชาการเตือนรับมือวิกฤติเลห์แมน--เก็บเงินกองทุนน้ำมันเพิ่ม--ยอดขายรถยนต์ลด--ธอส.ลดดอกเบี้ย. . .
- Resolution Trust Corporations (RTC) โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
- ---ผักแพง-ทองขึ้น-ค่าไฟฟ้า-วิเคราะห์วิกฤติเลห์แมน--กินเจปีนี้---
- . . . น้ำมันลด 60 สตางค์-ทองพุ่ง 13,550 บาท--หุ้นผันผวน--รถไฟหยุดวิ่งน้ำท่วม . .
- . . . เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 2.00 และให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้แก่ AIG . . .
- . . . วิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯ ... อาจยังไม่ยุติ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย . . .
- . . . น้ำมันลง 50 สตางค์--
- . . . หุ้นตก-เลห์แมนฯล้มละลาย--แนะซื้อทองต่ำกว่า 13,000.--จำนำข้าว . . .
- . . . คาดเฟดคงดอกเบี้ย 2.00%--รถไฟเปิดให้บริการ 240 ขบวน--ราคาทองกระเตื้องเล็กน้อย. . .
- . . . ทองแท่งเหลือบาทละ 12,650 บาท--ดีเซลลดอีก 60 สตางค์--ดอกเบี้ยพันธบัตร3ปี 4.65% . . .
- ธอส. เชิญชวนเล่านิทานลงเทปหรือแผ่นซีดีมอบให้มูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ
- . . . ครม.แต่งตั้งปลัด-อนุมัติ 3 G -งบจัดซื้ออาวุธ-สร้างรัฐสภาใหม่. . .
- . . . แนวโน้มธุรกิจค้าปลีกครึ่งปีหลังชะลอตัว . . .
- . . . อาหารสัตว์เลี้ยง : เติบโตต่อเนื่อง...หลากปัจจัยหนุน . . .
- . . . แนะคลายเครียด เสพข่าวการเมือง . . .
- . . . ข่าววันที่ 4 ก.ย.51 . . .
- ราคาน้ำมันดีเซลลดลงลิตรละ 60 สตางค์ วันที่ 4 ก.ย.
- . . . อนุมัตินมกล่อง-น้ำมันถั่วเหลืองขึ้นราคา--เลื่อนหวยบนดิน--หุ้นตก--บาทอ่อน. . .
- Bangkok under state of emergency
- . . . เงินเฟ้อเดือน ส.ค.ลดลงเหลือ 6.4% จาก 9.2% ในเดือนก.ค. . . .
- --- ทิศทางตลาดหุ้นไทย...ยังเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัย ---
- --- ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกรกฎาคม 2551 ---
- ---กนง.ขึ้นดอกเบี้ยเป็น 3.75%--ธอส.ให้กู้ซื้อบ้าน 1.5 ล้านบาท--บสย.--ไทยแอร์เอเซีย . . .
- . . . ถึงเพื่อนที่มีพันธะ ต่อกัน... ถึง พันธมิตร . . . จาก พรรคพลังไข่. . .
- . . . หุ้นไทยร่วง 2% หลังเปิดตลาดในภาคเช้า . . .
- . . . สภาพัฒน์ฯ คาดเศรษฐกิจปีนี้โต 5.2-5.7% . . .
- . . . พรบ.ผู้บริโภค เริ่มใช้ 25 ส.ค.51--กกร.ประชุมเรื่องราคาสินค้า---บขส.เปิดเส้นทางกทม.-สมุย. .
- . . .ธปท.-คลังน้อมรับกระแสพระราชดำรัส--ส่งออก 7 เดือนโต 26% . . .
- . . . 23 สิงหานี้ บังคับใช้กฎหมายจัดเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ --- คาดการณ์เศรษฐกิจไตรมาส 2 โต 5.8% . . .
- . . . น้ำมันจะลดลงอีก--ค่าบาทอ่อนสุดรอบ 9 เดือน . . .
- Rose Rose i love you
- . . . นั่งรถไฟฟรี เชียงใหม่, อุบลฯ, หนองคาย, และสุไหงโกลก----ทองคำขาดตลาด . .
- ...ปลากัดเตือน...
- . . . รถใช้ก๊าซต้องแจ้งตรวจสภาพ--สมัครคนเดินโพยหวยบนดินวันแรก-กราฟราคาทอง. . .
- . . . เพิ่มเงินสมทบกองทุนน้ำมัน--สมัครคนเดินโพย 18 ส.ค.--ราคาทองคำลด--บาทอ่อน . . .
- . . . Storm surge มหันตภัยร้ายแห่งท้องทะเล . . .
- . . . ธุรกิจเดลิเวอรี่สินค้าอาหาร เติบโต 15% . . .
- . . . ตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นปี--น้ำมันลดราคา--ทองคำต่ำสุดรอบ 7 เดือน. . .
- . . . เตรียมประกาศห้ามใช้สารตะกั่วเชื่อมต่อหม้อก๋วยเตี๋ยวเป็นการถาวร . . .
- . . . รถติดก๊าซ NGV ต้องมีใบรับรองเติมก๊าซ--ราคาน้ำมันลดลงอีก 60-80 สตางค์. . .
- . . . เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง . . .
- . . . นมกล่อง จะขึ้นราคา อีก 1-2 บาท . . .
- . . . ม.หอการค้าคาดเศรษฐกิจปีนี้ โต 5.5-6.0%---สศช.ระบุสัดส่วนผู้สูงอายุจะเพิ่มเป็น 25%ในอีก 20 ปี .
- . . . ลดราคาดีเซลลิตรละ 1 บาท - เบนซินลิตรละ 50 สตางค์ ---
- . . . ครม.อนุมัติขึ้นภาษีเหล้า-บุหรี่--โครงข่ายโทรศัพท์ 3 จี---กรมศุลการกร เปิดประมูลรถยึด. . .
- . . . หวยออนไลน์ 1 ต.ค.51 . . .
- . . . ลดราคาดีเซลลิตรละ 60 สตางค์ พรุ่งนี้-- คาด FED คงดอกเบี้ย 2.00% . . .
- . . . เงินเฟ้อดือน ก.ค.9.2%--ทีมเศรษฐกิจใหม่--รถเมล์ รถไฟ ฟรี . . .
- . . . 1 ส.ค.เริ่มใช้ 6 มาตรการ 6 เดือน -- ดีเซลลดลง 50 สตางค์ -- เลื่อนพิจารณาราคาสินค้า. . .
- . . . พรบ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก -- กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ - Sovereign Wealth Fund (SWF) . . .
- . . . สรุปผลการสัมมนาทางวิชาการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 5/2551 . . .
- . . . ลดราคาน้ำมันเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอล์พรุ่งนี้(30 ก.ค.) . . .
- . . . ปตท.-เชลล์ ปรับลดราคาดีเซลอีกลิตรละ 80 สตางค์ . . .
- . . . ราคาน้ำมันลดลงลิตรละ 3.50-4.70 บาท --- ทางด่วนขึ้น 5 บาท ---- น้ำมันพืชขึ้นอีก 5 บาท . . .
- . . . ปรับโครงสร้างราคาก๊าซแอลพีจี ( LPG ) ควรลอยตัว หรือแบ่ง 2 ราคา . . .
- . . . ตัวเลขการส่งออก มิ.ย.51 ขยายตัว 27.4% . . .คาดทั้งปี 15% . . .
- . . . 11 ส.ค. 51 เริ่มใช้ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก . . .
- . . . ลดราคาน้ำมันเบนซินลิตรละ 1 บาท และดีเซลลิตรละ 80 สตางค์ . . .
- . . . ตลาดรถจักรยานยนต์ครึ่งปีแรกขยายตัว 3% . . .
- . . . ทิศทางค่าเงิน และ ตลาดหุ้น สัปดาห์นี้ (21-25 ก.ค.) . . .
- . . . กลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ . . .ประกาศหยุดยิง . . .
- . . . ปตท.ลดราคาน้ำมัน ลิตรละ 60 สตางค์ . . .
- . . . กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ตามคาด . . .
- . . . 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤติค่าครองชีพสูง . . .
- . . . รัฐบาลเตรียมแถลงมาตรการช่วยเหลือประชาชน หลังการประชุม ครม. วันที่ 15 ก.ค.นี้ . . .
- . . . กรมสรรพากรเตือนประชาชนระวังถูกมิจฉาชีพหลอก เรื่องคืนภาษีและขอรับบริจาค . . .
- . . . ลดราคาเบนซิน พรุ่งนี้ . . .
- . . . ปตท.ลดราคาเบนซินลิตรละ 60 สตางค์ . . .
- . . . เล่นเกมส์ sudoku กันดีกว่า . . .
- . . . ส่งเสริม E85 เป็นวาระแห่งชาติ . . . /. . . นำเข้า LPG เดือนนี้อีก 1 แสนตัน . . .
- . . . เอ็นจีวี ( NGV ) หรือ แอลพีจี( LPG ) . . .ที่รัฐควรส่งเสริม . . .
- . . . แท็กซี่ยังขึ้นราคาค่าโดยสารไม่ได้ . . .
- . . . เงินเฟ้อ 7.6 ---> 8.9 ---> 9.0 ----> 10 . . .ทั้งปี 2551 เฉลี่ย 8%??...
- . . . เงินเฟ้อเดือน มิ..ย. ... 8.9% . . .
- . . . เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว . . .(อาการภูมิแพ้)
- . . . ลอยตัวราคาก๊าซ LPG วันที่ 1 ก.ค.นี้ . . .
- . . . บางจาก-คาลเท็กซ์-ระยองเพียว ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมัน . . .
- . . . หุ้นไทยภาคเช้าดิ่งลงกว่า 20 จุด . . .
- . . .หวั่นการเมืองรุนแรง ตลาดหุ้นร่วง1.04% . . .
- . . . ตลาดหุ้นร่วง กังวลข่าว รัฐประหาร . . .
- . . . หุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวผันผวน . . .
- . . . อียูเตรียมลดภาษีมูลค่าเพิ่ม ช่วยผู้มีรายได้น้อยจากภาวะน้ำมันแพง. . .
- . . . ชวนคนมีฝีมือ ส่งผลงาน ประกวดออกแบบสลากออมสิน . . .
- . . . เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือน . . .
- . . . ธ.ก.ส.เผยยอดซื้อสลากทวีสินเดือนเดียว เฉียด 2 หมื่นล้าน . . .
- . . . ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทางเลือกใหม่สร้างความมั่นคงเกษตรกร . . .
- . . . เงินบาทอ่อนค่าหลุดแนวรับ 33.00 แตะระดับต่ำสุดรอบกว่า 4 เดือน . . .
- . . . ธนาคารกรุงไทยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้ร้อยละ 0.375-1.25 . . .
- . . . มาเลเซียประกาศลอยตัวราคาน้ำมันเชื้อเพลิง-ยกเลิกห้ามขายน้ำมันให้ต่างชาติ . . .
- . . . จับ กระเทียม . . .
- . . . NGV ปีหน้าราคาอาจจะขึ้นเป็น 12 บาท . . .
- . . . ธนาคารกรุงไทย เตรียมขึ้นค่าธรรมเนียมกด ATM ต่างแบงก์ . . .
- . . .ธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าสัวใหญ่ ซีพี แนะใช้ทฤษฎี 2 สูง . . .
- . . . เงินเฟ้อเดือน พ.ค. ... พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี . . .
- เงินบาทสัปดาห์นี้ยังมีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีก
- ...o...
- ... แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2551 ...
- ... แนะนำงาน Money X-pro ...
- ...อยู่รอดให้ได้...ภายใต้ภาวะผันผวน...
- ...Value Averaging...
- ...ซื้อกองทุนรวมรับของแถม?...
- ...ลงทุนทุกเดือนสม่ำเสมอ...
|
|
|
|
|
|
|
เงินเฟ้อ เงินฝืดและนโยบายการแก้ไข
เงินเฟ้อ ( Inflation )
ในระบบเศรษฐกิจระบบใดก็ตาม ในปัจจุบันถือว่าเงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสิ่งของ และเงินนี้จะเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาความเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นความต้องการเงินจึงเป็นปัญหาพื้นฐานในระบบ
ความหมายของเงินเฟ้อ ( Inflation )
เงินเฟ้อ หมายถึง ภาวะที่ระดับราคาสินค้า สูงขึ้นเรื่อย ๆ ( rising prices ) การที่สินค้ามี ระดับราคาสูง ( high prices ) ไม่ถือว่าเป็นเงินเฟ้อ จำเป็นต้องสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงจะเป็นเงินเฟ้อ
ปัจจัยสำคัญที่ชี้ให้ทราบว่ามีภาวะเงินเฟ้อ คือ เวลา ไม่จำเป็นว่าราคาสินค้าทุกชนิดต้องมีราคาสูงขึ้นในเวลาที่เกิดภาวะเงินเฟ้อ อาจเป็นได้ว่าสินค้าบางชนิดมีราคาลดลง และสินค้าบางชนิดมีราคาสูงขึ้น สิ่งสำคัญคือว่า เมื่อรวมราคาทั้งหมดโดยเฉลี่ยแล้วสูงขึ้น สิ่งที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคา คือ ดัชนีราคา (Price Index)
อธิบายภาวะเงินเฟ้ออย่างเข้าใจง่าย ๆ คือ ภาวะที่ข้าวของเครื่องใช้โดยทั่วไปมีราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง การสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าของเงินลดลง เช่น ปีที่ผ่านมาเราซื้อเสื้อผ้าด้วยเงินจำนวน 100 บาทต่อชิ้น มาปีนี้เราซื้อเสื้อผ้าตัวเดิมด้วยเงิน 103 บาท แสดงว่ามูลค่าของเงินลดลง 3% ปีต่อไปราคาของสินค้าชิ้นนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอีกไปเรื่อย ๆ
แต่การเพิ่มขึ้นของสินค้า หมายถึงสินค้าทั้งหมดในระบบเศรษฐกิจ แต่ถ้าเพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียวหรือสองถึงสามอย่าง ก็ไม่ถือว่าเป็นภาวะเงินเฟ้อ
ตามหลักวิชาการจะแบ่งอัตราเงินเฟ้อเป็น 3 ประเภท คือ
1. เงินเฟ้ออย่างอ่อน ( Mild Inflation ) คือ อัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปีภาวะอย่างนี้เป็นเหตุการณ์ปกติ ไม่มีผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศมากนัก แต่กลับเป็นผลดีที่เป็นแรงจูงใจในการลงทุน
2. เงินเฟ้อปานกลาง ( Moderate Inflation ) คือ อัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นเกินร้อยละ 5 แต่ไม่เกินร้อยละ 20 ต่อปี ประชาชนจะเกิดความเดือดร้อนเนื่องจากสินค้ามีราคาแพง ไม่สามารถปรับรายได้ให้สูงขึ้นตามราคาของสินค้าที่แพงขึ้นได้ทัน ในภาวะเช่นนี้คนงานจะเรียกร้องค่าจ้างให้สูงขึ้น วัตถุที่ใช้ในการผลิตราคาก็จะสูงขึ้น เมื่อต้นทุนสูง ระดับราคาก็ต้องสูงตามไปด้วย
3. เงินเฟ้ออย่างรุนแรง ( Hyper Inflation ) คือ อัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ภายใน 1 เดือน เป็นภาวะที่ข้าวยากหมากแพง ราคาของสินค้าแพงขึ้นมากจนผู้มีสินค้าไม่อยากจะเอาออกมาขาย ค่าของเงินลดต่ำลง และในที่สุดก็จะหมดอำนาจในการแลกเปลี่ยน ต้องใช้ทองคำซึ่งราคาค่อนข้างแน่นอนทำการแลกเปลี่ยน ภาวะเช่นนี้จะเกิดขึ้นเมื่อประเทศอยู่ในภาวะสงคราม หลังสงคราม หรือเกิดจลาจล เป็นต้น
สาเหตุที่เกิดภาวะเงินเฟ้อมีจากสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ
o ต้นทุนสินค้าเพิ่ม ( cost - push inflation ) คือ การทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น
o ความต้องการสินค้าเพิ่ม ( demand pull inflation ) คือ ปริมาณความต้องการซื้อมากขึ้นทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น
ต้นทุนการผลิต คือ สิ่งที่ใช้พิจารณานโยบายกำหนดราคาสินค้าและบริการ ถ้าต้นทุนเพิ่มขึ้นไม่ว่าจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้น หรือราคา วัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าต้องเพิ่มขึ้นด้วย ราคาสินค้าสูงขึ้นผู้บริโภคก็ต้องใช้เงินมากกว่าเดิมทำให้ปริมาณเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดมากขึ้น เมื่อพนักงานได้รับค่าแรงเพิ่มขึ้นทำให้เกิดการใช้จ่ายในการบริโภคมากขึ้น ทำให้ความต้องการสินค้าเพิ่มมากขึ้น ก็เป็นสาเหตุผลักดันให้เกิดเงินเฟ้อ
ภาคการผลิตเมื่อสินค้าราคาดีขึ้นก็จะมีคนเร่งผลิตสินค้าออกมาจำหน่าย ทำให้ต้องจ่ายค่าแรงในรูปของค่าล่วงเวลาก็จะทำให้รายได้ของพนักงานเพิ่มขึ้นอีก ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะหมุนเป็นวัฏจักรผลักดันทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในที่สุด
เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเรื่อยๆ ราคาสินค้าก็สูงขึ้นจนทำให้เกิดยุคข้าวยากหมากแพง
ผลที่ได้รับจากภาวะเงินเฟ้อ
ภาวะเงินเฟ้อปานกลาง และภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง จะส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้นมาก อำนาจการซื้อของเงินลดลง ซื้อสินค้าได้น้อยลงในจำนวนเงินเท่าเดิม ผลจากภาวะเงินเฟ้อทำให้บุคคล 2 กลุ่ม มีผลได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกัน เช่น
กลุ่มบุคคลที่ได้เปรียบจากภาวะเงินเฟ้อ
1. เจ้าของกิจการ ผู้ผลิตสินค้า นักอุตสาหกรรม เมื่อบุคคลเหล่านี้ผลิตสินค้าออกมา สินค้าขึ้นราคาก็ต้องขายตามราคาสินค้าที่สูงขึ้น ถ้ามีสินค้าอยู่ในคลังสินค้าผลิต หรือซื้อมาในราคาต่ำ จะทำให้ได้ผลกำไรมากขึ้น สำหรับเกษตรกร สามารถขายผลผลิตได้กำไรราคาสูงขึ้น แต่ได้เท่าเดิม ต้องซื้อสินค้าอื่น ๆ ที่จำเป็นในราคาแพง และฐานะของเกษตรกรยังยากจนอยู่แล้ว ทำให้การผลิตในเนื้อที่จำกัดและขนาดเล็ก เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ เกษตรกรก็ได้รับความเดือดร้อนมากกว่าผู้ใด ทั้ง ๆ ที่ผลิตอาหารได้เอง
2. พ่อค้าและนักธุรกิจ จะได้ประโยชน์จากสินค้าและบริการที่มีราคาสูง เพราะสินค้าค้างสต็อค การกักตุนสินค้าซื้อถูกขายแพง แต่เมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง ค่าของเงินต่ำลงจนไม่มีค่า สินค้าขายไม่ออก พ้อค้า นักธุรกิจก็ไม่ได้รับประโยชน์เช่นกัน
3. ลูกหนี้ เมื่อค่าของเงินลดลง เงินหาง่ายขึ้น แต่ลูกหนนี้ยังคงชำระหนี้เช่นเดิม
4. ผู้ถือหุ้น สินค้าราคาทำให้ยอดขายสูงขึ้น กำไรเพิ่มขึ้น ผู้ถือหุ้นจึงเป็นฝ่ายได้เปรียบจากภาวะเงินเฟ้ออย่างปานกลาง
กลุ่มบุคคลที่เสียเปรียบจากภาวะเงินเฟ้อ
1. ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าจ้าง และบำนาญ เป็นรายได้ประจำเพราะได้น้อย ค่าของเงินลดลง ราคาสินค้าสูงขึ้น ถึงแม้จะมีการปรับเงินเดือน ค่าจ้างตามดัชนีราคาสินค้าอุปโภคบริโภค แต่ราคาสินค้าได้ขึ้นราคาไปรอล่วงหน้าก่อนแล้ว ฉะนั้นการปรับเงินเดือน ค่าจ้าง จึงเดินสวนทางกับราคาสินค้า
2. เจ้าหนี้ ค่าของเงินลดลงแต่การชำระหนี้เงินกู้ยังคงได้รับดอกเบี้ยเท่าเดิม เป็นไปตามสัญญาที่ทำไว้ก่อนที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อ
3. ผู้ที่มีรายได้จากค่าเช่า ค่าเช่าจะขึ้นเหมือนดัชนีราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้ แต่จะเป็นการขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
4. ผู้มีรายได้ไม่แน่นอน จะเป็นผู้ที่เสียเปรียบมากที่สุด เพราะรายได้น้อยมาก และไม่แน่นอน แต่ราคาสินค้า เปลี่ยนแปลงสูงขึ้น
5. ผู้ที่มีเงินออม ค่าของเงินลดลงแต่ดอกเบี้ยยังไม่เพิ่มให้สูงขึ้น ตามดัชนีราคาสินค้าซึ่งโดยทั่วไปมีราคาสูงขึ้น
การแก้ไขภาวะเงินเฟ้อ
1. ใช้นโยบายทางการเงิน ( Monetary Policy )
1. ธนาคารกลางจะต้องพยายามลดปริมาณเงินในท้องตลาดให้หมุนเวียนน้อยลง
2. ธนาคารกลางจะต้องเพิ่มเงินสดสำรองของธนาคารพาณิชย์ให้มากขึ้น มีผลทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องลดการให้เครดิตลง
3. เพิ่มอัตรารับช่วงซื้อลดตั๋วเงินจากธนาคารพาณิชย์ให้สูงขึ้น ทำให้ธนาคารไม่กล้าซื้อลดตั๋วเงินหรือให้กู้มากนัก
4. ควบคุมการขายสินค้าผ่อนชำระให้มีระเบียบและหลักเกณฑ์มากขึ้น เช่น การส่งเงินดาวน์ครั้งแรก ( Down payment ) จะต้องสูงขึ้น และลดระยะเวลาผ่อนชำระให้สั้นลง
5. ธนาคารกลางขายหลักทรัพย์ออกไปในท้องตลาด เพื่อทำให้เงินสดสำรองของระบบธนาคารพาณิชย์ลดลง
6. รัฐบาลจะต้องลดค่าใช้จ่าย งบประมาณในเรื่องที่มีความไม่จำเป็นเร่งด่วนทั้งหมด
2. ใช้นโยบายทางการคลัง ( Fiscal Policy )
1. เก็บภาษีเข้าให้มากและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นของรัฐบาลลง
2. ปรับปรุงการจัดเก็บภาษีอากรในอัตราที่สูงขึ้น เช่น ภาษีรายได้บุคคล ทำให้รายได้สุทธิส่วนบุคคลลดลง ประชาชนจะใช้จ่ายเงินน้อยลง และจัดเก็บภาษีทางอ้อมสำหรับสินค้าประเภทฟุ่มเฟือยไม่จำเป็นให้สูงขึ้น
3. ปรับปรุงหนี้สาธารณะเพื่อช่วยลดปริมาณเงินลง และช่วยสกัดกั้นไม่ให้มีการขยายเครดิตออกไป ( หนี้สาธารณะก็คือ เงินที่รัฐบาลกู้มาจากประชาชน สถาบันทางการเงินภายในประเทศและต่างประเทศ )
4. เพิ่มดอกเบี้ยเงินออมให้มากขึ้น เป็นการจูงใจให้ประชาชนมีการออมทรัพย์โดยมาฝากเงินกับทางธนาคาร และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนซื้อพันธบัตรระยะยาวเป็นการช่วยชาติในการพัฒนาประเทศ
5. ถ้าประเทศได้เปรียบดุลการค้าในระหว่างภาวะเงินเฟ้อแล้ว จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อมากขึ้นไปอีกวิธีแก้ไขจะต้องถอนรายได้จากต่างประเทศนี้ออกไปเสียจากค่าใช้จ่ายหมุนเวียน หรือนำสินค้าที่ขาดแคลนเข้าประเทศให้มากขึ้น ลดการส่งออกให้น้อยลง นำรายได้จากต่างประเทศไปช่วยเหลือประเทศที่ด้อยพัฒนา โดยการให้กู้ระยะยาวดอกเบี้ยต่ำ เก็บภาษีขาออกให้มากขึ้น เก็บภาษีขาเข้าที่ขาดแคลนให้น้อยลง หรืออาจจะเพิ่มค่าของเงินให้สูงขึ้น ทำให้สินค้าเข้ามีราคาถูกและสินค้าขาออกมีราคาแพง
3. รัฐบาลจะต้องควบคุมค่าครองชีพไม่ให้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้วยการควบคุมค่าจ้าง เพื่อลดต้นทุนการผลิตลง
4. รัฐบาลจะต้องเข้ามาแทรกแซงควบคุมสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพไม่ให้มีราคาสูงเกินไป
5. ใช้ระบบผ่อนคลายทางการเงิน ( Easy Money Policy )
หมายความว่า เป็นการใช้นโยบายที่ประนีประนอมกัน ไม่ใช้วิธีการรุนแรง
ปัญหา-การแก้ไขเงินเฟ้อ และนโยบายเศรษฐกิจที่ควรเป็น
ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการทางธุรกิจมาก แต่ขณะเดียวกันภาวะเงินเฟ้ออย่างอ่อนจะทำให้เกิดการจ้างงาน แต่การพยายามควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้น้อยลงอาจจะทำให้เผชิญปัญหากับอัตราว่างงานสูงขึ้น เพราะแรงจูงใจในการลงทุนน้อยลง
ภาระหนักของภาครัฐบาล คือ ทำอย่างไรถึงจะแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้เกิดการว่างงาน ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่ยากมาก เพราะเผลอ ๆ อาจจะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นและการจ้างงานกลับลดลง
ดังนั้นรัฐบาลควรจะกระจายงานไปสู่ภูมิภาคให้มากที่สุด พร้อมเร่งให้เกิดระบบเศรษฐกิจชุมชน ให้ชาวชนบทสามารถพึ่งพาตนเองมากขึ้น และนโยบายของรัฐจะต้องเน้นการพึ่งพาตนเองด้วยไม่ควรพึ่งพาอาศัยการลงทุนจากต่างชาติมากจนเกินไป
การลงทุนจากต่างชาติจะทำให้ประเทศต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของนักลงทุน ทำให้ประเทศชาติขาดเอกราชทางเศรษฐกิจ และการลงทุนจากต่างชาติจะยังให้เกิดการเปิดการค้าเสรี ซึ่งประเทศที่กำลังพัฒนา จะเสียเปรียบต่อประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากศักยภาพ ในการแข่งขันของประเทศที่พัฒนาแล้วจะเหนือกว่าทุกทาง
ในระบบการค้าเสรีจึงเป็นเรื่อง ใครมือยาวสาวได้สาวเอา ในที่สุดระบบการค้าเสรีจะก่อให้เกิดอำนาจการผูกขาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อถึงคราวนั้นการแก้ไขปัญหาจะไม่สามารถทำได้ง่ายดายนัก...
..........................................................................
เงินฝืด ( Deflation )
ความหมายของเงินฝืด
ภาวะเงินฝืดเป็นที่ภาวะที่ตรงกันข้ามกับภาวะเงินเฟ้อ คือ เป็นภาวะที่ระดับราคาสินค้าและบริการลดลงเรื่อย ๆ เป็นเวลานาน ซึ่งอาจจะเกิดจากสาเหตุหลายประการ เช่น เกิดจากการระดมเงินทุน เกิดจากการที่รัฐบาลกู้ยืมเงินจากเอกชน เกิดจากการลดจำนวนธนบัตร เป็นต้น
ในภาวะที่ตลาดซบเซาทำให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ ต้องการเงินเพื่อมาหมุนเวียนในกิจการ ทำให้ต้องหาทางเพื่อเปลี่ยนสินค้าให้เป็นเงิน ซึ่งต้องลดราคาสินค้าเพื่อจูงใจผู้ซื้อ มีทั้งลด แลก แจก แถม
เงินฝืดมักจะเป็นผลพวงมาจากภาวะฟองสบู่แตก ทำให้เกิดปัญหาเกิดหนี้เสีย และความเชื่อมั่นต่อการลงทุนลดน้อยลง ทำให้ภาคการเงินระมัดระวังในการปล่อยสินค้าเชื่อมั่นมากขึ้นเมื่อสถาบันการเงินไม่ยอมปล่อยสินเชื่อทำให้ภาคธุรกิจภาคการเงินไม่สามารถที่จะหาเงินมาหมุนเวียนจนทำให้กิจการบางแห่งต้องปิดตัวลง ยังทำให้ต้องเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก
เมื่อพนักงานส่วนหนึ่งกลายเป็นคนตกงาน ทำให้ประชาชนไม่มีเงินจับจ่ายซื้อสินค้า ซึ่งจะส่งผลโดยตรงไปยังธุรกิจการค้า และมีผลต่อภาคการผลิตอื่น ๆ ทำให้เกิดปรากฏการณ์โดมิโนทางเศรษฐกิจทำให้เศรษฐกิจล้มระเนระนาดเฉกเช่นประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นต้นมา
กลุ่มผู้ได้เปรียบจากกภาวะเงินฝืด
1. ผู้ที่มีรายได้ที่ประจำแน่นนอน เช่น ผู้ที่รับรายได้เป็นเงินเดือน ค่าจ้างแรงงาน บำนาญ
2. ผู้ที่มีรายได้จากดอกเบี้ย หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้น ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้านี้
3. ผู้ที่เก็บเงินไว้กับตัวเอง
4. ผู้มีรายได้จากค่าเช่า ผู้เช่าก็ต้องจ่ายในราคาเท่าเดิม เพราะได้ทำสัญญาผูกมัดแล้ว
กลุ่มที่เสียเปรียบจากภาวะเงินฝืด
1. ผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน ไม่สามารถกำหนดได้ว่าแต่ละวันจะมีรายได้เท่าไร บางวันมีรายได้น้อย บางวันมีรายได้มาก และบางวันไม่มีรายได้เลย เช่น ผู้ที่รับจ้างทั่ว ๆ ไปไม่มีหลักแหล่ง
2. เจ้าของกิจการ ผู้ผลิตสินค้า นักอุตสาหกรรม เมื่อระดับราคาสินค้าที่ผลิตออกมามีราคาลดตำลงเรื่อย ๆ แต่ต้นทุนวัตถุดิบ ตนทุนในการผลิตสูง ผู้ผลิตจะไม่ทำการผลิตอีกต่อไป หรืออาจจะลดการผลิตออกมาให้น้อยลง
3. พ่อค้านักธุรกิจ เมื่อการผลิตชะลอตัวลง และหยุดชะงักการผลิต พ่อค้า นักธุรกิจ ก็ต้องขาดรายได้ คือ กำไร ตามไปด้วย แถมยังตกงานอีก
4. ลูกหนี้ ขณะที่ทำสัญญาขอกู้ยืมเงินมูลค่าของ เงินคงที่ แต่เมื่อเกิดภาวะเงินฝืด มูลค่าของเงินมีค่ามากขึ้น และการทำมาหากินฝืดเคือง รายได้ไม่พอกับรายจ่าย เงินหายากขึ้น แต่ต้องชำระหนี้ในมูลค่าเท่าเดิม
5. ผู้เช่า การผลิตก็ชะลอตัวลง และลดตำลงเรื่อย ๆ ราคาสินค้าก็ลดลง ด้านทุนการผลิตสูงขึ้น รายได้ที่รับเข้ามาก็ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย ผู้เช่าก็ต้องจ่ายเงินให้กับผู้ให้เช่าในราคาเท่าเดิม ไม่ได้ลดไปตามราคาสินค้า
การแก้ไขภาวะเงิน ฝืด
1. การใช้นโยบายทางการเงิน
1. ธนาคารกลางจะต้องพิมพ์ธนบัตรออกมาหมุนเวียนในตลาดให้สอดคล้องกับปริมาณของอุปสงค์และอุปทาน
2. ธนาคารจะต้องลดอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมายแก่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อที่จะทำให้มีการขยายเครดิตเพิ่มขึ้น
3. ประกาศควบคุมกำหนดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าประเภทจำเป็น เช่น ข้าว เนื้อสัตว์ นำมัน การขนส่ง ฯลฯ
2. การใช้นโยบายทางการคลัง
1. รัฐบาลจะต้องกระจายรายได้ไปสู่ชนบท ทำให้ประชาชนมีงานทำ มีรายได้เพิ่มขึ้น และเป็นการลงทุนให้ชนบท เช่น จัดให้มีโครงการสร้างงานในชนบท ( กสช. ) โดยเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ใช้งบประมาณปีละ 3,500 ล้านบาท ส่งผลให้ประชาชนในชนบทมีงานทำมากเพิ่มขึ้น มีแหล่งนำ มีถนน ทำให้เพิ่มผลผลิตตามไปด้วย
2. งบประมาณรายจ่ายรายจ่ายของรัฐบาลจะต้องจ่ายให้มีสภาพคล่องตัวยิ่งขึ้น จะทำให้เงินหนุนเวียนในตลาดรวดเร็วขึ้น เช่น รัฐบาลจ้างทำของ ( ถนน เขื่อนกั้นน้ำ ชลประทาน ฯลฯ ) สั่งซื้อสินค้า เมื่อธุรกิจได้รับเงินของทางรัฐบาล จะทำให้เกิดการสร้างงานต่อไป
3. ขอกู้เงินจากสถาบันการเงินในประเทศและต่างประเทศ ดอกเบี้ยถูกจ่ายคืนในระยะยาว มาลงทุนในโครงการที่ช่วยพัฒนาประเทศและสามารถให้ผลประโยชน์ตอบแทนได้
4. ประชาสัมพันธ์ให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมาลงทุน โดยมีระยะปลอดภาษี และให้ความสะดวกทุกประการ
5. ลดอัตราภาษีของรายได้บุคคลของประชาชน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น การใช้จ่ายก็มีมากขึ้นตามลำดับ
3. ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ นำขึ้นมาใช้ เช่น แก๊สธรรมชาติ เท่ากับเป็นการสร้างงาน ทำให้ระบบเศรษฐกิจขยายตัวทำให้ภาวะเงินฝืดเบาบางลง
4. ส่งเสริมผลผลิตทางด้านการเกษตร อุตสาหกรรมออกสู่ต่างประเทศ โดยใช้การตลาดเป็นแกนนำ ทำให้เงินตราไหลเขาสู่ประเทศมากขึ้น
ตัวอย่างมาตรการทางการเงินที่ใช้ในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ และเงินฝืด
มาตรการ ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ
1. เปิดตลาดซื้อขายพันธบัตร (open market operation) ธนาคารกลางจะประกาศขายพันธบัตรออกสู่ท้องตลาด เพื่อลดการหมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ
2. การเพิ่มอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย (change in legal reservation) ธนาคารจะประกาศเพิ่มอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย เพื่อชะลอไม่ให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น (ลดการหมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ)
3. การเปลี่ยนแปลงอัตรารับช่วงซื้อลดหรืออัตราธนาคาร (change in rediscount rate or bank rate) ธนาคารกลางประกาศเพิ่มอัตรารับช่วงซื้อลดหรืออัตราธนาคารซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางคิดกับธนาคารพาณิชย์เมื่อธนาคารพาณิชย์มากู้ยืมเงินจากธนาคารกลาง เพื่อกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์ชะลอการปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อลดการหมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของธนาคารพาณิชย์มาเพื่อการปล่อยสินเชื่อสูงขึ้น
4.การขอร้องไปยังธนาคารพาณิชย์ (moral suasion) ขอความร่วมมือไปยังธนาคารพาณิชย์ให้ควบคุมการปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเป็นไปอย่างมีคุณภาพ
5.การเปลี่ยนแปลงอัตราการกู้ยืมหรือสินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์ (change in margin requirement) ประกาศเพิ่ม margin requirement เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ชะลอการปล่อยสินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์
6. การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (change in deposit rate) เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อเพิ่มระดับการออม เมื่อลดการใช้จ่าย ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจก็จะลดลง
มาตรการ ควบคุมภาวะเงินฝืด
ธนาคารกลางจะประกาศซื้อพันธบัตรจากท้องตลาดกลับคืน เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางประกาศลดอัตราเงินสดสำรองตามกฎหมาย เพื่อส่งเสริมให้ธนาคารพาณิชย์เร่งปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น(เพิ่มการหมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ)
ธนาคารกลางประกาศลดอัตรารับช่วงซื้อลดหรืออัตราธนาคารซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางคิดกับธนาคารพาณิชย์เมื่อธนาคารพาณิชย์มากู้ยืมเงินจากธนาคารกลาง เพื่อกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์เร่งปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของธนาคารพาณิชย์มาเพื่อการปล่อยสินเชื่อต่ำลง
ขอความร่วมมือไปยังธนาคารพาณิชย์ให้ลดความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
ประกาศลด margin requirement เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์เร่งการปล่อยสินเชื่อเพื่อการซื้อขายหลักทรัพย์
ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เมื่อเพิ่มการใช้จ่าย ปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจก็จะเพิ่มขึ้น
ตัวอย่างมาตรการทางการคลังที่ใช้ในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ-เงินฝืด
มาตรการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ-เงินฝืด
1. การเปลี่ยนแปลงในรายจ่ายของรัฐบาล (change in government expenditure)
2. มาตรการทางด้านรายได้ (ภาษี) ลดรายจ่ายของรัฐบาลในด้านต่างๆ เนื่องจากรายจ่ายของรัฐบาลเป็นองค์ประกอบสำคัญตัวหนึ่งที่รวมอยู่ในอุปสงค์มวลรวมลดลงในที่สุด
รัฐบาลควรเข้มงวดในด้านภาษีให้มากยิ่งขึ้น เพื่อประชาชนจะได้ลดการใช้จ่ายลง เช่น เรียกเก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยในอัตราที่สูง กำหนดอัตราภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงขึ้น เรียกเก็บภาษีเงินได้ในอัตราภาษีแบบก้าวหน้า ( progressive tax) กล่าวคือ รายได้มากเก็บภาษีในอัตราที่สูง รายได้น้อยเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำ เพิ่มรายจ่ายของรัฐบาล เพื่อยกระดับอุปสงค์มวลรวมของระบบเศรษฐกิจในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น
รัฐบาลควรเข้มงวดในด้านภาษี เพื่อลดภาระให้กับประชาชน ประชาชนจะได้มีรายได้มากขึ้น ที่จะนำไปจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น เช่น ลดอัตราภาษีที่เก็บจากเงินได้ การลดอัตราภาษีสำหรับการส่งสินค้าออกทำให้ต่ำลงเพื่อสนับสนุนให้มีการส่งสินค้าออกมากขึ้น การเพิ่มอัตราภาษีสำหรับการนำสินค้าฟุ่มเฟือยเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ฯลฯ
หมายเหตุ...(ลอกมาจากอินเตอร์เน็ตนานแล้ว จำไม่ได้ว่าเว็บไหน ขออภัยที่ไม่ได้อ้างอิงถึงแหล่งที่มาของข้อมูล)...
...