สุวรรณภูมิพร้อมเปิดเต็นรูปแบบ 5 ธ.ค.นี้ 11.00--บขส.เปิดจองตั๋วล่วงหน้าช่วงปีใหม่-น้ำมันลด 40-60 สต.

. . .



ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ 11.00 น. วันนี้ ( 5 ธ.ค.)

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ทั้งผู้โดยสารขาเข้า-ออก ภายในประเทศและต่างประเทศอีกครั้ง ในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้เปิดให้บริการสำหรับผู้โดยสารขาเข้าทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ โดยเที่ยวบินขาเข้าเที่ยวบินแรกเป็นของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 3169 นิวเดลี-กรุงเทพฯ ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลาประมาณ 06.00 น.

สำหรับการให้บริการเที่ยวบินขาออก ผู้โดยสารจะต้องไปเช็คอินที่ศูนย์เช็คอินชั่วคราว ที่ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา ซึ่งผู้โดยสารจะต้องตรวจสอบข้อมูลจากสายการบินก่อน โดยทอท.จะเริ่มให้บริการระบบเคาน์เตอร์เช็คอินแก่ผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 5 ธ.ค. โดย ทอท.จะเปิดเคาน์เตอร์ตั้งแต่เวลา 06.00 น. หลังจากนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. ระบบเช็คอิน ระบบตรวจสัมภาระผู้โดยสาร ก็จะให้บริการสมบูรณ์ 100% เหมือนปกติ

สำหรับเที่ยวบินที่ทำการบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 4 ธ.ค. มีสายการบินต่างๆ แจ้งขอทำการบิน ซึ่งเป็นทั้งเที่ยวบินขนส่งผู้โดยสาร และขนส่งสินค้า รวมทั้งสิ้น 101 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินขาเข้า 65 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออก 36 เที่ยวบิน โดยสายการบินที่ทำการบินในวันที่ 4 ธ.ค. อาทิ การบินไทย, บางกอก แอร์เวย์ส, คาเธ่ย์ แปซิฟิก, สิงค์โปร์ แอร์ไลน์, ไชน่า แอร์ไลน์, เจแปน แอร์ไลน์

นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า เพื่อให้ผู้โดยสารเกิดความมั่นใจในการใช้บริการสูงสุด ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเชิญหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ กรมการขนส่งทางอากาศ องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบิน (AOC) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สถานทูตต่าง ๆ ฯลฯ มาตรวจสอบความพร้อมทั้งทางด้านความปลอดภัย วันที่ 5 ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเวลา 11.00 น.

. . .



ระบบขนส่งสาธารณะพร้อมบริการที่สุวรรณภูมิ


นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รักษาการกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ระบบขนส่งสาธารณะภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มีความพร้อมในการให้บริการผู้โดยสารและผู้ที่จะเดินทางมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นปกติแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. เช่น รถลีมูซีน, รถเช่า, รถเวียน(รถชัตเติ้ลบัส), รถแอร์พอร์ต เอ็กซเพรส, รถ บขส., ขสมก., และรถตู้ ขสมก. จึงเชื่อว่าผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้า-ออกสนามบินสุวรรณภูมิจะไม่มีปัญหาแน่นอน

สำหรับรถแท็กซี่มิเตอร์นั้น ขณะนี้มีรถแท็กซี่มิเตอร์เข้ามาให้บริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่แล้ว โดยทางศูนย์ขนส่งสาธารณะได้จัดคิวรถแท็กซี่มิเตอร์ไว้ให้บริการผู้โดยสารขาเข้าที่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารตามปกติ
ส่วนในเรื่องลานจอดรถ และอาคารจอดรถหน้าอาคารผู้โดยสาร ก็มีเจ้าหน้าที่ประจำเรียบร้อยและเปิดให้บริการตามปกติแล้วเช่นกัน


. . .



ศุลกากรจัด เจ้าหน้าที่ประจำสุวรรณภูมิเต็มพิกัดแล้ว

นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากรได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงาน ณ สำนักงานตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามปกติแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา

. . .



นายกสมาคมนักบินไทยยืนยันผลการตรวจสอบทั้ง 2 สนามบินปลอดภัยเต็มที่

นายศรัณย์พล ผลละศิริ นายกสมาคมนักบินไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางสมาคมนักบินไทย กรมการขนส่งทางอากาศ และบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันสำรวจและประเมินความพร้อมในการเปิดให้บริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) โดยผลการตรวจสอบเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งท่าอากาศยานทั้ง 2 แห่ง มีความปลอดภัยและความพร้อมในการบริการแก่อากาศยาน

ดังนั้น ทางสมาคมฯ ขอแจ้งให้ประชาชนทั่วไปได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ รวมทั้งนักบินไทยทุกคนและพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อขนส่งผู้โดยสารที่ตกค้างทั้งหมดให้เสร็จสิ้นโดยเร็วต่อไป

. . .



สนามบินดอนเมืองจะมีเที่ยวบินเข้า-ออกรวม 88 เที่ยวบิน

ในวันนี้ (5 ธ.ค.) ท่าอากาศยานดอนเมือง จะมีเที่ยวบินให้บริการทั้งขาเข้า และขาออกรวมจำนวน 88 เที่ยวบิน แบ่งเป็น
การบินไทย ขาเข้า 23 เที่ยวบิน ขาออก 23 เที่ยวบิน,
นกแอร์ ขาเข้า 14เที่ยวบิน ขาออก 14 เที่ยวบิน,
วันทูโก ซึ่งได้รับอนุญาตให้บินอีกครั้งเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขาเข้า 7 ขาออก 7 เที่ยวบิน โดยสายการบินวันทูโกจะมีเที่ยวบินปฐมฤกษ์ เวลา 07.50 น. ดอนเมือง-เชียงใหม่ ผู้โดยสารที่จะเดินทาง สามารถเช็คอินได้ที่เคาน์เตอร์ท่าอากาศยานดอนเมือง

ส่วนสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส แจ้งว่าวันที่ 5 ธ.ค. จะมีเที่ยวบินทั้งหมด 44 เที่ยวบิน ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 19 เที่ยว ขาเข้า 25 เที่ยวบิน โดยเที่ยวบินแรกที่ออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 07.45 น. กรุงเทพฯ-สุโขทัย ซึ่งเที่ยวบินที่เดินทางช่วงเช้าให้ผู้โดยสารของบางกอกแอร์เวย์สเช็คอิน ที่สำนักงานใหญ่อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเครื่องบินออก ส่วนเที่ยวบินตั้งแต่เวลา 12.00 น. เช็คอิน ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

. . .



บขส.เปิดจองตั๋วล่วงหน้าเดินทางช่วงปีใหม่แล้ว

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า บขส.ได้เตรียมความพร้อมรองรับประชาชนที่จะเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2551-4 มกราคม 2552 แล้ว โดยเพิ่มปริมาณรถอีกร้อยละ 35 ต่อวัน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารมากขึ้น

โดย บขส.ได้เปิดให้จองตั๋วล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. เป็นต้นไป โดยสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ Call Center 0-2793-8111 หรือที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร, เอกมัย, สายใต้) หรือที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา

. . .



ปตท.-บางจาก นำร่องลดราคาเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงลิตรละ 40 สตางค์ และ ดีเซลลดลงลิตรละ 60 สตางค์ มีผลวันที่ 5 ธ.ค.

จากการที่ต้นทุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท บางจาก จำกัด (มหาชน) ได้นำผู้ค้าน้ำมันรายอื่นประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ลง 40 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นน้ำมัน E85 และลดราคาน้ำมันดีเซลลง 60 สตางค์ต่อลิตร มีผลวันที่ 5 ธ.ค. ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันเป็นดังนี้

เบนซิน 91 ลิตรละ 22.19 บาท
แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 17.49 บาท
แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 16.69 บาท
แก๊สโซฮอล์ อี 20 ลิตรละ 16.19 บาท
แก๊สโซฮอล์ อี 85 ลิตรละ 18.29 บาท
ดีเซล ลิตรละ 20.44 บาท
ดีเซล บี 5 ลิตรละ 18.94 บาท

. . .



ไทยออยล์ ระบุราคาน้ำมันดิบควรอยู่ที่ระดับ 45-55 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

นายณรงค์ฤทธิ์ ถาวรวิศิษฐพร ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการโรงกลั่น บริษัทไทยออยล์ จำกัด มองว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่เหมาะสม ควรจะอยู่ที่ประมาณ 45 - 55 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เนื่องจาก เป็นระดับราคาที่เหมาะสมในการ

ลงทุน สำหรับขุดเจาะสำรวจแหล่งน้ำมันใหม่ ซึ่งหากราคาต่ำกว่านี้จะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เพราะก่อนที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก จะมีความผันผวนในระดับสูง ราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ประมาณ 40 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันในทั่วโลกลดลง แต่ไทยออยล์ไม่ได้ลดกำลังการกลั่นน้ำมันลง โดยยังคงการกลั่นอยู่ที่ระดับ 99 - 101% ของกำลังการกลั่นทั้งหมด 2.75 แสนบาร์เรลต่อวัน

. . .



“มอเตอร์เอ็กซ์โป” ลดเป้ายอดขายรถยนต์เหลือ 1.3 หมื่นคัน

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานกรรมการบริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 25 หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2008 เปิดเผยว่า ในช่วง 5 วันแรกของงานพบว่ามียอดขาย 4,778 คัน โดยโตโยต้ามียอดขายสูงสุด 1,555 คัน คิดเป็นร้อยละ 32.5, ตามด้วยฮอนด้า 866 คัน ร้อยละ 18, และอีซูซุ 728 คัน ร้อยละ 15.2

ทำให้ต้องปรับเป้าหมายของยอดขายรถในงานลงจาก 15,000 คัน เหลือ 13,000 คัน เนื่องจากผลกระทบเศรษฐกิจ และปัญหาการเมืองทำให้ผู้เข้าชมงานลดลง โดย 5 วันแรกมีผู้เข้าชมงาน 460,650 คน ลดลงร้อยละ 17 จากปีที่แล้ว ซึ่งตลอดการจัดงานจนถึงวันที่ 10 ธันวาคมนี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัด 15,000 ล้านบาท จากที่คาดไว้กว่า 20,000 ล้านบาท

นายขวัญชัย กล่าวว่า พฤติกรรมการซื้อรถยนต์ของผู้บริโภค เน้นรถขนาดเล็ก ราคาถูก และประหยัดน้ำมันเป็นแนวโน้มเดียวกับรถยุโรป ทำให้รถเล็กจากค่ายโปรตอนติดอันดับ 5 ขณะเดียวกันยังมีรถขนาดเล็กจากจีน เครื่องยนต์ 1,100 ซีซี ราคา 349,000 บาท นำเข้ามาขาย ส่วนรถกระบะพบว่ายอดขายลดลงกว่าที่ควรจะเป็น โดยมีสัดส่วนยอดขายในงานเพียงร้อยละ 17.5

. . .



ธนาคารไทยพาณิชย์ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50%

ภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 วัน (ดอกเบี้ยนโยบาย) ลงในอัตรา 1.00% จากระดับ 3.75% มาอยู่ที่ 2.75% เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมทุกประเภทลงร้อยละ 0.50 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ อยู่ที่ร้อยละ 6.75, เอ็มโออาร์ ร้อยละ 7.00, และ เอ็มอาร์อาร์ ร้อยละ 7.25

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ธนาคารฯ ได้พิจารณาปรับลด โดยให้ส่งผลกระทบต่อผู้ฝากเงินรายย่อยน้อยที่สุด โดยอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง, เงินฝากประจำทุกประเภทปรับลดร้อยละ 0.50-1.00 โดยเงินฝากประจำ 6 เดือน ยอดเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 2.00 โดยการปรับลดครั้งนี้มีผลวันที่ 8 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป

. . .



ธอส.โละประมูลขาย NPA พร้อมจูงใจด้วยเงื่อนไขพิเศษ “เงินดาวน์ผ่อนได้” ดอกเบี้ย 0% นาน 12 เดือน ส่วนที่เหลือ อีก 90% สามารถขอสินเชื่อได้เต็มทั้งจำนวน

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้คัดทรัพย์ NPA คุณภาพ จำหน่ายในการประมูลขายทรัพย์ธนาคาร ครั้งที่ 3/2551 ในวันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2551 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 น. พร้อมกันทั่วประเทศ โดยมีจำนวนทรัพย์กว่า 3,000 รายการ เป็นทรัพย์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล รวม 150 รายการ
โดยจะจัดประมูล ณ ห้องประชุมอาคารจอดรถ ชั้น 11 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ ถนนพระราม 9 ส่วนทรัพย์ในต่างจังหวัด จะจัดประมูล ณ ที่ทำการสาขาที่ทรัพย์นั้นตั้งอยู่

ทั้งนี้ ธนาคารได้จัดทำคู่มือประมูลทรัพย์ ซึ่งรวบรวมรายละเอียดทรัพย์ที่จะทำการประมูลในเขต กทม. และปริมณฑล สำหรับผู้ที่สนใจสามารถขอรับได้ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์สำนักงานใหญ่ และที่ทำการสาขากทม. และปริมณฑล

สำหรับเงื่อนไขพิเศษในการประมูลทรัพย์ครั้งนี้ ธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 90% ของราคาที่ประมูลซื้อได้ โดยลูกค้าสามารถเลือกผ่อนดาวน์ 10% ได้นาน 12 เดือน โดยไม่เสียดอกเบี้ย ส่วนที่เหลืออีก 90% สามารถขอสินเชื่อกับธนาคารได้เต็มจำนวน ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี

สำหรับผู้ที่ประมูลได้ เพียงวางเงินมัดจำ 20,000 บาท (สำหรับทรัพย์ราคาไม่ถึง 3 ล้านบาท) ในวันประมูล และชำระส่วนที่เหลือเป็นเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คพร้อมนัดโอนกรรมสิทธิ์ภายในสัปดาห์ถัดไป

นอกจากนั้นหากต้องการเข้าอยู่อาศัยในทรัพย์ระหว่างการผ่อนชำระเงินดาวน์ เพียงวางเงินประกันการซื้อทรัพย์ร้อยละ 1.5 ของราคาที่ซื้อ โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า

ผู้สนใจติดต่อที่ฝ่ายบริหารทรัพย์สิน โทร.0-2202-1822 หรือ 0-2202-1582 หรือ 0-2202-1016 และ //www.ghbhomecenter.com

. . .



ครม.ขยายเวลามาตรการภาษีหนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีรายละเอียด คือ
ขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับถังบรรจุก๊าซธรรมชาติอัดประเภทถังคอมโพสิทไฟเบอร์ ออกไปอีก 3 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ส่วนถังบรรจุก๊าซธรรมชาติอัดประเภทถังเหล็ก และถังอะลูมิเนียม ขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าออกไปอีก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2552

นอกจากนี้ ขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าชุดอุปกรณ์ควบคุมการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซล ออกไปอีก 3 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554

ขยายระยะเวลาการยกเว้นอากรขาเข้าแชสซีส์ที่มีเครื่องยนต์ติดตั้งที่นำเข้าในลักษณะของสำเร็จรูป สำหรับยานยนต์ที่มีน้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุกตั้งแต่ 6 ตันขึ้นไป ชนิดที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงระบบเดียว ออกไปอีก 3 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554

ยกเว้นอากรขาเข้าส่วนประกอบและอุปกรณ์ประกอบ ที่นำเข้ามาเพื่อประกอบหรือผลิตเป็นแชสซีส์ที่มีเครื่องยนต์ติดตั้ง สำหรับรถบรรทุก รถหัวลาก และยานยนต์ที่ใช้งานพิเศษ (เช่น รถปั้นจั่น รถดับเพลิง และรถกวาดถนน เป็นต้น) ชนิดที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงระบบเดียว เป็นระยะเวลา 3 ปี จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554

นายสมชัย กล่าวว่า การดำเนินมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ตามข้อเสนอข้างต้น ถึงแม้ว่าจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ในส่วนของภาษีศุลกากรไปบางส่วนก็ตาม แต่ผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับในภาพรวม คือ จะช่วยลดการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ และประหยัดเงินตราต่างประเทศจากการนำเข้าน้ำมันดิบ ในขณะเดียวกันจูงใจให้ภาคขนส่งโดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้ในภาคสาธารณะมีการปรับเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมทางอากาศ


. . .

Create Date : 04 ธันวาคม 2551		2 comments
Last Update : 4 ธันวาคม 2551 20:26:51 น.
Counter : 558 Pageviews.
Share Tweet