Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
8 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

น้ำมันลดลง 60-80 สตางค์ต่อลิตร--ปีหน้าว่างงาน 9 แสนคน--เบียร์ช้างชะลอเข้าตลาดหุ้น--คลังหนุนปรับภาษี

. . .


ราคาน้ำมันลดลงลิตรละ 60-80 สตางค์ มีผลวันที่ 9 ธ.ค.

ผู้ค้าน้ำมันประกาศปรับลดราคาน้ำมันทุกประเภท ยกเว้นอี 85 โดยลดราคาดีเซล, แก๊สโซฮอล์, และเบนซิน 95 ลงลิตรละ 60 สตางค์ ส่วนเบนซิน 91 ลดลงลิตรละ 80 สตางค์ ส่งผลให้ราคาน้ำมันเขต กทม.-ปริมณฑล ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. เป็นดังนี้

เบนซิน 95 ราคา 26.59 บาท
เบนซิน 91 ราคา 21.39 บาท
แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 16.85 บาท
แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา16.09 บาท
อี 20 ราคา 15.59 บาท
อี 85 ราคา 18.29 บาท
ดีเซล ราคา 19.84 บาท
ดีเซล บี 5 ราคา 18.34 บาท

การปรับลดราคาดังกล่าว เป็นผลมาจากราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงมาเหลือประมาณ 40.81 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบเท่ากับ 38.84 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล, เบนซิน 34.43 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล และดีเซล 57.48 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานประกาศรางวัลโครงการประกวดบ้านจัดสรรอนุรักษ์พลังงานดีเด่น ว่า ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศเตรียมปรับลดอย่างน้อยอีก 2 ครั้ง ในสัปดาห์นี้ สาเหตุเพราะราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลง เหลือประมาณ 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ค่าการตลาดสูงถึงระดับ 3 - 8 บาทต่อลิตร
โดยในส่วนของเบนซิน 95 ที่ค่าการตลาดสูงกว่า 8 บาท นั้น ทาง ปตท. รายงานให้ทราบว่า เตรียมที่จะกลับมาขายเบนซิน 95 อีกครั้ง เพื่อช่วยดึงค่าการตลาดให้ต่ำลงแม้ว่า จำนวนรถยนต์ที่ใช้เบนซิน 95 จะมีอยู่ไม่กี่แสนคันก็ตาม

นายเทียนไชย จงพีร์เพียร นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงิน ทำให้การใช้น้ำมันในสหรัฐ-ยุโรปลดลง ในขณะที่การเก็งกำไรจากบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์ ได้หายไปจากตลาด สำหรับหลุมผลิตน้ำมันที่มีต้นทุนสูงก็ได้ปิดตัวลง

คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันในปีหน้าจะเพิ่มขึ้น 5-6 แสนบาร์เรลต่อวัน จากปีที่ผ่านมาความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และปัจจัยนี้จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปีหน้าจะอยู่ในระดับ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

“ขณะนี้ราคาน้ำมันเบนซิน ต่ำกว่าน้ำมันดิบเสียอีก ส่งผลให้โรงกลั่นฯประสบปัญหาขาดทุน ค่าการกลั่นตกต่ำ ในขณะที่ราคาดีเซลแม้สูงกว่าน้ำมันดิบ แต่หากผ่านพ้นฤดูหนาวไปแล้วก็น่าเป็นห่วงว่าราคาจะลดลง ดังนั้น ทุกโรงกลั่นฯ คงจะต้องบริหารโรงกลั่นฯ ให้อยู่รอดได้ หลังจากที่ช่วงนี้อาจขาดทุนสต็อกรวมๆ แล้วกว่าหมื่นล้านบาท” นายเทียนไชย กล่าว

. . .



สภาพัฒน์ฯ คาดต้นปี 52 ตัวเลขว่างงานพุ่งกว่า 9 แสนคน


สศช.ประมาณการต้นปี 2552 มีจำนวนคนว่างงานกว่า 9 แสนคน หรือร้อยละ 2.0-2.5 ยังไม่รวมการว่างงานจากผลของการปิดสนามบิน ชี้รัฐบาลต้องเร่งหามาตรการชะลอผู้เข้าสู่ตลาดแรงงานด้วยการอบรมเพิ่ม หรือสนับสนุนให้เรียนต่อ

นางสุวรรณี คำมั่น รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงรายงานภาวะสังคม ไตรมาสที่ 3/2551 ว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศ ส่งผลให้การจ้างงานในอุตสาหกรรมการผลิตลดลง, อุตสาหกรรมส่งออกที่ใช้แรงงานสูงหดตัว, การจ้างงานในภาคการท่องเที่ยว โรงแรม และภัตตาคารลดลง, แต่การจ้างงานในภาคเกษตรที่ขยายตัวสูงในปีนี้ ช่วยรองรับแรงงานภาคอุตสาหกรรม ทำให้อัตราการว่างงานไตรมาส 3 อยู่ในระดับร้อยละ 1.2

แต่ในปี 2552 การว่างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากผลกระทบของวิกฤติการเงินและเศรษฐกิจโลก ผู้จบการศึกษาใหม่จะหางานลำบากขึ้น โดยปี 2552 คาดว่าจะมีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 5-6 แสนคน

ประมาณการช่วงต้นปี 52 จะมีผู้ว่างงานรวมกว่า 9 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 2.0-2.5 ยังไม่รวมการว่างงานจากผลกระทบการปิดสนามบิน

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การว่างงานในปี 2552 จะอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2541 ที่มีอัตราการว่างงานร้อยละ 4.4 และช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 44 ที่มีอัตราการว่างงานร้อยละ 3.3

สำหรับมาตรการที่จะมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาการว่างงาน ได้แก่ กระทรวงแรงงานต้องประสานผู้ประกอบการหาวิธีชะลอการเลิกจ้าง, หาตำแหน่งงานว่างเพื่อรองรับ, ให้การแนะแนว, และการฝึกอาชีพให้แรงงาน

สำหรับผู้ที่กำลังจะจบการศึกษา ให้ฝึกงาน และอบรมทักษะในการทำงาน รวมทั้งสนับสนุนให้ศึกษาต่อ

นอกจากนี้ รัฐต้องมีมาตรการเสริมสำหรับ SMEs และส่งเสริมอาชีพในชนบท เพื่อให้แรงงานกลับภูมิลำเนา

ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจะต้องเตรียมการจ่ายเงินทดแทนกรณีว่างงานให้กับผู้ประกันตน หากมีผู้ว่างงานเพิ่ม 5-6 แสนคน จะต้องเตรียมจ่ายถึง 3,000 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งสูงกว่ารายรับจากเงินสมทบ แต่สถานะของกองทุนขณะนี้ยังเพียงพอที่จะรองรับการว่างงานในปี 2552

นางสุวรรณี กล่าวว่า ผลรายงานภาวะสังคมไตรมาส 3 ปี 2551 ยังพบว่า สภาพอากาศที่แปรปรวนส่งผลให้การระบาดของไข้เลือดออกมีแนวโน้มสูงขึ้น มีอัตราการป่วยสูงสุดในรอบ 6 ปี และพบในผู้ใหญ่มากขึ้น เพราะภาวะโลกร้อนทำให้ยุงลายขยายพันธุ์เร็วขึ้น

นอกจากนี้ยังต้องระวังโรคชิคุนกุนยา หรือไข้ปวดข้อ มีอาการคล้ายไข้เลือดออก เป็นโรคติดเชื้ออุบัติซ้ำในปีนี้ ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรคเช่นกัน และองค์การอนามัยโลกได้รายงานการระบาดในแถบประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย มีผู้ป่วยแล้วมากกว่า 2,000 ราย

สำหรับสภาพอากาศที่หนาวเย็นมากขึ้น ต้องระวังการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ และปอดอักเสบที่อาจเพิ่มมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

นางสุวรรณี กล่าวว่า ด้านการพัฒนาการศึกษา แม้จะประสบผลสำเร็จในเชิงปริมาณเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังมีปัญหาด้านคุณภาพบุคลากร กระบวนการเรียนการสอนและการเรียนรู้ยังไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไป เด็กและเยาวชนยังมีพฤติกรรมที่น่าห่วงในเรื่องการดื่มสุรา สูบบุหรี่ การคบเพื่อนที่นำไปสู่การกระทำผิดในคดีต่าง ๆ รวมทั้งใช้เวลากับกิจกรรมบันเทิงมากกว่าการอ่านหนังสือ สื่อทันสมัยยังมีอิทธิพลต่อเยาวชนมาก พื้นที่สื่อดียังมีน้อย ขยายช้า ขณะที่สังคมยังยอมรับสื่อที่ไม่ดี

สำหรับผลกระทบจากการชุมนุมปิดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง นางสุวรรณี กล่าวว่า สศช.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ตัวเลขความเสียหายที่แท้จริง ส่วนตัวเลขประมาณการที่เคยคาดการณ์ไว้ว่า การปิดสนามบินส่งผลให้ธุรกิจการบิน โรงแรม ภัตตาคาร และการท่องเที่ยวเสียหายประมาณ 1.46 แสนล้านบาท ซึ่งภาคการท่องเที่ยวจากภายนอกได้รับผลกระทบแน่นอน แต่การท่องเที่ยวภายในประเทศมีมากขึ้น ซึ่งทดแทนได้บ้าง นอกจากนี้ ส่วนที่ได้รับผลกระทบ คืออุตสาหกรรมการส่งออก ประเภทการส่งออกอัญมณี และเครื่องใช้ไฟฟ้า

. . .



“เบียร์ช้าง” ขอระงับเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหุ้นไทย หลังถูกต่อต้าน


นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แจ้งว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะดำเนินการระงับการพิจารณาการรับหลักทรัพย์ของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มช้าง ตามที่บริษัทแจ้งความประสงค์ ขอระงับการดำเนินการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในขณะนี้ เพื่อยุติความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯยืนยันว่าไทยเบฟฯได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จนมีความพร้อมที่จะเป็นบริษัทจดทะเบียน และตลาดหลักทรัพย์ฯยืนยันว่าได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่เลือกปฏิบัติ และพร้อมเป็นตลาดรองสำหรับหลักทรัพย์ของบริษัทที่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง และมีคุณสมบัติตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนด

นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า หุ้นที่ไทยเบฟฯ ได้เปิดขายให้กับประชาชนทั่วไปและสถาบันไปแล้วเมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ในราคาหุ้นละ 4.69 บาท ก็ต้องขึ้นอยู่กับที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร และบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จะดำเนินการตกลงกับบริษัทและประชาชนว่าจะดำเนินการอย่างใดต่อไป

นายคำรณ ชูเดชา แกนนำเครือข่ายต้านน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่ากลุ่มผู้ต่อต้านฯจะไม่มีการดาวกระจายไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น ก.ล.ต. บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ หรือที่บ้านนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
ทั้งนี้ การระงับเข้าจดทะเบียนของไทยเบฟฯ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจากถูกกระแสคัดค้านจากกลุ่มต่อต้าน และคณะสงฆ์เมื่อปี 2549 จนต้องนำหลักทรัพย์ไปจดทะเบียนที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์แทน โดยไทยเบฟฯ ได้จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2549 เป็นต้นมา

. . .



เครือข่ายต้านเบียร์ช้าง รวมตัวปิดถนนหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯ


กลุ่มเครือข่ายต้านน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประมาณ 200-300 คน ได้มาชุมนุมปิดถนนบริเวณด้านหน้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. โดยมีการกล่าวปราศรัยเพื่อคัดค้านการนำบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ทำให้การจราจรฝั่งหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยรถยนต์ที่มาจากสี่แยกคลองเตย มุ่งหน้าผ่านศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ต้องมากลับรถที่ใต้สะพานลอยก่อนถึงตลาดหลักทรัพย์ฯทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก

นอกจากนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เตรียมเต๊นท์ เครื่องขยายเสียง และรถสุขา มาเพื่อตั้งเวทีในการปราศรัย โดยตัวเทนของกลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่า จะมีการชุมนุมเพื่อกดดันให้ ตลาดหลักทรัพย์ฯออกมาหารือ และยืนยันว่าจะไม่นำบริษัทผลิตแอลกอฮอล์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะการระงับไทยเบฟฯ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่าเป็นการระงับเพียงชั่วคราวเท่านั้น

. . .



รมว.คลัง ระบุเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณมีปัญหามากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหาได้


นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ไม่รู้สึกเป็นห่วงกับความเคลื่อนไหวจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล แต่ขณะนี้เป็นห่วงปัญหาเศรษฐกิจมากกว่า เพราะเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณว่ามีปัญหามากขึ้นแล้ว และจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นในต้นปีหน้า เพราะขณะนี้นโยบายการแก้ปัญหาทำงานไม่ได้ นโยบายเดิมที่วางแผนไว้ก็ไม่สามารถเดินหน้าได้ เพราะภาคราชการต้องรอนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะงบกลางปีเพิ่มเติมแสนล้านบาทก็ต้องหยุดไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลชุดใหม่จะพิจารณาเดินหน้าอย่างไรบ้าง

นายสุชาติ กล่าวว่า ดีใจที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน เพราะจะทำให้สถาบันการเงินที่นำเงินไปฝากไว้ เมื่อ ธปท.ให้ผลตอบแทนน้อยลงก็จะดึงเงินออกเพื่อไปหาผลตอบแทนในระบบ ซึ่งจะทำให้ระบบมีสภาพคล่องมากขึ้น แต่อยู่ที่สถาบันการเงินจะปล่อยสินเชื่อมากน้อยเพียงใด เพราะภาคธุรกิจยังต้องการเงินทุน และเห็นว่าแม้ดอกเบี้ยจะลดลง ก็มองว่าอาจจะปรับลดลงได้อีก ส่วนจะลดลงเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กนง.

นอกจากนี้ ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยก็ต้องลดอัตราภาษีเพื่อลดภาระให้ภาคเอกชน ขณะที่ภาครัฐบาลต้องเร่งการใช้จ่ายมากขึ้น จึงยืนยันว่าควรมีการปรับลดภาษี

สำหรับกรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้มีการจัดงานโอท็อป ซิตี้ นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า งานดังกล่าวเดินหน้าไปตามกำหนดการ เพราะรัฐบาลจัดสรรงบประจำปีให้ไปแล้ว เมื่อเห็นชาวบ้านเรียกร้องจึงเป็นห่วง เพราะต้องการให้มีการจัดงานดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านให้มีแหล่งกระจายสินค้า โดยจะประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อเร่งเดินหน้าจัดงานดังกล่าว
อนึ่ง งาน OTOP CITY มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19-28 ธันวาคมนี้ ที่เมืองทองธานี

. . .



คลังหนุนรัฐบาลใหม่ลดภาษีนิติบุคคล-เพิ่มภาษีเบียร์ และเพิ่มภาษีน้ำมัน


นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงการใช้มาตรการภาษีในการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า สศค.เตรียมศึกษาไว้หลายประเภทภาษีแต่การเลือกนำมาใช้ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

จากแนวคิดที่จะปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 30% เหลือ 25%, การปรับเพิ่มภาษีเบียร์จาก 55% เป็น 57%, และการปรับเพิ่มภาษีน้ำมันทั้งในส่วนของเบนซินและดีเซลอีก 1 บาทกว่าต่อลิตรนั้น จำเป็นต้องนำมาใช้โดยเร็ว แม้ว่าจะเป็นรัฐบาลรักษาการหรือตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะหากยิ่งทิ้งระยะเวลานานเกินไปก็ทำให้เศรษฐกิจหดตัวลงรุนแรง

สศค.เสนอมาตรการภาษีไปมากกว่านี้ แต่การนำมาใช้ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีคลัง ซึ่งตัวที่เลือกมานี้อาจไม่เพียงพอในการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2552 หากจีดีพีขยายตัวต่ำกว่า 2% หรืออยู่ในระดับ 0% จริง อย่างที่หลายฝ่ายกังวล ดังนั้น ในอนาคตอาจมีมาตรการออกมาเพิ่มเติมได้ รวมทั้งภาษีที่ดิน ภาษีฟุ่มเฟือย จะปรับปรุงเพิ่มเติม และจะเสนอรัฐบาลใหม่ด้วย เช่น กรณีของภาษีที่ดิน ก็จะยกเว้นภาษีที่จัดเก็บจากเกษตรกร เป็นต้น

ส่วนเหตุผลที่ไม่ปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะอาจทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้มากเกินไป ขณะที่ข้อเสนอลดภาษีมูลค่าเพิ่มนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะไม่มีข้อมูลชี้ชัดว่า จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย และมีรายได้กลับคืนมามากกว่าส่วนที่หายไป

สำหรับการปรับเพิ่มภาษีน้ำมันนั้น นอกจากจะกลับไปที่อัตราภาษีเดิมหลังครบกำหนดใช้ 6 มาตรการ 6 เดือนของรัฐบาลแล้ว ยังเป็นการปรับเพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 1 บาทกว่าด้วย เนื่องจากเห็นว่าขณะนี้ราคาน้ำมันปรับลดลงอย่างมาก และมีการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น หากเพิ่มภาษีซึ่งส่งผลให้ราคาขายปลีกสูงขึ้นตามไปด้วยนั้นไม่น่าจะกระทบกับผู้ใช้ และราคาสินค้าให้ปรับสูงขึ้น

นายสมชัย กล่าวว่า ในส่วนของงบกลางปี 1 แสนล้านบาทนั้น แม้จะชะลอออกไปก็มองว่ายังสามารถใช้ได้ทันเดือน เม.ย.52 ตามที่วางแผนไว้ เพราะหลังมีรัฐบาลใหม่ก็น่าจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน โดยอาจนำเข้าครม.และเข้าสภาผ่าน 3 วาระรวดในเดือน ก.พ.ก็ได้ ส่วนโครงการต่างๆ ที่จะขอใช้เงินนั้นเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว


. . .




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2551
1 comments
Last Update : 8 ธันวาคม 2551 17:37:41 น.
Counter : 807 Pageviews.

 

. . .

ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง

น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า?






ช้างมันตัวโตไม่เบา

จมูกยาวๆ เรียกว่า งวง

มีเขี้ยวใต้งวง เรียกว่า งา





มีหู มีตา หางยาว...








นางแบบปฏิทิน... ปีไหนไม่รุ...





. . .

 

โดย: loykratong 8 ธันวาคม 2551 17:49:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


loykratong
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ไม่มีอะไรขึ้นตลอด
ไม่มีอะไรลงตลอด
...ไม่มี the end of the world ...

Web Site Hit Counters

ราคาทองคำ
 

ราคาทองคำต่างประเทศ



Friends' blogs
[Add loykratong's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.