คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
ข้อมูล: Invisible Waves เป็นผลงานเรื่องที่ 5 ของผู้กำกับเป็นเอก รัตนเรือง ตัวหนังเป็นการร่วมทุนของ 5 ประเทศ หนังพูดภาษาอังกฤษตลอดทั้งเรื่อง มีโรงฉายทั้งแบบพากษ์ไทยและเสียงต้นฉบับ / หนังสือเกี่ยวกับหนังมีวางขายออกมาแล้วสองเล่มคือบทภาพยนตร์โดยปราบดาหยุ่นและเบื้อหลังการสร้างหนังเรื่องนี้
...จะเห็นได้ว่าแม้มีกฏหมายบ้านเมืองที่เข้มงวดกวดขัน ก็ใช่ว่าการทำความผิดจะหมดไปจากสังคม ยังมีคนไม่กลัวที่จะทำความผิดหากพบว่ามีโอกาสจะหนีพ้นเงื้อมมือกฎหมายไปได้ มันบ่งบอกว่า คุกภายนอกที่ขังคนมันไม่ได้มีอิทธิพลเท่าคุกในใจที่จะกักขังคนไม่ให้ทำผิด หากคนมี คุณธรรม(Superego) อยู่ในใจ มันก็จะเป็นเหมือนกรงที่คอยขังความอยากทำชั่ว โอกาสทำความผิดก็จะเกิดน้อยลง เพราะ หนึ่งในสองส่วนประกอบของ Superego นั้นคือ มโนธรรม(Conscience) ที่คอยพิพากษาการกระทำ ตัดสินถูก-ผิด ภายในตัวเราเอง ความเกรงกลัวต่อการทำผิดจึงเกิดขึ้น ในขณะที่ คนไร้ Superego ก็จะเป็นคนที่ทำผิดได้โดยไม่มีความรู้สึกผิดละอายใจไร้ความกลัว หากจะกลัวก็แค่กลัวถูกจับได้เท่านั้นเอง
...ตราบใดที่เรายังมี คุณธรรม ในใจ เมื่อใดที่เราทำผิด ความรู้สึกผิด(guilty)ย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอนเพียงแต่ว่ามันจะแสดงออกมาในรูปแบบใดเท่านั้นเอง
...คิโยชิ (อาซาโน่ ทาดาโนบุ) ทำผิดบาปด้วยการมีชู้กับเมียเจ้านาย คิโยชิ ทำบาปซ้ำซ้อนด้วยการฆ่าเธอตามคำสั่งเจ้านาย
...เจ้านายของคิโยชิ (ทูน หิรัญทรัพย์) ทำผิดบาปด้วยการบงการฆ่าเมียตัวเอง เขาทำบาปซ้ำซ้อนด้วยการบงการฆ่าคิโยชิอีกต่อหนึ่ง
... การเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลของ คิโยชิ มาเมืองไทย หวังว่าเรื่องราวทุกอย่างจะสงบลง ทุกสิ่งที่ทำไว้จะจางหายไป แต่มันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะ การเดินทางครั้งนี้เขาทั้งถูกขัง เขาทั้งหลงทาง สิ่งแวดล้อมรอบตัวเขาเหมือนกับว่าจะคอยย้ำเตือนความผิดที่เขาทำไว้อยู่ตลอดเวลา มหาสมุทรที่นิ่งสงบเหมือนไม่เคยสนใจใครแต่เขาเองกลับรู้สึกว่าตัวเองถูกพิพากษาจากมหาสมุทรผืนใหญ่ ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร คำตอบอาจจะตอบได้จากฉากหนึ่งในเรื่อง
ช่วงเวลาหนึ่งบนเรือ คิโยชิ ติดอยู่ในห้องของตัวเองที่ถูกล็อคจากภายใน หรือนี่จะเป็นสภาพจิตใจของ คิโยชิ ที่ไม่ได้ถูกกฏหมายหรือปัจจัยภายนอกลงโทษ เขาสามารถหนีความผิดมาได้โดยราบรื่น เขาไม่ได้ถูกขังจากภายนอก(คุก) แต่ เขากลับถูกขังจากภายในนั่นคือ ความรู้สึกผิดบาป ของตัวเอง แม้คนเราจะหนีกฎหมายภายนอกไปได้ไกล แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่มีวันหนีพ้น คือ กรงขังในใจที่จะจองจำเราไปชั่วชีวิต
คนเราเมื่อมีความรู้สึกผิดเกิดขึ้นในใจ บางครั้งการแปลความหรือการรับรู้ก็ไม่ได้เป็นตาม ความจริง ที่เห็นหรือได้ยิน แต่มันสั่นคลอนตามจิตใต้สำนึกภายในตัว เช่น คนทำผิดเวลาเห็นคนมองก็แปลความไปว่าเขาอาจจะรู้ความผิดนั้นของตัวเอง ทั้งที่คนอื่นนั้นเขาไม่ได้รู้อะไรเลย (ในเรื่องนี้ก็เช่นกัน ความรู้สึกผิดของคิโยชิมันก็แสดงออกมาพร้อมกับ อาการอาเจียนของพระเอก , ตัวอักษร redrum , ความรู้สึกจากมหาสมุทร , คำพูดของตัวละครอื่นๆที่เขาได้เห็นได้ยิน ฯลฯ)
...ตัวละครในเรื่องทุกคนล้วนแต่เคยทำผิดบาป มีเพียงหญิงสาวชื่อ น้อย พร้อมเด็กทารกชื่อ นิด ที่ คิโยชิ พบบนเรือ ทั้งสองดูเหมือนว่าจะเป็นสัญลักษณ์ความดีงามเพียงหนึ่งเดียวในเรื่องที่อยู่ท่ามกลางคนบาป ในตอนสุดท้ายการปรากฏตัวของน้อยและนิดเหมือนจะบอกเราว่า หากสังคมหรือตัวบุคคลยังคงมีความดีงาม(goodness)หลงเหลือย่อมสามารถที่จะหยุดยั้ง ถ่วงดุลย์ ความชั่วร้าย(evil)ได้เสมอ
...จากจุดเริ่มต้น หนังเปิดเรื่องได้น่าสนใจให้เราได้เห็น ปืนที่กำลังจ่อหน้าตัวละครหนึ่งซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นใคร เพียงแค่รู้ว่าชายที่ถูกจ่อปืนกำลังจะมีความสุขครั้งใหม่ในชีวิต เขากำลังจะแต่งงาน คำถามที่น่าขบคิดเกิดตามมาจากตัวละครในเรื่องว่า
ใครสมควรที่จะมีชีวิตต่อไปมากกว่ากัน ระหว่าง คนที่กำลังมีความสุข กับ วิญญาณเร่ร่อนไม่มีทางมีความสุขได้อีกต่อไป หากคนทั้งคู่ล้วนต่างเคยทำความผิดเหมือนกัน ?
...การมีชีวิตอยู่ต่อไปในสังคมของคนผิดที่กำลังมีความสุข อาจไม่ได้บอกว่า เขาสมควรมีชีวิตอยู่ต่อไปมากกว่า เพราะคุณค่าของการใช้ชีวิตของมนุษย์นั้นมีเท่าเทียมกันทุกคน และ คนทำผิดบาปก็ล้วนสมควรได้รับการลงโทษอย่างเท่าเทียม เพียงแต่ว่า การเลือกเดินหน้าเพื่อยุติความสุขในชีวิตของคนที่มีชนักบาปติดหลัง ด้วยการมอบตัว สารภาพผิด หรือ หยุดการทำความชั่วเพื่อเอาตัวรอด ไม่ได้หมายถึง คนๆนั้นมีคุณค่าเหมาะสมที่จะใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขน้อยกว่า แต่ มันเป็นการสำนึกและเป็นการได้ชำระความผิดบาปของตัวเอง
เพราะ คนทำผิดถึงจะหนีเงื้อมมือกฎหมายได้นานแค่ไหน แต่การแบกความผิดในใจนั้น มันก็เหมือนกรงขังที่ทำให้คนๆนั้นมิอาจมีความสุขใดๆต่อไปได้กับชีวิตที่เหลือ เพราะ มันคือ ชีวิตที่อยู่ด้วยความผิดบาปที่กัดกร่อนตลอดเวลา
...ชื่อ เป็นเอก อาจไม่ใช่ชื่อที่รับประกันความสนุกของหนังหากวัดกันที่รายรับในประเทศ แต่ในแง่ของคุณภาพ ชื่อ เป็นเอก เป็นชื่อที่สามารถประกันคุณภาพของหนังได้ว่า งานของเขาไม่ใช่งานที่ทำลวกๆหรือสุกเอาเผากิน สี่ผลงานของเขาที่ผ่านมา ( ฝันบ้าคาราโอเกะ , เรื่องตลก 69 , มนต์รักทรานซิสเตอร์ , Last Life in The Universe ) มีขึ้นๆลงๆ มีความขาดๆเกินๆ อยู่บ้าง แต่ ทุกงานล้วนเป็นการสร้างความแตกต่างและความแปลกใหม่ฉีกขนบจากหนังไทยรูปแบบเดิมๆที่สร้างมา มนต์รักทรานซิสเตอร์ เป็นหนังของเป็นเอกที่ผมชอบมากที่สุด เป็นหนังไทยที่มีความเป็นไทยในตัวสูงโดยไม่ต้องพยายามยัดเยียดความเป็นไทย ในขณะเดียวกันมันก็มีความเป็นสากลมากพอที่จะนำมันไปโชว์ชาติอื่นๆในฐานะหนังคุณภาพ
...ทันทีที่ Invisible Waves จบลง ผมตอบตัวเองได้ทันทีว่า นี่เป็นหนังของเป็นเอกที่ผมชอบน้อยที่สุด ในตอนแรกผมเข้าใจว่า ผมไม่ชอบบทของหนังนี้ที่เขียนโดย ปราบดา หยุ่น หนังเรื่องนี้มีบางอย่างที่ทำให้ผมเกือบจะชอบมากแต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่กีดกั้นนั้นคืออะไร จนเมื่อวานนี้ที่ผมไปซื้อหนังสือบทภาพยนตร์ของหนังเรื่องนี้มานั่งอ่านจนจบ ผมจึงพบว่า ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่ตัวบทภาพยนตร์ แต่เป็นการถ่ายทอดบทภาพยนตร์ที่เป็นตัวอักษรมาเป็นภาพและเสียงบนจอ
เพราะบทที่ผมอ่าน ช่องว่างระหว่างบรรทัดที่บรรยายเหตุการณ์นั้นใช้เวลาไม่นาน ตรงข้ามกับในหนังกว่าแต่ละเหตุการณ์ผ่านไปมันใช้เวลานานกว่า หากธีมหรือสิ่งที่หนังต้องการสื่อสารออกมาคือ ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นในใจ หนังสือที่ไม่ได้เห็นภาพกลับทำให้ผมรู้สึกได้มากกว่า ในขณะที่หนังเดินหน้าสื่อสารประเด็นนี้มาชัดเจน แต่ผมกลับไม่รู้สึกคล้อยตามทั้งที่สิ่งแวดล้อมมากมายบ่งบอกว่าตัวละครกำลังเผชิญความรู้สึกผิด
...ตัวละครคิโยชิ ไม่ทำให้ผมเชื่อได้ว่า เขาเป็นตัวละครที่กำลังทุกข์ทรมานกับความรู้สึกผิดบาปมากมายที่อยู่รอบตัว ภาษาหนังที่ใช้ไม่ว่าจะเป็น ฉากที่เขาอาเจียนครั้งแล้วครั้งเล่าสลับกับภาพคนรักที่เขาฆ่า , ไดอะล็อคที่เปรียบเปรยว่ากำลังถูกมหาสมุทรพิพากษา , บทสนทนากับชายที่บาร์ , ตัวอักษร Redrum บนผนังที่สะท้อนออกมาเป็น murder (ไม่ชอบมุกนี้เพราะรู้สึกว่าซ้ำกับที่เคยเห็นมันมาแล้วใน The Shining หรือจะเป็นเพราะที่อ่านจากในหนังสือบทภาพยนตร์ ปราบดา หยุ่น เขียนไว้ว่า รายละเอียดในเรื่องนี้แอบแฝงการคารวะ แสตนลีย์ คูบริค อยู่) ฯลฯ ล้วนเป็นองค์ประกอบของความรู้สึกผิดที่รายล้อมตัวคิโยชิ แต่เมื่อพ้นองค์ประกอบเหล่านี้ ผมไม่รู้สึกเลยว่าคิโยชิคือคนที่จมอยู่กับความรู้สึกผิด แต่เหมือนคนเฉยๆที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างเรื่อยๆหลงทิศอยู่ผิดที่ผิดทางพร้อมรู้สึกผิดเป็นพักๆมากกว่า
ถึงจะเป็นหนังของคนละตระกูลแต่ The Machinist เป็นหนังที่พูดถึงความผิดบาปในใจตัวละครเช่นเดียวกัน The Machinist และ Invisible Waves มีความคล้ายคลึงกันตรงตัวละครเอกจากทั้งสองเรื่องต่างต้องแบกความรู้สึกผิด ความรู้สึกผิดที่ไม่ได้แสดงออกตรงๆแต่มาจากอาการทางกาย หรือ จากการแปลความสิ่งแวดล้อมที่หลอกหลอนในรูปแบบเกือบจะเหนือจริง(Surreal) เป็นสัญลักษณ์ของความรู้สึกผิดในใจ เช่น Christian Bale ใน The Machinist จะมีอาการนอนไม่หลับและน้ำหนักลด อาซาโน่ ทาดาโนบุ ใน Invisible Waves จะอาเจียนอยู่เป็นระยะๆ , ใน The Machinist เจอตัวอักษร Guilty ใน Invisible Waves เจอตัวอักษร Redrum ฯลฯ
ความต่างของสองเรื่องนี้อยู่ตรงที่ว่า The Machinist สามารถทำให้ผมเชื่อว่าตัวละครนั้นทนทุกข์ทรมานจากการถูกกัดกร่อนจิตวิญญาณด้วยความรู้สึกผิด และ จากการรับรู้แปลความหมายรอบข้างไปตาม จิตใต้สำนึกแต่ตัวเอกใน Invisible Waves เมื่อหลุดจากฉากหรือเหตุการณ์ที่หนังบรรจงใส่ เขาไม่ได้ทำให้ผมคล้อยตามกับสิ่งที่หนังพยายามนำเสนอ การแสดงและแนวทางของหนังที่น้อยในเรื่องนี้ ต่างจากความรู้สึกที่ได้จาก Last Life in The Universe เพราะผลงานเรื่องก่อนของเป็นเอก เป็นการแสดงที่น้อยแต่ให้มาก ส่วนในเรื่องนี้ ความน้อยของมันทั้งจากตัวเนื้อหาของหนังและจากการแสดงของอาซาโน่ ทาดาโนบุ ให้อะไรออกมาน้อยตามไปด้วย
...จังหวะการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมไม่คล้อยตาม ผมเองไม่ใช่คนที่ปฏิเสธหนังที่เนิบช้า หากความเนิบช้านั้นมีส่วนช่วยตอบโจทย์ของหนังเช่น ความเนิบช้าใน Hotel มันทำให้คนดูคล้อยตามบรรยากาศไม่น่าไว้วางใจและความสยองขวัญพรั่นพรึ่ง , ความเนิบช้าใน April Snow ทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดของตัวละครถูกถ่ายทอดออกมาดียิ่งขึ้น , ความเนิบช้าแบบใน Last Life in The Universe ไปด้วยกันได้กับตัวหนังที่เงียบเหงาอ้างว้าง แต่ ความเนิบช้าใน Invisible Waves หลายครั้งหลายฉาก ไม่ทำให้ผมรู้สึกคล้อยตาม ความรู้สึกผิด ความแค้น รักซ้อนซ่อนเงื่อนเพื่อนทรยศอย่างที่หนังฟิล์มนัวร์ทั่วไปพึงจะมี ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงทำให้คนดูบางส่วนอาจสมาธิหลุดออกไปด้วยความเนือยเพราะตามหนังไปได้ไม่ถึงที่สุด และทำให้ไม่ได้สารที่ผู้สร้างตั้งใจจะสื่อสารออกมา
... จังหวะความนิ่งเนิบของหนังที่ผมชอบ คือ ฉากแรก และ ฉากการฆ่าทั้งสองครั้ง ที่ความนิ่งของหนังส่งเสริมบรรยากาศความไม่น่าไว้วางใจในสถานการณ์ให้เกิดขึ้น ทำให้คนดูนั่งลุ้นว่าตัวละครจะยิงหรือไม่ยิง , ตัวละครที่เรารู้ทั้งรู้ว่าจะต้องตาย จะตายเมื่อไหร่และอย่างไร ฯลฯ ยิ่งการใช้มุมกล้องที่จงใจถ่ายอย่างปิดๆซ่อนๆ ถ่ายไม่เห็นทั้งตัว ชวนให้เราต้องดูอย่างอึดอัดและลุ้นว่า เสียงปืนจะดังขึ้นในตอนไหน
อีกฉากในหนังที่ผมชอบมากคือ ฉากตอนท้ายที่คิโยชิกลับมาหา Boss ของเขาในห้องพัก ในฉากนี้หนังเล่าและพูดออกมาให้คนดูรับรู้ชนิดที่ว่าน้อยแต่มากจริง องค์ประกอบในฉากนี้ไม่ว่าจะเป็น บทสนทนา การโต้ตอบของตัวละคร การเปลี่ยนตำแหน่งของภาพด้วยการถ่ายจากด้านนอกในฉากที่ซ้ำกับฉากเปิดตัว ฯลฯ มันทำให้ช่วงเวลานี้น่าทึ่งชวนติดตามเป็นอย่างมากว่าเรื่องราวจะลงเอยเช่นไร เป็นลีลาการถ่ายทอดความเป็นเป็นเอกที่มีอารมณ์ขันเจ็บๆ ออกมาอย่างนุ่มนวล
งานโดยรวมเรียกได้ว่าประณีตเป็นอย่างยิ่ง ในด้านของงานสร้าง การกำกับแสงและ การถ่ายภาพโดย คริสโตเฟอร์ ดอยล์ ที่ยังคงคุณภาพเหมือนงานเก่าๆที่เราเคยได้เห็น การถ่ายภาพสายตาคนดูผ่านกล้องจะเหมือนการแอบมอง แอบดู ตัวคิโยชิอยู่เป็นพักๆ ท้าทายความอดทนของคนที่ไม่คุ้นเคยเป็นอันมาก อีกสิ่งหนึ่งที่เห็นเป็นพัฒนาการมากขึ้นจากหนังเรื่องก่อนๆของเป็นเอก คือ หนังมีความโดดหรือความล้นเกิน น้อยกว่าทุกเรื่องที่ผ่านมา แม้ว่าช่วงขึ้นกรุงเทพ ตัวละครจะเริ่ม พูด กันมากขึ้น แต่โทนของหนังก็ยังสม่ำเสมอคงเส้นคงวา
...นักแสดงที่เด่นที่สุดในเรื่องสำหรับผมคือ คุณทูน หิรัญทรัพย์ ที่ประชันฝีมือกับ อาซาโน่ ทาดาโนบุ ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ แถมเขายังข่มนักแสดงที่เสน่ห์ล้นเหลืออย่างอาซาโน่ได้ในบางฉากเสียด้วยซ้ำ เจิ้งจือเหว่ย หรือ อีริค ซาง ที่มารับบทพระจีนดูมีบทบาทน้อยจนน่าใจหายไม่คุ้มกับฝีมือการแสดงของเขา และ บทของ คัง แฮ จอง ก็ดูขาดมิติและขาดความน่าสนใจ น่าเสียดายที่เธอออกมาหลายครั้งแต่ทุกครั้งก็ดูบทของเธอแบนราบเสียเกลือเกิน ตรงข้ามกับ บทเล็กๆอย่าง Lizard ที่ออกมาไม่มากก็ดึงดูดคนดูในเสน่ห์ของบทนี้ได้เสมอ
สิ่งที่ชอบ
1.ทูน หิรัญทรัพย์
ออกไม่กี่ฉาก แต่เด่นเป็นอย่างยิ่ง การประกบคู่กับอาซาโน่แสดงให้เห็นพลังดาราที่ไม่ด้อยไปกว่าใครของทูนเลย การแสดงออกน้อยแต่ให้มากของเขา ให้ความรู้สึกถึงกิเลส ความชั่วร้าย อำนาจ ได้ชัดเจน สำเนียงอังกฤษของเขาในเรื่องคล่องมากมีส่วนทำให้คนดูเชื่อถือตัวละครนี้ได้มากขึ้น
2. ธีมและประเด็นของหนัง.
เป็นหนังไทยในไม่กี่เรื่องที่สอดแทรกสัญลักษณ์ สิ่งที่เป็นนามธรรมให้คนดูได้ขบคิด เสียดายที่ สารที่สื่อออกมานี้ อาจจะมีผู้รับได้น้อยราย เพราะมันกลืนหายไปกับคลื่นของความเนิบช้าของตัวหนัง หนังมีอะไรให้กลับมาขบคิดและประเด็นที่หนังนำเสนอก็ชัดเจน มีเป้าหมาย ไม่กระจายนอกลู่นอกทาง
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.จังหวะอารมณ์ของหนังเรื่องนี้ ... ความช้า เนิบนาบ ในหลายฉาก ไม่ช่วยให้เข้าใจตัวละครได้มากขึ้นแต่กลับทำให้รู้สึกเนือยและนิ่งแทน มันมีความนิ่งที่ดีไม่ใช่นิ่งแบบไม่มีศิลปะ แต่ ผมรู้สึกว่ามันไม่เข้ากับการเอามาใช้เพื่อถ่ายทอดเนื้อหาและประเด็นที่หนังต้องการนำเสนอ
2.การถ่ายทอดความรู้สึกผิดบาปของตัวละคร ... ดังที่กล่าวไว้ว่า ตัวละคร ในเรื่อง ไม่ทำให้ผมเชื่อได้ว่า เขารู้สึกผิด ทั้งที่ ความรู้สึกผิด เป็นธีมหลักของเรื่อง ความรู้สึกผิดทั้งหลายในหนังมาจากองค์ประกอบภายนอกตัวละครแทน หนังให้ความสนใจกับ สภาพจิตใจที่รู้สึกผิดของตัวละคร น้อยเกินไป ร่วมกับ สีหน้าตายและการแสดงออกที่น้อยของอาซาโน่
สรุป
. ใครไม่ชอบหนังราบเรียบเนิบช้าไม่ชอบแน่นอน ใครรู้สึกทรมานกับการดู Last Life in The Universe ก็น่าจะผิดหวัง แต่หากใครคุ้นเคยกับจังหวะเนิบนาบของหนังแล้ว Invisible Waves เป็นหนังไทยที่ชวนให้ลิ้มลองเพราะมันมีอะไรดีๆอยู่ไม่น้อย สำหรับผม ค่อนข้างผิดหวังกับหนังเรื่องนี้ ด้วยความคาดหวังก่อนดู คิดถึงหนังของเป็นเอกที่ให้อารมณ์อย่างมนต์รักทรานซิสเตอร์มากกว่า แต่ก็แปลกใจ ที่หลายฉากหลายตอนของหนังมันก็ยังคงวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ในหัว คิดว่าตัวเองจะชอบมากกว่านี้ ถ้าหากหนังจะเร่งจังหวะความเร็วและลดความอ้อยอิ่งลงรวมไปถึงการยอมเล่าและส่งสารมาให้มากกว่าที่มีอยู่
ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก
รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง
ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง
ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป
Create Date : 07 มีนาคม 2549 |
|
18 comments |
Last Update : 7 มีนาคม 2549 10:02:20 น. |
Counter : 5110 Pageviews. |
|
|
|
|
|
| |
โดย: ออนลี้ 7 มีนาคม 2549 3:17:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: grappa 7 มีนาคม 2549 6:48:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: 90210 7 มีนาคม 2549 7:18:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: strawberry pie IP: 58.10.250.96 9 มีนาคม 2549 23:35:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: นมัสเต IP: 203.107.201.197 11 มีนาคม 2549 20:25:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: scarry shutter IP: 203.121.150.135 12 มีนาคม 2549 17:30:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: hdr. IP: 203.188.58.162 19 มีนาคม 2549 1:10:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: jackkth IP: 58.136.74.30 20 มีนาคม 2549 0:33:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: โอ IP: 221.128.108.145 27 มีนาคม 2549 22:30:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: maette2000 IP: 124.121.67.98 30 มิถุนายน 2550 22:40:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: lkunl IP: 144.5.59.109 1 กรกฎาคม 2550 14:40:17 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|