Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
--ผมเดินเข้า Hotel Rwanda --
....ไปในโรงสยามรอบ 18.30น. ด้วยความคาดหวังไว้ว่าคงได้ดูหนังดีเรื่องหนึ่ง ที่เล่าเรื่องพระเอกเป็นฮีโร่ช่วยคนร่วมชาติให้รอดพ้นจากการถูกเข่นฆ่า ดังเช่นเรื่อง Schindler's list
.....Genocide มีคนให้คำจำกัดความว่าหลายอย่างเช่น the systematic and planned killing of an entire national, racial, political, or ethnic group หรือ The intentional annihilation of a national, ethnical, racial, or religious group หรือ The systematic killing of people because of their race or ethnicity. เช่น เหตุการณ์ที่ได้ดูใน Schindlers list ใน Life is beautiful ก็คงเป็นตัวอย่างหนึ่ง และ Hotel Rwanda เป็นอีกเรื่องที่นำเราไปพบกับคำนี้อีกครั้ง
Rwanda เป็นประเทศในแอฟริกา ประชาชนมี 2 เผ่าหลักๆคือ Hutu และ Tutsis
ในปี 1994 หลังจากทำสัญญาสันติภาพระหว่างสองฝ่าย ประธานาธิบดี Habyarimana ชาว Hutu ถูกลอบสังหาร นำมาสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวTutsis และจากข้อมูลจริง ประชากรจำนวน 800000 คนถูกฆ่าทิ้งภายใน 100วัน!
...Paul Rusesabagina เป็นผู้จัดการโรงแรมหรูในเมืองที่รู้จักคนมากหน้าหลายตา ทั้งนายพัน นายตำรวจ ทหาร พ่อค้า เค้าต้องเอาอกเอาใจและตีสนิทเพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งเขาอาจพึ่งพาคนเหล่านั้นได้
Paul เป็นคน Hutu ส่วน ภรรยาของเขาเป็นคนTutsis เมื่อเกิดการทำลายล้าง Paul ทำทุกวิถีทางในฐานะพ่อของลูกๆ , สามี และหัวหน้าครอบครัวเพื่อปกป้องครอบครัวตัวเอง
เขาใช้วิธีการและกลยุทธ์ทางการค้าที่ใช้ทำธุรกิจ ทั้งการติดสินบน การใช้เงินซื้อชีวิต ทั้งวาทศิลป์ในการต่อรอง ถ่วงเวลา เรียกร้องความเห็นใจจากนานาชาติ ทุกอย่างเพื่อประโยชน์ส่วนตัว
หาก Paul เลือกจะหนีพร้อมครอบครัวเขาก็สามารถทำได้ และ เขาก็จะเป็นคนหนึ่งที่ใครจดจำได้ในฐานะ พ่อ หรือ หัวหน้าครอบครัวที่มีความสามารถ แต่การได้รับบันทึกในความทรงจำ จนนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เป็นเพราะจิตใจอันดีงามของเขา ที่ยิ่งใหญ่มากกว่า การเป็นพ่อคนหรือหัวหน้าครอบครัวที่ดี
.....ครั้งหนึ่งในเรื่อง Paul เลือกได้ที่จะทิ้งลูกเมียแล้วเอาชีวิตรอด โดยที่ภรรยาเขาเองก็ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เธออยากให้เขาเอาตัวรอดไปก่อนเมื่อยังมีโอกาสทำได้ แต่เขาเลือกอยู่ที่เดิม เพราะเขาต้องการที่จะรักษาครอบครัวให้ได้
อีกครั้งหนึ่งที่ Paul เลือกได้ที่จะทิ้งเพื่อนร่วมงาน คนชาติเดียวกัน ไปกับลูกเมียโดยที่ไม่มีใครว่าอะไรได้ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ ซึ่ง การเลือกอยู่ครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าการรักครอบครัว แต่มันแสดงถึงมนุษยธรรม และ ความรักในมนุษยชาติ
....หนังมีส่วนผสมของทั้ง Schindlers list (ความพยายามช่วยเหลือผู้ถูกรุกรานเข่นฆ่า โดยเอาตัวเองและความสามารถในเชิงธุรกิจเข้าเสี่ยง) กับ Life is beautiful (ความรักในครอบครัว)
ในเรื่องแรก Oskar Schindler ช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่ได้มีเรื่องของครอบครัวตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้อง ในขณะที่เรื่องหลังทุกสิ่งที่ตัวเอกทำคือทำเพื่อครอบครัว
ส่วนใน Hotel Rwanda Paul เริ่มต้นทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว ก่อนที่จะตัดสินใจทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถึงแม้ตอนเริ่ม หนังจะไม่ได้แสดงให้ Paul ดูเป็นคนที่ดีเสียสละทำอะไรให้คนอื่นๆ แต่คนเขียนบทสามารถทำให้ทำให้เชื่อว่า เขาเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีงามซ่อนอยู่ภายใน
ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเขาน่าจะทำในสิ่งที่ดีให้กับเพื่อนร่วมชาติ และ บทก็ทำให้การตัดสินใจของเขาที่ทำลงไปในการช่วยคนนั้น ดูมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือ มีพัฒนาการอย่างสมเหตุสมผล เหมือนมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งมากกว่าดูเป็นHero ตั้งแต่เริ่มแรกเหมือน Oskar Schindler
....
..หลายฉากที่ดูแล้วมันรู้สึกเจ็บปวดและอึดอัดตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นฉากรถบัสที่มารับคนในโรงแรมกลับไป แต่คนที่รับไปเป็นเพียง นักท่องเที่ยวหรือคนผิวขาว ปล่อยให้คนที่เหลือรอความตายไปต่อหน้าต่อตา
แม้คนที่ได้รอดไปจากสมรภูมิจะทำเต็มที่เท่าไหร่ เช่นตัวละครหนึ่งพยายามจะให้เงินเท่าที่มีกับคนที่เหลืออยู่ แต่มันก็ไม่มีความหมายอะไรเลย หรือ อีกฉากหนึ่งที่ Paul พบว่าสงครามเลวร้ายกว่าการทำธุรกิจอย่างเทียบกันไม่ได้
ในธุรกิจการให้แบบหว่านพืชหวังผล ยังมีโอกาสได้รับการตอบแทนในอนาคต หรือยังพอมีสิ่งที่เรียกว่าน้ำใจให้พบเห็น แต่ในเรื่อง ทุกสิ่งที่เคยทำไม่ว่าจะเป็นกุ้งตัวโต , ซิการ์ชั้นดี หรือ สิ่งที่เขาเรียกว่าstyle พอหมดของหมดเงิน ก็หมดความช่วยเหลือ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าน้ำใจหรือความเห็นอกเห็นใจ
เมื่อต่างฝ่ายต่างอยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็หลงมัวเมาอยู่ในความเชื่อในหมู่ตัวเอง การพยายามเอาตัวเองให้รอดก่อน ความแค้น และการฆ่าฟัน (ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเฉกเช่น สิ่งที่กุยโด้ใน Life is Beautiful ได้เจอในฉากที่เจอกับหมอและคาดหวังให้หมอช่วยเหลือในฐานะคนที่เคยรู้จักกัน)
....ผมชอบหนังเรื่องนี้มากกว่า Schindlers list เรื่องนั้นเป็นหนังที่ดี แต่ดูแล้วก็ยังห่างไกลตัวเอง รู้สึกเหมือนกับการดูหนังเรื่องหนึ่ง สิ่งที่ได้คือได้ดูหนังดีและรู้สึกว่าสงครามเป็นสิ่งที่โหดร้าย Oskar Schindlerเป็นคนดี เพียงเท่านั้น
แต่กับ Hotel Rwanda การที่ได้ดูหนังมันทำให้รู้สึกใกล้ความจริงมากกว่าความเป็นหนัง หนังเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่าการสื่อสารว่า การฆ่ากันช่างโหดร้าย หนังทำให้จิตใจคนดูอย่างผมไม่ได้รู้สึกแค่ว่า Paul เป็นคนดี แต่ มันยังกระตุ้น ต่อมอยากทำดี เกิดความรู้สึกอยากเป็นอยากเอาอย่างตามตัวเอกทำถ้าเราได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น
Paul เปรียบเสมือนความสว่างที่อยู่ภายใต้ความโหดร้ายดำมืดของการเข่นฆ่า กี่สงคราม กี่การทำลายล้างที่ผ่านมา การอยู่รอดของมนุษยชาติคือมี ความดีของมนุษย์ อย่าง Oskar Schindler , กุยโด้ที่มีความรักต่อลูกกับภรรยา และ Paul Rusesabagina จึงทำให้เราอยู่รอดได้ทุกวันนี้
ภาพยนตร์เรื่องมีความแตกต่างกว่าหนังในแนวเดียวกันนี้เรื่องอื่นๆคือ มันช่วยจุดความสว่างให้เกิดขึ้นไม่มากก็น้อยให้กับคนดูในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
--ผมเดินออกจากHotel Rwanda--
...ได้ดังที่คาดหวังคือเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีสนุกและชวนติดตาม สิ่งที่ได้มากกว่าที่คาดไว้ก่อนเข้าคือความรู้สึกดีกับสิ่งที่เรียกว่ามนุษยธรรม ได้ชื่นชมความดีงามในจิตใจของคน ความรักและอยู่เคียงข้างครอบครัว
มันสะกิดต่อมมนุษยธรรมในใจ แม้แต่ในการเข่นฆ่าหรือสงครามก็ยังมีความงดงามของความดีซุกซ่อนอยู่ จะต้องรอให้เกิดหรือไม่หรือเราจะค่อยๆปลูกสิ่งเหล่านี้ไว้ในใจตั้งแต่ตอนนี้
เราปลูกฝังให้คนแข่งกันมากขึ้น ให้เก่งมากขึ้น ให้เอาตัวรอดให้ได้ในสังคมให้เห็นแก่ตัวมากขึ้น แต่ไม่เคยเลย ที่จะปลูกฝังให้เรารักเพื่อนมนุษย์มากขึ้น
สิ่งที่ชอบ
1.การมีหนังเรื่องนี้เกิดขึ้น.....ดังที่บอกข้างต้น ว่าหนังเรื่องนี้สื่อสารกับคนดูมากกว่า การฆ่ากันเป็นสิ่งที่โหดร้าย หรือ paul เป็นคนดี แต่ผมเชื่อว่า มันปลุกกระแสความรู้สึกของคนที่ได้ดู ให้รู้สึกรักในเพื่อนมนุษย์มากยิ่งขึ้น ให้ศรัทธาในการทำความดีมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถจะเป็นบทเรียนหนึ่งในชั้นเรียนไว้สอนนักเรียนได้เลย
2.ฉากโหดร้ายรุนแรงไม่มากจนเกินเลย.... ผมสังเกตว่าหนังสงครามหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยุคหลังๆพยายามกันอย่างมากที่จะเน้นความสมจริง คือ เลือดออกกันสดๆ สมองทะลักกันเห็นๆ กระสุนเจาะทะลวงหูซ้ายออกหูขวา ฯลฯ ซึ่งมันก็ทำให้เราคงกลัวและเกลียดสงครามมากขึ้น
แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นความรุนแรงบนจอที่ผมรู้สึกว่ามันมากเกินความจำเป็น หนังเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดี การได้เรทหนังเพียงPG-13 หนังไม่จำเป็นต้องมีฉากถึงเลือดถึงเนื้อแต่ก็ให้ข้อคิด ความรู้สึกเดียวกับหนังเรื่องอื่นๆ และอาจจะดีกว่าหลายเรื่องที่ได้เรทRด้วยซ้ำ
3. Don Cheadle .... ปีนี้เป็นปีทองของดารานำชายจริงๆ เพราะนี่ก็เป็นอีกหนึ่งการแสดงแห่งปีที่ยอดเยี่ยมไม่น้อยกว่าผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์คนอื่นๆ เขาถ่ายทอดความรู้สึกได้เหมือนกับคนที่ต้องอยู่ภายใต้ความกดดันแบบนั้นได้อย่างพอดิบพอดี การแสดงออกที่เขาดิ้นรนทำทุกอย่างให้กับครอบครัว
ฉากที่ผมชอบและกดดันความรู้สึกคนดูได้เช่น ฉากที่ภรรยาและลูกๆไปกับรถของUN แล้วถูกกองกำลังดักระหว่างทาง หรือ ฉากที่กลับมาหาลูกเมียไม่เจอแล้วคิดถึงดาดฟ้าที่เคยบอกไว้(อึดอัดตามไปด้วย)
สิ่งที่ไม่ชอบ
1.ซับไตเติ้ล...เพิ่งคิดออกแล้วมาเติมทีหลังครับ ตอนพิมพ์เสร็จรอบแรกก็ตะหงิดๆในใจว่าออกมามันมีบางอย่างที่กวนใจอยู่แต่นึกไม่ออก คือ ซับไตเติล
ผมไม่รู้ว่าคนแปลได้แปลหมดทุกข้อความแล้วไม่ได้พิมพ์ออกมาฉาย หรือแปลไม่หมด มันไม่ใช่แค่ตอนเดียว แต่เป็นหลายตอนที่ตัวละครพูดมากกว่าที่แปลไว้(แบบแปลมาประโยคเดียวอีกประโยคไม่แปลไปซะเฉยๆ) อาจไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่องหลักแต่มันก็เป็นรายละเอียดที่ไม่ควรละเลย
สรุป....Hotel Rwanda เป็นหนังดราม่าหนักๆที่ทำออกมาได้ดี ไม่น่าเบื่อ ดูกดดันชวนติดตามตลอดจนจบพร้อมการแสดงในระดับยอดเยี่ยมของดารานำ
เป็นหนังที่ก้าวผ่านมากกว่าความเป็นหนังที่ดี แต่ไปได้ถึงเป็นบทเรียนที่ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และกระตุ้นต่อมมนุษยธรรมในใจคนดูได้ไม่มากก็น้อย
หมายเหตุ Update 21 เมษายน 2553
Blog นี้ ถูก edit อีกครั้งในเรื่องรูปภาพและวรรคตอน ในเดือนเมษายน 2553 เมื่อหนังเรื่องนี้ถูกพูดถึงและยกมาเปรียบเทียบกับ สังคมไทยในปัจจุบัน (ขอ edit วรรคตอน กับ คำผิด เล็กน้อย เนื่องจากแอบอายกับข้อเขียนสมัยยังเอ๊าะๆ)
จำได้เลยว่า ตอนดูใหม่ๆ เชียร์ให้หลายคนไปดู ชอบมากที่สุดก็ตรงที่หนังกระตุ้น 'ต่อมอยากทำดี' ดูแล้วอยากเป็นคนดีกว่าเก่า ไม่กี่ปีต่อมา ที่เริ่มรู้สึกว่า สังคมบ้านเราเริ่มมีการแบ่งสี แบ่งข้าง ซึ่ง น่าจะเป็น การมีส่วนร่วมทางการเมืองที่ดี แต่เมื่อ การเมือง เริ่มกลายเป็น หัวข้อระคายเคือง เกินความหงุดหงิด นำไปสู่ การตัดเพื่อน หรือ ฆ่าฟัน
ทำให้ตอนนั้น บอกใครต่อใครว่า น่ากลัวเหลือเกินที่เมืองไทยจะกลายเป็น Hotel Rwanda (ประเด็น เมืองไทย ก้าวไปสู่ รวันด้า เคยเขียนไว้ในบล็อก แต่จำไม่ได้ว่า หนังเรื่องไหน)
เพราะ การเติบโตทางการเมือง ที่เกิดควบคู่กับ 'กระบวนการปลูกฝัง ความเกลียดชัง' การใช้อารมณ์เอามันส์ เหมารวมอีกฝั่ง มากกว่าจะว่ากันด้วยหลักการ มันจะนำไปสู่ ความขัดแย้งที่ไร้เหตุผล คงเหลือแต่ 'พวกข้า' กับ 'พวกแก' นำไปสู่ 'พวกข้าไม่เคยผิด แต่พวกแกผิดเสมอ' นำไปสู่ การไม่สามารถอยู่ร่วมกัน เพราะ ความเกลียดชัง ผสมโรงกับ ความรุนแรง
เมื่อนั้น เราก็จะเริ่มมองข้ามเหตุผลใดๆก็ตามที่ทำให้ฝ่ายเราเป็นคนผิด / เรามองข้ามความถูกผิดของพวกเดียวกัน / เราเข้าอกเข้าใจฝั่งตัวเองได้ดี แต่ ลืมคิดถึงใจของคนฝั่งตรงข้าม / เราเชื่อ เราฟัง เรายึดติดแต่ ฝั่งที่เรายืนอยู่
ก่อนจะนำไปสู่ การเอาชนะอีกฝ่ายให้สิ้นเผ่าพันธุ์
ขอฝาก หนังสือเล่ม 5 ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" จ้า (ตามร้านหนังสือทั่วไทย หลังสงกรานต์นี้)
อ่านจบแล้ว ชวนมาคุยกันที่นี่ครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=18
และ
ความเห็นของ เพื่อนผู้อ่านที่อ่านจบแล้ว และสละเวลาเขียนถึง //blogs.lumamagic.com/?p=1957
หนังสือ 4 เล่มก่อนหน้าที่ว่าด้วย 'ภาพยนตร์ - จิตวิทยา - พัฒนาตัวเอง(self - development)' ของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
สำหรับเพื่อนๆที่เล่น FaceBook หรือ Twitter ณ.บัดนาว "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ขยายสาขาเรียบร้อยแล้วจ้า
Create Date : 15 มีนาคม 2548 |
|
17 comments |
Last Update : 23 เมษายน 2553 22:10:57 น. |
Counter : 13096 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: if u know IP: 61.90.83.183 16 มีนาคม 2548 0:08:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: underdog (พ่อน้องโจ ) 16 มีนาคม 2548 0:11:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: underdog (พ่อน้องโจ ) 16 มีนาคม 2548 1:38:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: nanoguy 16 มีนาคม 2548 13:58:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: gg1234k IP: 203.151.140.119 12 มิถุนายน 2548 12:41:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: 12 มิถุนายน 2548 IP: 14:19:00 203.146.88.141 น. |
|
|
|
| |
โดย: 1993 IP: 202.28.181.9 9 ธันวาคม 2548 13:47:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ..... IP: 61.90.10.182 30 ธันวาคม 2548 19:56:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: download IP: 124.120.168.108 29 กันยายน 2549 8:03:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: เเด้ IP: 58.9.83.182 29 กันยายน 2549 18:30:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Olive IP: 124.157.172.236 29 กันยายน 2550 1:35:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 3 พฤศจิกายน 2550 15:44:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: แนน IP: 58.10.198.48 22 ธันวาคม 2550 21:36:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: คนเคยดู IP: 58.64.110.34 17 พฤษภาคม 2553 2:23:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- Next , ทรงผมชวนกลุ้มใจกับหนังไซไฟดูเพลินๆ
- Spider-Man 3 , แมงมุมดำตัวนั้น ฉันเห็นมันอยู่ในใจเราทุกคน
- Miss potter , เรื่องของเธอ(พ็อตเตอร์)และผมฯ
- Me...Myself ขอให้รักจงเจริญ , แค่นี้ก็พอแล้ว
- Meet the Robinsons , เมื่อพบความผิดหวังจะโทษโน่นโทษนี่ หรือ เลือกที่จะเดินหน้าต่อไป
- Shooter , หนังแอคชั่นที่ดูจบแล้ว"เออ มันดีแฮะ"
- Hannibal Rising , ความน่าผิดหวังของหนังฮานนิบาล
- Confession of pain , ความแค้นอันแสนเศร้า
- Pans Labyrinth , คือจินตนาการแสนสวยงาม หรือ คือความจริงที่เจ็บปวดและขมขื่น
- The Number 23 , วิเคราะห์สภาพจิตใจผู้หลงใหลเลข 23
- เมล์นรก หมวยยกล้อ , รถเมล์สายนี้ไม่ตลกแต่สนุก
- The Lives of Others , อ๊ะ นี่มัน Infernal affairs เวอร์ชั่นกำแพงเบอร์ลิน
- Sunshine , อาทิตย์สิ้นแสง ชีวิตสิ้นสูญ
- The Fountain , เรารู้จักความตายมากมายแค่ไหนกัน (ศาสนา+จิตวิทยา+วิทยาศาสตร์)
- แฝด , เข้าใจพิม เข้าใจพลอย เข้าใจ"แฝด"
- I'm a Cyborg, But That's OK , แต่ I ไม่ค่อย OK
- The Good Shepherd , จะลงเรือทั้งทีคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ
- Bridge to Terabithia , Just close your eyes but keep your mind wide open
- 300 , นี่คือสปาตั้น(โว้ย) ... พลั่กกกกกก
- The Queen , แม้จะเป็นเรื่องของ 'ควีน' แต่นี่คือ การกะเทาะเปลือกเล่าเรื่อง 'คน'
- Rocky Balboa , ชีวิตไม่ได้สำคัญว่าจะต่อยได้หนักแค่ไหน
- Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา
- The Pursuit of Happyness , ปัญหาชีวิตก็เหมือน รูบิค - ถ้าทำไม่ได้จะ สู้ต่อ หรือ โยนทิ้ง-
- Volver , ความเจ็บปวดของแม่และลูกสาว
- Music and Lyrics , หนังที่น่ารักที่สุดในรอบ(หลาย)ปี
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 , จะสนไปทำไมกับเรื่องอิสรภาพที่ไกลตัว
- Dreamgirls , วันที่ ธุรกิจ กลืนกิน ศิลปะ
- Babel , เราเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้วหรือยัง
- Rough , จาก H2 มาสู่ Touch และได้เวลา Rough
- Curse of the Golden Flower , ความเน่าหนอนฟอนเฟะของสถาบันครอบครัว
- Fur: An Imaginary Portrait of Diane Arbus , ความงามที่แตกต่าง โลกที่แตกต่าง
- ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค1 , ไทยจะสิ้นชาติไม่ใช่เพราะใคร หากมิใช่เพราะไทยด้วยกัน
- Perfume: The Story of a Murderer , ทำความรู้จักและเข้าใจ ฆาตกรน้ำหอมมนุษย์
- Blood diamond , "ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องมาฆ่ากันเอง"
- The Black Dahlia , ดอกรักเร่ ที่สวยแค่สไตล์แต่ไร้เสน่ห์
- Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
- ===== 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549 =====
- +++ 10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา +++
- ++ ชวนเพื่อนๆมาเลือก 10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา ++
- The Holiday , จะทำอย่างไรในวันที่ใจเจ็บ
- Lucky Number Slevin , ของเค้าดี แต่ ผิดที่ ผิดเวลา
- The King and the Clown , ความรักของตัวตลกบนหลังเสือ
- Déjà vu , เอ๊ะ เราเคยเจอมาก่อนหรือเปล่า
- Death Note 2: The Last Name , ได้เวลาเก็บสมุดคืนเจ้าของ
- Saw III , บทเรียนสุดท้ายของคุณครู จิ๊กซอว์
- The Village Album , ถ่ายภาพด้วยหัวใจแล้วบันทึกใส่ความทรงจำ
- 007 : Casino Royale , นี่ซิ เจมส์ บอนด์
- The Prestige , คุณตั้งใจดูอย่างใกล้ชิดแล้วจริงๆหรือ ?
- The Banquet , แฮมเล็ต เวอร์ชั่น ประหารเจ็ดชั่วโคตร
- ผีสามบท บทที่ 3 : เปนชู้กับผี , พอกันที ผีGMO
- ผีสามบท บทที่ 2 : Monster House , บ้านผีสิงที่แสนจะบันเทิงใจ
- ผีสามบท บทที่ 1 : The Grudge 2 , ปัญหาของ ป๋า กับ เด็กผี
- The Guardian , "สถิติ" ไม่สำคัญเท่า "ทัศนคติและเจตคติ"
- หมากเตะรีเทิร์นส , หมากเกมส์นี้ น่าจะดีได้มากกว่านี้
- 12 เกมสยาม +13 เกมสยอง , มันไม่ใช่แค่เกม
- Cars , 20 ปีของ Pixar กับเรื่องของ "คาร์" (ซึ่งก็คือเรื่องของ "คน")
- The Devil Wears Prada , (จากหนังสือมาเป็นหนัง) ร้ายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
- Death Note , สมุดเล่มนี้ ดี จริงหรือ?
- L'Enfant (The child) , เด็กไม่รู้จักโต
- World Trade Center , เป็น"ฮีโร่"ไม่ได้วัดกันที่ผลลัพธ์
- The Host , สัตว์ประหลาด สนุกประหลาด
- Season changes , เมื่อ"เพื่อนสนิท"กลายมาเป็น"แฟนฉัน"ในวันที่"อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย"
- Me and You and Everyone We Know , เราอยู่ร่วมกัน เรารู้จักกัน แต่เราไม่เชื่อมต่อถึงกัน
- Snakes on a Plane , ที่อยากไปดูก็เพราะ "งูบนเครื่องบิน"
- United 93 , ทรงพลัง และ สะเทือนใจ
- Running boy (Marathon) , ทุกชีวิตล้วนมี"หัวใจ"
- โคตรรักเอ็งเลย , เกือบโคตรรัก "โคตรรักเอ็งเลย"
- Sad movie , แม้รักต้องพลัดพรากก็ยังฝากความทรงจำอันงดงาม
- The Break-Up , วิธีทำลายชีวิตคู่ตัวเองให้ย่อยยับ
- แก๊งชะนีกับอีแอบ , หนัง comedy ไทยดีๆยังมีอยู่
- Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest , "สลัด"จานนี้รสชาติดีเพราะ"Johnny Depp"
- Tsotsi , พื้นฐานจิตใจมนุษย์เป็น สีขาว หรือ สีดำ
- Superman Returns , ทำไมโลกใบนี้ยังต้องการ Superman ?
- Silent Hill , ของดีที่อยู่ในมือพ่อครัวขาดฝีมือ
- over the hedge , บทเรียนชีวิตเรื่องมิตรภาพและครอบครัว
- Don't tell , แผลในใจแค่"ลืม"คงไม่พอ
- Slither , คูลฟีเวอร์สีเลือด เชือดมนุษย์โลก
- The Omen , ซาตานอยู่รอบตัวเรา
- Scary movie 4 , ผ่านมา --> ฮา --> ผ่านไป
- Paradise now , สวรรค์อยู่หนใด
- X-Men: The Last Stand , X = mutant , รักร่วมเพศ , คนผิวดำ , ยิว ฯลฯ
- ก้านกล้วย , "ช้างกูอยู่ไหน" >> "ช้างกูอยู่นี่"
- The Da Vinci Code , ศรัทธาที่บิดเบือน
- Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ
- Poseidon , จมเร็ว จบเร็ว
- Match point , เกมส์กิเลสของคนเห็นแก่ตัว
- Mission: Impossible III, ภารกิจสุดมันส์ที่ขาดเสน่ห์
- Perhaps love , รักซ้อนรัก หนังซ้อนหนัง อดีตซ้อนปัจจุบัน
- Ice Age: The Meltdown , ได้เวลายุคน้ำแข็งครองเมือง
- Red lights , ผู้ชายไม่รู้ตัว ผู้หญิงไม่รู้ใจ
- Failure to launch , Success to love
- Inside man , คน(ดี/ชั่ว) ใน คน(ดี/ชั่ว)
- Where the Truth Lies , ความจริงนอนนิ่งอยู่ที่ใด ?
- โหน่ง เท่ง นักเลงภูเขาทอง , ฮาน้อยกว่าที่คิด มีสาระมากกว่าที่หวัง
- My girl and I , รักครั้งแรกจะเปลี่ยนเราไปตลอดกาล
- V for Vendetta , เผด็จการรัฐสภา VS. พลังประชาชน
- A History of violence , มาทำความรู้จัก "ความรุนแรง" กัน
- Final Destination 3 , เหล้าเก่าในขวดเก่า
- The Constant Gardener , ในความลับมีความจริง ในความจริงมีความรัก
- คำพิพากษาของมหาสมุทร (Invisible Waves) , คลื่นบาปที่นิ่งสงบ
- Walk the line , มิตรภาพในความรัก
- เด็กหอ , หอนี้มีดีกว่าผีหลอก
- Brokeback Mountain , รักซ่อนเร้น
- Munich , ผลของการสาดน้ำมัน(ความรุนแรง)เพื่อดับไฟ(แค้น)
- Memoirs of a Geisha , ชาเขียวสำเร็จรูปที่ผสมน้ำมากไป
- Prime , รักคงยังไม่พอ
- An Unfinished Life , ชีวิตที่หยุดเดิน
- In Her Shoes , หากเปรียบรองเท้าคือชีวิต
- Just Like Heaven , เมื่อพื้นที่ของชีวิตไม่เหลือเผื่อให้ความสุข
- The Promise , คำสัญญา ชะตากรรม ความรัก
- 5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ (ของปีที่ผ่านมา)
- 10 ฉากประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- 10 ตัวละครประทับใจจากหนัง (ในปีที่ผ่านมา)
- The Chronicles of Narnia: The Lion, The Witch and the Wardrobe , ส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับทุกครัวเรือน
- April Snow , บางครั้งความรักก็เจ็บปวดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้
- King Kong , แล้ว "ลิงยักษ์" ก็ตกหลุม "รักหญิง"
- The Descent , ถึงถ้ำ ถึงเลือด ถึงเนื้อ ถึงกระดูก
- The Maid , ผีสิงคโปร์
- The Exorcism of Emily Rose , ผีเข้า(ศาล)
- Hidden (Caché) , ความจริงที่ซุกซ่อน (ในหนังที่ยอดเยี่ยม)
- Chicken Little , กุ๊กไก่ของ Disney ที่ไร้เงา Pixar
- Nana , โลกของนานะ โลกของความรัก ความฝัน และ มิตรภาพ
- เด็กโต๋ , สายธารชีวิตแห่งบ้านแม่โต๋
- Harry Potter and the Goblet of Fire , กีฬาสีสามสถาบันกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด
- Corpse Bride , รักไม่มีวันตาย
- Yes , บทกวีอีโรติค ความรัก การเมือง และ การมีตัวตน
- รับน้องสยองขวัญ , หายใจเข้าก็ เฮ้อ หายใจออกก็ เฮ้อ
- Lord of War , นิ้วที่ลั่นไกจากมือที่มองไม่เห็น
- Saw II , สยองอย่างมีประเด็น
- Goal! , ประตูชัย(goal)เป้าหมายชีวิต
- Proof , ชีวิตที่สับสนของคนที่สูญเสีย
- The Legend of Zorro , ฮีโร่ที่ย่ำอยู่กับที่
- Flightplan , ขึ้นได้สูง บินได้สวย ลงไม่นิ่ม
- Sky High , อยากจะเป็น hero ที่ "เปลือก" หรือที่ "แก่น"
- A Sound of Thunder , เรื่องราวอยู่ในโลกอนาคต ตัวหนังอยู่ในโลกอดีต
- Red Eye , ไม่ใช่แค่ Fight or Flight แต่ยังเป็น Fight on Flight
- เพื่อนสนิท , เมื่อเส้นแบ่งของ "คนรัก" กับ "เพื่อน" เริ่มเลือนราง
- Transporter 2 ควบ Into the Blue , ขึ้นรถดีกว่าลงเรือ
- Madagascar , มิตรภาพกับการเรียนรู้ชีวิต และ นกเพนกวิน
- Cinderella man , Jim Braddock ชายที่ไม่ได้เป็นแค่นักมวย
- Dear Frankie , คำลวง ความรัก ครอบครัว
- Dark Water , ความสัมพันธ์แม่-ลูก-ผี (จากหนังสือสู่ภาพยนตร์)
- Seven Swords , ... ที่ควรยาวกลับสั้น ที่ควรสั้นกลับยาว ...
- แหยม ยโสธร , ขำขำ - หม่ำ - อะฮึ่ย อะฮึ่ย
- Charlie and the Chocolate Factory , Imagination is more important than knowledge
- The Skeleton Key , ไขได้ดีพอสมควร
- About Love , เรื่องราวที่ "เกี่ยวกับ "รัก""
- 5x2 , สมการความรักของคน 2 คน
- ต้มยำกุ้ง , อร่อยรสแซ่บชามโตเกินมาตรฐานแต่อาจไม่ผ่านเชลล์ชวนชิม
- Somersault , ความรัก - Sex - เด็กสาวและความทุกข์ทรมานใจ
- The Upside of Anger , เรื่องหนักๆของครอบครัวที่เล่าอย่างเบาๆ
- Land of the Dead , หนึ่งเรื่องราวของซอมบี้ที่กลับไม่ได้ไปไม่ถึง
- Crash , ผลกระทบของการชนที่"คน"มีต่อกันและกัน
- วัยอลวน 4 : ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น , หนังครอบครัวสำหรับคนไทยที่ดีที่สุดในรอบหลายปี
- The Island , โลกอนาคตและโคลนนิ่งฉบับระเบิดเถิดเทิง
- The Keys to the House , "บ้าน"หลังนี้จะมีความรักเป็น"กุญแจ"
- The Longest Yard , เกมส์เก่าเอามาเล่าใหม่ใช้วิธีการเดิม
- Fantastic Four , ความสนุกสูตรสำเร็จที่เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูเพลิน
- War of the Worlds , เมื่อสปีลเบิร์กเลิกรักมนุษย์ต่างดาว
- Swing Girls , สวิงกันแบบคึกคัก สดใส ไร้มลพิษ
- Hotel , โรงแรมที่ไร้เรื่องราว
- Assault on Precinct 13 , อีกหนึ่งความจนตรอกที่ระทึกคุ้มค่า
- Batman Begins , ปฐมบทแรกบินกับการตีความครั้งใหม่
- Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น
- มหาลัย' เหมืองแร่ , เหมืองแร่และชีวิตกับหน่วยกิตที่ต้องขุด
- House of Wax , ความสยองที่แปลกตากับหุ่นขี้ผึ้ง สองดาราและหนึ่งปารีส
- Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง
- Star Wars: Episode III Revenge of the Sith , การปิดตำนานและการเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์
- The Jacket , การเดินทางข้ามเวลา ความหลอนและวงจรชีวิต
- A Lot Like Love , รักด้วยใจแต่ตัดสินใจด้วยสมอง
- เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ
- Be With You , ความสุขของฉันคือ"การได้อยู่กับคุณ"
- Hostage , เหล้าเก่าในขวดใหม่ที่ไม่น่าผิดหวัง
- Kingdom of Heaven , สงครามครูเสดครั้งนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ไม่น่าเสียดาย
- Spanglish , เรื่องราวที่กระจัดกระจายแต่ให้แง่มุมหลากหลายในครอบครัว
- Guess Who , เสียงฮาจากความแตกต่างและBernie Mac
- The Interpreter , ทริลเลอร์ที่ดี(แต่ไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น)
- Hide and Seek , มีปมที่ดีแต่มีบทที่อ่อน
- The Chorus (Les Choristes) , ง่ายๆแต่ได้ใจ
- Hitch , สนุก น่ารัก ขำขำ รู้สึกดี
- Sahara , หนังสนุกแค่เป็นช่วงๆหรือผมง่วงกันแน่
- Boogeyman , ตื่นเต้นตกใจ แต่ อะไร ยังไง ทำไม?
- Tokyo Godfathers , การตามหา"ครอบครัว"ที่สนุกมากๆ
- บุปผาราตรี เฟส 2 , เมื่อบุปผาเริ่มร่วงโรย
- Dont move , นอกจากตัดสินใคร คุณเข้าใจใครคนนั้นดีแล้วหรือยัง?
- Crying Out for Love, In the Center of the World , ความทรงจำและเทปคาสเสตต์/ความรักและใจกลางโลก
- The Ring Two , ไม่สมศักดิ์ศรี "The Ring"
- A Very Long Engagement , หนังที่มากไปด้วยความทะเยอทะยาน
- Lemony Snicket's A Series of Unfortunate Events , การดัดแปลง"โชคร้าย"ที่ทำได้"ดี"
- Hana & Alice , มิตรภาพ ความรัก ความทรงจำ
- Hotel Rwanda , หนังที่ให้คนดูมากกว่าความเป็นหนังดี
- In Good Company , ผู้ชายขาขึ้นกับผู้ชายขาลง
- Being Julia , โลก(ของจูเลีย)คือละคร
- หลวงพี่เท่ง , เรื่อยๆขำๆพอไปวัดไปวา
- Sideways , รักนุ่มๆชุ่มไวน์ในวันเบาๆ
- Million Dollar Baby , ความยอดเยี่ยมท่ามกลางศรัทธาและความอบอุ่น
- Constantine , "คนเห็นผี"ปราบลูกปีศาจ
- Shall we dance , คุณเต้นรำกับคู่ของคุณครั้งสุดท้ายเมื่อไร
- Finding Neverland , งดงามเหลือเกิน
- Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว
- 2046 , ไปแล้วอย่าลืมกลับมา
- Ray , มีดีที่Jamie Foxx
- The Phantom of the Opera , ภายใต้หน้ากากมีเพียงความว่างเปล่า
- โรงเตี๊ยม , มีอะไรดีๆกว่าที่คิดและโฆษณา
- Meet the fockers , เรื่องของหนังตลกและครอบครัว
- Closer , เมื่อความรักถูกสำรวจและตีแผ่ผ่านตัวละคร
- The Aviator, .....And this is Howard Hughes
- The Forgotten, ไม่มีอะไรน่าจดจำ
- Birth , ยอดเยี่ยมในความหนักแน่นและเนิบนาบ
- ****1ปีที่ผ่านมา ฉากใดในหนังที่คุณประทับใจ ****
- 5หนังชอบ กับ 5หนังไม่ชอบ ของคุณในปี2547คือ....,
- National Treasure, เมื่อBruckheimerมาสร้างDavinci's code
- The Polar Express, ตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจ
- แจ๋ว, แจ๋วน้อยกว่าที่หวัง
- Bridget Jones 2, รู้จักเธอมากขึ้นและรู้สึกดีกว่าที่คิด
- The Incredibles, ครอบครัวหรรษา
- ขุนกระบี่ ผีระบาด, กล้าที่จะบ้า ก็กล้าที่จะดู
- Ocean's Twelve, หนังขาย"เสน่ห์ดารา"
- หมานคร, เมืองนี้ภาพสวย+เพลงเพราะ+ประหลาดและยาก
- กั๊กกะกาวน์, "ใจ"คุณเต้นอย่างไรเมื่อคุณมีความรัก
- Alexander, ดราม่าชั้นดีแต่ความสนุกเป็นระลอกคลื่น
- Wimbledon, For love of the game+NottingHill+ภราดร
- Love me if you dare, หนังรักแปลกกับความรู้สึกก้ำกึ่ง
- Cellular, สนุกเป็นบ้า แอคชั่นแอบฮา
- Saw, OldBoy+Cube+ฆาตกรโรคจิต
- Ladder49, สิงห์ผจญเพลิงชื่อฮัวควิน ฟีนิกซ์
- The Grudge, เมื่อ"เด็กผี" go inter เป็น "โคตรผีดุ"
- Dodgeball, ฮาน้อยกว่าที่หวังแต่สนุกกว่าที่คิด
- Sky Captain and The World of Tomo, หนังไซไฟสไตล์"ฟ้าทะลายโจร"
- Resident Evil 2, อลิซเท่+เนเมซิสเห่ย+จิลเฉยๆ
- Shark Tale, คุณเป็น"somebody"แล้วหรือยัง
- สายล่อฟ้า, ความเป็นตัวตนที่ชัดเจนกับความสนุกกลางๆ
- Shutter กดติดวิญญาณ, นานๆทีจะมีหนังผีไทยดีๆให้ดูกัน
- The Terminal, น่ารัก นุ่มนวล และสนุกกว่าที่คิด
- Wicker park( spoilแล้วจะบอก), ลุ่มหลง คลั่งไคล้ หลอกลวงและความรัก
- Eternal sunshine รอบ2, ความอภิรมย์ที่มากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ
- EternalSunshineOfTheSpotlessMind, คุณเคยอยากจะลืมบางสิ่งในชีวิตคุณบ้างไหม
- Three Extreme, อึดอัด ขยะแขยง รุนแรง และผิดหวัง
- Man on fire (no spoil), คนจริงเผาแค้น เผานานจนผมเกือบหลับ
- Bourne Supremacy, มันต้องให้ได้ยังงี้ซิ ต้องยังงี้ซิ
- Collateral...., it started like any other night
- Windstruck, งานมือตกของกวัก แจ ยอง
- งานของ M. Night Shyamalan, 6th sense/Unbreakable/Sign/และTheVillage
|
|
|
|
|
|
|
|
แต่ว่าผมนั่งหลังสุดแล้วนะ จะมาอยู่ข้างหลังผมได้ไง
หรือว่า"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"คือคนที่ใส่สูทสรเหลืองครับ ^^