ผู้แต่ง ลินซ์ ณ จ๊ะ
หลังปก
ทั้งๆที่พ่อเสียสละมากมายขนาดนี้
เวลาถามว่า "ชอบใครมากที่สุด"
ลูกๆก็ยังจะตอบว่า
"อุลตร้าแมน" ทุกที
สงสารจัง
ลินซ์ ณ จ๊ะ
พ่อจ๋า อย่าเซอร์(มาก) เป็นหนังสือรวมเรื่องสั้น ภายในเล่มประกอบไปด้วยเรื่องสั้น 9 เรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องก็มีอันต้องเกี่ยวโยงไปถึงพ่อทุกเรื่องไป
เกริ่นนำของแต่ละเรื่อง
เรื่องของนุดี
"เขาจะให้ผมเขียนแบบบ้าน ผมก็เขียนให้เขา เขากลับเรียกผมไปถามว่า บ้านอะไรของคุณถึงได้มีประตู 5-6 บาน ผมบอกว่าไว้ให้ลมโกรก ไว้ใช้เป็นทางหนีทีไล่ และไว้สำหรับสมาชิกในบ้านได้มี choice ให้เลือก..."
พันธุ์น้ำเค็ม
...ร้ายที่สุดพ่อให้เปลี่ยนคำนำหน้าไอ้ข้าวโพดมาเป็นคุณ แน่...ดูมันทำเป็นชำเลืองมองด้วยหางตา ปัดธ่อ...เดี๋ยวก็พลั่กเข้าให้
พ่อผมเป็นผู้ร้าย
"คุณจะไปไล่ชกเขาได้ยังไง ทั้งเรื่องมีแต่ฉากทุ่งหญ้ากับอาทิตย์ลับทะเล เอาหน้าเหี้ยมๆโผล่เข้าไปเสียฟิลลิ่งหมด"
ปลาสำลักน้ำ
"เฮ้ย..." พ่อปลาร้องอุทานเสียงดัง "เอ็งมันปลาตีนนี่หว่า หยั่งงั้นก็ไม่ใช่ลูกข้าล่ะสิ"
แม่ปลาซึ่งว่ายอยู่แถวนั้นโผล่มาได้ยินพอดีรีบว่ายหนีงุดงุด
"อ๋อ ไอ้นี่ลูกชู้ใช่มั้ย แม่มานี่ก่อนจะหนีไปไหน บอกมาซิไอ้นี่มันลูกชู้ใช่มั้ย"
ลูกผู้ชายขายขนมครก
กลิ่นแป้งกลิ่นกะทิกลิ่นควันไฟและหลุมขนมครกเรียกร้องให้ผมก้าวเท้าออกจากรั้วมหาวิทยาลัยก่อนที่ผมจะเรียนจบ
"จะบ้าเหรอ อีกเทอมเดียวนะมึง"
ครูใหญ่เกเร
"พอเราเป็นครูใหญ่แล้วเราก็จะรับแต่ลูกคนรวยมาเป็นนักเรียนในโรงเรียนเรา วิธีคัดเลือกก็ทำแบบประมูลเอา ใครให้ราคาสูงกว่าก็ได้เข้า"
คือการรอคอย
"แล้วพ่อเธอไปสงคราม จะซื้ออะไรกลับมาฝากล่ะ" หนิงเคยถาม
ฉันได้แต่สั่นหัว บอกได้คำเดียวว่าไม่รู้จริงๆ
แด่บุรุษผู้ปราชัย
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เช็คไม่มีตัวเลขของเขาส่งถึงมือให้พ่อไปกรอกเอาเอง พ่อมักจะล้อเขายาวหน่อยว่า "ไอ้ลูกขี้เกียจแต่กตัญญูดีมาก"
ช่างปะไร...(ผุ้หญิงคนเดียว)
ดูเหมือนนุจรีจะไม่รู้ แต่ถึงรู้เธอก็คงไม่ใส่ใจ ผู้หญิงก็เป็นอย่างนี้ ไม่เคยมีทีท่าว่าจะเลือก
พ่อจ๋าอย่าเซอร์ (มาก) ทำให้เราสะดุดครั้งแรกตั้งแต่ชื่อ พอได้อ่านหลังปกก็ยิ่งสนใจ ในความรู้สึกตอนนั้นคือเล่มนี้น่าจะฮาดี จำได้ว่าครั้งนั้นยังเรียนอยู่มัธยม ด้วยวัยที่ได้อ่าน ความรู้สึกคือขำ ตลก ฮาสมใจ อ่านแล้วได้เสียงหัวเราะ
มาจนถึงวันนี้เมื่อได้กลับมาอ่านอีกครั้ง เมื่อหลายสิบปีผ่านพ้นไป ถึงแม้ภาษาที่ผู้แต่งใช้จะอ่านแล้วฮา แต่บทสรุปของแต่ละเรื่อง แง่คิดที่แฝงไว้ในแต่ละตอนก็ทำให้ฮาไม่ออก แต่ถึงกระนั้นหนังสือเล่มนี้ก็ยังคงเรียกรอยยิ้มได้ทุกครั้งที่หยิบขึ้นอ่าน
ถ้าถามว่าเล่มนี้ดีอย่างไร ถึงอยากบอกต่อ ก็อยากตอบว่าเล่มนี้นอกจากผู้แต่งจะใช้สำนวนภาษาที่น่ารัก อ่านแล้วตลกขบขัน มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ แต่ก็ยังแทรกข้อคิดไว้อย่างแยบคาย
ศุ บุญเลี้ยงได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า
"งานของลินซ์ อ่านสนุก มีพล๊อตเรื่องแปลก มองโลกด้วยมุมอันน่ารัก"
เราอ่านเล่มนี้จบแล้ว ยังยันว่างานของลินซ์ เป็นอย่างที่ ศุ บุญเลี้ยงให้คำจำกัดความไว้จริงๆ อยากอ่านงานของลินซ์นอกเหนือจากเล่มนี้ แต่ก็ยังไม่เคยเจอเล่มอื่นอีกเลย
สำหรับบล๊อกนี้ไม่ต้องโหวตนะคะ แค่เพื่อนๆแวะมาอ่านก็ดีใจแล้วค่ะ