เอ้อระเหยลอยมา
ลอยมาร้องเพลงมาลัย
วันนี้อยากพาเข้าป่า
พบค้างคาวซ่ากลางป่าพงไพร
ค้างคาวอาศัยในถ้ำ
เป็นถิ่นประจำแต่ไหนแต่ไร
ค้างคาวเยอะมากยากแจง
จนเกิดแก่งแย่งพื้นที่ยกใหญ่
***
ครานี้ค้างคาวสามตัว
รวมกันสุมหัวร่วมแรงร่วมใจ
สองตัวเฝ้ายึดพื้นที่
อีกหนึ่งจรลีออกจากถ้ำไป
ผลัดกันออกหาอาหาร
สองตัวรู้งานเฝ้าถ้ำเอาไว้
เวลาให้สามชั่วโมง
ค่อยมาอยู่โยงแทนเพื่อนรู้ใจ
***
ย่ำค่ำอาทิตย์ตกดิน
ตัวแรกโบยบินจากถ้ำว่องไว
เวลาล่วงเลยกำหนด
สองตัวรันทดแสบท้องแสบไส้
ผ่านไปร่วมสี่ชั่วโมง
ตัวแรกบินโค้งกลับถ้ำจนได้
มุมปากไร้คราบเลือดติด
ได้กินน้อยนิดพวกผลไม้
***
ครั้นพอตัวแรกกลับมา
ตัวสองบินร่าจากถ้ำทันใด
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน
เกินกว่าคิดอ่านตกลงกันไว้
ตัวสามหิวจนไส้กิ่ว
กว่าสองจะลิ่วกลับถ้ำมาได้
แต่มันไม่ได้กินมาก
สังเกตมุมปากเรี่ยมเร้เรไร
ยังคงไร้คราบเลือดติด
มันคงพิชิตแต่ผลไม้
***
เจ้าสามครั้นเห็นเจ้าสอง
จึงกู่ร้องก้องต่อว่ายกใหญ่
เหตุใดหายไปตั้งนาน
ข้ารอเหนียงยานนานมากรู้ไหม
แล้วนี่กินมานิดเดียว
ออกไปเสียเที่ยวน่าละเหี่ยใจ
กล่าวจบมันก็รีบรุด
โฉบเฉี่ยวสุดสุดจากถ้ำทันใด
***
ผ่านไปเพียงห้านาที
เจ้าสามตัวดีกลับคืนถ้ำไว
มุมปากมีคราบเลือดติด
สองตัวพินิจแล้วรีบถามไถ่
แกทำอย่างไรเล่าหนา
จึงได้เลือดมาข้าแสนข้องใจ
ออกไปแค่เพียงแป๊ปเดียว
เห็นแล้วข้าเปรี้ยวปากขึ้นทันใด
โปรดช่วยเฉลยหน่อยหนา
ข้าข้องอุราอึดอัดทรวงใน
***
นั่นสิข้าก็อยากรู้
เลือดที่เห็นอยู่ได้มาจากไหน
เจ้าสามฟังเสร็จย้อนถาม
ไม่เก็บงำความกล่าวถามออกไป
ต้นไทรที่อยู่หน้าถ้ำ
แผ่กิ่งก้านล้ำพวกแกเห็นไหม
ทั้งสองต่างตอบว่าเห็น
ต้นใหญ่ร่มเย็นไม่เห็นได้ไง
เจ้าสามน้ำตาเอ่อคลอ
ก่อนจะพูดต่อข้าไม่เห็นไง
พวงเจ้าเอ๋ยมะไฟ
รู้แล้วใช่ไหมอุบไว้นะเอย...โอ้เย่!
*****