ทะเลรุ่มร้อน








ทะเลรุ่มร้อน

ผู้แต่งวารี วายุ


ทะเลรุ่มร้อนเป็นบทประพันธ์ที่เรียกว่ากลอนเปล่ามีเนื้อหาแบ่งเป็นสองภาคภาคแรกมาจากชีวิตแสวงหาของกะลาสีคนหนึ่งซึ่งร่อนเร่ไปกับเรือสินค้าเขามุ่งหน้าสู่ทะเลด้วยจิตใจและความฝันของนักผจญภัยพร้อมทั้งเสียงจากความทรงจำที่คอยติดตามกระซิบเรียก


ภาคหลังเป็นบทกวีสั้นๆอีกบางบทซึ่งกะลาสีผู้คืนสู่ฝั่งเขียนขึ้นต่อมา  เสนอเนื้อหาอีกด้านหนึ่งของชีวิต





...บางบทกวีที่เล่าสู่กันฟัง...


ทะเลรุ่มร้อน


ท่ามกลางทะเลรุ่มร้อน

มีแต่ฉลามหลง  และโลมาบาดเจ็บ

ข้านอนรับไออุ่นจากดวงตะวัน

ข้าไปมา  ซุกซอนร่อนเร่ด้วยฝีก้าวแห่งลมพายุ


ข้าอยู่ที่นั่น  ข้าอยู่นี่

จากเมืองท่าสกปรกแห่งหนึ่ง

สู่เมืองท่าสกปรกอีกแห่งหนึ่ง

จิตใจข้ากวัดแกว่ง  โยกคลอน

ข้ามึนเมาในทะเลมาเจ็ดปี


อา...ความเศร้า

มันกัดกร่อนกลืนกินตัวข้า

เหมือนตัวเพรียงชอนไชในกระดานผุๆ

สร้างรูทะลุลดเลี้ยวไปทั่วทุกส่วนวิญญาณ


อา...ความเศร้า

เหมือนดวงตะวันตกต่ำที่ขอบฟ้ายามเย็น

สาดแสงสุดท้ายบนผืนน้ำ เป็นสีตะกั่ว

สะท้อนแปลบปลาบจนดวงตาพร่าพราย


วันเวลาวิ่งไปบนฟองคลื่น

หมุนไปกับใบจักร แกว่งโยกไปกับพังงา

ชีวิตข้า กวัดไกวอย่างไร้เข็มทิศนำทาง

นานหนักหนาแล้ว  ในทะเลมืดบอด

ปราศจากดวงดาราส่องชี้

มองไม่เห็นดวงไฟจากประภาคาร


ข้ามองหาอะไรนะ

เงาของความฝัน ปรากฏย้ำเตือนอยู่ที่นี่  ที่นั่น

ในผู้หญิงตามท่าเรือคนแล้วคนเล่า

ในทุกดวงตา ทุกร่างที่ข้าก่ายกอด

ในบุหรี่ เหล้า ยา กองสูงพะเนิน

ในหนังสือที่ข้าอ่าน ในรูปภาพที่ข้าเห็น

ในบทสนทนากับคนแปลกหน้า

แล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม

เมื่อวันหนึ่งข้าตื่นขึ้นมา ทุกอย่างก็หายไป


มีคนเรียกมันว่า

การพเนจรที่ไร้วันสิ้นสุด

ซึ่งครั้งหนึ่งคือความสุข สนุกสนาน

เต็มไปด้วยอิสระเสรีอันไร้ขอบเขต

เต็มไปด้วยเรื่องราวแสนเหลือเชื่อ แสนตื่นใจ

แต่บัดนี้ มันคือแผ่นเหล็กกร่อนสนิม


รู้ไหม ข้าฝันหลายสิ่งหลายอย่างที่ดีงาม

รู้ไหม ข้าฝันมากกว่าดวงจันทร์  สายรุ้ง  หรือดวงดาว

แต่ข้าไม่เคยพานพบอะไร

นอกจากหินโสโครก  และเกาะร้าง

ความฝันข้า  จึงกระจัดกระจาย

ความฝันข้า  หล่นหาย

ความฝันข้า ลอยละล่องไปทั่วฟากสมุทร


ท่ามกลางทะเลรุ่มร้อน

มีแต่ฉลามหลง  และโลมาบาดเจ็บ





กะลาสีคืนฝั่ง


อย่าปิดประตู

ข้าไม่ใช่คนแปลกหน้า

มาจากความหนาวเย็น

แต่ใจข้าร้อนดั่งไฟ


อย่าทำฉงน

ข้าไม่ใช่ขโมยหิวโซ

ไม่ใช่คนร่อนเร่ แสวงหาที่พักพิง

แต่รอนแรมข้ามฟากสมุทร

ข้ามุ่งกลับมาบ้าน


รู้ไหม

ข้าจมทะเลน้ำแข็งมาหลายพันปี

ข้าถูกพายุหอบพัดไปสุดมุมโลก

ข้าย่ำเท้าเปลือยจนเลือดไหลริน


ข้าฝ่าดงฉลามข้าลุยผ่านโคลนตม

ข้าถูกเผาบนทรายร้อนและอับปางในมรสุม

ข้าหลงบนเกาะร้าง

แต่ข้าก็ผ่านมา


มีเปลือกหอยจากทะเล ข้าเก็บมาฝาก

มีความรักครั้งเก่า ข้านำมาด้วย

หรือเจ้าจะเฉยเมย ปล่อยให้ข้าบ้าคลั่ง


อย่าปิดประตู

ข้าไม่ใช่คนแปลกหน้า

มาจากความหนาวเย็น

แต่ใจข้าร้อนดั่งไฟ


รู้ไหม

ข้าเคยเฝ้าคอยด้วยใจสั่นสะท้าน

คิดถึงวันกลับบ้าน

ในเดือนปีอันยาวนาน


เอาเถอะ

ให้ข้ายืนเปล่าเปลี่ยวอยู่หน้าประตู

ให้ข้าเฝ้านับนาทีที่ล่วงผ่านไป

แต่เจ้าต้องรู้ว่า ทะเลนั้นเปียกหนาว

บัดนี้ข้าเหนื่อย  และทรมาน


อย่า...เจ้าอย่าเย็นชา

ดั่งแท่นหินที่กรำสายฝน

อย่า...เจ้าอย่าเฉยเมย

ดั่งไข่มุกที่หมองน้ำตา


แล้วตัวข้า  กะลาสีแสนเศร้า

เหมือนเด็กน้อยหนีเที่ยวจนเตลิดหลงทาง

ข้ากลับสู่บ้านในคืนเหน็บหนาว

ยืนก้มหน้า  เพื่อรับโทษทัณฑ์





โลกเพียงครึ่งหนึ่ง


ไก่ขันคืนละกี่ครั้ง

เธอไม่เคยรู้

เธอเพียงแว่วยินเมื่อรุ่งสาง

ขณะตื่นรับอรุณอย่างงัวเงีย

ประวัติศาสตร์ยาวนานเท่าไหร่

ทับถมไว้ด้วยอะไร

เธอไม่เคยรู้

เธอเพียงอ่านมันจากหน้าหนังสือ

และมองเห็นวันคืนอันเบิกบานเบื้องหน้า


โอ้เจ้าเด็กน้อย  เหล่าเยาวชน

ฉันไม่อาจขู่เข็ญเฆี่ยนตีให้เธอเข้าใจอดีต

ฉันไม่ควรป้อนเธอด้วยอาหารขมขื่น

หากในดวงตาร่าเริงแจ่มใสของเธอ

ฉันมองเห็นแต่โลกเพียงครึ่งหนึ่ง


ในกระท่อมริมสวน

ในความมืด และความเปล่าเปลี่ยว

ฉันขับร้องเพลงเศร้าอยู่คนเดียว

ในยามที่เธอหลับนอน

ฉันซ่อนเร้นโลกอีกครึ่งหนึ่งเอาไว้

เพื่อวันคืนอันแจ่มใสของเธอ

จะไม่ถูกทำลาย





ที่แนะนำหนังสือเล่มนี้เป็นเพราะเล่มนี้เป็นบทกวีที่เราชอบมากค่ะปรกติแล้วเราไม่ชอบกลอนเปล่า แต่สำหรับเล่มนี้อ่านแล้วทำให้เห็นภาพชัดรู้สึกร่วมไปในบทกวีนั้นๆ ผู้ประพันธ์ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาเป็นบทกวีได้ดีจริงๆเป็นเล่มที่ชอบมากๆจึงนำมาแนะนำเพื่อนๆค่ะ





เอนทรี่นี้เพื่อนๆไม่ต้องโหวตนะคะ แค่แวะมาอ่านก็ดีใจแล้วค่ะ



Create Date : 27 กันยายน 2559
Last Update : 3 ตุลาคม 2559 19:55:38 น. 0 comments
Counter : 1130 Pageviews.

เรียวรุ้ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 30 คน [?]




...ดอกไม้แห่งมิตรภาพ...
ไม่เคยเลือก
ชั้นหรือวรรณะในการก่อกำเนิดเมล็ดพันธุ์
ไม่เคยเลือก
น้ำใจในการรินรดให้ต้นกล้าเติบโต
ไม่เคยเลือก
สถานที่ในการเบ่งบาน งอกงาม

“กาลเวลา”
จะเป็นผู้พิสูจน์ว่า
“ดอกไม้แห่งมิตรภาพ”
จะเจริญงดงามนานเพียงใด

“ความจริงใจ”
จะเป็นผู้หล่อเลี้ยงให้
“ดอกไม้แห่งมิตรภาพ”
ไม่มีวันโรยรา แม้กาลเวลาจะล่วงผ่านเลย








...ขอบคุณ ณ ที่นี้...
BG จากคุณดอกหญ้าเมืองเลย
กล่อง Comment จากป้าเก๋า(ชมพร)
ของแต่งBlog น่ารักๆจากป้าเก๋า(ชมพร)
emotionหมีจากคุณ On-rainy-days



Group Blog
 
 
กันยายน 2559
 
27 กันยายน 2559
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เรียวรุ้ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.