+ + + สมองไหวในฮ่องกง : พร่างพรายอยู่ในสิ่งประดิษฐ์อันซ้ำซาก + + + ตอนที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบลงใหม่ๆ ดิฉันอมยิ้มพร้อมกับวางหนังสือลงช้าๆ ลีลาจริงๆ พ่อหนุ่ม- ดิฉันหมายถึง นิ้วกลม คนเขียนหนังสือเล่มนี้ ลีลาจัดๆ ทีเดียว การเดินทางของเขาเที่ยวนี้ ไม่ได้พาเราเที่ยวอย่างกระชั้นชิด อยากเล่าอะไรก็เล่า เหมือนที่เขาเขียนในโตเกียวไม่มีขา หนังสือเดินทางเล่มแรกของเขา ไม่มีภาพของหนุ่มน้อยตื่นเต้นกับการเดินทางในหนังสือเล่มนี้ เปล่าๆ ดิฉันไม่ได้หมายความว่า เขา แก่ ขึ้น สุขุม ขึ้น แต่เขา ลีลามากขี้นต่างหาก (จริงๆ ดิฉันกรี๊ดหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่เปิดหน้าแรกๆ ที่เขาบอกว่า เขาเอา Norwegian Wood ของมูราคามิ ไปอ่านระหว่างการเดินทางคราวนี้ Norwegian Wood เป็นหนึ่งในหนังสือเล่มโปรดของดิฉัน ) เขาประดิษฐ์ลีลาการเขียน (ใช่หรือไม่ว่า งานเขียนทุกชิ้นก็เป็นการสร้างอารมณ์ประดิษฐ์?) ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง การเรียกแท็กซี่ไปส่งที่สนามบิน- บนเครื่องบิน-และเรื่องราวการสั่นไหวในดินแดนฮ่องกงชั่วระยะเวลา 3 วันที่เขาอยู่บนเกาะแห่งนี้ เขาประดิษฐ์เรื่องเหล่านี้มากมาย เราจะรู้ว่า นิ้วกลม อ่านหนังสืออะไร ฟังเพลงอะไร ชอบงานศิลปะแบบไหน หนังเรื่องไหนค้างคาอยู่ในสมองของเขา พร้อมกับการเดินทางครั้งนี้ เวลาเราเดินทาง เราก็มักจะนำพาความทรงจำของเราไปที่ไหนๆ ด้วยทุกครั้ง "การเดินทางของแต่ละคน เป็นเรื่องส่วนตัวพอสมควร นิ้วกลมบอกอย่างนั้น ดิฉันก็เชื่อเหมือนเขา ที่ดิฉันชอบมาก คือเขา ลดทอน การเดินทางของเขาให้อยู่ในรูปของ สี ได้อย่างน่าอัศจรรย์ เขาไปเดินเล่นที่เกาะจงเชา เกาะที่ไม่มีรถยนต์วิ่ง และมีคนชราอยู่บนเกาะนั้นมากกว่าคนหนุ่มสาว เขามองเห็นเกาะแห่งนั้นเป็น"สีซีเปีย" เขาไปเจอนางฟ้า ของเขาในร้านอาหาร เขาก็แช่ภาพนั้นไว้ชั่วขณะ ตอนที่อ่านมาถึงตรงนี้ เขาเล่ามันอย่างช้าๆ เน้นๆ คุณนึกภาพหนังที่อยู่ในช่วงสโลว์โมชั่นออกไหม นิ้วกลมเล่าแบบนั้นเลย ช้าๆ สโลว์ ๆ และหยุดนิ่งมันด้วย "สีชมพู" ในขณะที่บางเรื่อง บางจังหวะ เขากรอภาพผ่านไปอย่างรวดเร็ว ให้เราเห็นฮ่องกง พร่าเลือน ไหวๆ ไม่ชัดนัก มีสีหลายๆ สีพร่าๆ อยู่ในปลายสายตา ดิฉันชอบจริงๆ ที่อ่านหนังสือเล่มหนึ่งแล้วได้อรรถรสครบครัน หนังสือหนึ่งเล่ม นำเราไปสู่ เพลงเพลงอื่น หนังสือเล่มอื่น หนังเรื่องอื่น งานศิลปะชิ้นอื่นๆ โอ้ คิดได้อย่างไรนี่นิ้วกลม ดิฉันยังชอบตอนจบของคำนำของหนังสือเล่มนี้ ที่เขียนโดยโตมร ศุขปรีชา "... ใช่ แม้เราจะอยู่ในโลกของสิ่งประดิษฐ์ซ้ำซาก แต่ในวันที่เราซ้ำซากอยู่กับความคิดหมกมุ่นที่ไม่รู้แล้ว เราก็มักอยากพบสิ่งประดิษฐ์นั้น ซ้ำๆ บ่อยๆ โดยเฉพาะสิ่งประดิษฐ์อันละมุนละไมและทำให้เราได้ย้อนกลับไปทำความรู้จัก กับความรักอีกครั้งหนึ่ง เหมือนหนังสือเล่มนี้ " ... Can't Help Falling in Love - Elvis Presley เวลาคุณอ่านหนังสือเล่มนี้ คุณจะมีเพลงนี้ล่องลอยอยู่ในหัว นิ้วกลม - สะกดเราไว้อย่างนั้น Wise men say only fools rush in. But I can't help falling in love with you. Shall I stay ? Would it be a sin If I can't help falling in love with you ? ... ป.ล. 1 สำหรับใครบางคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ เขาน่าจะรู้แล้วว่า ดิฉันเปิดเพลงนี้ให้เขาเช่นกัน ป.ล. 2 ถึงแมงนูน พี่ดีใจมากที่ได้พูดคุยกับแมงนูน พี่จะรอถึงวันที่ไม่ต้องบอกแมงนูนว่าวันนี้ สู้ๆ นะ วันที่แมงนูนเข้มแข็งขึ้นมา โดยที่พี่ไม่ทันสังเกตมันด้วยซ้ำ หวัดดีครับ
โดย: ชโย IP: 202.44.7.68 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:43:16 น.
อ่า...อ่านรีวิวนี้แล้วอยากอ่านหนังสือขึ้นมาติดหมัดเลยค่ะ
แต่จริงๆ อยากเขียนหนังสือให้เก่งๆ ได้แบบนี้มากกว่านะคะ ไม่ได้แวะมาทักทายนาน พี่ grappa สบายดีนะคะ โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:50:30 น.
ในที่สุดก็ได้ทิ้ง comment แรก
(หมายถึง comment แรกของตอนนี้) ไว้ใน Blog ที่ผมแอบเข้ามาอ่านเป็นประจำ ผมรู้จัก Blog นี้ครั้งแรกผ่านท่าง GM ที่มีบทความเกี่ยวกับ Blog และก็เป็น GM ที่ทำให้ผมได้รู้ว่า Grappa คือคนที่ผมเคยไปซื้อหนังสือบทหนัง Invisible Wave ที่งานหนังสือด้วย เมื่อปีที่แล้ว ตอนงานกำลังจะเลิก และก็บ่นให้ Grappa ฟังไปว่าหาซื้อหนังสือเล่มนั้นยากมาก... รู้สึก Grappa จะบอกว่าไม่ได้ฝากใครขาย ผมเข้ามาอ่านเป็นประจำแต่ไม่เคยทิ้งร่องรอยมนุษย์แกะไว้...เลยครับ เข้ามาอ่านครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนเจอเพื่อนเลยครับ ที่จริงก็ตุ๋ยๆตั้งแต่ชื่อ Blog แล้ว เพราะวันนั้นเอา Grappa ได้เอาคลิปของเดเมี่ยนมาปล่อย ผมเป็นคนนึงที่ชอบน้ำเสียงโศกๆของเดเมี่ยน ยิ่งน้ำเสียงโศกๆนี้ไปอยู่ในอารมณ์สับสนอลม่านทางความคิดของตัวละคร ใน Closer ยิ่งได้อารมณ์ เท่านั้นยังไม่พอ... พอผมลองกลับไปอ่าน Blog เก่าๆดู ก็พบว่า Grappa เป็นพวกชอบความเหงาๆ ความมั่วๆ ของมูราคามิเหมือนกัน เฮเลยครับ...เจอคนที่ชอบเหมือนกัน ของทั้งมูราคามิ ทั้งเดเมี่ยน ตั้งแต่ครั้งแรก ก็ตามอ่านมาเรื่อยๆ แต่อย่างที่บอกไปครับว่าไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้ เพราะไม่มีเวลาพอที่จะเขียนถึง เพราะถ้าจะเขียนถึงผมตั้งใจว่าจะเขียนยาวๆเหมือนวันนี้ ถึงจะได้น้ำได้เนื้อ ไม่รู้ Grappa จะชอบหรือป่าวที่มีคนเขียนอะไรยาวๆหาเรา แต่ผมชอบอ่าน เวลามีคนเขียนหาเรา... เลยตั้งใจว่าถ้าจะเริ่มทัก เริ่มทิ้งร่องรอยมนุษย์แกะ ก็จะทิ้งไว้ให้เรี่ยราด ให้เยอะหน่อย และแล้ววันนี้ก็ฤกษ์ดี เข้ามาได้ Comment เป็นคนแรก เลยเอาซะหน่อย ตอนนี้ผมถือว่า (ถือเอาเอง) ตอนนี้ได้กล่าวสวัสดีกับ Grappa อย่างเป็นทางการแล้ว วันหลังผมจะเริ่มทิ้งร่องรอยมนุษย์แกะแล้วครับ แนะนำตัวเองสั้นๆแล้วกันครับ ผมเป็นผู้ชายที่หลงรักมิว (Sputnik Sweetheart) ผมเป็นผู้ชายที่กำลังอ่าน A Wild Sheep อยู่ (ขอบ่นนิดครับ...หนังสือของตามูราคามิใช้พลังงานในการอ่านเยอะจังครับ ตอนนี้ผมเหลือแต่เล่มหนาๆของตานี่ทั้งนั้นเลย) - - สวัสดีครับ - - โดย: ชโย IP: 202.44.7.70 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:10:59 น.
^
^ จำได้ค้า จำคนที่ตามหา หนังสือบทหนัง Invisible Wave ได้ รู้สึกว่าจะได้หนังสือเล่มที่สภาพไม่ค่อยดีไปด้วย แหะ แหะ มีบล็อกเมื่อไร ก็อย่าลืมมาบอกกล่าวกันนะคะ จะได้ไปทักทายกัน หนังสือของมูราคามิ ต้องรวบรวมพลังในการอ่านเยอะมากค่ะ ยิ่งอ่านจบเล่ม จะยิ่งพบว่าพลังของเราถูกดูดไป เกือบหมดตัว แต่เวลาหนังสือเล่มใหม่ของเขาออกมา ก็จะอยากอ่้านมากๆ อีกทุกครั้ง โดย: grappa วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:28:16 น.
จะซื้อ "โตเกียวไม่มีขา" มาอ่าน
ก็ไม่ได้ซื้อสักที สงสัยคงต้องซื้อ "สมองไหวในฮ่องกง" พ่วงมาด้วย ขอบคุณที่แนะนำครับ โดย: King Of Pain IP: 58.9.138.95 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:28:20 น.
เห็นพี่แป๊ดกล่าวถึงพลังที่หายไปในการอ่านหนังสือของมูราคามิ
ผมเห็นด้วยเลยครับพี่ ผมเคยอ่านงานของมูราคามิมาหลายเล่ม แต่ไม่มีเล่มไหนเลยที่อ่านได้จบแบบรวดเดียว (เช่นอ่านคืนเดียวจบ) แม้แต่เล่มเล็ก ๆ อย่าง Pinball 1979 รู้สึกว่ามันมีพลังบางอย่างให้เราต้องค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ ซึมซับเข้าไป อีกเรื่องที่ผมว่าดูดพลังผมไปที่สุดแล้วคือ "หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยวครับ" ใช้เวลาร่วม 5 ปีกว่าจะอ่านจบ อ่านแล้วหัวตื้อไปเลย คล้ายกับที่อ่านตอบจบเรื่อง "คำพิพากษา" ของชาติ กอบจิตติ โดย: I will see U in the next life. วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:59:06 น.
กรี๊ด พี่ขา กำลังอ่านเล่มนี้อยู่วันละนิดค่ะ (แต่โดนพวกนิยายรักแย่งเวลาไปบางวัน)
เป็นเล่มแรกของนิ้วกลมที่อ่านเลยนะเนี่ย ปกกับคำนำน่าสนดี โดย: ยาคูลท์ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:08:14 น.
ยังไม่ได้อ่านเลยล่ะคุณ ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีดีให้ค่ะ โดย: อุ้มสี วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:42:02 น.
จะมีใครไม่ติดใจ ลีลา (การเขียน) ของนิ้วกลมไหมนะ
อิอิ เดี๋ยวต้องแจ้งข่าวให้พี่สาวคนหนึ่งในบล็อกทราบ เพราะนั่นก็เป็นอีกคนที่ติดใจผลงานของนิ้วกลมอย่างมาก จนไม่แน่ใจว่าอยากจะถอนตัวขึ้นหรือเปล่า ^^ โดย: I am just fine^^ วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:24:36 น.
. . .
อ่านที่ จขบ. เขียนถึงหนังสือเล่มนี้แล้วก็ทำให้อยากอ่านเลยล่ะ เผลอๆ อยากคุยกับเจ้าตัวเขาด้วยก่อนที่จะเดินทางไกล (ถ้ามีโอกาส) เท่าที่อ่านตัวหนังสือของนิ้วกลมมาก็ทำให้รู้ว่าพี่เอ๋ 'หา' ลายเซ็นต์ตัวเองเจอตั้งแต่อายุยังน้อย ก็สะท้อนใจถึงตัวเองที่เรายังรู้จักลายเซ็นต์หรือสไตล์ของตัวเองเลย ผมยัง Lost ในบางครั้ง งานที่เสร็จนับสิบก็เป็นงานที่ทำเพื่อบิลล์รายเดือนไม่ใช่งานที่พอจะเอาให้ใครอ่านได้ หยาบ-หยาบ ผมเรียกว่าอย่างนั้น แต่งานพี่เอ๋ เนียน - คำนี้คำเดียวก็อยู่ ทั้งๆ ที่เราก็รู้ว่าสิ่งใดจะปลดเปลื้องเราไปสู่เส้นทางนั้นได้ อะไรจะหล่อหลอมเราได้ อะไรจะกระทบกระเทือนใจเราจนเกิดเป็นผลผลิตตามมา อะไรคือ "วัตถุดิบต้น" ที่จะเป็นองค์ประกอบให้เราสร้าง "ผลผลิตปลาย" บางทีเราอยู่ตรงนี้ เราก็รู้ว่าคืออะไร และมันอยู่ที่ไหน แต่ด้วยสัดส่วนเวลาและความรับผิดชอบในหน้าที่หลัก เราก็ได้เห็นภาพตัวเองเหนื่อยและนอนหลับไป เสาร์อาทิตย์ก็ยังถูกกักขังด้วยงานที่มีเดดไลน์ ถ้าพูดให้เวอร์ๆ หน่อยก็ต้องบอกว่า มั่วแต่สู้อยู่แต่ศึกหน้า ไม่ได้ทำนาหาข้าวไว้หลังสงครามจบ ผมอิจฉาคนที่เวลาท่องเที่ยว คนที่มีเวลาที่จะเสพวรรณกรรมดีๆ คนที่มีเวลาอย่างเหลือเฟือในการฟังดนตรีดีๆ หรือคนที่ได้ตามหาหนังที่ชอบๆ มาดูอย่างเพลินใจ แล้วมีเวลานั่งเงียบๆ ครุ่นคิดอยู่กับมันหลังดูจบ "ไม่รีบหลังเสร็จ" ผมคิดว่าคนพวกนี้เป็นคนที่รุ่มรวย (ไม่รู้ใช่คำถูกไหม -รุ่มรวย) คือคนที่มีเวลาที่จะลอยตัวเองไปกับสิ่งสวยงามของโลก ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ผมเองก็ปรารถนาอยากจะเป็นแต่คงไม่ใช่วันนีหรืออีกปีสองปีนี้อย่างแน่นอน เพราะชีวิตของผมกำลังก่อสร้างอย่างอื่นที่จำเป็นกว่า ผมคิดว่า นิ้วกลมก็คงยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้หนังดีๆ สักเรื่องผ่านไป สถานที่ดีๆ ผ่านไป เพลงดีๆ ผ่านไป หรือหนังสือดีๆ ผ่านไป มันเป็นภาระของคนอย่าง'เรา'ที่มีอะไรต้องทำในโลกมากกว่าเกินไป จนบางทีอาจไม่มีเวลาให้กับพวกเรื่องนี้ (คนอื่นอาจเรียกว่า-ความบันเทิงดาษ ๆ แต่ผมเรียกว่าชีวิตจิตใจ) เพราะนิ้วกลมก็อาจจะชอบการเดินทางจนเป็นชีวิตจิตใจ วันหนึ่งเราคงได้เจอกัน วันหนึ่งสมองเราอาจจะสั่นไหว เหมือนที่ใครบางคนได้รู้สึกไปก่อนหน้านั้นแล้ว ส่วนเรานั่งอยู่ตรงนี้ก็ได้แต่รอวันสั่นไหวอย่างเลื่อนลอย เรื่องแบบนี้ถ้าปล่อยไว้นานๆ ก็มีแต่ความเศร้า บลา บลา บลา . . . โดย: e26 IP: 58.10.36.140 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:40:34 น.
ตามน้องสาวคนนึงมาค่ะ
... รอขอลายเซ็นต์นักเขียน ในงานหนังสือฯ แล้วค่ะ โดย: Serendipity_t วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:00:32 น.
ลึกซึ้งจริงๆค่ะวันนี้ อยากอ่านหนังสือของคุณนิ้วกลมขึ้นมาทันที
อยากอ่านNorwegian Wood มากๆด้วยเช่นกัน ตอนนี้ที่บ้านมีหนังสือเล่มนี้อยู่ แต่เป็นภาคภาษาอิตาเลี่ยน อ่านยากมากๆ แต่ก็พอจับความได้ว่าเจ๋งมาก เห็นว่าแปลเป็นภาษาไทยแล้ว และก็หมดสต๊อกไปแล้ว โดย: ปลาทอง9 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:31:34 น.
สวัสดีค่ะ .. ได้อ่านสมองไหวฯ แล้วเช่นกันค่ะ เล่มนี้เขาลีลาเยอะจริงๆ แต่รู้สึกว่าชอบเล่มก่อนๆ ของเขามากกว่า
โดย: Qingqing (Qingqing ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:02:51 น.
ท่าทางจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของมูราคามินะคะ
โดย: pimtawan IP: 202.57.142.245 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:16:18 น.
ไม่เคยอ่านหนังสือของเค้าเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่รีวิวหนังสือดีๆ แบบนี้
ว่าแต่คอเล่าจะอ่านรู้เรื่องเปล่าก็ไม่รู้เนอะ เห็นหลายๆ คนบอกว่าอ่านแล้วถุกดูดพลัง แสดงว่าคงมีอะไรให้ต้องคิดตามเยอะ โดย: คอเล่า IP: 202.44.135.35 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:35:04 น.
ไม่รู้ทำไม ฟังเพลงนี้ แล้วนึกถึงหนังเฮียหว่องขึ้นมาโดยพลัน
---------------------------------------- ค่ำวันพุธ ... (เริ่มต้นที่ภาพแสงไฟวาวๆ หลุดโฟกัส จนค่อยๆชัดๆ ขึ้นเรื่อย) ฮ่องกง เมืองที่ที่วัฒนธรรมเก่าและใหม่ กอดรัดกันอย่างเมามัน ณ คาเฟ่ตึกแถวสไตล์จีนแห่งหนึ่ง เสียงผู้คน เครื่องบิน เพลงปนเปกันไปหมด หญิงสาวนั่งคนเดียวในคาเฟ่ต์ที่เงียบเหงา เธอจ้องมองออกไปที่ถนนหน้าร้าน ผู้คนเดินพลุกพล่าน แต่ไม่มีใครเข้ามาข้างใน เธอจ้องมองผู้คน ด้วยสายตาว่างเปล่า เธอลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า เดินสบายๆ คล้ายอยู่ริมหาดไปที่ตู้เพลงหยอดเหรียญ เธอเลือกเพลงอยู่นาน (ภาพเธอที่ต้องแสงไฟจากตู้เพลงช่างสวยงามยิ่งนัก) ในที่สุดเธอก็เลือกเพลงได้ "แครก" เสียงเหรียญหล่นไปในตู้เพลงเก่า เสียงเพลงดังขึ้น เธอเดินช้าๆ กลับมาที่โต๊ะของเธอ (ภาพหญิงสาวค่อยๆ เดินมาที่โต๊ะ ทิ้งตู้เพลงไว้เบื้องหลัง) "Wise men say only fools rush in. But I can't help falling in love with you." เธอนั่งลง พลางทอดสายตาที่ไร้จุดหมายไปที่ผู้คนอีกครั้ง (เราเห็นเธอชัดขึ้น เธอใส่กระโปรงสีแดงผ้าบางๆ ดูที่คล้ายโคมไฟของอาน จาคอบสั้น เสื้อสีขาว ผมสั้น ตาโต เธอเป็นหญิงสาว สมัยใหม่ ผิวขาว หน้าตาดี) " Shall I stay ? Would it be a sin If I can't help falling in love with you ?" (กล้องค่อยๆ ซูมเอาท์อย่างช้าๆ) เธอกำลังนั่งคอยใครบางคนอยู่ ในมือของเธอ ถือหนังสือ "สมองไหวในฮ่องกง" ปกสีชมพู เธอมองที่ปก และมองออกไปที่ผู้คนอย่างใจลอย "If I can't help falling in love with you ?" (กล้องซูมออกมา จนเห็นเธอนั่งอยู่คนเดียวเหมือนรอใครสักคนในคาเฟ) หญิงสาวนั่งคนเดียวในคาเฟ่ต์ที่เงียบเหงา เธอจ้องมองออกไปที่ถนนหน้าร้าน ผู้คนเดินพลุกพล่าน แต่ไม่มีใครเข้ามาข้างใน เธอจ้องมองผู้คน ด้วยสายตาว่างเปล่า (และแล้วภาพก็ค่อยๆ เบลอ กล้องหลุดโฟกัสอีกครั้ง) "If I can't help falling in love with you ?" ... โดย: superblackpig IP: 203.113.50.141 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:05:31 น.
ู^
^ 555 แนวมากเลย ชอบๆ โดย: grappa IP: 58.9.187.215 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:12:25 น.
เอาเวบของพี่นิ้วกลมมาฝากค่ะ
//roundfinger.wordpress.com/ ไม่ใช่สิ เป็นบล๊อกค่ะ ของพี่เค้า ตั้งแต่อ่าน เนปาลประมาณสะดือ ก้อ อยากออกเดินทางอีกครั้ง อ่านหนังสือ ของ เค้าแล้วเป็นยังงั้นจริงๆ อ่ะ โดย: vodca วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:23:31 น.
ผมว่าฮ่องกงเป็นดินแดนที่มีเสน่ห์มาก จากการที่ผมดูหนังฮ่องกงในวัยเด็กมากเกินไปจนถูก Romantizised ไปเรียบร้อย (ยังไม่นับตอนวัยสะรุ่น...เอ่อ...ตอนนี้แหละ ดูหนังหว่อง คา ไว แล้วมันยิ่งรู้สึก)
แต่ก็กล้า ๆ กลัว ๆ นะ ผมว่านิ้วกลมกล้าดีที่เอาเรื่องฮ่องกงมาเขียน เพราะเป็นดินแดนที่ให้ Definition ยากมาก (อยากรู้เหมือนกันว่าฮ่องกงสั่นไหวในหัวเขาเป็นสีอะไรบ้าง) เรื่อง John Cage นี้ผมได้ทำงานส่งอาจารย์ครับ เลยมีโอกาสได้หมกมุ่นกับชายคนนี้อยู่ชั่วขณะหนึ่ง แต่เรื่องลง Blog ต้องดูก่อนครับ เพราะจริง ๆ แล้วผมใหม่กับดนตรี Chance music ของเขามาก รู้จักก็แต่ 4'33" ด้วย (ถึงแม้พวก Progressive บางวงจะยืมเอา Chance music ไปใช้บ้างเป็นครั้งคราวก็เถอะ) โดย: ShadowServant วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:0:08:26 น.
อยากให้ถึงงานหนังสือเร็วๆ จังคะ จะได้ไปสอยหนังสือที่แนะนำหลากหลาย
โดย: JewNid วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:18:58 น.
ยังไม่ได้อ่านงานของคุณนิ้วกลมเลยค่ะ เห็นคนพูดถึงกันเยอะมากๆ ชักสนใจแฮะ
แต่ปกติไอซ์ไม่ชอบอ่านหนังสือแนวท่องเที่ยวอะ อ่านแล้วเกลียดคนเขียน เพราะอิจฉา ฮา ชอบไปเองอะค่ะ ^^" โดย: Clear Ice วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:7:42:21 น.
...ขอบคุณมากนะคะ
ที่ไปแจ้งข่าว อิอิ งั้นเปลี่ยนเป็น รอไป อุดหนุนผลงานของเค้าแทนค่ะ โดย: Serendipity_t IP: 203.148.239.254 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:40:24 น.
เดี๋ยวจะลองหามาอ่านบ้างครับ
ผมเคยอ่านอยู่สองเล่ม โตเกียวไม่มีขา กับ กัมพูชาพริบตาเดียว โดย: จี้ IP: 210.213.1.170 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:01:34 น.
"กัมพูชาพริบตาเดียว" เป็นหนังสือเล่มโปรดในจำนวน หนังสือของเขาทั้งหมด บางคนแปลกใจว่า "เอ้า ไม่ได้ชอบโตเกียวฯ หรอกเหรอ" แฟนคลับนิ้วกลมตั้งแต่เล่มแรก ก็เลยตอบไปว่า จริงๆ แล้วก็ชอบทุกเล่ม ทุกเรื่องเพียงแต่ อารมณ์ และความรู้สึกของ กัมพูชาพริบตาเดียว มันกระโดดถีบใจเราเป็นพิเศษเท่านั้นเอง...
ลุ้น "เนปาลประมาณสะดือ" มาเป็นปีๆ ซึ่งดูจะคลอดยากกว่าเล่มไหนๆ อารมณ์อยากอ่านเนปาลฯ นั้นข้ามปี บางทีก็ทวงยิกๆ "ต้นฉบับสักนิ้ด... หน้าสองหน้าก็ยังดี" นิ้วกลมจะยิ้มตาหยี "อีกไม่นานครับพี่" และพอเป็นเล่มแล้วก็โดนสกัดดาวรุ่งเอาไว้ว่า "บางทีอาจจะไม่ชอบ" แต่สุดท้ายก็ชอบ... ^^ สมองไหวในฮ่องกง - ที่เอาไปล้อคนเขียนเล่นว่า "สมองไหลในฮ่องกง" เปิดอ่านผ่านหูผ่านตาในร้านหนังสืออยู่สองสามครั้ง เพราะ ปกมันเด้ง โดด โคตรชมพู รู้สึกว่า พักหลัง หนังสือของนิ้วกลม จะเด่นเป็นสง่าเพราะมี "ปกเป็นอาวุธ" ที่เหลือ เค้าบอกว่า "ค้นดูครับพี่" เขาบอกไว้แต่ต้นว่า "บางทีอาจจะไม่ชอบ" เปิดช่องให้กระรอกวิ่งแค่นั้น... ความรู้สึกที่ว่า "บางทีอาจจะไม่ชอบ" มันทำให้กระหายอยากอ่าน...และคิดในใจว่า (บ้าเอ๊ย... แล้ว ใครจะไม่อยากรู้ล่ะ ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ) ดังนั้นแล้ว... เมื่อสมองไหวในฮ่องกงตกมาอยู่ในมือ ก็เป็นหนังสือที่อ่านจบภายในไม่กี่นาน... แต่ก็ยังเขียนชื่อเรื่องผิดอยู่ประจำ... หรือนี่จะเป็นเจตนาลวง... "หนังสือชื่ออะไรน๊า...สมองไหล อะไรสักอย่าง หรือฮ่องกง อะไรนี่แหละค่ะ" นักอ่านวัยรุ่นอินเทรนด์คนนั้น เอ่ยถามคนขาย... และเราเองก็ได้ยินชัดเต็มสองหูเลย... โดย: ดาริกามณี แฟนคลับตลอดปีตลอดชาติของนิ้วกลม IP: 125.24.154.22 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:29:46 น.
มีหนังสือของนิ้วกลมทุกเล่มเลยครับ รวมไปถึงหนังสือทำมือ dim ที่เขาเคยทำกับเพื่อนสมัยก่อนด้วย(โดนคนในกลุ่ม dim บังคับซื้อครึ่งราคา --' 55)
แต่ก็อ่านทุกเล่มเลยนะครับ หนังสือของเขาเหมาะกับคนที่ยุ่งอยู่เสมอจนไม่มีเวลากระดิกตัวไปอ่านอะไรหนักๆ อย่างผมมากๆ แต่ก่อนเห็นอยู่สำนักพิมพ์ a book ไหงเดี๋ยวนี้มาทำกับสุดสัปดาห์ไปแล้วล่ะนี่ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชีวิตยังยุ่งอยู่ ยังไม่ได้ซื้อเลยครับ ขอบคุณที่เอามาแนะนำนะคร๊าบ ตอนแรกเห็นหัวข้อบล็อค 'สมองไหวในฮ่องกง : พร่างพรายอยู่ในสิ่งประดิษฐ์อันซ้ำซาก แล้วตกใจนิดหน่อย' นึกว่าจะงานเขียนเล่มนี้จะโดนด่าซะแล้ว 55 มีความสุขมากๆ นะครับ วันนี้เลือกไอคอนตัวนี้แล้วกัน > โดย: BAYROCKU วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:06:41 น.
มิเคยอ่านนิ้วกลมเลย
โดย: ปืนกล นิ้วตรง IP: 203.131.217.34 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:43:28 น.
งื่อ คุยๆอยู่ดีๆพี่หายแว่บไปเลย เลยยังมิได้คำตอบจากพี่ ไว้คุยกันต่อเนอะ
ถ้าสามารถชุบชีวิตเครื่องคอมได้จะส่งรูปที่ไปเที่ยวไปให้ดูน้า วันก่อนลืมปิดเครื่องทิ้งไว้ประมาณสิบชั่วโมง ควันขึ้นเฉยเลย โดย: อ๋อยจ้าวซัน IP: 58.8.72.151 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:44:45 น.
superblackpig เขียนซะจนเห็นภาพเลยนะ ต้องเรียกคริสโตเฟอร์ ดอยส์ มาถ่ายไหมนี่ อิอิ (เข้ามาแซว จขบ.ที่กำลังอยู่หน้าคอมพ์ ทั้งงงงงงงงงวัน) โดย: e26 IP: 58.10.36.182 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:56:54 น.
ได้เล่มนี้มาแล้วล่ะค่ะ แต่ยังไม่มีเวลาจะอ่านเลย
โดย: fonkoon วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:06:01 น.
เด๋วต้องลองไปซื้อมาอ่านดูแล้วล่ะ อิอิ
โดย: พีทคุง (redistuO ) วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:17:23:19 น.
เปิดอ่านแล้วแถวๆร้านหนังสือ คือ ติดใจอย่างนึง ทำไมหนังสือจะต้องหน้าแคบขนาดนั้นด้วย มันเปิดยากมาก แล้วก็ลำบากใจในการเปิดพลิกดูอีกตะหาก (โดยส่วนตัวก็ชอบคุณนิ้วกลมนะคะ)
โดย: quin toki วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:10:30 น.
ต้องไปหามาอ่านบ้างแล้วค่ะ
(กำลังนั่งตาปรือ ด้วยความง่วงอยู่) โดย: rebel วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:03:13 น.
เคยอ่านงานเขาผ่านๆ ทาง a day
เดี๋ยวงานหนังสือคราวหน้า จะไปเมียงมองหาหนังสือของเขามาอ่านมั่ง สบายดีนะคะพี่ (ทำไงจะได้ emoticon แบบข้างล่างไปไว้ในบล็อกมั่งหนอ ) โดย: Mutation วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:19:21 น.
อืม คุณกรัปป้ากำลังอินเลิฟเหรอคะ
หนังสือน่าอ่านมากค่ะ :) โดย: DropAtearInMyWineglass IP: 85.230.111.238 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:42:02 น.
^
^ ราวกับว่าเป็นอย่างงั้นอะค่ะ คุณอาย เพิ่งอ่านบทสัมภาษณ์นิ้วกลม ในอะเดย์ จบ ดูเป็นคนฉลาดเงียบๆ ดี ไม่ฉลาดโฉ่งฉ่าง ไม่ีมีคำหล่อๆ มากมาย แต่อ่านได้ ลื่นไหล จบจบ มีประโยคชอบๆ อยู่เหมือนกัน " เราถูกฝึกให้มองกระจกบ่อย สนใจตัวเองเยอะกว่าที่จะหลบกระจกออกไปมองโลก เรามองโลกน้อยเกินไป" " เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรคือคำถามใหญ่ คำถามย่อยลงมาคือทุกอย่่างที่เราืำทำ เราทำเพื่ออะไร ถ้าทุกคนตอบมันจะมีสติ เราจะไม่ไปทดลองทำอะไีรแบบที่ไม่รู้ว่าทำไปทำไม ชีวิตมันทดลองได้ แต่มีจุดประสงค์ในการทดลองหรือเปล่า " ชอบที่นิ้วกลมบอกว่าผมเป็นคน"ขี้สรุป"ด้วย อยากไปทำงานต่างประเทศมั้ง โดย: grappa วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:8:26:59 น.
หวัดดีค่ะ พี่แป๊ด
แว่บๆไปๆมาๆอยู่นี่หละค่ะ คิดถึงพี่แป๊ดนะคะ โดย: Black Tulip วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:37:58 น.
ชอบที่เจ้าของบล็อกเขียนแสดงความคิดเห็นต่างๆ ชอบมุมมองที่นิ้วกลมมองโลกด้วย โดย: p_tham วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:04:38 น.
ชอบเดินทางไปกับนิ้วกลมครับ แต่ว่ายังเดินไปไม่ถึงไหนเลย จากโตเกียวเมื่อต้นปีก่อนที่เริ่มรู้จัก มาถึงตอนนี้ก็ยังเดินตามดูปราสาทหินที่เขมรอยู่เลยครับ อ่านทีละนิดตอนนั่งรถเมล์มาทำงาน มีความสุขมาก เป็นอย่างที่ grappa เขียนไว้จริงๆ เดินทางไปกับนิ้วกลมนอกจากจะได้รู้จักประเทศนั้นๆแล้วยังได้รู้จักเพลง หนังสือที่เขาเอาไปอ่านด้วย อ่านหนังสือของเขาจบก็ต้องไปหาหนังสือที่เขากล่าวถึงมาอ่านต่อ
ผมกะว่าจะเดินทางตามเขาไปตามช่วงเวลาที่เขาเขียน เรื่องนี้ก็อยากอ่านนะ ฮ่องกงที่ดูง่ายและธรรมดา ผมว่านิ้วกลมน่าจะพาไปดูมุมสนุกๆน่าสนใจได้นะ แต่คงต้องอดใจรอ ขอไปเนปาลก่อนแล้วจะต่อด้วยฮ่องกง อยากเห็นพัฒนาการเดินทางของเขาครับ ถ้าถึงวันที่ได้ไปฮ่องกง คงได้มาเปิด Blog หน้านี้ เพื่อฟัง Can't Help Falling in Love คลอไปด้วยแน่ๆ ฟังแล้วคิดถึงฮ่องกงยุคเก่าๆจริงๆด้วย(ชอบที่คุณ superblackpig เขียนด้วยนะครับ) โดย: ป้อจาย วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:02:56 น.
ถึงพี่ กรัปป้า ที่รัก และผู้มีอาการ Murakami Syndrome ทุกท่าน ตอนนี้เรื่องสั้นของเขาจะถูกสร้างเป็นหนังอีกแล้วจ้า อ่านรายละเอียดกระทู้นี้เน้อ //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A5166188/A5166188.html แต่ดูตัวอย่างแล้ว ไม่ค่อยน่าไว้ใจยังไงไม่รู้ (อย่างแรกเลยคือ พระเอกไม่ถูกจายยย) ในกระทู้มีหนังสือใหม่เรื่อง After Dark ด้วย (ฝากถามคุณนพดลหน่อยสิครับ ว่ามีโปรแกรมออกเล่มใหม่หรือเปล่า) โดย: merveillesxx วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:18:54 น.
พี่แป็ดครับ
วันอังคารที่ 27 นี้ อยากชวนไปร่วมงานเปิดตัวหนังสือของ อ.ประมวล เพ็งจันทร์ เกี่ยวกับการเดินของท่านจากเชียงใหม่ถึงสมุยที่บีทูเอสเซนทรัลเวิร์ลด์ตอนบ่ายโมงครับ ป.ล. อยากเชิญชวนให้ฟัง Sqweez Animal นะครับ เดี๋ยววางวันที่ 28 นี้แล้ว เพลงความรักแบบไม่ฟูมฟายดี โดย: I will see U in the next life. วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:59:30 น.
อยากไป อยากอ่าน... เบื่อชีวิต...
สวัสดีเช้าวันเสาร์ค่ะ โดย: Mocha Macchiato วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:19:06 น.
เป็นอีกคนที่หลงเสน่ห์การเขียนถึงการเดินทางของนิ้วกลมค่ะ
อ่านรีวิวแล้วหลงรักหนังสือตั้งแต่ก่อนอ่านหนังสือซะงั้น คงเป็นอีกเล่มที่ไปหามาอ่านแน่นอนค่ะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:15:14 น.
อะกี๊ซ หนูกลัวนิ้วกลม รู้สึกเคยบอกไปในบล็อกใครแล้วนี่แหละ จำไม่ได้ คือฟังชื่อเขาแล้วนึกเห็นภาพนิ้วโป้งข้อสุดท้ายอันโตเท่าคนมีแขนมีขาเดินเข้ามา กลัวมั่กๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยไม่กล้าหยิบหนังสือมาเลย ไร้สาระดีเนอะ
ส่วนเรื่องคนแต่งเพลงของน้องเจี๋ย ไปรีเสิร์ชมาแย้ว (ว่าเข้าไปนั่น ที่จริงคือไปถามเจ้าของบล็อกนั้นแหละ) น้าฟางแกแต่งเฉพาะคำร้องค่ะ แกจะประมาณเป็นกวีๆ หน่อย เนื้อร้องกับทำนองขัดแย้งกันอย่างรุนแรง เจ๋งเท่ค่อดๆ โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:12:39 น.
ฟังเพลงแล้วน้ำตาไหล มีอารมณ์ (ร่วม)
ดันฟังตอนถือแก้วไวน์ในมือ อารมณ์เลยบ่าท่วม แทบจมน้ำตายแน่ะ พี่ โดย: Kala_mydog วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:53:09 น.
โดย: เอ๋ IP: 203.118.120.68 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:10:50:55 น.
โอ ถ้าตามที่คุณกรัปป้าบอกนี่ น่าตกหลุมรักจริงๆแหละค่ะ
หายาก คนฉลาดแบบไม่โฉ่งฉ่างเนี่ย " เราถูกฝึกให้มองกระจกบ่อย สนใจตัวเองเยอะกว่าที่จะหลบกระจกออกไปมองโลก เรามองโลกน้อยเกินไป" << อันนี้จริงมากๆ โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:26:00 น.
พี่แป๊ดผมไปดูหนังเรื่อง Music and Lyrics กับแฟนมา ซึ้งมากเลยครับ สนุก ขำ มีความสุข .....
ชอบเพลง Way Back Into Love สุดๆเลยตอนนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ โดย: Lolay IP: 58.9.185.183 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:4:01:51 น.
โดย: zzz IP: 222.46.18.34 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:23:54:54 น.
ในขณะที่บางเรื่อง บางจังหวะ เขากรอภาพผ่านไปอย่างรวดเร็ว
*อ่านแล้ว เหมือนดูหนังเลยเหรอคะนั่น ต้องกลับไปอ่านใหม่อีกรอบซะแล้วววว ทำไมเราไม่เห็นน้อออออ โดย: pattararanee IP: 203.118.73.95 วันที่: 18 มีนาคม 2550 เวลา:16:16:36 น.
เคยพลิก ๆ โตเกียวไม่มีขาขึ้นมาดู ไม่ค่อยชอบที่นิ้วกลมชอบเขียนแต่ละย่อหน้าไม่ยาวนัก เพราะผมชอบเขียนแบบยาว ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วผมว่าคนเขียนคอลัมน์ในยุคหลัง ๆ ก็เป็นอย่างนิ้วกลมคือในย่อหน้าหนึ่งอาจจะมีแค่ประโยคสองประโยคหรือไม่เกินห้า นาน ๆ จะเจอยาว ๆ สักทีหนึ่ง ทำให้พลอยไม่ได้สนใจสมองไหวในฮ่องกงไปด้วย แต่เพิ่งรู้ว่าเขาเอา Norwegian wood ไปอ่านด้วย ผมชอบมูราคามิตั้งแต่อ่านไตรภาคของมุสิก จากนั้นอดรนทนรอ Norwegian wood เวอร์ชั่นไทยไม่ไหว เลยตัดสินใจอ่านฉบับภาษาอังกฤษเลย แม้ภาษาเราไม่ได้ดีนัก แต่ความบ้าทำให้นั่งอ่านจนจบได้ จากนั้นก็ตามด้วย south of the border, west of the sun และอีกหลายเล่ม ในเมื่อนิ้วกลมก็ชอบเหมือนกัน สัปดาห์หนังสือปีนี้คงได้สมองไหวในฮ่องกงมาแน่เลย
ว่าง ๆ แวะบล็อกผมบ้างนะครับ เขียนแบบหนึ่งย่อหน้ามีหลาย ๆ ประโยค (//lepidopterans.blogspot.com/) โดย: ikke (http://lepidopterans.blogspot.com/) IP: 203.144.189.194 วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:14:05:09 น.
อ่านจบแล้วครับ
รู้สึกว่า ความห่าม ของนิ้วกลมจะลดลง เหมือนเค้านิ่งขึ้น ไตร่ตรอง มากขึ้น โดย: calcium_kid วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:17:39:14 น.
ได้เจอนิ้วกลมเมื่อเดื่อนตุลาปีที่แล้วถามเขาไปว่าครั้งหน้าจะไปที่ไหนอีกค่ะตอนนั้นเพิ่งอ่านเนปาลประมาณสะดือจบได้คำตอบว่าฮ่องกงก็รออ่านอยู่นาน ก็ได้อ่านสักทีนึกว่าจะเขียนออกแนวกำลังภายในอย่างที่บอกซะอีก แต่ก็ชอบน่ะอ่านครั้งเดียวจบโดยไม่รู้ตัวเลย จะติดตามผลงานชิ้นต่อไปค่ะ
โดย: hdneng IP: 58.64.87.43 วันที่: 15 เมษายน 2550 เวลา:20:19:49 น.
โดย: wowgold IP: 116.207.128.100 วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:15:07:10 น.
ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้วคะ หนังสือทุกเล่มน่าอ่านมาก (เด็กนครศรีฯ)
โดย: นิรมล เพ็งจันทร์ IP: 203.144.187.18 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:2:49:26 น.
|
บทความทั้งหมด
|