- - - และแล้วงานเลี้ยงก็เลิกลา ปิดม่านงานสัปดาห์หนังสือฯ พร้อมด้วยหนังสือที่ได้มา - - -


ตามธรรมเนียม หลังจากงานหนังสือปิดลง หนอนแถวๆ นี้จะมารายงานความเสียหาย พร้อมกับลูบคลำหนังสือที่ได้มา ปีนี้ตั้งใจซื้อหนังสือในงานหนังสือให้น้อยๆ ( แต่จะซื้อหนังสือจากร้านหนังสือให้มากขึ้น ) เอาล่ะว่ากันถึงหนังสือที่ได้มาเลย

ดีไซน์+คัลเจอร์ โดย ประชา สุวีรานนท์ ขอปรบมือให้สนพ.ฟ้าเดียวกัน ที่พิมพ์หนังสือดีๆ อย่างนี้ออกมา คราวนี้คุณประชา แล่เนื้อเถืองานดีไซน์ เพื่อเปิดให้เห็นโครงสร้างวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง

สู่โลกหลังสมัยใหม่หนังสือแปล(การ์ตูน)แนะนำแนวคิดโลกหลังสมัยใหม่ Introducing Postmodernism วรนุช จรุงรัตนาพงศ์ แปล นพพร ประชากุล และชูศักดิ์ ภัทรกุลวณิชย์ บรรณาธิการแปล อ่านไปได้ครึ่งเล่มแล้ว ทึ่งมากที่คนแปลสรรหาคำภาษาไทยให้ศัพท์วิชาการที่ยากๆ ได้ สำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก พิมพ์ ( สนพ.นี้แปลหนังสือชุดแนะนำแนวคิดออกมาหลายเล่มแล้ว)

ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้ตรอมตรม โดย ภาณุ ตรัยเวช
รวมเรื่องสั้นเล่มล่าสุดของนักเขียนเฉียดซีไรท์ บนปกบอกว่า รวมเรื่องสั้นทันสมัย ซึ่งทำให้สงสัยว่าเมื่อไหร่ สนพ.นานมี จะทำปกหนังสือให้ทันสมัยตามไปด้วย วิธีการดีไซน์และการใช้ฟอนท์บนหน้าปก ราวกับหนังสือตำรา

เสียงร่ำไห้ที่เงียบงัน โดย เคนซาบุโร่ โอเอะ ขุนเขาแห่งจิตวิญญาณ โดยเกาสิงเจี้ยง ทั้งสองเล่มอยู่ในกระบะช็อคโซน ของนานมี ลด ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทั้งสองเล่ม ไปตอนแรกไม่ได้เอามาด้วย พอกลับไปดูอีกวันหาไม่เจอแล้ว แต่พนักงานนานมีคนหนึ่งไปหามาให้จนเจอ แกต้องไปค้นลังหลายลังมาก ชอบพนักงานที่ตั้งใจแบบนี้มาก

ลำนำหกพิภพ โดย พงศ์ศรณ์ ภูมิวัฒน์ ชอบสำนวนของพี่สาวคนเขียน เลยสอยเล่มนี้มาด้วย (กร๊าก ) จริงๆคือ เปิดๆ ดูแล้วทึ่งที่พงศ์ศรณ์ นำรามเกียรติ์ มาตีความใหม่แล้วกลายเป็นนวนิยายแฟนตาซีของคนไทยหนา 700 กว่าหน้า สำนักพิมพ์นานมีพิมพ์ แต่ไปได้หนังสือเล่มนี้มาจากบู้ทจิตจักรวาล

คนรถไฟ โดยอาซาดะ จิโร แปลโดย ผุสดี นาวาวิจิต รวมเรื่องสั้นร่วมสมัยของญี่ปุ่น นฆ ปักษนาวิน เคยแนะนำหนังสือเล่มนี้ไว้ เห็นในบู้ท ส.ส.ท.เลยคว้ามาด้วย เห็นว่าสองเรื่องสั้นในหนังสือเล่มนี้เคยทำเป็นหนังมาแล้ว

ปีกนางฟ้า โยชิโมโต บานานา เขียน นภสิริ เวชศาสตร์ แปล เห็นหน้าปกและชื่อเรื่องอาจผ่านไปเลย แม้จะมีชื่อบานานา กำกับอยู่ แต่ นิ้วกลม เคยแนะนำให้อ่านหนังสือเล่มนี้ อ่านจบไปแล้ว พบว่ามันฟื้นฟูจิตใจได้ระดับหนึ่งทีเดียว พิมพ์โดย J BOOK ( ชอบสำนวนแปลของนภสิริ แฮะ)

จดหมายจากเมืองไทย โดย โบตั๋น รักตันส่วงอู๋มาก เห็นเล่มนี้ในบู้ทใดบู้ทหนึ่งตรงโซนหนังสือเก่า เลยสอยมาด้วย ฉบับพิมพ์ปี 2535 โดยชมรมเด็ก

ปมไหม บทละครทีวีเรื่องปมไหม นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ บรรณาธิการ ได้จากโซนแลกหนังสือตรงกลางงาน จัดโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์ เอาหนังสือของตัวเองไปแลกมาหนึ่งเล่ม เลยได้หนังสือเล่มนี้มา

Lonesome Cities คนหนุ่มในเมืองหนึ่ง หนังสือทำมือของคนหนุ่ม 4 คน วุฒิชัย อนุกูล วิวัฒน์ และ นฆ เล่มนี้หมอนิลให้มา

นั่งรถไฟไปตู้เย็น โดยนิ้วกลม คนเขียนให้มา พิมพ์โดยสนพ.อะบุ้ค อ่านไปนิดหนึ่งแล้ว อยากนั่งรถไฟไปสถานที่เราไม่รู้จักหรือเราไม่เคยไปมาก่อนจริงๆ

นักปลูกป่าแห่งดาวอังคาร รวมเรื่องสั้นวิทยาศาสตร์ (แปล) สุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการ ที่เห็นและเป็นอยู่ เจอร์ซี่ โคซินสกี้ เขียน มโนภาษ เนาวรังษี แปล หนังสือสองเล่มจากโซนลดราคาเยอะๆ ของดวงกลมสมัย โซนนี้ ลดราคา 5 เล่มหนึ่งร้อยบาท แต่อยากซื้อแค่สองเล่ม ซึ่งถ้าซื้อเล่มเดียวราคาเล่มละ 40 บาท พี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ( ไม่รู้จักกันมาก่อน) บอกว่าเรามารวมกันซื้อไหม จะได้ครบห้าเล่ม มีน้องอีกคนมาแจมด้วย ( ซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อนเหมือนกัน) สรุปแล้วรวมกันได้ 5 เล่มเลยได้หนังสือสองเล่มนี้มาในราคาเล่มละ 20 บาท

เสียงแห่งทศวรรษ รวมบทสัมภาษณ์คัดสรรของ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ อภินันทนาการจากบู้ทโอเพ่น

ไพรผาดำ 4 เล่ม 4 ภาค โดย ชาลี เอี่ยมกระสินธุ์ ชอบเรื่องเล่าลึกลับ อาถรรพ์ของป่า ที่ลุงชาลีเขียนมาก ( เคยได้เจอตัวคุณลุงด้วย ) ชุดนี้อภินันทนาการจาก บู้ทสำนักพิมพ์บ้านหนังสือ

(ผม ) เป็นศิลปิน และ ศิลปะกับถ้อยความ โดย อารยา ราษฎร์จำเริญสุข ลดราคาเหลือเล่มละ 50 บาทจากบู้ทมติชน

Walking Stories 2 มาคราวนี้เป็นรวมการ์ตูน อภินันทนาการจากบู้ทฟูลสต็อบ

และแล้วงานเลี้ยงก็เลิกลา หนังสือทั้งหลายก็โดนจับแพ็กลงลัง บู้ทที่เคยต้อนรับหนอนหนังสือก็ปิดตัวลง หลายๆ บู้ทบอกว่าเจอกันใหม่เดือนตุลาคม









เดินออกไปลงรถไฟฟ้าใต้ดิน พร้อม อ.ปกป้อง จันวิทย์ ( คนเขียน Blog Blog ) เจอคุณปราบดา กำลังเข็นหนังสือกลับสำนัก ( ตัวเองก็เข็นหนังสือกลับเหมือนกัน ยังไม่ทันได้ทักทาย แฟนหนังสือคุณปราบดาปราดเข้ามาขอลายเซ็น )


( อ้อ หนอนหนังสืออินดี้ ปลายเดือนนี้มีอินดี้บุ้คแฟร์ ที่สวนสันติชัยปราการค่ะ)






Create Date : 08 เมษายน 2551
Last Update : 29 สิงหาคม 2557 18:07:51 น.
Counter : 2225 Pageviews.

37 comments
  
โอ๊ะ บางเล่มซ้ำกันด้วยล่ะค่ะ ^^ เสียงร่ำไห้ที่เงียบงัน ซื้อมายังไม่ได้อ่านเลย
โดย: walk in dream (walkin ) วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:9:06:03 น.
  
ปีนี้ไม่ได้แวะเยี่ยมพี่แป๊ดที่บู้ธเลยค่ะ มีเวลาน้อยเหลือเกิน งื้ด ยังมีหนังสือที่อยากได้อีกหลายเล่มเลยเชียว T^T
โดย: Clear Ice วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:9:21:29 น.
  
^
^ คราวนี้ไม่ได้ไปเปิดบู้ทจ้าไอซ์
ไปฝากขายตามบู้ทต่างๆ น่ะ
โดย: grappa วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:9:29:45 น.
  
งานคราวนี้นับว่าเสียหายน้อยที่สุดเป็นประวัติการณ์ กระนั้นก็ยังเสียไปหลายพัน

แต่ได้หนังสือกลับมานอนอ่านที่บ้านก็สุขใจ อิอิ
โดย: กระปุกกลิ้ง วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:10:20:33 น.
  
มีอินดี้บุ้คแฟร์ปลายเดือนนี้เหรอคะ ขอบคุณนะคะที่แจ้งข่าว (แม้จะไปไม่ได้อยู่ดี)
โดย: TaMaChaN (narumol_tama ) วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:10:57:57 น.
  
สนใจลำนำหกพิภพค่ะ
โดย: orsor วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:11:02:20 น.
  
อ๊ะ เมื่อวานก็ไปมาเหมือนกันค่ะ
เคลียร์โปสการ์ดที่ลงไว้ อืม สิ้นเดือนไปงานอินดี้ต่อ
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:11:10:41 น.
  
ทึ่งกับลำนำหกพิภพเช่นกันค่ะ แต่เห็นราคากับงบที่เหลือแล้ว รอก่อนละกัน
โดย: BoOKend วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:11:12:40 น.
  
เมื่อวานว่าจะไปอีกวัน แต่แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ไป

ว่าจะเขียนถึงหนังสือที่ซื้อมาเหมือนกันค่ะ เรามีตรงกันเล่มเดียวคือ ดีไซน์+คัลเจอร์
พี่แป็ดอ่านไปบ้างยังคะ อายอ่านจบแล้ว เครียด กดดัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:11:53:54 น.
  
อ่านแล้วอยากได้หลายเล่มเลยค่ะ พี่ งืออออออ


ที่ได้เพลงรักฯ พร้อมซีดี ต้องขอบคุณพจจี๋หละค่ะ ไม่งั้นคงหาซื้อไม่ได้แน่ๆ



ส่วนคนขายบู๊ทจิตฯ พอดีเราไปตอนเปิดบู๊ทใหม่ๆ เค้าเลยดูง่วงๆ งุนๆ อะค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:12:27:33 น.
  
...


เอ...ทำไมเราไม่เห็น "เสียงแห่งทศวรรษ" ล่ะเนี่ย?


โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:13:29:59 น.
  

อยากได้ เสียงร่ำไห้ที่เงียบงัน โดย เคนซาบุโร่ โอเอะ + ขุนเขาแห่งจิตวิญญาณ โดยเกาสิงเจี้ยง อ่ะแล ได้ยินเสียงร่ำลือมานาน

ป.ล. กำลังพยายามเขียนอะไรตามที่รีเควสนะจ๊ะ แต่ว่าตอนนี้อุปสรรรคเยอะมาก เช่น ข้างบ้านเจาะพื้นวี่ๆๆๆทั้งวัน แถมหมาต่อก็อาการหนัก ใกล้ม่องอีก เฮ้อ -__-'
โดย: merveillesxx วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:13:32:37 น.
  
อ่าน "จดหมายจากนักเขียนหนุ่ม" อยู่ครับ ชอบมากครับพี่
โดย: เอ๋ IP: 203.118.112.106 วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:15:53:26 น.
  
ดีไซน์+คัลเจอร์ น่าสนอ่ะพี่
นักปลูกป่าแห่งดาวอังคาร ถ้า 20 บาทนี่สนเหมือนกัน

แสดงว่าพี่อยู่ในงานช่วงปิดงานด้วยสิคะ
จำได้ว่าตอนเดินผ่านโอเพ่นก็มีสภาพคล้ายในรูปนี่แหละ ยังเสียดายเลยว่าไม่ได้เดินไปส่องหนังสือ จะรีบไปบลิสก่อนด้วย
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:15:57:01 น.
  
ไปมาสองครั้ง
ก็ได้หนังสือกลับมาทั้งสองครั้ง
ทั้งที่ตั้งใจจะไม่ซื้ออะไรให้มากมาย
แต่ก็ใครจะอดใจไหว
(ครั้งนี้ไม่ได้ตามหาคิดถึงทุกวันแล้ว)

ส่วนงานอินดี้ปลายเดือนนี้ คิดว่าไม่พลาดแน่ค่ะ
^^
โดย: I am just fine^^ วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:18:14:49 น.
  
Walking story เล่ม 2 เราก็แวะบูธฟุลสต็อปมาค่ะ แต่เห็นแค่เล่ม 1 ก็เลยซื้อมาแค่เล่ม 1 เอง
น่าสนใจหลายเล่มเลยค่ะ คราวหน้าจะมาก็อปลงลิสต์
โดย: PinGz (Kai-Au ) วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:20:58:28 น.
  
ลำนำหกพิภพ มีหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอครับ ขอยืมหน่อย

พี่ลืมเก็บหนังสือไว้ให้ผมหรือเปล่า
โดย: strawberry machine gun วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:21:28:13 น.
  
...ปลายเดือนมีอีกงานเรอะเนี่ย
อดล่ะซิ ....ต้องไปประชุมต่างจังหวัดอ่ะ
โดย: นัทธ์ วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:22:23:34 น.
  
อดๆๆๆ อีกแล้ว
คราวหน้าจะลองพยายามไป ...เฮ่อ
โดย: Mutation วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:3:26:29 น.
  
มีแต่เล่มที่น่าอ่าน
อยากได้
ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้ตรอมตรม
แต่ตังหมดก่อน
โดย: ตุ๊กตาไล่ฝนจากดวงตา วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:19:45:21 น.
  
โหพี่ กะลังจะถามว่างานหนังสืออินดี้มีเมื่อไรอยู่พอดีเลย

โดย: เชอรี่ (cherydnk ) วันที่: 9 เมษายน 2551 เวลา:21:33:54 น.
  
งานหนังสือปีนี้ ถ้ามีคอนเสิร์ตอพาร์ทเมนต์คุณป้า ก็จะกลายเป็นงานแฟตทันที

55
โดย: visuallyyours IP: 58.8.104.220 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:7:18:35 น.
  
ดีไซน์คัลเจอร์นี้ผมชอบอ่านมากเลย อ่านบ่อย ๆ ในมติชนสุดสัปดาห์ อ่านไปแล้วก็อึ้ง ว่า เออ มันอย่างนี้หรอว่ะนี้

หน้าปกเล่มนี้สวยมากเลยนะครับ สมกับเป็นหนังสือที่ว่าด้วยเรื่องการออกแบบ
โดย: I will see U in the next life. วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:11:19:57 น.
  
ตั้งใจจะไม่ซื้อหนังสือใหม่ ในงาน (ตามคนอื่นๆด้วย แฮะๆ)
แต่ก็อดไม่ได้ คว้า ดีไซน์คัลเจอร์ กับ แสงแรกแห่งศตวรรษมา
ดีไซน์คัลเจอร์ ซื้อเพราะเจอบูตฟ้าเดียวกันพอดี
อยากหนับหนุนเค้าหน่อย
ส่วนแสงแรกซื่อเพราะเป็น แควน เรื่องสั้นพี่นิวัติ พุทธปราสาท พักหลังพี่แกไปอินกับพวกเครื่องเสียง เลยไม่ค่อยมีเรื่องสั้นออกมา
ส่วนหนังสือเก่าไม่ได้ซื้ออะไรเลยครับ


โดย: NP IP: 61.7.138.8 วันที่: 11 เมษายน 2551 เวลา:10:13:56 น.
  
อ่านดีไซน์+คัลเจอร์ไปได้ครึ่งเล่มแล้วครับ

ชอบมาก

ที่เหนือชั้น คือ หนังสือเล่มนี้ไม่ได้เน้นที่การออกแบบมากเท่าไร แต่จะไปเน้นถึงผลกระทบของงานออกแบบต่อสังคมมากกว่า

ทำให้คนที่ไม่รู้เรื่องงานออกแบบเลยอย่างผม สามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้อย่างเพลิดเพลินมาก
โดย: ฟ้าดิน วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:4:22:28 น.
  
ชอบอ่านลิสต์หนังสือที่คนอื่นซื้อจังเลยค่ะ
เพราะว่าบางเล่ม เป็นเล่มที่เราไม่เคยเห็น

โดย: fonkoon วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:10:26:35 น.
  



ปีนี้ไม่ได้ไปงานหนังสือเลยค่ะ ไม่งั้นคงได้ขนซื้อหนังสือเยอะเหมือนเคย

หนังสือดีไซน์&คัลเจอร์น่าสนใจมาก ไว้ต้องไปหาซื้อมาอ่านมั่ง

สุขสันต์วันปีใหมไทยนะคะ

โดย: haiku วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:11:24:50 น.
  
ชอบ "ดีไซน์+คัลเจอร์" เหมือนกันครับ เป็นเล่มแรกที่หยิบมาอ่านหลังกลับจากงาน
โดย: calcium_kid วันที่: 12 เมษายน 2551 เวลา:20:04:46 น.
  
อ่านดีไซน์ + คัลเจอร์ จบแล้ว โน้ตไว้ก่อน ไว้จะเขียนถึงอย่างละเอียดกว่านี้อีกครั้งหนึ่ง

เป็นหนังสือที่พออ่านถึงบทสุดท้ายแล้ว ต้องร้องว่า เฮ้ย อย่าเพิ่งจบ ยังอยากอ่านอีก
( คาดว่าคงมีเล่ม 2 เพราะคุณประชา สุวีรานนท์ยังเขียนคอลัมน์ชื่อเดียวกับหนังสืออยู่ในมติชนสุดสัปดาห์)

หนังสือเล่มนี้คือ " การสามารถย้อนกลับมาอ่านให้แตกว่า งานดีไซน์หนึ่งๆ มีรากที่มาอย่างไร ถูกหยิบใช้เละส่งผลสะเทือนอย่างไร จึงไม่ใช่อะไรนอกจากการอ่านประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้อย่างลุ่มลึก แยบคาย ทว่าอาจตรงไปตรงมา และปราศจากการครอบงำเสียยิ่งกว่าการอ่านตำราประวัติศาสตร์วัฒนธรรมฉบับทางการก็ได้" ( จากย่อหน้าสุดท้ายของคำนำสำนักพิมพ์)

บทที่ตัวเองชอบมากที่สุด น่าจะเป็น สำนึก มุมมอง และอุดมการณ์ของแผนที่ ที่คนเขียนร่ายยาวตั้งแต่งานดีไซน์แผนที่ชิ้นคลาสสิกของลอนดอนอันเดอร์กราวด์ มาจนถึงงานศิลปะของวิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ If there is No corruption ที่ใช้แผนผังระบบเครือข่ายรถไฟฟ้าของกรุงเทพมหานคร แล้วต่อด้วยบท ภูมิศาสตร์ของความรู้สึก ( แน่นอนว่าต้องมีการอ้างถึงงาน Siam Mapped : A History of the Geo-Body of a Nation ของ อ.ธงชัย วินิจจะกูล) ทั้งสองบทนี้พูดถึงวาทกรรมเชิงพื้นที่ที่ปรากฏอยู่ในแผนที่อย่างหฤหรรษ์ เพราะแผนที่ทั้งหมดที่ถูกยกมาอ้างถึงในบทแรก ไม่ได้เป็นแผนที่ที่ช่วยหาพิกัดถูกต้อง แต่มันคำนึงถึงความสวยงามด้วย ตัวอย่างเช่นเส้นบางเส้นในแผนที่ของลอนดอนอันเดอร์กราวด์ แทนที่จะเป็นเส้นโค้งตามความเป็นจริงแต่เพื่อความสวยงามต้องถูกทำให้กลายเป็นเส้นตรง หรือร่นระยะทางบางเส้นเพื่อให้สวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนลอนดอน"รับได้" กับความไม่ถูกต้องตรงนี้ แต่พอนำมาหลักการนี้มาใช้กับแผนที่นิวยอร์กซี้ตี้ ซับเวย์ กลับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เห็นคัลเจอร์ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังของแผนที่รถไฟใต้ดินของสองประเทศอย่างชัดเจน

ส่วนบทภูมิศาสตร์ของความรู้สึกนั้น มันคือการบอกว่าการเขียนแผนที่ต้องใช้จินตนาการเหมือนการเขียนนิยาย แถมต้องมีอุดมการณ์การสร้างชาติมารองรับด้วย คือมีพล็อต มีเรื่องเล่า บทนนี้คุณประชาใช้แผนที่อุปมามาแสดงตัวอย่าง ( คือแผนที่ที่มีการตกแต่ง ดัดแปลง หรือบิดเบือนรูปทรงจนกระทั่งกลายเป็นคน สัตว์ สิ่งของ) อุปมาที่ใกล้ตัวที่สุดคือ "ขวานทอง" เป็นอุปมาที่ที่ช่วยสร้างภาพของประเทศซึ่งเป็นพื้นที่มีขอบเขต เขตแดนขึ้นในใจเราทำให้กลายเป็น"รูปร่างหน้าตาของชาติ" ในสำนึกของชาวไทยมาเนิ่นนาน ( อันนี้แค่การเริ่มต้นบทนะคะ ยังสนุกขนาดนี้)

อีกบทที่ชอบมากคือบทที่พูดถึงหนังสือ Very Thai ซึ่งเป็นหนังสือที่เขียนโดย ฟิลิป คอร์นเวล สมิท และถ่ายภาพโดย จอห์น กอสส์ ฝรั่งสองคนที่มาใช้ชีวิตในเมืองไทยมากว่าสิบปีแล้ว หนังสือเล่มนี้บอกว่า มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ถุงพลาสติกใส่น้ำดื่ม ลูกกรง เหล็กดัดและปลักขิกต่างหากที่มีเอกลักษณ์ของคนไทย วิถีชีวิตที่อยู่ตามตรอก ซอก ซอย ตึกแถวและสวนจตุจักร อาจจะ Very Thai มากกว่าสิ่งที่อยู่ในวัดวาอาราม หรือพระราชวัง Very Thai ไม่ยึดติดที่มาหรือรากเหง้า ไม่สนใจว่าสิ่งกำเนิดจะเป็นภูมิปัญญาหรือความมักง่าย ลอกเลียนหรือสร้างใหม่ อิมพอร์ตหรือไพเรต มันอาจจะเป็นประดิษฐกรรมของคนไทยที่ใช้ประกาศฐานันดรใหม่และปลีกตัวออกห่างจากประเพณี อาจจะเกิดจากการหยิบฉวยอะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น เพลงป๊อป ลัทธิบูชาผู้คน ฯลฯ หรือคุณประชาใช้ประโยคภาษาอังกฤษ อธิบาย Very Thai ว่า essence lies not in invention but transformation ทำให้คิดถึงสิ่งที่เคยได้คุยกับวิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ วิชญ์อธิบายความเป็นคนไทยว่า ถ้ามีการตัดถนนแล้วไปเจออุโมงค์ คนญี่ปุ่นหรือฝรั่งอาจจะขุดอุโมงค์ใต้ดิน ทำทางเจาะทะลุผ่านอุโมงค์ไปจนได้ แต่คนไทยจะไม่ทำอย่างนั้น คนไทยจะเดินอ้อม แล้วหันกลับมาบอกเพื่อนๆ ว่าไม่ต้องขุด อ้อมไปทางนี้ก็ได้ ซึ่งพออ้อมไปแล้วอาจไปชนกำแพงก็ได้นะ แต่คนไทยก็ขออ้อมไว้ก่อน -อันนี้เป็นความสนุกของวิธีคิดของคนไทยแบบหนึ่ง


จริงๆ แล้วหนังสือเล่มนี้มันสนุกทุกบทเลย มันทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างล้วนถูก Construct ขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเราจะมองหาความหมายของสิ่งเหล่านั้นเราควรจะ Deconstruct มันเสียก่อน

และมันทำให้เราสำนึกว่า แผนที่ รูปภาพ ไอคอนต่างๆ เสื้อยืด กราฟิก โลโก เก้าอี้ แปรงสีฟัน รถถัง บลา บลา บลา มีคัลเจอร์ของคนทำและอุดมการณ์ของคนในประเทศที่ใช้สิ่งของเหล่านั้น ซุกซ่อนอยู่เสมอๆ


โดย: grappa IP: 58.9.190.27 วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:10:40:11 น.
  
เนื่องจากยังมีหนังสือที่ซื้อจากงานปีที่แล้วกองท่วมบ้านอยู่ เลยตั้งใจว่าจะพยายามไม่ซื้อใหม่จนกว่าจะอ่านของเก่าให้หมดก่อน ซึ่งดูท่าแล้วคงจะไม่ต้องซื้ออีกเป็นปีๆ เฮ่อ...

ภารกิจช่วงนี้คือการตลุย DVD หนังที่ซื้อมาดองไว้ให้หมด ซึ่งดูแล้วคงต้องใช้เวลาอีกเป็นปีๆเหมือนกัน

อา... ความสุขที่แสนเหน็ดเหนื่อย
โดย: แฟนผมตัวดำ วันที่: 13 เมษายน 2551 เวลา:21:54:49 น.
  
อ่านที่พี่เขียนถึงดีไซน์+คัลเจอร์แล้วอยากอ่านหนังสือมาก
ถ้าไม่ได้มาเจอคงคิดว่าเป็นพวกหนังสือสำหรับกลุ่มคนหัวดีไซนน์อะไรพวกนี้แล้วไม่ซื้อแหงๆ
โดย: parallel synchronized randomness IP: 58.8.107.38 วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:2:19:10 น.
  
ชื่อเก๋ไก๋มากคนข้างบน
โดย: Eternal sunshine of the spotless mind IP: 58.9.193.204 วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:11:02:43 น.
  

โอ๊ย เก๋กันไปไหน เอาด้วย
โดย: I love you but I have chosen the darkness (merveillesxx ) วันที่: 14 เมษายน 2551 เวลา:23:00:51 น.
  
จ๋านะคะพี่แป๊ด

เห็นลิสต์หนังสือแล้วอยากมีเวลาว่างนานๆ จะได้ลุยอ่านให้สมใจ

ตอนนี้หนังสือที่ซื้อมาตั้งแต่งานหนังสือปีที่แล้วยังอ่านไม่หมดเลย
โดย: DPN IP: 118.173.248.53 วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:3:06:36 น.
  
โห น้องจ๋านอนดึกมาก
โดย: grappa วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:9:56:37 น.
  
ถามหน่อยสิครับ
Code เพื่อนๆ ใน Bloggang ใช้ Code อะไรครับ

สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ
โดย: คนขับช้า วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:10:51:54 น.
  

พี่แป๊ด ผมดู Sakuran แล้วเฉยๆ อ่ะครับ คือรู้สึกว่าเรื่องมันเบาๆ ไปหน่อย (แหม นึกว่าจะมีตบตีๆๆๆ กันเยอะๆ 555) ตอนจบยิ่งไม่ชอบใหญ่เลย แต่ชอบการใช้สี / เพลงประกอบ เปรี้ยวดี

ป.ล. หมาตายแล้วเรียบร้อยเมื่อเช้านี้ (ก็สมควรแก่กาล 13 ขวบแหล่ว)
โดย: merveillesxx วันที่: 15 เมษายน 2551 เวลา:19:22:47 น.

A-wild-sheep-chase.BlogGang.com

grappa
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]

บทความทั้งหมด