*~+*~+*~+ เถ้าถ่านแห่งวารวัน *~+~*+~*+


เถ้าถ่านแห่งวารวัน
คาสิโอะ อิชิงุโระ เขียน
นาลันทา คุปต์ แปล
จากต้นฉบับภาษาอังกฤษ
The Remains of the Day
แพรวสำนักพิมพ์ ,250 หน้า ,195 บาท

หนังสือเล่มนี้บอกเล่าถึงความคิดคำนึงของพ่อบ้านชาวอังกฤษ ที่มองย้อนกลับไปถึง "เจ้านายเก่า" และ"ความรักครั้งเก่า " (สำหรับประเด็นหลังนี้เจ้าตัวพยายามเก็บไว้ในซอกหลืบของลิ้นชัก และใส่กุญแจปิดสนิท)

เรื่องเปิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1956 สตีเวนส์ พ่อบ้านแห่งคฤหาสน์ดาร์ลิงตันฮอลล์ ประเทศอังกฤษ ได้รับวันลาพักร้อนจากเศรษฐีอเมริกันเจ้าของคฤหาสน์คนใหม่ ซึ่งกลายมาเป็นเจ้านายคนใหม่ของสตีเวนส์ไปด้วย ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนนี่เองที่สตีเวนส์ครุ่นคิดถึงการทำงานของเขา และความคิดคำนึงของเขาก็กลับไปสู่เมื่อครั้งทำงานกับลอร์ดดาร์ลิงตัน เจ้านายคนเก่าของเขา ผู้เขียนวาดภาพให้ผู้อ่านเห็นว่าลอร์ดดาร์ลิงตันเป็นขุนนางที่ทำหน้าที่สำคัญในช่วงประวัติศาสตร์หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เหมือนกัน

วันเวลาในการดำเนินเรื่องย้อนกลับไปถึงช่วงปี 1923 เมื่อครั้งที่ประเทศเยอรมันเป็นประเทศแพ้สงคราม (จากสงครามโลกครั้งที่ 1 ) ประเทศชนะสงครามคือ อังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส และอิตาลี ได้ร่างสนธิสัญา แวร์ซายส์ ขึ้นเพื่อเรียกค่าปฏิกรรมสงครามจากเยอรมันเป็นจำนวนมาก ผู้เขียนเรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นว่า ลอร์ดดาร์ลิงตัน ไม่เห็นด้วยกับสนธิสัญญานี้เป็นอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพราะอุดมการณ์ทางการเมือง แต่เป็นเพราะ มิตรภาพของท่านลอร์ดเอง กับ นายทหารชั้นสูงชาวเยอรมันท่านหนึ่ง "เขาเคยเป็นศัตรูของผม" " แต่เขาประพฤติเช่นสุภาพบุรุษเสมอ เราให้เกียรติกันตลอดช่วงเวลากว่าหกเดือนที่ทิ้งระเบิดใส่กัน เขาเป็นสุภาพบุรุษที่ทำหน้าที่ของตัวเอง และผมก็ไม่ได้มุ่งร้ายใดๆ ต่อเขาเลย ผมเคยพูดกับเขาว่า 'นี่แน่ะ ตอนนี้เราเป็นศัตรูกัน และผมจะต่อสู้กับคุณอย่างสุดกำลัง แต่เมื่อเรื่องบ้าๆ นี่จบลง เราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูต่อกันอีก และเราจะดื่มร่วมกัน' "ลอร์ดดาร์ลิงตัน เองหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ก็เดินทางไปเยอรมันหลายครั้ง ครั้งหนึ่งเขากลับมารำพึงรำพันกับสตีเวนส์ว่า

"น่าสะเทือนใจ สตีเวนส์ น่าสะเทือนใจเป็นที่สุด เราเสื่อมเกียรติไปมากทีเดียวที่ทำกับศัตรูที่พ่ายแพ้เช่นนี้ เป็นการทำลายธรรมเนียมของประเทศนี้อย่างสิ้นเชิง"

นอกเหนือจากการทบทวนประวัติศาสตร์ ที่ประเทศชนะสงครามกระทำกับประเทศแพ้สงครามแล้ว Theme หลักของหนังสือเล่มนี้ อยู่ที่ "ศักดิ์ศรี" ในการทำงาน ผู้เขียนทำให้ผู้อ่านเข้าใจการทำงานของ พ่อบ้าน ที่ทำหน้าที่เหมือนหัวหน้าคนรับใช้ในคฤหาสน์ ที่มีคนทำงานบ้านอยู่ถึง 17 คนได้อย่างละเอียดยิ่ง

ในเบื้องแรกที่อ่านหนังสือเล่มนี้ จขบ. ไม่ชอบหนังสือเล่มนี้เท่าใดนัก ด้วยว่า"วิถีแบบอังกฤษ" "เรื่องราวของชนชั้นขุนนาง" "อารมณ์หวนหาอดีต" ผนวกกับการต้องทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ที่ปูพื้นอยู่เบื้องหลังหนังสือเล่มนี้อยู่บ้าง ทำให้เข้าถึง เรื่องนี้ได้ไม่มากนัก แต่เมื่อก้าวข้ามเรื่องเหล่านี้ไปได้ ก็พบว่า นี่คือหนังสือที่ว่าด้วย ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ที่เล่าได้อย่างลึกซึ้งและละเมียดละไมเป็นอย่างยิ่ง คนแปลก็ทำหน้าที่ส่งผ่านงานชิ้นนี้ได้อารมณ์ร่วมสมัยกับเหตุการณ์ในท้องเรื่องได้ดี

เอารูปคนเขียนมาฝาก ผู้เขียนเป็นชาวญี่ปุ่น อยู่ที่ญี่ปุ่นจนถึงอายุแค่หกขวบ แล้วไปโตและเรียนหนังสือที่อังกฤษ เป็นนักเขียนมือรางวัลมากมาย ตอนอ่านหนังสือเล่มนี้ จขบ.ยังเผลอนึกว่า "คนอังกฤษ" เขียนเองเสียอีก



หนังสือเล่มนี้ถูกทำเป็นหนังด้วย เข้าฉายเมื่อปี 1993 นักแสดงนำคือแอนโทนี่ ฮอปกินส์ (ฮันนิบาลคนนั้นล่ะค่ะ )
จขบ.ยังไม่ได้ดูหนัง แต่เดาออกจากโปสเตอร์ สงสัยหนังจะเน้นเรื่อง"ความรัก" ของสตีเวนส์ด้วย



เชียร์ให้อ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ



Create Date : 06 มิถุนายน 2549
Last Update : 31 สิงหาคม 2557 15:40:02 น.
Counter : 3293 Pageviews.

57 comments
  
เต้ยอ่านแล้วล่ะค่ะพี่

แต่อาจเป็นเพราะ "ขนบ" บางอย่าง วิธีคิด วิธีเล่าเรื่องของเค้ามันช่าง "เก็บกด" ซะจนเรา (คนอ่านอย่างเต้ย) อึดอัดคับข้องเหลือเกินกับสิ่งที่เค้าคิดและดำเนิน

อะไรจะต้องเก็บความรู้สึกไว้กับตัวถึงเพียงนั้นหนอ

แล้วยิ่งบทสรุปเป็นอย่างนั้นด้วยแล้ว ก็เลยยิ่งแบบ..ถอนหายใจยาวน่ะค่ะ

อ่านแล้วอึ้งงันบอกไม่ถูก
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:9:25:22 น.
  
โย่วๆ มีเป็นของตัวเองแล้วค่า
แต่ยังอ่านไม่จบเลย
มัวแต่ไปอ่านนิยายน้ำเน่าอยู่ค่ะ^^'




...
โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:9:26:13 น.
  
ซื้อมาแต่ยังไม่ได้อ่านค่ะ งั้นเด๋วหยิบเล่มนี้ขึ้นมาไว้ชั้นบนสุด สำหรับอ่านในเร็วๆนี้ก่อนนะคะ
ตอนนี้มัวแต่ติดใจ เมนูปราถนา รอบสองอยู่น่ะค่ะ ติดใจ คุณ ฮิมิโตะ เอามากๆแล้ว ( อิฉันเล่าให้ผู้พันฟังจนเค้าอยากอ่านขึ้นมาบ้าง)
ยิ่งเธอพูดถึงอาหารต่างๆอันเจือปนกับหลากอารมณ์แล้ว อึ้ง ค่ะ แต่ก็น้ำลายสอตามอารมณ์เธอไปด้วย โดยเฉพาะผัดกระหล่ำปลีของโปรด
แหม...ชายคนที่เธอรักที่จะเห็นเวลาทำครัวเนี่ย ภาพมัน อยู่ใกล้ๆตัวอิฉันนี่เอง
ปล.คุณแป๊ดสบายดีนะคะ
โดย: นางกอแบกเป้ วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:9:33:13 น.
  
เข้ามาทักทายจ้า
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:9:40:00 น.
  
หวัดดียามเช้า ทุกคนนะค้า

โอ้ อิจฉาคุณนางกอมั่กๆ มีคนที่รักทำอาหารให้กิน แต่อิชั้นน่ะอยากทำอาหารให้คนที่เรารักอ่ะดิ

ป.ล. วันนี้เป็นหวัดเล็กน้อยค่ะ เมื่อคืนไปดื่มมานิโหน่ยยยยยย (ไม่เจียมสังขารอันชราภาพของตัวเองเล้ย )

โดย: grappa วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:9:47:39 น.
  
เคยดูหนังและประทับใจหนังค่อนข้างมาก

คุณ grappa เคยแนะนำหนังสือเล่มนี้แก่ผมมาครั้งนึงแล้ว ยังไม่ได้ไปหาซื้อมาอ่านเลย ขอบคุณที่นำมาพูดถึงอีกครั้งนึง ผมคงไปหาซื้อมาอ่านเร็วๆ นี้ครับ
โดย: สะเทื้อน วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:10:00:12 น.
  
เคยดูหนังเรื่องนี้ครับ
ทางช่อง HBO มั้ง ถ้าจำไม่ผิด
แต่ก็ดูนานมาแล้ว
รายละเอียดในหนังก็จำไม่ค่อยได้ครับ เพราะได้ดูแค่ครั้งเดียว
ตั้งใจจะซื้อหนังสือ ก็ไม่ได้ซื้อสักที
โดย: King Of Pain วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:10:34:56 น.
  
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมและบอกข่าวกันค่ะ พี่ grappa

เข้าไปดูหนังสือในเวปสำนักพิมพ์ของ viggo ที่ชื่อ Perceval Press เรื่อยๆ ค่ะ แต่หลังๆ ไม่ค่อยอยากไปเลย เพราะเข้าไปเยี่ยมทีไร เสียตังค์ทุกที

remains of the day ยังไม่ได้อ่านและหนังก็ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ได้ดูแต่ howards end ของผู้กำกับคนเดียวกันคือ James Ivory (แกเป็นอเมริกันที่ชอบทำหนังอังกฤษจัง)

โดย: เดอะ กั้ง วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:13:48:15 น.
  



Happy Tuesday นะคะ

โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:14:01:11 น.
  
หวัดดีตอนบ่ายๆจ้า
โดย: asariss วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:14:07:19 น.
  
ได้หนังสือเล่มนี้มาครอบครองแล้วอ่ะค่ะ หาฤกษ์อ่านอยู่ แฮ่ะๆ แต่โดยส่วนตัวชอบเรื่องที่มีเนื้อหาโหยหาอดีต รำลึกอดีตอยู่หน่อยๆ คิดว่าน่าจะชอบ ^ ^
โดย: bookmark IP: 202.29.32.186 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:14:14:54 น.
  
ท่าทางเป็นหนังสือน่าอ่านดีครับ แต่ไม่รู้ว่าแตกต่างจากหนังขนาดไหน แต่หนังก็ดันไม่ได้ดูอีก
โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:14:59:47 น.
  
เคยดูหนังมาก่อนค่ะ แต่ชอบจำอารมณ์ปนกับอีกเรื่องที่แอนโธนีเป็นเจ้าของร้านขายหนังสือซะงั้น

หนังสือนี่ยังไม่ได้ฤกษ์อ่านซะที คงเหมือนกันคนทั่วไป นิยายรักนำหน้า วรรณกรรมตามหลัง 555 (ไม่ตกขบวนก็ดีถมแล้ว)
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:15:55:37 น.
  
เพิ่งไปซื้อมา(ดัวยบัตรส่วนลด555)
แต่ยังไม่ได้อ่านเลยยยยยย
(สังวันจะโดนกองหนังสือทับตาย!)
โดย: สายลมอิสระ IP: 58.147.69.252 วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:16:13:13 น.
  
Image Hosted by ImageShack.us
โดย: erol วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:18:03:56 น.
  
เปลี่ยนโฉม Blog ใหม่ได้ยอดเยี่ยมมากครับ
โดย: POL_US วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:18:46:12 น.
  
มาเมื่อเช้าอีกแบ็คกราวด์

ตอนนี้อีกแบ็คกราวด์

ชอบแบ็คกราวด์อันนี้ค่ะ สวยดี คลาสสิค นุ่มนวล ชอบๆ

แวะมาหาก่อนกลับบ้านค่ะ มาอ่านคอมเม้นท์คนอื่นๆ ด้วย
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:20:08:37 น.
  
^
^ หาแบ็คกราวด์ ที่เข้ากับหนังสือไง

กลับบ้าน ค่ำนะ สาวไกด์ เจอฝนไหมนี่
โดย: grappa วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:20:33:14 น.
  
หนังน่าดูนะคะ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่บล็อกค่ะ
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 6 มิถุนายน 2549 เวลา:23:34:42 น.
  
ยังจับๆวางๆอยู่ค่ะ เนื่องจากเปี่ยมไปด้วยบทบรรยาย ปุ๋ยแพ้บทบรรยาย แหะๆ

พี่แป๊ด วันโน้นอุตส่าห์หอบแม่ไก่ฯไปให้นา เสียดายจังที่ไม่ได้เจอกัน
โดย: มณฑารัตน์ IP: 58.8.136.92 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:0:00:05 น.
  
มันจะอ่านยากเหมือน ความเบาหวิวฯ ไหมเนี่ย อ่านมานานแล้วไม่จบสักที
เห็นชื่อหนังสือออกแนวปรัชญาหน่อยๆ
โดย: poser IP: 58.9.17.92 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:1:02:09 น.
  
^
^ แตกต่างกันเยอะค่ะ หนังสือคนละแนว เรื่องนี้อ่านง่ายกว่ามาก

แต่ จขบ.ก็ชอบงานของมิลาน คุน เดอ รา ผู้เขียนความเบาหวิวเหลือทนของชีวิต เหมือนกัน ไว้วันหลังจะแนะนำ
โดย: grappa วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:7:28:02 น.
  
หวัดดีค่ะ พี่แกร๊ป

เคยดูหนังเรื่องนี้นานแล้วเหมือนกัน ออกจะเลือนๆไปบ้างละ ต้องไปคุ้ยดูในกองซีดีอีกที

ปล. วันศุกร์นี้ได้หยุดมั๊ยอ่ะคะ จุ๊บลุ้นอยู่เลย ว่าจะได้หยุดยาว 5 วันมั๊ย
โดย: จุ๊บ ^_^ IP: 203.155.9.138 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:7:44:54 น.
  
เพลงอัลบั้ม Be My Guest โบว์ชอบทุกเพลงเลยค่ะ
แต่ยังไม่ได้เปิดเพลงของมัมค่ะ^^



...

โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:11:24:54 น.
  
คิดถึงนะคะ
วันนี้มีความสุข ตื่นอย่างสดใส และ มีแนวโน้มจะได้กินไอติมวานิลลา ละค่ะ
โดย: นางกอแบกเป้ วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:12:13:01 น.
  




สวัสดีวันสีเขียวจ้า
โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:14:37:42 น.
  
. Remains of the Day จับหลายครั้งแล้วค่ะ แต่ไม่ได้ซื้อสักที
. วู้ว ฮันนีบาล!
. อยากดู เดธโน๊ต เช่นกันค่ะ ดูเบื้องกลังการถ่ายทำแล้วซี้ดๆ
. มีหัวแตงโมใน Free Form ด้วย
โดย: Crisis IP: 58.8.102.59 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:19:24:14 น.
  
เข้ามาชอบเรื่องนี้ด้วยคนค่ะ หนังสือเขียนดีเชียว (ภาษาดีมากๆๆๆ เหมือนคนอังกิดเขียนเลยค่า) หนังก็ประณีต เป็นเรื่องที่ดีของอิชิกุโร่เลยนะคะ หลังจากเขียนเรื่องนี้แล้ว เขาก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เรื่องหลังๆไม่ค่อยชอบเลย มาแป้กเอาจริงๆก็คือเรื่อง When we were orphan ที่โดนนักวิจารณ์ด่ายับ แต่เห็นว่าเขากลับมาตีตื้นได้อีกครั้งอย่างเต็มภาคภูมิกับ never let me go นะคะ (ซึ่งหนูก็ยังไม่ได้อ่านเหมือนกันค่ะ แหะ แหะ)

remains อ่านง่ายกว่างานของคุนเดอร่าค่ะ คุนเดอร่าจะลึกซึ้งและแยบยลกว่าในแง่ของปรัชญา แต่หลังๆคุนเดอร่าก็เงียบฉี่ไปเลยนะคะ เหมือนพรสวรรค์หดหาย งานใหม่สู้งานเก่าๆอย่าง immortality, unbearable ไม่ได้เลยค่ะ เสียดายเหมือนกัน
โดย: petitfour IP: 203.107.205.126 วันที่: 7 มิถุนายน 2549 เวลา:20:52:47 น.
  
Image Hosted by ImageShack.us
โดย: erol วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:0:14:55 น.
  
เคยดูแต่หนังครับ จำอะไรไม่ได้มากแล้ว จำได้แต่มีซุปเปอร์แมนเล่นด้วย / ผมว่าประเด็นเรื่องศักดิ์ศรี คนญี่ปุ่น - อังกฤษ ให้ความสำคัญเรื่องนี้เหมือนๆกันนะครับ นี้อาจเป็นตัวเชื่อมให้คาสิโอะ อิชิงุโระ เขียนเรื่องนี้ออกมาได้ดี
โดย: lomocat วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:1:49:09 น.
  
มีหนังสือ ดีๆ มาแนะนำอีกแล้ว
อ่านไม่ทันเลยครับนี่
คุณ grappa ทำได้ไง
ขยันจริงๆ
โดย: แร้ไฟ วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:2:29:07 น.
  
I used to partly watch this movie.

I saw this book at Book fair as well but I didn't buy it. I also wondered that the author is Japaense man but after reading your blog I understand why he can write about this kind of book.

โดย: cottonbook วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:7:01:41 น.
  
ยังไม่ได้อ่านนะคะ ได้หนังสือมาแล้วก็ยังไม่ได้อ่านเลยค่ะ
มาถามก่อนออกไปทำงานว่า กฎของเมอร์ฟี่เค้าว่ายังไงเหรอคะ
โดย: rebel วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:8:00:23 น.
  
ช่วงนี้รอบอลโลกอย่างเดียวเลย
ขนาดกำลังภายในเรื่องที่รอคอยกำลังจะออกยังไม่อยากอ่านเลยพี่

=)
โดย: hunjang วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:8:33:22 น.
  
ช่วงนี้ห่างจากวรรณกรรม (ที่เค้าว่าเป็นวรรณกรรม...ไม่รู้จะจำกัดความยังไง) พอสมควรครับ

อ่านแต่วรรณกรรมเยาวชน อย่าง เมอร์ลิน (ตอนเด็กรันทดจริง ๆ)

โดย: ShadowServant IP: 125.25.12.91 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:13:13:48 น.
  
อยากดูหนังเรื่องนี้นานแล้ว

ขอเริ่มจากหนังก่อนดีกว่านะคะ แล้วว่าง ๆ จะลองหามาอ่านดู

โดย: unwell (unwell ) วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:17:08:35 น.
  
เรื่องที่พูดถึง และแอนโธนีเป็นเจ้าของร้านหนังสือ คือ 84 Charing Cross Road ของ Helene Hanff ค่ะ

นอกจากจะเป็นบรรยากาศหาหนังสือในร้านแล้ว ยังเป็นการโต้ตอบจดหมายทั้งเรื่อง อ่านก็ได้อารมณ์ ดูหนังก็อิน ชอบเรื่องนี้มากเลย
โดย: ยาคูลท์ วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:17:29:43 น.
  
โหย บล้อกตกแต่งใหม่ซะดูออกแนวฮิปๆ แต่ผนังบุวอลเปเปอร์ซะลายคลาสสิคเชียว ตกลงแนวไหนเนี่ย วู้

หนังสือเรื่องนี้เคยเปรยๆเขียนถึงแล้วนิ แล้วผมก็บอกว่ากะจะไปซื้อมาอ่าน จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ซื้อมาอ่านเหมือนเดิม 555 แต่ถ้าจะอ่านเรื่องแนวๆนี้ รุ้สึกว่าตัวเองจะต้องอารมณ์นิ่งๆด้วยอ่ะ ถึงจะอ่านจบ ตอนนี้เลยลุ้นสืบสวนเหมือนเดิม อุอุ

เอ แต่เห็นชื่อลอร์ดดาร์ลิงตันกับพ่อบ้านชื่อสตีเวนแล้วนึกถึงเรื่องสเตรนจ์กับมิสเตอร์นอเรลเลยน่ะ คงเพราะเรื่องนี้ผู้เขียนแกเอาเค้าโครงเรื่องจริงมาใช้ด้วย แล้วมีพ่อบ้านชื่อนี้เป็นตัวละครหลักตัวนึงในเรื่องด้วยน่ะ (แต่คนละบ้านกับท่านลอร์ดนี้น่ะ๗ ไม่รู้ จขบ อ่านเรื่องนี้ยัง ผมว่าบรรยากาศในหนังสือเรื่องนี้สุดยอดมากๆ ชอบการพรรณณาสภาพแวดล้อมของผู้เขียนจริงๆ
โดย: ข้าวตู วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:21:37:31 น.
  
ชอบปกหนังสือมากครับ ตอนออกใหม่ๆ ก็หยิบมาอ่านคร่าวๆ หลายหน้าแล้วน่าสนใจมากครับ แต่ผมก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานที่ควรทราบก่อนอ่าน
ด้วยเหตุฉะนี้จึงยังไม่ได้ซื้อมาเก็บเข้ากรุน่ะครับ
หนังสือเต็มบ้าน ยังไม่ได้อ่านเยอะมาก

ช่วงนี้แบ็คกราวนด์สวยทุกอันเลยนะคร๊าบ ชอบๆ
โดย: BAYROCKU วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:8:32:37 น.
  




Happy Holiday นะคะ

โดย: อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:12:08:17 น.
  
ตอนแรกว่าจะซื้อมาอ่าน แต่กลัวเครียดน่ะค่ะเลยยังไม่ได้ซื้อเลยนะ
โดย: foneko (fonkoon ) วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:13:52:49 น.
  
หึๆ ท่าทางคนเขียนจะเป็นคนอังกฤษ-ญี่ปุ่น ที่เป็นมากกว่าคนอังกฤษแท้ๆด้วยซ้ำนะครับ เหอๆ
โดย: นายเบียร์ วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:1:18:19 น.
  
อืม น่าสนใจครับ แต่ช่วงนี้ไม่มีเวลาอ่านหน้งสือเลย
โดย: ปรีดา (Aka Prita ) วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:9:01:09 น.
  
ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมค่ะ ว่าจะทักว่าพอดีว่ามีเป็นหนังด้วยใช่ไหม

โหลด trailer DN มาดูแล้ว ลุคเท่สุดๆไปเลยค่ะ แอลก็ดูดี แต่ไลท์หน้าบานมากๆเลย
โดย: Thebrightestsunisthepurestgun วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:12:31:00 น.
  
เมื่อวานอยากไปราชดำเนินมากๆ คิดถึงพี่แกร๊ปเลยค่ะ ว่าจะไปขอพึ่งซะหน่อย แต่แล้วก็อดไปจนได้

โดย: Black Tulip วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:20:41:46 น.
  
โดย: โสมรัศมี วันที่: 10 มิถุนายน 2549 เวลา:20:54:38 น.
  
หายไวๆนะครับ
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
ผมเองก็ร่ำๆจะเปื่อยไปเหมือนกัน
โดย: เซียวเปียกลี้ วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:0:36:38 น.
  
กรี๊ดดดดดด รูปคนเขียนหล่อจัง เคยเห็นแต่รูปที่ตี๋เป็นบ้าอ่ะ

พี่เขียนดีจัง ทำให้หนังสือดูมีค่าขึ้นมาจม (หรือขึ้นมาลอย???)
โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:15:19:35 น.
  
หนังสือปกสวยดีค่ะ ดูแล้วน่าอ่านดีแต่คาดว่าคงจะไม่ใช่สไตล์เรา ก็เลยแอบอ่านบล็อกอื่นๆ ที่เขียนถึงหนังสือของมูรากามิดีกว่า

ขอบคุณที่แวะเข้าไป comment ที่ blog นะคะ เลยได้มีโอกาสมาเยือน blog ของคุณ grappa ด้วย เพิ่งจะรู้นะคะเนี่ยว่าร้านหนังสือเดินทางเปิดแล้ว เห็นคุณหนุ่ม หนังสือเดินทางไม่ได้เขียนบทความใหม่ใน onopen.com เลย สงสัยอยู่เหมือนกันว่าแกหายไปไหน

กลับมาอ่าน blog ที่ตัวเองเขียนอีกครั้ง ใช่ค่ะ ตั้งคำถามและคิดมากจริงๆ อ่านดูแล้วรู้สึกว่า ฉันฟังดูเศร้าขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

เขียนยาวไปหน่อยขออภัยค่ะ
โดย: Chapter 1-17 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:19:28:37 น.
  
ดี
โดย: น IP: 202.133.154.132 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:16:31:03 น.
  
แวะมาเยี่ยม...มีlinkมุราคามิด้วย
เยี่ยมมาก
โดย: alienboon IP: 124.120.165.187 วันที่: 12 มิถุนายน 2549 เวลา:21:55:48 น.
  
ยังไม่เคยอ่านค่ะ แต่ว่าเคยดูเป็นหนังแล้วทาง ubc รู้สึกชอบหนังเรื่องนี้จัง ชอบวิธีการดำเนินเรื่องแบบเรียบๆเงียบๆ แต่เข้าถึงหัวใจของสตีเว่นส์น่ะค่ะ โดยส่วนตัวแล้วก็เป็นคนไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ เลยเข้าใจว่าการเก็บความรู้สึกไว้กับตัวมันเป็นยังไงน่ะค่ะ

ส่วนฉากโปรดก็คงเป็นเวลาพ่อบ้านสตีเว่นส์จัดการงานต่างๆ พวกคนอังกฤษกับคนญี่ปุ่นนี่มีขนบที่แสวงหาความเพอร์เฟค และให้ความสำคัญกับหน้าที่มากกว่าคนไทยมาก
โดย: โทยะ อากิระ IP: 124.121.30.74 วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:15:58:17 น.
  
หยิบๆเล่มนี้อยู่ สี่หน้าครั้งแล้วค่ะ

วันพรุ่งนี้คงได้ไปเอามาอ่าน

ขอบคุณมากนะคะ
โดย: โตมิโต (โตมิโต กูโชว์ดะ ) วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:18:19:07 น.
  
แวะมาหาอีกรอบค่ะ

อ้อ..เปลี่ยนแบ็คกราวด์ให้เข้ากับหนังสือนี่เอง ปราณีตดีจังค่ะพี่

วันนั้นก็รอให้ฝนหยุดแหละค่ะ แล้วถึงค่อยกลับบ้าน

แหะๆ พอดีเพิ่งกลับมาเลยเพิ่งมาตอบนะคะพี่
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:19:18:26 น.
  
ดูหนังแล้วค่ะพี่ เมื่อนานมาแล้ว (สิบปีแล้วมั้ง)

ตอนนั้นยังละอ่อน ไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในเรื่อง... เหอะๆๆ

หนังสือเล่มนี้ ติ๊กเอาไว้ในใจ เดี๋ยวจังหวะดีๆ จะไปหาซื้อมาอ่านค่ะ

พี่แป๊ดสบายดีนะคะ หนูไปเอา "ของ" มาเรียบร้อยแล้วค่ะ ... ขอบคุณนะคะพี่
โดย: Mutation วันที่: 13 มิถุนายน 2549 เวลา:22:37:15 น.
  
อยากอ่านจังค่ะ เดี๋ยวไปซื้อ

ปล บล็อกโฉมใหม่สวยดีค่า ^_^
โดย: yodmanud^ying IP: 202.139.210.238 วันที่: 14 มิถุนายน 2549 เวลา:4:02:24 น.
  
ผมอ่าน...แล้วนึกถึงหนัง remains of the day อ่านไปจนจบ โอ้ว...มันคือที่มาของหนังเรื่องนี้หรือนี่!!!!

หนังเรื่องนี้สุดยอดเลยพี่ ซึ้ง และเหงาๆดี
แอนโทนี่ ฮอปกินส์ กับเอมม่า ทอมสัน ก็เล่นได้ยอดมากเลยครับ
โดย: โลเล IP: 58.9.183.12 วันที่: 4 กรกฎาคม 2549 เวลา:4:10:46 น.

A-wild-sheep-chase.BlogGang.com

grappa
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]

บทความทั้งหมด