เข้ามาเยี่ยม

สวัสดีค่ะปีใหม่ค่ะ

  

555 วาทกรรมโยนีวิปลาส

น้องต่อ merveillesxx เขาเป็นเจ้าเป็นการเก็บข้อมูล (เดาเอาและคาดว่าได้นิสัยในการเขียนแบบนี้มาจากคุณพี่แมดเดอลีนแห่งบอร์ดไบโอสโคป) แถมเขียนหนังสืออ่านสนุก อ่านไปฮาไป มุกต่าง ๆ ก็คิดได้ไงไม่รู้

รายละเอียด ฮีเก็บทุกเม็ด ประหนึ่งว่า ต่อเอ่ย แกดูคอนเสิร์ตไปแกจดไปหรอ

สามารถมาก พี่ grappa คิดเหมือนผมไหม

น่าจะเปลี่ยนสายไม่ต้องเรียนละอีคอนน่ะ มาเขียนหนังสือขายดีกว่า (เน้นว่าต้องเป็นหนังสือประเภทจิกกัดชาวบ้านคงจะยิ่งขายดีเป็นเทน้ำเทท่า)

-----------------------------

พูดถึงต่อยาวไปล่ะ เอาเรื่องในบล็อกบ้าง เดี๋ยวชาวบ้านจะงงว่านี้มันบล็อก grappa หรือบล็อก merveillesxx

ปีที่ผ่านมาผมได้อ่านหนังสือไม่มากเท่าใดนักครับ แต่ที่อ่านก็ชอบมากหมดเลย

1. แกะรอยแกะดาว (ชื่อเวบของคุณพี่ grappa) ของมูราคามิ

ผมเคยอ่านพินบอลเมื่อตอนซัมเมอร์ปีสาม พบว่าอ่านเพชรพระอุมาได้ไวกว่าประมาณสามเท่า แต่กับเรื่องนี้อ่านวันเดียวโลด จบเอาตอนตีสาม สนุกเป็นบ้าเลยแฮะ

ผมทึ่งกับการเขียนหนังสือของมูราคามิมาก เขาบอกว่าเขาเขียนไปเรื่อย คิดอะไรออกก็เขียน ไม่ได้แพลนว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ดังนั้นเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะจบยังไง (เก่งอ่ะ เขียนจบได้โดยไม่ออกทะเล ไม่เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่อง ต้นเรื่องกับท้ายเรื่องนี้มันคนละเรื่องเลย)

2. เกิดวังปารุสก์ :พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์

ในบรรดาสามเล่ม (สามภาค) ผมชอบภาคที่หนึ่งมากที่สุด อาจเป็นเพราะว่าช่วงนี้สนใจเรื่องเจ้าเป็นพิเศษ อ่านแล้วได้รู้อะไรเยอะครับ

อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่าเป็นเจ้านี้ลำบากจริง ๆ (แต่เหนื่อยคนละแบบกับที่ มจ.อากาศดำเกิงเขียนไว้ในนวนิยายเรื่อง ละครแห่งชีวิต นะครับ)

3. 20th centery boys : นาโอกิ อูราซาว่า (นับการ์ตูนด้วยละกันน่ะ)

สุดยอดการ์ตูนแล้วครับ ไม่รู้จะพูดยังไงดี มันต้องหาอ่านเอง แต่สุดยอดจริง

หมดแล้วครับ ของผม ปีนี้อ่านหนังสือน้อยจริง ๆ

ตอบมายืดยาว ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

  

  

สวัสดีค่ะคุณ grappa

พึ่งเข้ามาอ่านบล็อกคุณเป็นครั้งแรกค่ะ

คิดว่าต่อไปนี้คงจะเข้ามาอ่านแบบไม่พลาดเลย

ขอบคุณที่แนะนำหนังสือและบล็อกดีๆ แบบนี้นะคะ

  

Murakami
ชอบ "แกะรอยแกะดาว" ที่สุดในสี่เล่มนี้ค่ะ (แต่เล่มของมุราคามิที่อ่านแล้วลืมไม่ลงจริงๆ กลับเป็น "ด้วยรัก ความตายและหัวใจสลาย" กับ "สปุตนิค สวีตฮาร์ต")

เมนูปรารถนา
-อ่านแล้วน้ำตาไหลเงียบๆ ...เรื่อง "Alone in the Kitchen"
- อ่านแล้วตายดับดิ้น... เรื่อง "Who can sex you like me? Noboby, baby"
-อ่านแล้วร้องกรี๊ดๆ ในใจ...เรื่อง "หลง"

เขียนอะไรก็ไม่รู้ อ่านไปจี๊ดไปค่า

  

เพราะอ่านสดับลมขับขานเป็นเล่มแรก
จึงทำให้ไม่หยิบหนังสืออะไรของมูราคามิมาอ่านอีกเลย ก็มันไม่เข้าใจจริงๆ ครับ เฮ้อ

  

Have a nice day ka

  

ตาปกป้อง เรียน มธ รุ่นเดียวกะหมี แต่หนังสือเค้าน่าอ่านจริง ๆ

  

เข้ามาอีกที อ่านรู้เรื่องค่ะคุณ Grappa ยังคิดเทียบกับตัวเองว่าอ่านแต่นิยาย+หนังสือแปลที่ให้ความบันเทิงเป็นหลัก ปีที่แล้ว หนังสือที่ถึงขั้นประทับใจก็นึกไม่ค่อยจะออกกับเค้าเลย

  

หนังสือของมูราคามินี่ผมไม่เคยซื้อเลยอ่าครับ เพราะก่อนซื้อจะลองอ่านคำโปรยปกหลัง(หลายๆเล่มของเค้าแล้ว)งงทุกทีว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เลยไม่ได้ซื้อ 555

หนำซ้ำ ตอนไปร้านหนังสือเล็กๆร้านนึง น้องหนูคนขาย(น่าร้ากก)คนนึง แนะนำให้ซื้อมูราคมมิไปอ่าน เธอรับรองว่าดีๆ ผมเลยบอกว่าวรรณกรรมญี่ปุ่นผมชอบอ่านแต่แมวเหมียวสามสีกับคินดะอิจิมากๆ เธอทำหน้างุนงงแอนด์กลัวๆ (หยั่งกะป๋มเป็นคนโรคจิตแน่ะ) แล้วรีบโฉบกลับไป แง่ะ ก็ผมอ่านแต่สืบสวนเลือดสาดแล้วผิดรึนี่ รู้งี้ฟอร์มหยิบพวกชิคลิทซื้อซะเลย โฮ่ๆๆๆ (เสียสติ)

ของคำ ผกา เคยอ่านตอนเธอเป็นฮิมิโกะเล่มแรก พอมาอ่านเรื่องจดหมายจากสัน...(อะไรซักอย่างเนี่ล่ะ) แล้วเฉยๆอ่าครับ เลยไม่ได้ตามงานเธอต่อ แต่เคยอ่านบทสัมภาษณ์เธอจากจีเอ็มแล้ว เธอเจ๋งจริงๆ

  

โอ่ะ ลืมบอกว่าเพลงชิลเจงๆ นึกไม่ออกว่าฟังจากชุดไหนหรือของใคร แต่ฟังบ่อยมาก

  

อืม น่าอ่านครับ

  

เข้ามาแล้วได้สาระประโยชน์ดีค่ะ

  

อ่านของพี่จบ ก็มานั่งนึกหนังสือท๊อปๆ ของตัวเองบ้าง
.........ท๊อปๆ ของแอน ก็มี..
1. 11 นาที ของ เปาโล
2. ความรักจากฉัน ความทรงจำสู่เธอ
........
แหะ แหะ นึกออกแค่นี้เอง..

แล้วตอนนี้ พี่มีหนังสือดี ดี แนะนำมั๊ยคะ...

  

ไปที่กรุ๊ปบล็อกหนังสือ (หมวดของบล็อกแกงค์) ก็เห็นพี่ขึ้นหัวข้อไว้ แต่พอคลิกไปก็บอกยังไม่ได้ publish ตลอดก็เลยรอว่าเมื่อไหร่พี่จะเปิดให้อ่าน


มาอ่านแล้วก็ดีค่ะได้อ่าน ๒ เล่มที่พี่ชอบคือ Everybody Everything กับบล็อกของคุณแมกเวยxx

มูราคามิ รู้จักผู้ชายคนนี้และหนังสือของเขาจากนอวีเจี้ยนวู้ดค่ะ มีอีกเล่มอยู่ในครอบครองที่ได้มาจากงานหนังสือยังไม่ถึงคิวอ่านค่ะ แต่อ่านสี่เล่มที่พี่ชอบแล้วน่าสนใจหามาอ่านดี



สำหรับ ๕ ชอบของเต้ยปีนี้ที่ได้อ่าน (นับจากที่ได้อ่านในปีนี้เนาะ ไม่ได้หมายถึงปีที่หนังสือเล่มนั้นๆ ได้ตีพิมพ์ออกมา)

อืมม์...

๑. ด้านการท่องเที่ยว - ชอบ "โตเกียวไม่มีขา" ค่ะ
๒. วรรณกรรมเยาวชน - ปีนี้คงเป็น "เจ้าชายไม่วิเศษ" ของคุณปรีดา
๓.หนังสือกระตุ้นจินตนาการ - "ความฝันของไอน์สไตน์" ค่ะ

นอกนั้นอีก ๒ อันดับยังนึกไม่ออกค่ะ EverybodyEverything จริงๆ ก็ควรให้ติดโผนะ แต่เราว่างานเล่มนี้ก็ยังสร้างความประทับใจให้เราได้ไม่ต่างจากเล่มเดิมๆ ของคุณวิศุทธิ์ เท่าไหร่ ก็เลยยังแขวนๆ ไว้ก่อนน่ะค่ะ (แต่ชอบเรื่องพี่ชายมากๆ เหมือนกัน ตอนได้อ่านในอะเดย์ครั้งแรกนี่น้ำตาไหลบนรถเมล์เลย)


แต่ถือได้ว่าปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งการฟื้นฟูชีวิตการอ่านเลยค่ะ หลังจากห่างหายมานานมากๆ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รู้สึกดีกับปีที่ผ่านมาค่ะ


ส่วนคุณคำ ผกา เพิ่งอ่าน ฉัน-บ้า-กาม ไปเล่มเดียวคงต้องรอหาเล่มอื่นมาอ่านก่อนค่ะว่าจะหลงรักหนังสือของเธอหรือไม่

  

อ้อๆๆ เกือบลืม

๔. งานของปราบดา ๒ เล่มค่ะ - เรื่องรักน้อยนิดมหาศาลกับฝนตกตลอดเวลา (ชอบเรื่องแรกมากกว่านิดหนึ่ง)

ส่วนอันดับห้า แขวนไว้ก่อน

  

แต่ถ้ายิ่งอ่านมันก็เพิ่มพูนใช่ไหมค่ะ รู้แต่ไม่ได้ทำส่วนเรื่องที่จะฉลาดเนี้ย หนูคงชาติหน้าตอนบ่ายแก่ๆหน่ะค่ะ

  

คุณพี่ grappa

ต่อไปผมจะมาตอบยาว ๆ นะครับ เพราะโดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบตอบยาวมาก ดั่งที่ผมเคยบอกไว้ในบล็อกผมว่าผมชอบให้คนมาเขียนในบล็อกผมยาว ๆ (เหมือนในบล็อกที่เขียนเรื่องไดอารี่ คนมาตอบกันยาวเหยียด บล็อกนั้น ผมน้ำตาแทบไหล 555)

กลับไปนั่งนอนคิดใหม่ ได้มาล่ะหนังสือที่อ่าน (ต่อจากสามอันแรกนะครับ)


4. Naturalistic Inquiry โดย Yvonna S.Lincoln, Egon G. Guba (คนหลังนี้มันชื่อ กูบ้า คนอ่านก็บ้า) หนังสือว่าด้วยพื้นฐานแนวความคิดการวิจัยเชิงคุณภาพ อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนประเภทให้ฝรั่งอ่านยังงงว่าเมิงเขียนอะไรว่ะ

และอีกเช่นกันถ้าไม่ได้เรียนหนังสือ ก็คงไม่ได้หยิบมาอ่าน 555

5. The image: a guide to pseudo-events in America/ Daniel J. Boorstin (อาจารย์ผมหยาบคายโดยบอกว่า อีตานี้ ชื่อ บูส้งติง) อีเล่มนี้ก็ว่าด้วยเหตุการณ์เทียมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อกล่อมให้ชาวอเมริกาหลงใหลมัวเมาในวังวนที่ไม่มีอยู่จริง ใครสนใจโพสต์โมเดิร์นน่าอ่านเล่มนี้นะครับ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครสนใจศึกษาผลกระทบของโฆษณา อ่านเล่มนี้ กับ The Image ของ Bolding จะช่วยได้เยอะมาก)

6. หลังสตรีนิยม แปลโดย อ.ไชยยันต์ ไชยพร อันนี้มันเป็นการ์ตูนนะครับ ใครไปร้านอย่างคิโนะคุนิยะ คงเคยเห็นหนังสือพวกนี้

หนังสือเล่มน้อารมณ์เดียวกับอ่านข้อเขียนในเวบมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเลย คือ เอ่อ! เรียบเรียงภาษานิดหนึ่งนะครับอาจารย์ ผมอ่านบ่รู้เรื่องครับ

7. หนังสือชุด ผี ของ อ.เหม เวชกร

แค่ภาพก็น่ากลัวแล้วครับ

เอากันแต่เพียงเท่านี้ ผมอ่านแต่อะไรไม่รู้นะครับ น่ากลัว ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเคยหลอกหลอนผมในฝันได้เป็นเดือน

  

^
^
หลังสตรีนิยม พี่มีแล้วจ้า ว่าจะแนะนำวันหลัง ชอบงานอาจารย์ไชยันต์ ไชยพร

คนอื่นๆ เด๋วมาตอบนะคะ ไปธุระก่อน ดึกๆ เจอกันค้า

หรือถ้าใครคิดถึงหนังสือที่ตัวเองชอบ เล่มไหน ก็ใส่ไว้เลยค้า จะได้แนะนำ จขบ.ด้วย

  

มาอ่านหนังสือที่เพื่อนๆ ชอบ ^^



...

  

ตามมาเก็บความรู้ค่ะ ถ้ามีโอกาสก็ต้องไปหาซื้อแน่นอนค่ะ

  

ปีที่แล้วอ่านหนังสือน้อยอ่ะ แต่ชอบอยู่สองสามเล่ม

- Sainte Rita , patronne des causes désespérées (เซนต์ รีต้า เจ้าแม่แห่งต้นตอห่อเหี่ยว) ของ Claire Wolniewicz

สั่งซื้อมาอ่านเพราะว่าอยากทำงานเขียนของนักเขียนผู้หญิงรุ่นใหม่คนอื่นนอกจากนักเขียนเจ้าเก่า Anna Gavalda อ่านแล้วสนุกมาก (ใครมาตัดหน้าเอาไปแปลก่อน ฉันจะแช่งให้ชิบหายเจ็ดชั่วโคตร และจะงทุนแปลขึ้นเน็ตให้อ่านฟรีๆ เปรียบเทียบกันเลยว่าใครแปลดีกว่ากัน... )

- ชุด เสี่ยวนักสืบ ของคุณวินทร์ เลียววาริณ

เงื่อนงำไม่ล้ำลึกมาก แต่ลีลาการเขียนพอเหมาะพอดี


- Mission Earth 1 (ยึดโลก... ครองจักรวาล) ของ L.Ron Hubbard แปลโดยคุณนพดล เวชสวัสดิ์

อ่านแล้วขำกลิ้ง เรื่องไหลลื่น มุขเลิศ

- Ensemble c'est tout (เพียงเรามีกัน แค่นั้นก็พอ) ของ Gavalda ที่กำลังแปลอยู่ (พื้นที่ช่วยโฆษณา )

  

ถ้ามีรีเบลอวอร์ด จะให้หนังสือเล่มนี้ ...

หนังสือชื่อ
“Are They Telling Us The Truth? – Brutallity Beyond Belief”
เป็นเรื่องจริงของประเทศเกาหลีเหนือในปัจจุบัน อารมณ์ประมาณ Don’t Cry Nanking
ถ้าให้เลือกหนังสือที่เจ๋งที่สุดที่ได้อ่านในรอบปีก็คงจะเป็นเล่มนี้แหละค่ะ

คำนิยมของหนังสือเขียนว่า
If we read this and feel nothing, and do nothing,
we has already given up our rights as human being too.

หนังสือที่อ่านแล้วโลกมันหนักอึ้งเนี่ย ชอบนักแล
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sleepwalker&month=06-2005&date=01&group=16&blog=1

  

มาดูข้อมูลหนังสือน่าอ่านค่ะ

  

สวัสดีวันเสาร์ค่ะ คุณ grappa

มัชเป็นคนอ่านหนังสือแบบ random มากๆ ค่ะ กระโดดไปกระโดดมา
ถ้าจะให้จัดอันดับหนังสือที่ได้อ่านเฉพาะปีนี้คงเป็นเรื่องยากสักหน่อย
เพราะหนังสือบางเล่มมัชอ่านครึ่งเล่มแรกในสองปีที่แล้ว
มาอ่านครึ่งหลังในปีนี้ บางเล่มซื้อไว้นานมากพึ่งจะได้หยิบมาอ่าน
เอาเป็นว่าขอยกมาแต่หนังสือที่ยังคงนึกถึง คิดถึงและประทับใจในตอนนี้ดีกว่านะคะ




เ จ้ า ช า ย ไ ม่ วิ เ ศ ษ - - คุณปรีดา อัครจันทโชติ
วรรณกรรมเยาวชนที่เยาวชนอายุเยอะอย่างมัชชอบอ่านมากๆ


เ รื่ อ ง ธ ร ร ม ด า - - ชาติ กอบจิตติ
มีหนังสือเล่มนี้วางอยู่ในชั้นหนังสือมากี่ปีแล้วไม่แน่ใจค่ะ
พึ่งหยิบมาอ่านเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ส่งผลให้ต่อไปนี้เมื่อไปร้านหนังสือ
มัชคงมองหาแต่งานของชาติ กอบจิตติ มาอ่านแน่ๆ


ค ว า ม ส ะ อ า ด ข อ ง ผู้ ต า ย - - ปราบดา หยุ่น
ชอบมุมมอง วิธีคิดที่มีต่อโลกใบนี้ของปราบดา มากๆ ค่ะ
เป็นอีกเล่มของปราบดา ที่มัชอ่านรวดเดียวจบเล่ม
ขอสารภาพว่าก่อนหน้านั้นไม่เคยอ่านงานของเขาจบเล่มเลย


คิ ด ถึ ง ทุ ก ปี - - บินหลา สันกาลาคีรี
ตัวอักษรของบินหลาละเอียดอ่อนลึกซึ้งมากค่ะ
อ่านแล้วอุ่น



ป ร ะ เ ท ศ ที่ ส า ป สู ญ - - ศิริวร แก้วกาญจน์
เล่มนี้เป็นบทกวีนิพนธ์ที่ใช้ภาษาได้คมลึกสวยงาม
ชอบทั้งเรื่องราวและภาษาที่ร้อยเรียงตามฉันทลักษณ์ค่ะ




มีอีกหนึ่งเล่มที่อ่านมาสามปีแล้วค่ะ
ปีที่แรกอ่านแค่บทนำจากผู้เขียน
ปีที่แล้วอ่านได้ประมาณยี่สิบหน้า
ปีนี้....กำลังอ่านค่ะ ตั้งใจว่าจะอ่านทุกวัน
หนังสือสี่ร้อยกว่าหน้าค่ะ


- - ชีวิต เสรีภาพ ซัมเมอร์ฮิล - - เอ. เอส. นีล แปลโดย เตือนตา สุวรรณจินดา สมบูรณ์ ศุภศิลป์

พิมพ์ตั้งแต่ปี 2539

  

ปีนี้ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือนิยายหรือหนังสือแปล
แต่อ่านตำราภาษาอังกฤษเสียเป้นส่วนใหญ่
แต่ก็พอจะเลือก 5 เล่มสุดโปรดประจำปีที่ผ่านมาได้นะ

๑ ) ผ่านพบไม่ผูกพัน Unattached Encounters เสกสรรค์ ประเสริฐกุล

ซื้อมาตอนกำลังจิตตกสุดๆ อ่านจบเร็วมากๆ อ่านแล้วใจสงบขึ้นมานิดนึง และกลับมาอ่านเสมอๆเวลาเหนื่อยๆ

๒ ) Genderism รวมบทความของคุณโตมร ศุขปรีชา

ไม่รู้จะบอกได้ยังไง อ่านจบแล้วรู้สึกหลายอย่างเลยนะ สนุก มันส์ หน้าชา .. สรุปว่าชอบ

๓ ) ผมขอใช้สิทธิ์ที่จะตาย Je vous demande le droit de mourir แปลโดยวาสนา สุนทรปุระ

อ่านจบภายในคืนเดียวอีกเล่มนึง เศร้า เศร้า เศร้า ..มีผลให้เราชอบหนังเรื่องThe Sea Insideมากๆเลย

๔ ) จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษของ Fritjof Capra แปลโดยพระไพศาล วิสาโล

อาจารย์แนะนำเชิงบังคับให้อ่าน พอดีไปได้แค่ส่วนแรกก็ปลื้มมากเลย ชอบมาก เพิ่งไปซื้อต้นฉบับภาษาอังกฤษมาอ่านด้วย
ต้องมองความจริงใหม่กันแล้ว

๕ ) การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์

พยายามหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับพระเจ้าตากสินที่มีขายอยู่ แค่อ่านคำนำก็ชอบแล้ว

" ตาข่ายแห่งความทรงจำครอบคลุมกาลเวลา แต่เป็นฐานให้แก่ความเป้นจริงในปัจจุบันและความคาดหวังในอนาคต ฉะนั้นการถักทอตาข่ายแห่งความทรงจำใหม่จึงเป็นความเจ็บปวดในทุกสังคม แม้กระนั้นก็เป็นความจำเป็น เพราะไม่มีสังคมใดสามารถเผชิญความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นชั่นนาตาปีได้ด้วยความทรงจำที่ไม่ทำให้ตนเองพร้อมจะเผชิญกับปัจจุบันและเข้าใจปัจจุบันได้จริง"

พยายามหาเวลาว่างอ่านให้จบ หนาดี

ขออีกเล่มล่ะกันนะ

The Bolivian Diary บันทึกโบลิเวียของเช เกวาร่า
นี่ก็อ่านยังไม่จบ
แต่ชอบที่ทุกเดือนเชจะวิเคราะห์สิ่งต่างๆเอาไว้

  

แวะมาโหวตให้ค่ะ

  

แวะมาดูหนังสือทอป 5
มูราคามิ ดูน่าสนใจดี ไม่รู้จักหรอก เคยเห็นแวบๆมัง
ต้นฉบับ เขาคงเขียนเป็นอังกฤษ เลยใช่ไหม
ป.ล.เพลงของ air ฟังเพลินดี

  

ชอบจัง มีชื่อหนังสือหลากหลายมาก

- L.I.R.A
สวัสดีปีใหม่ค้า อ่านหนังสือเยอะจนไม่สามารถเลือกได้น่ะสิ

- แพนด้ามหาภัย
พี่เริ่มอ่านงานมูราคามิด้วย สปุตนิคสวีทฮาร์ท เล่มแรก อ่านรวดเดียว อ่านแบบไม่หายใจหายคอ หลังจากนั่นก็หลงรักมูราคามิแบบถอนตัวไม่ขึ้น เล่มที่ชอบที่สุดตอนนี้ก็คือ แกะรอยแกะดาว
และตอนนี้รอ คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ ด้วยใจจดจ่อ

- strawberry machine gun ลองอ่านนอร์วีเจียน วูด - ความรัก ความตายและหัวในสลาย ดูสิคะ อาจจะสนุกขึ้นก็ได้

- คุณแม่น้องจัสติน
Have a nice day เช่นเดียวกันค้า

- erol
คนอ่านหนังสือมากๆ ไม้ได้หมายความว่าจะฉลาดกว่า คนมีประสบการณ์ชีวิตมากๆ นะคะ

- ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด
เป็นเพื่อนกับปกป้องหรือคะนี่

- คูต้าว
555+ สงสัยทำหน้าโรคจิต ให้น้องคนขายหนังสืออะดิ
หนังสือของฮิมิโตะ เล่มนั้น ชื่อ จดหมายจากสันคะยอม จ้า
ต้องหา เมนูปรารถนา มาอ่าน แล้วจะรู้จักเธอลึกซึ้งขึ้น
เพลงที่เปิดในบล็อกตอนนี้ ชื่อเพลง You make it easy
ของสองหนุ่มจาก Air ไง มีสาวเสียงดี Beth Hirsch มาเป็นแขกรับเชิญร้องเพลงนี้

- ตี๋น้อย
สวัสดีจ้า

- p_tham
เข้ามาบ่อยดิคะ แต่บางวันอาจจะไม่ได้ประโยชน์นะคะ อิอิ

- J'aime l'amour...
งานของเปาโล โคเอลโย น่าสนใจค่ะ 11 นาทีนี่ว่าจะอ่านหลายทีแล้ว ชอบชื่อหนังสือเล่มหนึ่งของเขา By the River Piedra, I Sat Down and Wept ว่าแล้วก็ไปหามาอ่านดีกว่า

- สาวไกด์ใจซื่อ
พี่เผลอกดพับบลิชไปตั้งแต่ยังเขียนไม่เสร็จ ต้องเซฟดราฟไว้ก่อนน่ะ เลยเป็นแบบที่เต้ยเห็น

โตเกียวไม่มีขา นี้ซื้อไว้แล้ว ลองอ่านไปนิดหน่อย สำนวนภาษาเขาธรรมดา แต่ให้ภาพมากมายดี "นิ้วกลม" นี่เป็นนักเขียนที่น่าจับตามองอีกคนหนึ่ง มีมุมมองน่าสนใจด้วย
ชอบเรื่องรักน้อยนิดมหาศาล ต้องรออ่าน "คำพิพากษาของมหาสมุทร" นะ

- น้องชาติหน้า
ตอบยาวๆ ได้เลยจ้า ตามบาย
The image: a guide to pseudo-events in America/ Daniel J. Boorstin เล่มนี้น่าอ่านดีเหมือนกันนะ
ส่วนการ์ตูนหลังสตรีนิยม นี่พี่มีแล้ว ชอบงานอาจารย์ไชยันต์ ไชยพร ได้อ่านที่อาจารย์เขียนเรื่องโพสท์โมเดิร์นไหม
การ์ตูนเล่มนี้ที่อ่านยากเพราะ มันมีศัพท์หรือเทอมทางวิชาการที่พอถอดมาเป็นคำไทยแล้วก็อ่านยังไม่เข้าใจน่ะ แต่ดีใจที่มีคนทำหนังสือแนวนี้ออกมา
บทความในเว็บมหาลัยเที่ยงคืนบางบทความ อ่านยากจริงๆ
อาจารย์ไชยันต์นอกจาก จะเขียนหนังสือสนุกแล้ว พูดจาสนุกด้วย ไปงานสัมนาที่ไหน ถ้ามีอาจารย์รับรองมุกกระจาย อาจารย์เป็นนักปรัชญาที่โพสท์โมเดิร์นเจงๆ (ผมยาวสสวย )

- blueberry_cpie
พาผึ้งน้อยมาบินๆ แถวนี่อีกแล้ว มาบ่อยๆ เน้อ

- ป้ามด
สวัสดีค้า


- Mutation
Sainte Rita , patronne des causes désespérées เจ้าแม่ต้นตอแห่งความห่อเหี่ยวเลยเหรอ อ่านแล้วจะเป็นยังไงนี่
รออ่าน Ensemble c'est tout อยู่นะ ชอบ กาวาลดา อยู่แล้ว
เด๋วส่งบิลไปเก็บค่าโฆษณา 555

- รีเบล
> หนังสือที่อ่านแล้วโลกมันหนักอึ้งเนี่ย ชอบนักแล
ชอบให้ชีวิตมีความทุกข์ใช่ไหม คำนิยมหนังสือน่าสนใจดีนะ เหมาะกับงานหนูตอนนี้ดี

- Batgirl 2001
มาดูข้อมูลแล้ว กลับไปอ่านหนังสือด้วยนะจ๊ะ

-มัชฌิมา
สวัสดีวันเสาร์ค้า อ่านหนังสือหลายแนวดีจัง
ขอให้อ่าน - ชีวิต เสรีภาพ ซัมเมอร์ฮิล - จบนะคะ
หนังสือเล่มหนาด้วยนี่คะ เห็นใจๆ
แล้วโลกเราก็ช่างมีหนังสือให้อ่านมากมายไปหมด
เนอะ

- keyzer
The Bolivian Diary นี่คือเล่มเดียวกับ Motorcycle Diary หรือเปล่าคะ มีหนังสือเล่มนี้ไว้เหมือนกัน แต่อ่านไปนิดหน่อย รู้สึกว่าไม่สนุก ทั้งๆ ที่ตัวเองชอบเช เกวารา นะ

การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ เล่มนี้น่าจะเป็นงานชิ้นมาสเตอร์พีซของอาจารย์นิธินะคะ
งานชิ้นก่อนหน้าของอาจารย์ก็ดีค่ะ เป็นงานรวมบทความ ปากไก่และใบเรือ ตัวเองเคยมีไว้ในความครอบครอง
จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ นี่ก็เคยอ่านสมัยเรียน หลังๆ นี้แทบจะไม่ค่อยได้อ่านหนังสือพวกนี้เท่าไรนัก มาอ่านวรรณกรรม ความเรียง และอ่านอะไร ๆ ที่ออนไลน์ เสียมากกว่า

ใครมีรายชื่อหนังสือที่ชอบ เชิญต่อเลยค้า

  

อ้าวโหม่ง กับอีกสองท่าน
- p_tham
ขอบคุณค้า

- bellerophon
มูราคามิ เขียนต้นฉบับเป็นภาษาญี่ป่นค่ะ แต่งานของเขามีแปลเป็นภาษาอังกฤษทุกเล่ม เขาเคยเขียนความเรียงภาษาอังกฤษมั้งคะ
เนอะ เพลงของ แอร์ ฟังสบายดีเนอะ

อยากอ่านรายชื่อหนังสือของคนอื่นๆ อีกจัง

  

มาแจมต่อครับ

วันนี้คุณแม่ผมชวนไปจตุจักรซื้อหนังสือมือสอง ผมได้หนังสือของ 'หลวงเมือง' มา อ่านไปได้สามเรื่อง ชอบมากเลยครับ

ขอพูดถึง อ.ไชยยันต์ละกันนะครับ ยอมรับครับว่าอาจารย์ฮาแตกมาก ยิ่งอยู่กับ อ.พิชญ์ ด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่

แต่บางทีอาจารย์ก็ชวนงงนะครับ ผมมีโอกาสฟังอาจารย์จัดรายการทางวิทยุจุฬาฯ (วันนั้นครึ้มอกครึ้มใจอย่างใดไม่ทราบ) อาจารย์เป็นผู้ดำเนินรายการส่วนแขกรับเชิญเป็นอาจารย์ท่านหนึ่งจากรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์

รู้ไหมครับเขาคุยเรื่องอะไรกัน เขาคุยกับเรื่อง 'deconstruction' ของดาริลดา ครับพี่น้อง

ผมว่าผมเองก็เรียน ป.โท ถนัดกับเรื่องพวกนี้พอควร ฟังดอกเตอร์สองคนนี้พูดไม่รู้เรื่องครับ ศัพท์วิชาการกระจาย ในใจเราเลยคิดว่า อาจารย์ครับ ผมเรียน ป.โทยังไม่เข้าใจเลยอ่ะ แล้วถ้าคนธรรมดานี้มิงงแตกเลยหรอ

ถ้าเขียนในสื่อสิ่งพิมพ์คงดีกว่านี้ แต่นี้เป็นวิทยุย้อนไปฟังใหม่ไม่ได้ ก็เลยมีแต่งงกับงงครับ

ป.ล. ผมกะว่าจะแปลการ์ตูน Introduction to Post Modern อยู่เหมือนกันครับ แต่ติดว่าผมบ่เครื่องสแกนนี้สิ เลยเอามาทำผิดกฎหมาย published ให้ชาวบ้านอ่านไม่ได้

แต่ถ้าทำเมื่อใดรับรองจะส่งมาให้คุณพี่ grappa อ่านคนแรกเลยครับ

  

อีกนิดครับ

เห็นคุณ keyzer เขียนถึง จุดเปลี่ยนแห่งศตวรรษ ของ ฟลิตจอฟ คาปปา

ผมว่าเป็นหนังสือที่ดีมาก ควรให้เด็กในระดับปริญญาตรีในระดับปีหนึ่งอ่านกันทั่วหน้า เพื่อชี้ให้เห็นว่า เฮ้ยโลกใบนี้ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่ิย่งใหญ่ที่สุดนะเฟ้ย

ดีใจครับที่อาจารย์บังคับให้อ่าน (แล้วก็ชอบไปโดยปริยาย) ถ้าผมได้เป็นอาจารย์ผมคงแนะนำหนังสือเล่มนี้ให้เด็ก ๆ อ่านแน่นอนครับ

  

ช่วงสิ้นปีเคยคิดไว้แล้ว แต่ตอนนี้ชักลืม ๆ เหมือนกันแฮะ

1. "พรมแดนทดลอง" ของ มุกหอม วงศ์เทษ
เล่มนี้ได้คุณ grappa นั่นแหละไปโพสต์ไว้ที่ห้องสมุด (ขอบคุณค่า ) ก็จำ ๆ ไว้แต่ไม่ได้หาอย่างซีเรียส จนวันหนึ่งได้อ่าน
โห.. ได้ใจไปมากมาย เป็นรวมบทความที่ติดอันดับไปเลย (แหะแหะ อีกอย่าง ปกติอ่านแนวนี้น้อยด้วย)

2. "ดอกไม้แด่อัลเกอร์นอน" ของ แดเนี่ยล สตีล
หยิบมาอ่านโดยไม่ได้คิดอะไร นึกว่าจะพลิก ๆ ดูแล้ววางคืนชั้นหนังสือ แต่มันติดหนึบ ยืนอ่านอยู่ตรงนั้นจนจบเล่ม ซาบซึ้งใจมากมาย ... ชอบนักแล หนังสือที่ทำให้เราเซอร์ไพรซ์ได้แบบนี้ พอมาค้นข้อมูล ถึงรู้ว่าเป็นหนังสือรางวัลฮิวโก้ แถมเคยมีพิมพ์มาหนหนึ่งแล้วสมัยก่อน "พลาดไปได้ไงเนี่ย"

3. "ไมรอน" ของ พัณนิดา ภูมิวัฒน์
แนวแฟนตาซีที่มีปกเป็นศัตรู
เพราะปกนี่แหล่ะ เลยไม่หยิบอ่านซะที จนไม่มีอะไรให้อ่าน (กับขี้เกียจรื้อต่อ) เลยหยิบมากำจัดให้จบ ๆ ไป ปรากฏว่าติดหนึบเป็นตังเมอีกเล่ม อารมณ์ร่วมท่วมท้นไม่ต้องหลับต้องนอน อ่านโต้รุ่งเลย
... แล้วก็ได้นักเขียนที่จะติดตามผลงานต่อไปมาอีกคน ...

4. ชุด พรานราตรี สนพ. แก้วกานต์
ใครจะว่านิยายโรมานซ์ไม่ควรค่าแก่การพูดถึงยังไงก็ตาม แต่นิยายชุดนี้เป็นเรื่องที่ผูกเรื่องได้สุดยอดมาก (โดยเฉพาะเล่มแรก ๆ) พอดีเป็นพวกชอบเทพกรีกโรมันเป็นทุนอยู่ด้วย เจอแนวนี้..ไม่ชอบก็แย่ล่ะ

หมดแล้วมั้ง? จำไม่ค่อยได้แฮะว่าช่วงต้นปีแรกอ่านอะไรแล้วประทับใจ บางที อ่านแล้วมันรวมกันมั่วไปหมด ไม่แน่ใจว่าอ่านอะไรก่อนอ่านอะไรหลัง

  

The Bolivian Diaryนี่คนละเล่มกับ The Motocycle Diariary ค่ะ

เป็นเล่มก่อนเสียชีวิต ตอนไปปฎิวัติในโบลิเวีย
( หลังจากลาออกจากรัฐบาลคิวบา)

  

แงๆๆ งานยุ่งมากๆๆ ไม่มีเวลาจะ"ดู"หนังสืออะไรเลย อย่าว่าแต่อ่านเลยค่ะ

หวัดดีปีใหม่ค่า

  

-- ขอบคุณพี่ grappa มากเลยครับ สำหรับการ "พาดพิง" (อิอิอิ) อ่านแล้วซึ้งใจ + มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยครับ

-- รู้สึกไม่ค่อยดีเลยที่ปี 2548 ได้อ่านหนังสือน้อยลงมากๆ (โดยเฉพาะตั้งแต่ขึ้นปี 3) แต่หนังสือที่อ่านแล้วประทับใจมากก็คือ "ปรัชญาชีวิต" ของ คาลิล ยิบราล (เชยเนาะเพิ่งได้อ่าน) คือไม่ได้อ่านเข้าใจไปเสียทุกอย่าง บางบทก็ต้องอ่านกลับไปกลับมา แต่บางบทก็กระทบใจมากๆ จำได้ว่าตอนอ่านบทเรื่อง "ความรัก" นั่งอ่านบนรถใต้ดินตอนประมาณ 6 โมงเช้า อ่านแล้วก็ร้องไห้ออกมาเลย (คือตอนนั้นทั้งโบกี้นั่งอยู่คนเดียว) รู้สึกทั้ง "ปลงตก" และ "ปลงไม่ตก" ไปพร้อมๆ คือความคิดมันลอยมาเป็นเสียง voice over ว่า "ก็เนี่ยแหละความรักมันก็แบบนี้ไง เพราะแกทำแบบนี้ไง แกถึงได้ทุกข์กับมัน แต่แล้วไงล่ะแกอ่านหนังสือ แกคิดได้ แต่พอผ่านไปสามวันแกก็จะกลับไปทำแบบเดิมอีก"

อย่างไรก็ตาม รู้สึกดีใจที่อ่านหนังสือเล่มนี้ในเวลาที่เหมาะที่ควร ถ้าอ่านเร็วกว่านี้ก็คงไม่เข้าใจและไม่ใส่ใจ หรือถ้าอ่านช้ากว่านี้มันก็อาจจะสายเกินไป

  

  

ตอนนี้อ่าน Wind- up Bird อยู่ค่ะ ฝันร้ายทุกคืนเลย ลืมไปว่าไม่ใช่ Fairy tale :)

  

ในไตรภาคมุสิกชอบพินบอล1973มากที่สุดค่ะ
โบคุกับการตามหาตู้พินบอล...โรแมนติกอย่างเปลืองเปล่าที่สุด

เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีงานพี่ตั้มออกมาที่ไทยบ้างเลย
เฮียแกจุติอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วเหรอเนี่ย
แต่ยังดีที่มีเว็ปให้ดูเพลินอยู่ค่ะ


บล็อกบล็อกซื้อมาแล้วแต่ยังไม่ได้อ่านเสียที
ส่วนเมนูปราถนาไม่เคยพบเจอ ขอบคุณที่แนะแนวค่ะ


เชื่อว่าบล็อกของพี่เมอจุดประกายความคิดของหลายๆคนจริงๆค่ะ
เพราะเว็ปของพี่เมอทำให้ได้เริ่มดูหนังมากขึ้นๆ
บ้างก็มาจากที่พี่เค้าเขียนไว้อย่างน่าลิ้มลองและบ้างก็ขนขวายเอง
จะบอกว่าไงดีล่ะ ตอนอ่านคิดว่าคนเขียนผ่านโลกมาซัก 40 ปีแล้วนะเนี่ย?


ตอนนี้อ่านวรรณกรรมฝั่งเศษเรื่อง La vie, en gros อยู่ค่ะ



ทูญลา

  

แวะมาโหวตให้ค่ะ

  

ผมลองเข้าในเซอร์เวย์ในบล็อก อ.ปกป้องมาแล้วครับ

พบความน่าสนใจเยอะเลย แต่แอบรู้สึกว่ามีข้อขัดใจอย่างนึงครับ


ตรงที่ จขบ. เป็นแฟนแมนยู เหอๆๆ

  

เอ่อ ... ถ้าผมบอกแล้วอย่าหัวเราะนะครับ ... หนังสือในดวงใจของผมคือ ...

หนังสือนิทานก่อนนอน ชื่อว่า "หนูจี๊ด" เค้ามีเป็นซีรีย์สเลยครับ เช่น ตอนหนูจี๊ดเข้าครัว , ตกปลา , ช่างไม้ , ไม่สบาย , ต้นคริสต์มาส ลูกสาวชอบให้ผมอ่านก่อนนอนทุกวัน เธอชอบมากเลยครับ ...

  

อยากอ่านหมดเลยนะครับ .... ส่งมาให้หน่อยดิครับ .... พูดเล่นนะครับ ...

  

พี่แป๊ด

เพิ่งกลับมาอ่านนาร์เนียแหละ แล้วก็พบว่า หนังทำอะไรหลายอย่างให้ดีขึ้นจากหนังสือ

ขณะเดียวกันมีบางอย่างที่หนังทำเกินหนังสือไปหน่อย (ซึ่งตามความเห็นเต้ย-ไม่ควรเท่าไหร่)



พรุ่งนี้จะรีวิวเพนกวินกับเอพริลสโนว์ค่ะ แล้ววันอังคารคงเขียนเรื่องนาร์เนีย หนัง-หนังสือค่ะ



เห็นคุณยาคูลท์ พูดถึงพัณณิดา ภูมิวัฒน์ เพิ่งอ่านเซรีญา ๓ เล่มของเธอจบไป คิดเหมือนกันเลยค่ะว่านักเขียนไทยคนนี้น่าสนใจทีเดียว

  

อยากบอกว่าปี48 เป็นปีที่เรารู้สึกว่า เราแยกมันออกจากปีก่อนๆไม่ได้ค่ะ พักนี้รู้สึกว่า ถ้าไม่ได้เขียนไดอารี่ เราก็คงหลงลืมในสิ่งที่เราทำไปแล้วได้ง่ายๆ


หายไปหยิบไดอารี่มาเปิดดูค่ะ เล่มแรกของปีอ่านเมื่อ 25/1/48

"มนุษย์ดอกไม้พันห้าร้อยปี" ปราย พันแสง

มันร้ายกาจใช่ย่อยนะ ที่จะยอมจำนนให้กับหนังสือ
หรือใครคนใด...สำหรับฉัน
อ่านแล้ว...วางไม่ลง กะว่าจะค่อยละเลียดให้ละเอียดทีละเรื่อง
ก็ทนไม่ไหว กว่าจะรู้ตัวก็จบไปแล้ว 1 รอบ

...เห็นคนอื่นเขาจัดอันดับกัน ก็อยากจัดกะเขามั่ง
แต่ว่า ปี47-48 เหมือนเป็นวิกฤตชีวิตเลยค่ะ
บางทีก็อยากลืมๆ2ปีที่ผ่านมานี้ไปซะ

เอาให้เหลือแค่หนัง เพลง หนังสือ และความรู้สึกดีๆดีกว่า

หลงตัวหนังสือของน้องเมอร์ด้วยอีกคนค่ะ

  

อยากจะเสนอรายชื่อหนังสือที่อ่านมาในรอบปี 2548
แต่ก็ไม่มีชื่อหนังสือ แปลกดี
ดูเหมือนจะจมอยู่ในงานที่ทำ

หนังสือที่อ่าน ก็เป็นหนังสืออนาคตที่อ่านล่วงหน้า
อ่านแล้วก็บอกใครไม่ได้

อัปเดต คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ
เหลืออีก 40 กว่าหน้า ก็คงแปลแล้วเสร็จ
มูราคามิพาเราผจญภัยไปไกลเหลือเกิน

หากใครหลงรักโอชิมะ หนุ่มอ้อนแอ้นเจ้าคารม
ก็น่าจะชอบโฮชิโนะ หนุ่มขับรถบรรทุก ผู้หลงรักอาร์ชดยุคทริโอของเบโธเฟน

เหลือทำปก ก็เสร็จแล้วครับ ราวกลางเดือนกุมภาพันธ์คงแบ่งปันกันอ่านได้
ส่งความปรารถนาดีปีใหม่ ย้อนกหลังครับ

  

^
^
เข้ามากรี๊ดคุณนพดล

  

น่าอ่านท๊างน๊านเรย ไม่ค่อยมีเวลา ส่วนใหญ่อ่านแต่นิตยสารอ่ะจ๊ะ

  

1.ยุให้รำตำให้รั่ว / ฮิมิโตะ ณ เกียวโต
2.ลิ้นชักที่เลิกใช้ / วัน ณ จันทรธาร
3.กล่องไปรษณีย์สีแดง / อภิชาต เพชรลีลา
4.นาร์ซิลซัสกับโกลด์มุนด์ / เฮอร์มาน เฮสเส / "สดใส " แปล
5.H2O / อนุสรณ์ ติปยานนท์
6.หอมกลิ่นภูเขา / สร้อยแก้ว คำมาลา
7.ทัชมาฮาลบนดาวอังคาร / ทินกร หุตางกูร
8.เจ้าหงิญ / บินหลา สันกาลาคีรี
9.ชูมาน / พิบูลศักดิ์ ละครพล
10.เจ้าการะเกด / แดนอรัญ แสงทอง

อันนี้เป็นสิบอันดับของผมครับ
รายละเอียดมีใน blog ผมเอง

เคยแอบแง้ม อ่าน Blog-Blog เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ซื้อ เลยจัดอันดีบไม่ได้

ส่วนเมนูปรารถนานั้นยังไม่เคยเห็นที่เชียงใหม่เลย...แต่น่าซื้อเก็บมาก ๆ

  

อ้าว...ดันลืมพูดถึงมุราคามิ

ผมเคยได้อ่าน แต่ สดับลมขับขาน
กับ Wild Sheep Chase ภาษาอังกฤษ (ที่อ่านไม่จบก็คืนห้องสมุดไปก่อน)
ชอบ South of the Border,West of the sun มาก

ผมว่าท่วงถ้อยของมุราคามิ มีเสน่ห์อย่างปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ แหละครับ

  

เธฃเธฑเธเธžเธตเนˆเนเธ”เธ™เธกเธฒเธเธ„เนˆเธฐเธŠเธญเธšเธžเธตเนˆเนเธ”เธ™เธ•เธญเธ™เธญเธฒเธขเธธ9เธ‚เธงเธš