ขอบฟ้าอยู่ใต้ฝ่าเท้า : โลกนี้มีไว้เหยียบ ไม่ได้มีไว้แบก ขอบฟ้าอยู่ใต้ฝ่าเท้า ตี้ - สุรจักร์ ชัยวรศิลป์ รวมบทบรรณาธิการจากนิตยสาร POP เวลาเปิดอ่านนิตยสารทั้งหัวในและหัวนอกที่เรียงรายเต็มแผงหนังสือในวันเวลานี้ คุณเปิดอ่านหน้าไหนเป็นหน้าแรกค่ะ คุณเคยอ่านนิตยสาร POP ไหม สารภาพตรงๆ ว่าดิฉันไม่เคยสนใจนิตยสารเล่มนี้มาก่อนเลย ระยะหลังนี่นิตยสารที่ได้อ่านประจำส่วนใหญ่ คนทำเขาส่งมาให้อ่านบ้าง หรือเลือกซื้อเฉพาะเล่มที่เราสนใจเนื้อหาขณะนั้น (อย่างเช่น มีบทสัมภาษณ์คนที่เรากำลังกรี๊ดอยู่ หรือมีบทความน่าสนใจ มีข้อมูลที่เรากำลังหา กำลังต้องการอยู่ ) แต่หลังจากนี้ไป เหตุผลหลักที่ดิฉันจะหานิตยสารเล่มนี้มาอ่านก็เพราะบทบรรณาธิการค่ะ ดิฉันมีหนังสือรวมเล่มบทบรรณาธิการนิตยสาร(ไทย ) อยู่สองสามเล่ม ยังอ่านไม่จบสักเล่ม แต่เล่มนี้อ่านจบด้วยความรวดเร็ว อ่านไปยิ้มไป บางตอนแอบๆ น้ำตารื้น บางตอนหัวเราะก๊าก บอกอตี้ (ผู้เขียน ) สำนวนร้ายกาจมาก แต่ที่สำคัญที่ทำให้อ่านจบอย่างรวดเร็ว ก็เพราะบอกอตี้ คนนี้ไม่ได้มาคุยกับผู้อ่านอย่างที่บรรณาธิการคนอื่นคุยกับผู้อ่านของเขา เช่นบอกว่า เราควรจะรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างไร เธอไม่ได้มาบอกเราว่าเนื้อหานิตยสารในเล่มนี้มีอะไรบ้าง ไม่ได้บอกว่าวันนี้คนดังคนไหนกำลังทำอะไร ไปช้อปปิ้งที่ไหน ดาราคนนั้นกำลังเป็นแฟนใคร (นิตยสาร POP เป็นนิตยสารบันเทิง ) หรือบอกอตี้ไม่ได้บอกเราว่าเราควรแก้ไขปัญหาบ้านเมืองอย่างไร (แต่เธอฉายภาพสังคมให้เราเห็นอย่างชัดเจนในบทบรรณาธิการของเธอ ) จากประสบการณ์ที่อ่านบทบรรณาธิการของนิตยสารมา พูดง่าย ๆ บทบรรณาธิการของเธอไม่ได้แสดงท่าที "ฉลาด" หรือทำท่าเย่อหยิ่งใส่คนอ่าน (บอกกอตี้บอกว่าบรรณาธิการบางคนเขียนทักทายผู้อ่านด้วยน้ำเสียงถือตัว สั้นกระชับ ประหยัดถ้อยคำ ประหนึ่งคุณนายผู้เย่อหยิ่งทักทายคนขับรถ ...และบางคนก็เทศน์สั่งสอนผู้อ่านทุกฉบับประหนึ่งหลงลืมไปว่าตัวเองเป็นแค่บรรณาธิการ หาใช่นักบวช ) แต่บทบรรณาธิการของเธอเต็มไปด้วย เรื่องของคนใกล้ตัวของเธอ แม่ คนรัก ลูกน้อง เพื่อนร่วมก๊วน เพื่อนรุ่นน้อง ผู้ชายที่เธอเจอ แต่ละเรื่องแต่ละบทที่เธอเล่ามันเปี่ยมความรู้สึก มัน...อย่างไรดีล่ะ ให้บรรณาธิการหนังสือเล่มนี้มาบอกคุณจะดีกว่าไหม "... ในทรรศนะของผม ตัวหนังสือของเธอง่าย ทว่าทิ่มแทงความรู้สึก กวนตีน แต่มีเสน่ห์ น่าหมั่นไส้ ทว่าเปิดเผย ซื่อสัตย์กับความรู้สึก ร้ายลึก แต่ตรงไปตรงมา ปากหมา ทว่าเป็นปัญญาชน มีทัศนคติที่ดี ยังไม่นับอารมณ์ขันในระดับที่สามารถเล่นตลกคาเฟ่แข่งกับโน้ต เชิญยิ้มได้สบาย แม้ในความดิบเถื่อน แม้ในความโผงผาง ข้อเขียนของเธอกระแทกกระทั้นด้านลึกของชีวิตทุกครั้ง สารภาพอย่างไม่เกรงจะเสียบุคลิค บทบรรณาธิการในนิตยสารซึ่งว่ากันว่าทำขายวัยรุ่นของเธอ ทำให้ผมร่ำไห้หลายเรื่อง เป็นการร่ำไห้ภายในที่ทั้งอึดอัดและขัดเขินมากที่สุดครั้งหนึ่ง..." (บางตอน จากคำนำของวรพจน์ พันธุ์พงศ์ บรรณาธิการ ขอบฟ้าอยู่ใต้ฝ่าเท้า ) ดิฉันชอบที่เธอบอกว่า เธอเริ่มเป็นคนทำหนังสือตั้งแต่อายุสิบแปด มีวุฒิเทียบเท่าเพียงแค่มัธยมหก อย่าว่าแต่จะจบวิชาการทำนิตยสารมาจากไหน มหาวิทยาลัยก็ไม่เคยเข้า แต่สิ่งหนึ่งที่เธอมีมากคือเธออ่านนิตยสารอย่างบ้าคลั่งมาตั้งแต่อายุสิบสอง เธอหยุดอ่านการ์ตูนตั้งแต่อายุสิบปี ครู ที่ให้ความรู้เรื่องการทำนิตยสารแก่เธอคือ นิตยสารที่เธอกระหน่ำซื้ออย่างบ้าคลั่งนั่นเอง (เธออ่านนิตยสารหลายเล่มมาก และรู้จักนิตยสารนั้นๆ อย่างแท้จริง ด้วยว่าเธออ่านมันมาตั้งแต่เล่มแรกที่นิตยสารเล่มนั้นๆวางแผง และอ่านมันจบกระทั่งนิตยสารเหล่านั้นพากันปิดตัวลง ) และดิฉันเชื่อว่าตอนนี้ประสบการณ์การทำหนังสือกว่าสิบปี ที่เธอเวียนว่ายอยู่ในวงการหนังสือ มันคือ ครูใหญ่ที่บอกว่าเธอควรจะทำนิตยสารอย่างไร นิตยสาร POP เคยปิดตัวมาแล้ว และเพียงชั่วเวลาไม่นาน เธอก็ทำให้นิตยสารเล่มนี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก (มิน่า เหล่าคนทำหนังสือเล่มนี้ถึงเรียกหนังสือของพวกเขาว่า ปอป ) นับถือจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นนักสู้ของเธอจริงๆ การที่จะบอกว่าชอบบทไหนบ้างในนิตยสารเล่มนี้ นับได้ว่ายากยิ่ง เพราะชอบทั้งเล่ม ผู้อ่านหลายคนบอกว่าอ่านที่เธอเขียนแล้วชอบเรื่องที่เธอพูดถึงแม่มากที่สุด แสดงว่าหลายๆ คนคงเคยทำอะไรไม่ดีกับแม่ของตัวเอง ( ไม่ใช่ดิฉันค่ะ ดิฉันรักแม่มากกว่าความยุติธรรม -ตามที่นักเขียนคนนึงเคยบอก ) ดิฉันชอบตอนที่เธอเล่าให้ฟังว่าเธอเจรจาธุรกิจ (ในการเริ่มต้นทำหนังสือเล่มนี้ )อย่างไร ต้องไปหาอ่านค่ะ ถ้าเอามาเล่าในที่นี้คงยาวมาก ดิฉันเห็นภาพตามได้ตลอด มันลบภาพการเจรจาธุรกิจที่คุณเคยเจอหรือที่คิดว่าจะได้เจอออกไปได้หมดเลย ชอบบท วันที่อยากทำความดี เธอบอกว่าการทำความดีสำหรับเธอมันเป็นเรื่องยาก ไม่เหมือนการทำความชั่ว เธอตั้งใจไปซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อของให้เด็กอ่อนบ้านพญาไท แต่ใจมันคอยแต่จะเข็นรถไปที่ชั้นวางเหล้า (เหมือนดิฉันเลย ) การไปซื้อผ้าอ้อม นมผง ฯลฯ สำหรับเธอมันดูไม่เท่ (ดิฉันไม่เคยเดินเฉียดไปแผนกนี้เลย เคยไปยืนงงอยู่หน้าชั้นขายของสำหรับพระ จะไปทำบุญ แต่ไม่รู้จะหยิบอะไรก่อน อะไรหลังดี ) แต่ตอนหลังเธอก็ไปบ้านเด็กอ่อนพญาไทได้สำเร็จ ชอบตอนที่เธอต่อรองกับสามล้อ ในบท นางมารร้ายกับคนขับสามล้อ เธอให้แบงค์พันแก่คนขับสามล้อ แน่นอนอยู่แล้วว่าคนขับสามล้อต้องไม่มีตังค์ทอนพอ เธอบอกว่าจะเข้าไปแลกตังค์ในเซเว่นอีเลเว่น แต่คนขับสามล้อไม่เชื่อใจเธอ เขาจะเข้าไปแลกตังค์เอง ต้องไปอ่านว่ากระบวนการ "ความไม่เชื่อใจกันของคนในสังคมเมือง " มันดำเนินต่อไปอย่างไร แต่เรื่องของเธอมักจะหักมุมนะคะ ขอบอก ดิฉันไม่รู้ว่าเธอไปสรรหาสำนวนในการเขียนมาจากไหน ตอนนึงเธอพูดถึงตัวเองหลังจากไปปาร์ตี้มาทั้งคืน เธอรู้สึกเหมือนว่าเธอเป็น หมาขี้เรื้อนแก่ๆ ตัวนึง นอนหมดเรี่ยวแรงกดรีโมทโทรทัศน์อย่างไม่รู้สึกรู้สา ชอบตอนที่เธอบอกเด็กวัยรุ่นว่า อย่ากักขังพลังในตัวเธอ มันเป็นตอนที่เธอเจอฝรั่งอังกฤษอายุ 19 ที่ถนนข้าวสาร เขาออกเดินทางมาประเทศเอเชียคนเดียว มันทำให้เธอนึกถึงตัวเองและวัยรุ่นไทย ในวัย 19 เธอไม่กล้าแม้แต่จะไปพัทยาคนเดียวด้วยซ้ำ ขึ้นรถเมล์ก็ไม่เป็น ไปไหนมาไหนคนเดียวก็เขิน ไม่กล้านั่งกินอาหารตามร้านอาหารคนเดียว ไม่เคยทำงานในร้านอาหารในเพื่อหารายได้พิเศษ ฯลฯ เธอบอกว่า คุณจะเลือกแบบใดเล่า ระหว่างการใช้ชีวิตวัยรุ่นให้เต็มที่ตามความหมายของคำว่าเป็นวัยของการเรียนรู้และค้นหา กับการใช้ชีวิตวัยรุ่นที่ราบเรียบและปลอดภัย ดิฉันเคยไปอิตาลี บางเมืองก็มีเพื่อนเที่ยว (ไปเยี่ยมเพื่อนเก่า ) บางเมืองก็เที่ยวคนเดียว ที่กรุงโรม ดิฉันเที่ยวคนเดียวอยู่หลายวัน ( มีคนเตือนว่าโรม เป็นเมืองที่ไม่ปลอดภัย ทั้งจากขโมยวิ่งราวกระเป๋า ทั้งจากการหลอกต้มตุ๋นนักท่อเงที่ยว ฯลฯ ) แต่ประสบการณ์การเที่ยวคนเดียวที่โรม มีคุณค่ากับดิฉันมาก มันมีทุกอารมณ์ ทั้งสนุก ทั้งเหงา ทั้งคิดถึงเพื่อน ทั้งตื่นตาตื่นใจกับเมืองที่โอ่อาขนาดนั้น ทั้งประทับใจกับคนอิตาลี ทั้งต้องคอยวิ่งหนีหนุ่มอิตาลี (เพราะสาวคนไหน ย้ำ- ไม่ว่าคนไหนก็ตาม ถ้าไปอิตาลีแล้ว ไม่มีหนุ่มอิตาลีมาจีบ ให้มาเหยียบดิฉันได้ค่ะ ) ทั้ง ฯลฯ (ตอนที่เที่ยวคนเดียวนี้ไม่อาจจัดได้ว่าเป็นวัยรุ่นแล้ว ) เพื่อนๆ หลายคนของดิฉันตอนนี้ก็ยังไม่เคยเที่ยวคนเดียว ดิฉันอยากยุให้หลายๆ คนลองเดินทางคนเดียวดูค่ะ เป็นรสชาติในชีวิตที่คุณควรจะมีไว้เป็นประดับตัวเอง ... นี่เป็นหนังสือรวมบทบรรณาธิการนิตยสารที่ดิฉันชอบมาก เล่มนึงทีเดียว บทบรรณาธิการในนิตยสารเล่มล่าสุด เธอพูดถึง พัทยา เมืองแห่งความชั่วร้ายแบบเหี้ยๆ ตามคำพูดของเธอ ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกว่ามันเทียบเท่าได้กับเรื่องสั้นชั้นดีเรื่องนึงทีเดียว ... ให้ตายเถอะ บอกอหนึ่ง ชั้นชอบหนังสือที่แกทำจริงๆ ไปหยิบๆ เปิดๆ ดูหลายครั้งหลายที เหมือนกันค่ะเล่มนี้ รออ่านที่คุณ grappa เล่าก่อนดีกว่า อิอิ
โดย: ปีกที่ไม่อาจจะโบยบิน (WhaT iT'S W๐l2tH ) วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:7:39:30 น.
เจ๊แกปากจัด
อ่านแล้วกลัว (เห็นพี่คนนึงที่ทำงานที่ปอบ บอกจริงๆ เจ๊แกก็น่ากลัว ฮา) อย่างไรก็ดี เรื่องที่แกเขียนก็สนุกดีนะครับ เป็นมุมมองแปลกๆ ชอบเรื่องอินดี้ ไม่อินดี้ที่แกเขียน แต่ไม่ชอบเรื่องปาร์ตี้ฟูลมูนเลย ให้ตายสิ! เหมือนหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองยังไงไม่รู้ หรือผม Conservative เกินไป ไม่รู้เหมือนกัน? ป.ล. ดู War of the Worlds มาแล้วครับ เฮ่อ...... พูดได้แค่นี้ โดย: it ซียู IP: 161.200.255.162 วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:8:25:20 น.
ยังไม่เคยอ่านซะด้วยสิ รอคนมาเล่าให้ฟังก่อนดีกว่า อิอิ
จะบอกว่า ยังไม่มีบทบรรณาธิการเล่มไหน ที่ประทับใจจริงๆ เลยครับ โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:9:15:48 น.
จะรออ่านด้วยใจระทึกยิ่ง
คราวนี้ไม่ทันไปบอกแฟนประจำ แฟนประจำก็มาแล้วนะคะ อิอิ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:10:13:19 น.
โดย: ยัยแก้มบุ๋ม : ) วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:11:07:14 น.
เป็นหนังสือเล่มที่เห็นแล้วหยิบเลยทันที ในฐานะเป็นแฟนหนังสือปอปแบบไม่ค่อยปะติดปะต่อ และไม่รู้ว่าจะหาหนังสือเล่มนี้เจออีกได้ที่ร้านไหน (เพราะดูท่าทางว่าจะหายากเหลือเกิน)
อ่านจบรวดเดียว ไม่ผิดหวังเลยครับ โดย: strawberry machine gun วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:11:16:22 น.
ถึงแฟนๆ อัพเดทจากที่เขียนเมื่อคืน
แล้วนะคะ อาจจะมีอัพเดทอีก ในคอมเม้นท์ โดย: grappa (grappa ) วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:11:30:14 น.
"แล้ววันหนึ่ง .. วันที่เธอนึกไม่ถึง จะกลับมา"
ครับ .... พอดีผมเห็นพี่เค้าพูดถึงหนังสงคราม ก็เลยนึกถึงการ์ตูนเก่าๆเกี่ยวกับสงครามเรื่องหนึ่งคือสุสานหิ่งห้อย กับ อนิเมชั่นหนังสั้นเกาหลีแปลเป็นไทยว่า หนูขี้หมา อันนี้เกี่ยวกับชีวิตของขี้หมาก้อนหนึ่งที่มองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองครับ เป็น vcd ไทยซับ สองเรื่องเลยครับ อยากแลกหรือแบ่งหนังกับเพื่อนๆดูบ้างจัง ...ว่าแต่ใครมีหนังอะไรมาแลกกันดูดีก่าเนอะ G one >> gadortaroz@hotmail.com (5 5 5 desktop error ตกรอบ 12 call ) โดย: desktop error IP: 203.113.81.6 วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:13:08:05 น.
ป.ล.
1. ไม่เคยเห็นหนังสือเล่มนี้ตามแผงเลยครับ (หรือเราตาไม่ดี?) งงๆ เหมือนกัน 2. เพื่อนคนนึงผ่านไปงานหนังสือ เห็นเจ๊แกแจกลายเซ็นด้วย เสียดายวันนั้นไม่ได้ไป เลยอดดูตัวจริงเจ๊ตี้ว่าจะน่ากลัวจริงรึเปล่า (ฮา) โดย: it ซียู IP: 161.200.82.202 วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:15:27:17 น.
ตอนแรกเห็นที่ไปบอกไว้ที่ blog ว่าอัพ blog แล้ว
นึกว่าเป็นอันเมื่อคืนน่ะค่ะ ยังบอกไว้ใน blog ตัวเองเลยค่ะว่า มาอ่านแล้วง่ะ แต่ก็ยังกดมาอ่านนะ เกือบพลาดซะแล้วสิ อิอิ สงสัยเป็นเล่มหนึ่งที่เราต้องหามาอ่านให้ได้อีกแล้วล่ะ ไม่แน่ใจว่า grappa เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ยังอะคะ? (เราเพิ่งเขียนถึงใน blog เราไปไม่นานนี้เอง) "เจ้าชายไม่วิเศษ" เราว่าดีนะ ไม่รู้ grappa จะชอบหนังสือแนวๆ นี้มั้ย? จะยังคงติดตามอย่างสม่ำเสมอตามประสาคนรักจริงนะคะ สวัสดีค่ะ โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:17:58:39 น.
- คุณสาวไกด์
เมื่อคืนเริ่มเขียนถึงหนังสือเล่มนี้ตอนตีสามกว่าๆ อ่ะค่ะ เขียนไปๆ ชักง่วง เลยแค่เกริ่นไว้ แล้วค่อยมาอัพเดท ตอนกลางวัน -คุณ it cu ตอนฟูลมูนปาร์ตี้ ดิฉันชอบมากนะคะ เคยไปปาร์ตี้ที่นั่นมาเหมือนกัน แต่อยู่ไม่ถึงเช้า ฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว ได้ตื่นเช้ามาดูซากศพฝรั่งที่นอนแห้งกรังอยู่สองสามคน และหาดค่อนข้างสะอาด เธอเขียนไว้ว่าเธอรู้สึกอายที่เห็นฝรั่งเก็บขยะหลังจากปาร์ตี้เลิกแล้วใช่ไหมคะ เธอเขียนชิ้นนี้มาเพราะได้อ่านเว็บบอร์ดอันหนึ่ง ที่ถ่ายรูปฝรั่งในงานฟูลมูนปาร์ตี้ แล้วคนที่ถ่ายรูปมานี้ ก็บอกว่าฝรั่งมาย่ำยีบ้านเมืองเรา บอกอตี้ก็เลยเล่าความจริงอีกด้านที่เธอเห็น คือหลังจากปาร์ตี้เลิก พวกฝรั่งเหล่านั้นก็ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดหาด ตอนที่เธอเล่าบอกว่า เธอรู้สึกละอายที่เห็นฝรังวัยรุ่นนางหนึ่งกำลังก้มลงเก็บขวดเบียร์ที่ตกอยู่ใกล้ๆ เท้าของเธอที่กำลังนั่งทำท่าประดิษฐ์สวยอยู่ ก็ไปปาร์ตี้ จะให้มันสะอาด บริสุทธิ์อย่างไรเล่า ไม่ได้ไปวัดนี่ - desktop error ตกรอบก็ไม่เป็นไร แฟนๆ เยอะ เห็นคนกรี๊ดกระจายตอนที่เล่นบนเวทีที่สวนสันติ ฯ โดย: grappa วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:19:11:13 น.
เท่าที่เคยอ่าน (จากนิตยสาร)
แกเขียนเรื่องฟูลมูนประมาณ 2 -3 ครั้งได้ แต่อันที่ผมพูดถึง ไม่ใช่อันนี้ครับ (สงสัยอันนั้น ไม่ได้เอามารวมเล่มมั้ง) ส่วนเรื่องที่ผมไม่ชอบ เป็นยังไง ขอหาต้นฉบับให้ได้ก่อนครับ เดี๋ยวมาเล่าอีกที โดย: it ซียู IP: 161.200.255.161 วันที่: 30 มิถุนายน 2548 เวลา:21:05:58 น.
ข่าวฝาก
วันนี้ มีปาร์ตี้โลกแตกหนังสือปอปครับ ฉลองครบรอบ 100 เล่ม โดย: it ซียู IP: 161.200.82.219 วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:9:20:21 น.
ตามมาอ่านค่ะพี่ หนูไม่รู้จัก ไม่เคยอ่านเลยหนังสือเล่มนี้น่ะ
ตกลงสมันนี้เขาชอบผู้หญิงแรงๆ กันแล้วใช่มั้ยคะ หนูจะได้หักบุคลิกไปเป็นสาวหวาน เหอๆๆๆ โดย: มิว IP: 202.133.160.183 วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:10:45:01 น.
มิว
เพศสภาพของบอกตอตี้ เขาไม่ได้เป็นผู้หญิงจ้า แต่เขาสวยกว่าผู้หญิงบางคนอีก เธอเปลี่ยนเป็นสาวหวานได้ด้วยหรือยะ คุณ reble ขอเปลี่ยนจากเพลงของ X japan เป็นเพลงของ Nat King cole แทนนะคะ ไปดู Swing Girls มา แล้วขำๆ ฉากหมูป่า ฮามาก โดย: grappa วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:07:32 น.
ไม่เคยอ่าน pop เลยค่ะ เลยนึกไม่ออกว่าเป็นนิตยสารทำนองไหน
อ่า จะบอกว่าชอบพื้นหลังอันนี้จังเลยค่ะ สวยดี และเพลง LOVE ก็ชอบด้วยค่ะ เพราะ swing girls นี่เอง โดย: cottonbook วันที่: 1 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:50:21 น.
ด๊ายยยสิค๊า คุณพี่
หนูตอบหลังไมค์พี่แล้วนะคะ ขอบคุณค่า โดย: Mutation วันที่: 2 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:20:09 น.
ไว้จะหามาอ่านบ้างนะครับ ร้างลากับนิตยสารบนแผงมานาน ขอบคุณครับ
โดย: gentlelight IP: 210.246.73.251 วันที่: 2 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:22:19 น.
คุณ gent เล่มที่แนะนำเป็นพ็อคเก็ทบุ้คนะคะ
เป็นรวมเล่ม รวมบทความจากนิตยสาร ไม่ค่อยได้อ่านนิตยสาร POP หมือนกัน แต่ชอบรวมบทบรรณาธิการอ่ะค่ะ โดย: grappa IP: 61.90.15.115 วันที่: 3 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:53:47 น.
grappa
เขียนถึง Swing Girl รึยังคะ ว่าจะไปดูเหมือนกันหวังว่าอาทิตย์หน้าจะไม่ออกไปซะก่อน ชวด Electric Shadows มาเรื่องนึงละ โดย: rebel วันที่: 3 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:51:41 น.
จะกลับถึงเมืองไทยวันที่ 7 นี้ครับ แล้วจะอ่านหนังสือ ดูหนังที่พี่แป๊ดยั่วกิเลศให้ได้มากที่สุด ก่อนกลับมาเรียนเทอมสุดท้ายที่นี่
โลกไซเบอร์สเปซแคบ กลม และเล็กน่าอัศจรรย์ทีุ่สุด ดีใจจังครับ ได้เจอกับพี่แป๊ดในนี้ แล้วคงได้เจอกันเร็วๆ นี้ครับ ฝากสวัสดีพี่ๆ ที่สนพ. วงกลมด้วย ผมเพิ่งรู้ัจัก "บล็อก" ไม่ถึงเดือนหรือเดือนอีกไม่กี่วันเองครับ โดย: ท่อก กระหล่ำปลีกุล IP: 24.23.131.39 วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:08:08 น.
แล้วจะบอก พี่ๆ ที่วงกลมให้จ้า
เปลี่ยนเพลงอีกแระ ถึงแม้นว่า Coldplay จะออกชุดใหม่มาพักนึงแล้ว ก็ยังชอบ Yellow อยู่ โดย: grappa IP: 61.90.15.183 วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:7:54:30 น.
คุณ grappa
เราลองโค้ดแล้วนะ มันก็ใช้ได้นา ลองอีกทีละกันนะ คือเราลองแล้วและมันก็จั่วหัวมาตามปกติแต่ไม่มีการแจ้งการอัพโหลดเลย ทั้งๆที่คนที่มีชื่ออยู่ในลิสต์ของเรามีการแจ้ง ก็เป็นไปได้ว่าในลิสต์ของคุณ grappa มันมีจำนวนคนมากเกินไป เพราะการตรวจสอบการอัพเดตโปรแกรมมันจะไปเปิดหน้าเวบของทุกรายชื่อดู ถ้าลองลดจำนวนลงก็จะเห็นการอัพเดตนะคะ โค้ดส่งให้ทางหลังไมค์ตามเดิม ตรงนี้จะแปะโค้ดเลย พิสูจน์ว่ามันใช้ได้จริงๆนะ ชื่อคนเหลือ 5 คนพอ ตามที่ส่งไปทางหลังไมค์เดี๊ยะๆ โดย: หนูทำด้ายยย (rebel ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:57:08 น.
ก็อปโค้ด ตามที่ส่งมาให้ทางหลังไมค์เดี๊ยะๆ
เลยค่ะ ทำไมแปะแล้ว มันเป็นจอขาวๆ ตามข้างบนหว่า พรุ่งนี้ มาดูใหม่แล้วกันค้า วันนี้ ง่วงแล้ววววววววววววววววววว โดย: หนูลองแล้ว (grappa ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:57:33 น.
กำลังจะอัพblog เหรอครับ
ไม่ทราบว่าเสาร์ที่ผ่านมาไปดู friday nightหรือเปล่าครับ พอดีไปตอน15นาทีสุดท้ายเลยดูไม่รู้เรื่อง โดย: gentlelight IP: 210.246.72.102 วันที่: 5 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:00:45 น.
กำลังพยายามใส่โค้ด ตามที่คุณ reble ช่วยเหลืออ่ะค่ะ
ไปดูมาค่ะ Friday Night คุณ gent ก็ไปดูเหรอคะ หนังมันจะว่าอย่างไรดีล่ะคะ ภาพสวยงาม เพลงเพราะ แต่ว่ามันค่อนข้างเป็นแฟนตาซี ของผู้หญิงคนนึงไปหน่อย คือเรื่องมันมีอยู่ว่า นางเอกของเรื่อง ตอนต้นเรื่องนี่ กำลังจะย้ายไปอยู่กับแฟน (ซึ่งดูเหมือนว่ารักกันมาก นางเอกโทรไปบอกแฟนว่า แทบจะรอพรุ่งนี้วันเสาร์ (คือวันที่เราจะอยู่ด้วยกันไม่ไหว ) แต่คืนวันศุกร์ รถติดยาวเหยียด มีการสไตรค์เกิดขึ้นในกรุงปารีส นางเอกตัดสินใจรับผู้ชายคนนึง (ผู้ชายที่เห็นในเรื่องอ่ะค่ะ ก็บุคลิคดีพอสมควร ) เข้ามาในรถด้วย ข้างนอกอากาศหนาว และอย่างที่พอจะเดาออก คืนนั้นทั้งคู่จบลงด้วยการมีเซ็กซ์กัน ในโรงแรมแห่งหนึ่ง เรื่องดำเนินไปในเวลาคืนเดียว บรรยากาศเรื่องค่อนข้างรัญจวนพอสมควร เซ็กซี่ ๆ มีรายละเอียดความใกล้ชิดของสองคนนี้ แต่ไม่ค่อยชอบอ่ะค่ะ ดูมันแฟนตาซีเกินไป เหมือนเป็นภาพฝันเพ้อ ๆ ของผู้หญิงคนนึง ยังคุยกับเพื่อนที่ไปดูด้วย ว่าจริงๆ เราจะรับชายแปลกหน้าเข้ามาในรถไหม ถ้ารับแล้วจะโชคดีอย่างนี้หรือเปล่า หรือถ้ารับมาก็อาจจะโดนข่มขืน หรือทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์ มากกว่าจะเจอบรรยากาศรัญจวนใจอย่างในหนัง ฟังดู ตัวเองชักจะหมดความโรแมนติคเข้าไปทุกที อิอิ โดย: grappa วันที่: 5 กรกฎาคม 2548 เวลา:0:14:54 น.
allo allo test test ที่นี่ Hong Kong ค๊า (ว้าย ผิดคีย์)
โดย: Mutation วันที่: 5 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:07:02 น.
ได้รับเมล์แล้วนะคะ
และเมล์กลับตอบไปแล้วค่ะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ grappa โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 5 กรกฎาคม 2548 เวลา:18:57:07 น.
อ่าน POP ตั้งแต่ ม.3 เพิ่งมาเลิกซื้อเอาก็ตอน ปี3 นี่แหละครับ
แต่ชอบบท บก. ของเค้านะ เมื่อกี้ดู [V] มีภาพงานปาร์ตี้ของ POP ด้วย ท่าทางมันส์มาก แต่ให้ไปก็ไม่เอานะ...กลัว โดย: merveillesxx วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:40:07 น.
อ่าน pop มาตั้งแต่เล่ม 18 เรียนอยู่ม.3จนตอนนี้จะขึ้นปี 4 ยังคงกวาดตามองหานิตยาสารเล่มนี้อยู่ทุกเดือนเลย
บก.ตี้ และ ทุกคนในกองปอป คือ พี่ เพื่อน ญาติ ความอบอุ่นที่ไม่อาจลืมเลือน โดย: นุคค่ะ IP: 203.209.127.82 วันที่: 22 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:11:27 น.
ผมเห็นปอปเล่มสุดท้าย รู้สึกว่าจะเป็นของเดือน ธันวาคม ไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว ToT
โดย: โจ IP: 202.12.97.111 วันที่: 13 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:09:24 น.
คิดถึงปอป กลับมาบนแผงสะทีเถิด
เธอคือลมหายใจของนักฟังดนตรีอย่างชั้น โดย: กอลั่มมมมมมมมม IP: 203.118.84.58 วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:11:59:02 น.
ชอบ บก.ตี้มากๆค่ะ น่าเสียดายแทนชาวปอปที่จะไม่ได้อ่านบทบรรณาธิการดีๆอีกแล้ว
โดย: jaojaoja วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:11:34:44 น.
พยายามหาร่องรอยของพี่ POP
แต่ก็ไม่เจอซักกะที อาจ POP มาตั้งแต่ ม.3 ไม่มี POP เหมือนขาดเพื่อนที่ชอบจิ๊ก กัด แต่จริงใจสุดๆ เห็น Alert! ก็เหมือนเพื่อนเก่ากลับมาแล้ว... แต่ตอนนี้ไปหน่ายกันแล้วอ่ะ เศร้าอีกรอบ โดย: Butterworth IP: 203.149.59.130 วันที่: 19 เมษายน 2550 เวลา:13:07:32 น.
อยากอ่านเล่นนี้จังเลยครับ
รบกวนพี่ช่วยบอกสำนักพิมพ์หรือร้านที่ผมจะไปซื้อได้มั้ยครับ โดย: joe IP: 124.120.154.177 วันที่: 10 ตุลาคม 2550 เวลา:21:51:03 น.
เป็นบทบรรณาธิการที่สนุกมาก มันทำให้รู้ว่าการเรียนรู้นั้นไม่มีวันสิ้นสุด ความคิดมันเปลี่ยนแปลงเสมอ
โดย: sassi_sad IP: 58.10.15.234 วันที่: 2 มีนาคม 2551 เวลา:13:22:06 น.
ซื้อมาอ่านแล้วค่ะ
เจ๊แกแรงจริงๆ หนูประทับใจ!! โดย: ฉันชอบเจ๊ IP: 124.121.48.145 วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:22:32:04 น.
|
บทความทั้งหมด
|
คิดถึง X จังเลยค่ะ...