Group Blog All Blog
|
มิสเตอร์ดิออร์ (Mr. Dior) ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ เขียน 29/12/2020 มิสเตอร์ดิออร์ Mr. Dior (2 เล่มจบ) ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ เขียน Rear แปล สำนักพิมพ์ Iris Book พิมพ์ครั้งที่ 1 ตุลาคม 2563 900 บาท 924 หน้า
#Yaoi #BoysLove #นิยายวาย #นิยายแปล #แปลจีน #มิสเตอร์ดิออร์ #MrDior #ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ #IrisBook #รีวิวนิยาย #ออโอ
*นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างชายกับชาย
หลังปกเล่ม 1
สำหรับ ‘เจียวชี’ เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้สามีที่แต่งงานกันมา 7 ปีกลายเป็นคนหลายบุคลิก เพราะ AI ที่ฝังอยู่ในสมองกระทบกระเทือน ถึงเขาจะเป็นคุณชายใหญ่ที่ครบเครื่องทั้งหน้าตา ฐานะ และความสามารถ แต่การรับมือสามีมาเฟีย นายพล หรือกระทั่งสิ่งมีชีวิตเหนือจินตนาการ (?) เนี่ย ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ แต่ในฐานะภรรยาของประธานบริษัทระดับโลก เขาจะปกป้องสามีจู๋ใหญ่คนนี้ด้วยกำลัง (?) จะทุบให้น่วมเลยคอยดูสิ ดังนั้นจะปล่อยให้ใครรู้เรื่องอาการป่วยของคุณสามีไม่ได้เด็ดขาด!
แต่แล้ววันหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็ค้นพบความลับที่สามีซุกซ่อนไว้ตั้งแต่ก่อนวันที่พวกเขาจะพบกันครั้งแรกเสียอีก
คุยกันหลังอ่าน
แนวอะไรดีเรื่องนี้ แนวตามใจฉันมั้งคะ คอมเมดี้ ขยำ ๆ ยำพล็อต ออกมาเป็นเรื่องนี้
โลกเป็นแบบยุคปัจจุบันที่ออกจะล้ำนิด ๆ มีเรื่อง AI ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคน ใช้ติดต่อ ค้นคว้า บันทึก ไม่ว่าจะสั่งอะไรไป เจ้า AI ที่ว่านี้ก็จะประมวลผลหาคำตอบที่ดีที่สุดมาให้ มีทั้งแบบเอ็กซ์เทอนอลและอินเทอร์นอล แบบอินก็ฝังอยู่ในหัวเลย (ซึ่งอ่านในเรื่องโอก็ยังมองภาพไม่ค่อยชัดน่ะนะ) วันหนึ่งจางเฉินเฟย พระเอก ประสบอุบัติเหตุรถยนต์หัวกระแทก ตอนนั้นเขากำลังบอกให้ AI อ่านนิยายให้ฟังขณะขับรถ พอสมองกระทบกระเทือน AI ที่ฝังในหัวก็เลยรวน ทำให้คุณจางเฉินเฟยผู้ยิ่งใหญ่ ตกอยู่ในพล็อตนิยายที่ AI เลือกเข้ามาเก็บในคลัง
เจียวชี นายเอก แต่งงานกับจางเฉินเฟยมาเจ็ดปี (เรื่องตอนนั้นผู้ชายกับผู้ชายในจีนแต่งงานกันได้แล้วน่ะ) ชีวิตราบรื่นดีไม่มีปัญหา อยู่ ๆ ก็ต้องมารับมือกับสามีที่โดนพล็อตนิยายทำพิษ เดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาเป็นคนนั้นคนนี้ คอยทำให้เขาปวดเศียรเวียนเกล้าไม่เว้นแต่ละวัน
เคสผลกระทบจาก AI ที่ว่านี้ยังพบน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มี เจียวชีกับจางเฉินเฟยต้องพยายามหาวิธีทำให้จางเฉินเฟยเป็นปกติโดยเร็ว ทั้งการติดต่อแพทย์เฉพาะทาง และล้วงข้อมูลจากผู้ผลิต (และเตรียมฟ้องร้องไว้ด้วย) ระหว่างนั้น เจียวชีก็ต้องรับมือกับคุณสามีที่สามารถเปลี่ยนบุคลิกเป็นตัวละครในนิยายได้ตลอดเวลา
เรื่องจะแบ่งเป็น Arc หนึ่ง Arc ก็คือพล็อตนิยายหนึ่งเรื่อง แล้วก็แบ่งเป็นตอนย่อย ๆ ในนั้นอีก แต่เนื้อเรื่องมันต่อกันนะ อ่านแยกไม่ได้ ทั้งหมดมีอยู่ 11 Arc
ดิออร์ในชื่อเรื่องมาจากชื่อที่นายเอกเรียกพระเอกว่า จางต้าเตี่ยว (ซึ่งแปลว่า จางจู๋ใหญ่...) คำว่าเตี่ยว ถ้าสะกดแบบภาษาอังกฤษ จะเขียนว่า diao (di = ดิ ao = ออ) เลยกลายเป็น ดิออร์ เวลาคุณจางต้าเตี่ยวสวมบทบาทในนิยาย ก็จะกลายเป็นคุณจางดิออร์
เน้นฮา ๆ เบาสมอง (จนถึงขั้นไม่มีสมองเลย...) ไม่ยึดหลักเหตุผล เวลาคุณจางดิออร์ทำอะไรพิเรนทร์ระหว่างอยู่ในพล็อตนิยาย เขาสามารถโยงอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเอี่ยวได้เสมอ มุกใต้สะดือทะลึ่งตึงตังมีมาหมด เห็นบนปกมีน้องหมาใช่มั้ยคะ นั่นคือน้องกวนจง เป็นหมาโกลเด้นที่เจียวชีเอามาโมเมเป็นลูกหลอกคุณจางดิออร์ในพล็อตแรก ๆ ซึ่งต่อมาน้องกวนจงจะได้รับบทเป็นสารพัดอย่างตามแต่พล็อตในหัวของคุณจางดิออร์จะสร้างสรรค์ ตรงนี้ก็ตลกดี
นอกจากตลกคุณจางดิออร์แล้ว ที่น่าสนใจอีกอย่างคือเจียวชีจะได้พบความจริงที่คุณสามีปิดบังไว้ มีหลายเรื่องซะด้วย ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกค่ะ แต่พอเจียวชีรู้ความจริงแล้ว มันทำให้เขาเข้าใจจางเฉินเฟยยิ่งกว่าเดิม และทำให้ใกล้กันยิ่งขึ้น
พระนายสองคนนี้รักกันค่ะ พระเอกรักนายเอกมาก ๆ แบบมาก ๆ เลย ใครชอบคนหลงแฟนมีอยู่ตรงนี้หนึ่งอัตรา นายเอกเองก็รักพระเอกค่ะ แต่ความที่ไม่ค่อยพูดความในใจ และที่ผ่านมาก็ทำงานหนัก เลยเหมือนทำให้เกิดช่องว่างในความสัมพันธ์โดยไม่รู้ตัว (และไม่รู้ด้วยว่าพ่อเฉินเฟยเก็บไปน้อยใจไว้ซะเยอะเลย) พอเกิดเรื่องพล็อตนิยายเข้าสิง ทั้งคู่เลยได้พูดและทำในสิ่งที่ปกติจะไม่ทำ ก็เหมือนได้ลองสิ่งใหม่ ๆ ได้ทำสิ่งที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น (รวมถึงลีลาบนเตียงด้วย ฮ่า ๆ ถึงเจียวชีจะเอวเคล็ดบ่อยมากตั้งแต่เจอคุณจางดิออร์ แต่เรื่องนี้ไม่มีฉากนะคะ)
โอชอบเวลาคุณจางดิออร์โผล่มา ไม่ว่าในบทของเขาจะเป็นจอมเผด็จการหรือผู้ยิ่งใหญ่มาจากไหน สุดท้ายนายเอกคือที่สุดค่ะ เขาไม่มีวันข่มเหงหรือทำให้เจียวชีน้อยเนื้อต่ำใจเด็ดขาด
ชอบอีกอย่างคือเวลาพระเอกได้สติแล้วอายสิ่งที่ตัวเองทำหนักมาก ถ้าม้วนกลับรูได้คงทำแล้ว (ถ้ามีรูให้ม้วนน่ะนะ) ส่วนนายเอกนอกจากไม่ช่วยแล้วยังขยันอัดคลิปซ้ำเติม พระเอกกลัวนายเอกค่ะ อ้ะ #คนกลัวเมีย ให้
ทั้งพระเอกและนายเอกเป็นประธานบริษัทค่ะ ต่างคนต่างทำงาน นายเอกบ้านมีฐานะอยู่แล้ว ก็รับกิจการต่อ ส่วนพระเอกไต่เต้ามาจากความสามารถ เขามีหัวทางด้านโปรแกรมและเทคโนโลยี บริษัทก็ทำเกี่ยวกับแนว ๆ นี้ บริษัทของทั้งคู่มีโคกันบ้าง โอยังงง ๆ เรื่องขอบเขตงานของบริษัททั้งคู่ เอาเป็นว่า มันเกี่ยวกับเกมด้วยค่ะ มีการดึงเอาสตรีมเมอร์ หรือนักเล่นเกมมาโปรโมตเกมของบริษัทตัวเอง ซึ่งโอว่าเนื้อหาส่วนนี้มันค่อนข้างกึ่ง ๆ จะออกทะเลน่ะ เป็นน้ำมากกว่าเนื้อซะเยอะ
แรก ๆ เจียวชีกังวลว่าจางเฉินเฟยจะทำงานไม่ได้ แล้วไปอะไรพิลึก ๆ ในบริษัทก็เลยตามไปเฝ้าเขาด้วย แต่กลายเป็นจางเฉินเฟยทำงานได้ไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะอยู่ในพล็อตนอกโลกหรือละครย้อนยุค เขาก็สามารถควบรวมเนื้อหาตีความเข้าใจเอาเองได้หมด อาจจะมีพฤติกรรมหรือสำนวนภาษาที่แปร่ง ๆ อยู่บ้าง แต่โดยรวมก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ
และที่ไม่น่าเชื่อคือ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับดาราหรือวงการบันเทิง แต่ดันมีกองอวยแฟนคลับมากหน้าหลายตามาอวยพระนาย ว้าย! กรี๊ด! เขารักกัน! พ่อเฉินเฟย! คุณชายใหญ่!
โฮ่
นิด ๆ หน่อย ๆ พอว่า มากไปก็เฝือปนเอือมน่ะ
จริง ๆ ตัวพระนายนี่ไม่มีอะไรที่โอไม่ชอบเลยนะ
จางเฉินเฟย aka จางจู๋ใหญ่ เป็นพระเอกแนวหมาน้อย ระริกระรี้เวลาเจียวชีแสดงออกว่ารัก คอตกหมาหงอยเมื่อโดนเจียวชีตะเพิดออกจากห้องนอน รักและบูชานายเอกมาก ๆ เจียวชีเข้าใจว่ารู้จักจางเฉินเฟยตอนนัดบอด แต่ความลับอย่างหนึ่งคือจางเฉินเฟยรู้จักเจียวชีมาก่อนหน้านั้นแล้วและปักใจไม่เสื่อมคลาย ด้วยความที่รักมาก ๆ เกรงใจสุด ๆ เลยกลายเป็นคนกลัวเมีย (ข้ออ้างสินะ...) ทำอาหารเก่ง การดูแลกระเพาะที่อ่อนแอของเจียวชีเป็นภารกิจสำคัญของเขา เป็นอัจฉริยะด้านโปรแกรม ตั้งแต่เรียนก็คิดเกมจนได้รางวัลมาใหญ่โต ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาด้วยกำลังของตัวเอง สมัยคบกับเจียวชีใหม่ ๆ คุณพ่อของเจียวชีไม่ค่อยปลื้มจางเฉินเฟยนัก แต่จางเฉินเฟยก็สามารถพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่าตนดูแลเจียวชีได้ ปัจจุบันมูลค่าหุ้นของบริษัทจางเฉินเฟยสูงกว่าบริษัทของเจียวชีด้วยซ้ำ แม่ของจางเฉินเฟยเสียไปแล้ว จางเฉินเฟยที่รู้สึกว่าพ่อที่ขาดการใส่ใจดูแลแม่เป็นต้นเหตุที่ทำให้แม่ของเขาจากไป ทำให้นับตั้งแต่นั้นความสัมพันธ์พ่อลูกก็ง่อนแง่นตลอดมา
เจียวชี เป็นคุณชายคนเดียวของบ้าน แต่ตั้งแต่ยังเล็ก พ่อแม่ก็ทำงาน พ่อทำงานบริษัท ส่วนแม่เป็นนักแสดง ทั้งคู่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลเขา ทำให้ลึก ๆ แล้วเขาเป็นคนขาดความอบอุ่น พอเจอจางเฉินเฟยที่มีเวลาให้เขาตลอด ใส่ใจดูแลทุกข์สุขไม่ขาดตกบกพร่อง เลยตกหลุมรักได้ไม่ยาก เจียวชีเป็นฉลาด เข้มแข็ง ทุ่มเทให้กับการทำงาน ระยะเวลาที่ผ่านมาเจ็ดปีเพราะรู้สึกว่าการทำงานเป็นเรื่องที่เขามุ่งมั่นเป็นหลักจึงทำให้ละเลยจางเฉินเฟยไปไม่น้อย เมื่อมีคุณจางดิออร์โผล่มา ทำให้เจียวชีต้องหันมาใส่ใจให้เวลากับจางเฉินเฟยยิ่งขึ้น เจียวชีมีเลขาประจำตัวเป็นชายร่างตุ้ยนุ้ยที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงและไม่โดนรัศมีความเข้มงวดของเจียวชีข่ม จางเฉินเฟยก็ชอบเลขาคนนี้เช่นกัน เพราะท่าทางการกินของคุณเลขาทำให้เจียวชีเจริญอาหารยิ่งขึ้น
โอตัดสินใจซื้อเรื่องนี้เพราะคิดว่าชอบพล็อตแบบมาสวมบทบาทเป็นตัวละครจากเรื่องต่าง ๆ และอยากรู้ปมเรื่องที่พระเอกปิดบังนายเอกไว้ว่าจะเป็นยังไง
ซึ่งสองจุดที่โอสนใจ ในเรื่องทำได้น่าผิดหวังสำหรับโอ
พล็อตยำเรื่องมากไปจนขาดจุดเด่น คือถ้าให้เล่า จะเล่าที่เด่น ๆ ได้ไม่กี่เรื่องเอง นอกนั้นลืม พล็อตนิยายขาดความน่าจดจำ และหลาย ๆ ช่วงเล่ายืดมาก จนรู้สึกว่า เมื่อไรคุณจางดิออร์จะไปซะที โอว่าถ้าตัดบางพล็อตออกไปแล้ว เน้นพล็อตไม่ต้องมาก แต่ให้เด่นและใช้ประโยชน์จากพล็อตดึงเรื่องให้เด่นจะน่าสนใจมากกว่า ช่วงเวลาที่จางเฉินเฟยกลับเป็นตัวเองน้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับบทบาทที่เขาสวม โอว่ามันสามารถสร้างบาลานซ์ให้ดีกว่านี้เพราะตัวบุคลิกดั้งเดิมของจางเฉินเฟยก็น่ารักน่าเชียร์อยู่แล้ว
โออ่านแล้ววาง ๆ หันไปทำอย่างอื่นตลอด ถ้าไม่กำหนดหน้าไว้ในใจว่าห้ามวางจนกว่าจะถึงหน้าที่กำหนด โอจะอ่านไม่จบเลย เล่าเรื่องได้ไม่น่าสนใจ ยืดและน่าเบื่อ มุกตลกที่มีก็พอขำได้ในบางจุด แต่ส่วนใหญ่แล้วไปในทางแป้ก
ปมของเรื่องที่พระเอกปิดบังนายเอก เอาจริง ๆ ก็ไม่มีอะไร มันเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจจะทำให้พอซึ้งได้ แต่ไม่มีอานุภาพดึงอารมณ์อะไรขนาดนั้น
คาแรกเตอร์ตัวละครแบน วิธีเล่าเรื่องแบน มันไม่มีความลึกของเนื้อหาหรือตัวละคร เรื่องเกิดเพราะคำที่ผู้เขียนเล่า พูดถึงตัวเอกสองคนได้แค่พระเอกรักนายเอกมาก นายเอกรักพระเอกมาก แล้วจบ มันไม่มีอะไรให้พูดต่อ ตัวละครไม่มีชีวิตออกมา
ปมเรื่องครอบครัวของพระนายก็ไม่น่าสนใจ เพราะความที่ตัวละครแบนเกินไปจนไม่น่าเชื่อถือ ขาดมิติของตัวละคร
มีตัวร้ายเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่องใหญ่โต เป็นเพียงตัวเล็กตัวน้อยที่ผ่านมาสร้างผลกระทบเป็นครั้งคราว ซึ่งสุดท้ายก็พ่ายแพ้แก่อำนาจของฝั่งพระเอกไป
โอพบว่าโอไม่ค่อยคลิกกับทัศนคติของผู้เขียนในหลาย ๆ จุด ผู้เขียนค่อนข้างเชิดชูตัวละครและให้อำนาจแก่พวกเขาแบบไม่มีข้อกังขา คนที่อยู่ฝ่ายตัวเอกจะได้สิทธิ์ในการทำพฤติกรรมที่ถือว่าเป็นความผิดถ้าอยู่ฝั่งตัวร้าย
เพราะมันไม่มีความลึกในเนื้อหา พื้นเพของโลกในนิยายก็ไม่ชัดเจน เรื่องนี้เลยให้อารมณ์เป็นแบบแฟนฟิกชันมากกว่าเป็นนิยายของตัวเอง
โอชอบที่เขาเก็บบางมุกมาเล่นซ้ำ แต่ภาพรวมโอก็ยังไม่ค่อยชอบอยู่ดี เขาตีได้ไม่ตรงจุด ไม่เน้นในจุดที่ควรจะเน้น เลยดึงเรื่องได้ไม่ถึงเท่าที่ควร
โอไม่แน่ใจว่าเป็นมันเป็นที่การแปลหรือเปล่านะ (ส่วนตัวโอคิดว่าครึ่ง ๆ ครึ่งหนึ่งคือผู้เขียนค่อนข้างให้ข้อมูลที่จับต้องยาก เขาไม่เขียนส่วนสนับสนุนเพียงพอ เนื้อเรื่องเหมือนด้นสดไปเรื่อย) ถ้าอ่านเผิน ๆ จะไม่พบจุดผิดปกติ แต่ถ้าเจาะจะพบว่าอ่านจับใจความได้ค่อนข้างยาก เก็บไปเล่าต่อยาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาบางจุด พล็อตนิยาย มุกตลก หรือเชิงอรรถ อย่าง AI ที่ว่าไป ขอบเขตงานของบริษัท วิธีแก้ปัญหาของพระนาย (กว่าโอจะพอเข้าใจก็ช่วงท้ายเลย โองงตั้งนานว่าสองคนนี้ตั้งใจทำอะไรกันแน่) หรือตอนที่มีเด็กสาวคนหนึ่งที่ติดอยู่ในการพูดแบบทอล์กโชว์ โอก็งงว่ามันเป็นยังไง บทพูดของเธอก็ไม่สื่อให้เห็นอะไรเลย มุกตลกที่ควรจะต้องฮาแบบทันที หลาย ๆ ครั้งมันเลยอารมณ์ แบบ เขาต้องการพูดถึงอะไร เล่นอะไรกันแน่ เราไม่เข้าใจ ภาพของเรื่องในหัวเลยเกิดยากตามไปด้วย
โอว่าหลาย ๆ ครั้งที่เรื่องนี้ให้ฟีลของเรื่องกลับมาเกิดใหม่เป็นซูเปอร์โมเดล ทั้งที่ผู้แต่งคนละคน ชูพระนาย มีกองแฟนคลับ มุกแทรก (ที่ส่วนใหญ่จะแป้ก) แต่เรื่องนี้จะเน้นความสัมพันธ์พระนายเป็นหลัก
โอให้ 2.5 ดาว ในแบบที่จะปัดลงแล้วละ มันเหวี่ยงขึ้นลงระหว่างสองถึงสาม เลยให้เฉลี่ยเท่านี้ ถามว่าน่ารักไหม มันก็มีจุดที่โอว่าน่ารัก พระนายรักกัน พยายามเกื้อกูลกันดี ตลกตอนพระเอกเขินเมื่อรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป หรือกลัวนายเอกโกรธเพราะตัวเองทำเหลวไหลไว้เยอะ แต่เรื่องมีจุดหลวมมาก และเขียนได้ยำมากไป อย่างตอนพิเศษนี่เห็นชัดเลยว่าด้นสดโนพล็อต และถ้าเอามาคิดคะแนนรวมด้วย ก็จะเป็นตัวฉุดคะแนนให้ลงต่ำ ถึงจะเป็นแนวเน้นฮาสมองบวม แต่จริง ๆ คิดว่าเรื่องนี้สามารถทำได้ดีกว่านี้นะ ทำได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ค่อนข้างมากทีเดียว
โอชอบโทนสีของปกเรื่องนี้ ชอบน้องหมาด้วย เสียดายที่เรื่องไม่ค่อยถูกใจโอนัก
ผลของงานผู้เขียน ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ (Lu Ye Qian He) ที่มีแปลไทยมี แนววาย Mr. Dior (Iris Book) มฤคคำนึง (Iris Book) กำลังเปิดจอง อร่อยล้นวัง (Sense Book) ฝ่าบาท อย่ากวนสิ! (Bodhi) อุบัติรักความจำเสื่อม (Mee-D) หนึ่งคำมั่น นิรันดร์กาล (Mee-D)
ชายหญิง Perfect Guy ผู้ชายคนนี้ฉันดีไซน์เอง (แจ่มใส)
เยอะนะนี่ โอเพิ่งเคยอ่านเรื่องมิสเตอร์ดิออร์เป็นเรื่องแรกเองค่ะ
นิดหน่อย หน้า 10 เมื่อเจียวชีหันมาเห็นตำรวจจราจรพากันแหงนหน้ามองหลอดไฟ ก็รีบดีดตัวผึงลงมายืนบนพื้นเหมือนปลาถูกไฟฟ้าชอร์ต >> ไฟฟ้าช็อก ช็อก น. สภาวะที่ร่างกายเสียเลือดจนความดันเลือดต่ำมากหรือถูกกระทบจิตใจอย่างรุนแรง หรือถูกกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เป็นต้น จนทำให้เป็นลมหรือหมดสติในทันที ลองอ่านเพิ่ม คลิก
และเหมือนมีเชิงอรรถหายไปหรือเปล่า เล่ม 2 หน้า 427 บอกว่าแบ็กกราวด์เกมนำมาจากนวนิยายเรื่อง เสิ่นหมู่เหนาปู๋จิ้น* ใส่ดอกจันไว้ แล้วไม่มีคำอธิบายความต่อ
มีหน้าคั่นระหว่าง Arc
ลืมเอาโปสเตอร์มาถ่ายรวมเพราะตอนได้มาเก็บแยกไว้
คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ ขอบคุณสำหรับโหวตค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 30 ธันวาคม 2563 เวลา:12:54:16 น.
ซื้อมาอ่านแล้วค่ะ สำหรับเราสนุกนะ เพราะชิวิตมันหนักอ่านอะไรที่ไร้สาระพอ อมยิ้มก็ดีค่ะ อ่านยังไม่จบ แต่บริษัท นายเอก คุณโอน่าจะจำผิดนะค่ะ บริษัทเจียวชี ก่อตั้งเองค่ะ เพราะธุรกิจครอบครัว พ่อ เจียวชีบริหารเองอยู่นะ แต่บริษัท นายเองคล้ายๆๆWeTVค่ะ เป็นช่องทีวี โคกับบริษัท สามีตัวเอง
โดย: anussara IP: 171.96.73.157 วันที่: 4 มกราคม 2564 เวลา:16:31:47 น.
คุณ anussara คนชอบเยอะเหมือนกันนะคะเรื่องนี้ ส่วนตัวคิดว่าโอน่าจะชอบมากกว่านี้ถ้าคนเขียนเขียนคุมเรื่องได้มากกว่านี้ บางมุกโอก็คิดว่าฮาดีค่ะ คิดได้ไงอะไรอย่างนี้
ขอบคุณสำหรับคำทักทวงนะคะ โออ่านแล้วงงจริง ๆ ค่ะ บริษัททั้งคู่ทำอะไรกันแน่ รู้แต่โคกัน ธุรกิจเกื้อหนุนภายในครอบครัว โดย: ออโอ วันที่: 8 มกราคม 2564 เวลา:10:19:10 น.
|
โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
Friends Blog |