Group Blog All Blog
|
Glass and Steel Naoto เขียน 12/3/2020 Glass and Steel Naoto เขียน สำนักพิมพ์ everY ในเครือแจ่มใส 259 บาท 292 หน้า
หลังปก
ท่ามกลางเพลิงร้อนระอุของสงครามความขัดแย้ง ความผูกพันครั้งเยาว์ถูกลบเลือนหาย ภาระหน้าที่ของนายทหารพรรคก๊กมินตั๋งนาม ‘หยางเหวินอี้’ จึงสวนทางกับอุดมการณ์แรงกล้าของคุณชายรอง ‘หลี่เฟยหมิง’ ผู้สนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ บนจุดยืนที่ห่างไกลไร้ทางบรรจบ อีกทั้งการพบกันแต่ละครั้งยิ่งนำมาซึ่งความรวดร้าวทั้งกาย เจ็บปวดทั้งหัวใจ ดูเหมือนสายสัมพันธ์เส้นสุดท้ายที่เชื่อมโยงทั้งสองไว้ มีเพียงความอ่อนโยนดุจแก้วใส และความรักแน่นหนักดุจเหล็กแกร่ง ทว่าชะตาฟ้าลิขิต.... หรือท่ามกลางหมอกสงครามกลางเมืองมืดดำนี้ จะไม่มีแสงสว่างบนหนทางของพวกเขาจริง ๆ ?
คุยกันหลังอ่าน
สงคราม ทหาร สองฝั่งอุดมการณ์ กักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับขืนใจ เครื่องแบบ ความผูกพันครั้งเยาว์
ฉากของเรื่องเกิดในช่วงสงครามกลางเมืองของจีน พระนายอยู่คนละฝ่าย โดยพระเอก หยางเหวินอี้ เป็นทหารของพรรคก๊กมินตั๋ง ส่วนนายเอก หลี่เฟยหมิง เป็นคุณชายฐานะดีที่เบื้องหลังกลับสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ เปิดเรื่องมาก็ดราม่าเลย หยางเหวินอี้ได้ข้อมูลมาว่าหลี่เฟยหมิงทำงานให้พรรคคอมมิวนิสต์ จึงจับมาขัง ข่มขู่ และใช้กำลังบังคับขืนใจ ทำตัวเป็นพระเอกแนวจำเลยรักขั้นสุด แต่เบื้องหลังของการกระทำนี้จริง ๆ แล้วหยางเหวินอี้ต้องการให้หลี่เฟยหมิงถอนตัวจากเรื่องอันตรายทั้งหลาย สาเหตุก็มีประการเดียวคือเขารักพี่เฟยหมิงสุดหัวใจ
จริง ๆ สองคนนี้รู้จักกันตั้งแต่เด็กค่ะ ครอบครัวคุ้นเคยกันดี ไปมาหาสู่กันบ่อย เด็ก ๆ ก็เลยได้เล่นกัน หลี่เฟยหมิงเป็นพี่ชายที่อ่อนโยนและแสนดี หยางเหวินอี้จึงนับถือพี่ชายคนนี้มาก อารมณ์รักและฝังใจตั้งแต่เด็กเลย แต่ภายหลังต้องห่างกันเพราะต่างฝ่ายต่างต้องไปเรียนแดนไกล กลับมาเจอกันอีกทีก็โตกันหมดแล้ว จึงปฏิบัติต่อกันเหมือนคนแปลกหน้า
หลังจากหยางเหวินอี้ทำไม่ดีกับหลี่เฟยหมิง หลี่เฟยหมิงก็ทั้งผิดหวัง เสียใจ สารพัดอย่างปนเปกัน แต่อย่างเดียวที่ไม่ยอมคือ ไม่ยอมให้เหวินอี้สมปรารถนา เฟยหมิงไม่ยอมแสดงอาการให้เหวินอี้เห็นว่าสามารถข่มเขาได้ และยังแอบให้การสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์เช่นเดิม เพราะนี่เป็นอุดมการณ์ที่น้องชายของเขายึดมั่นจนตัวตาย มีหลายครั้งที่เฟยหมิงเกือบพลาด แต่ก็ได้เหวินอี้ให้การช่วยเหลือลับ ๆ จนในที่สุดหยางเหวินอี้ก็ทนไม่ไหวยอมเอ่ยปากสารภาพรักต่อหลี่เฟยหมิง ทั้งการกระทำและคำพูดต่าง ๆ ของเหวินอี้ดึงความทรงจำและความรู้สึกที่ทั้งสองมีร่วมกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันออกมา ว่าเหวินอี้ก็เป็นคนสำคัญในใจของเฟยหมิงเช่นกัน แต่เส้นทางของทั้งคู่มีปลายทางคนละด้าน ความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกันจึงเป็นความฝันที่ยากจะเป็นจริง
อารมณ์มันก็จะประมาณ อดกลั้น ขื่นขม แต่ก็รักใคร่โหยหา ประมาณนี้ ผู้เขียนพยายามนำเสนอภาพความสัมพันธ์ที่ขมแต่ว่าสวยงามท่ามกลางความขัดแย้ง ความอดอยาก และไฟสงคราม ซึ่งโอก็เข้าใจความมุมมองและตั้งใจแหละ แต่ก็ไม่ได้ชอบหรือเห็นด้วยทั้งหมด
ส่วนที่ชอบคือ นิยายที่มีฉากหลังในสมัยนี้ โอเพิ่งเคยอ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ก็ถือว่าแปลกและน่าสนใจดี แม้จะไม่ได้ลงรายละเอียดมาก หรือดึงอารมณ์แบบหนักหน่วง แต่ก็พอที่จะเกิดภาพและเข้าใจได้ ชอบอารมณ์ที่ถ่ายทอดระหว่างพระนายบางช่วงบางตอน มันมีความอัดอั้น มีความพลุ่งพล่านซ่อนอยู่ในนั้น
ส่วนที่ไม่ชอบก็มี โอไม่ชอบการใช้กำลังบังคับขืนใจ อย่างเรื่องนี้พระเอกใช้ข้ออ้างเป็นความรักและการปกป้อง ซึ่งก็ฟังไม่ขึ้นเท่าใดนัก ยิ่งถ้ามองจากรายละเอียดที่มีในเรื่อง จะเห็นว่าพระเอกมองนายเอกเป็นแก้วที่เขาทะนุถนอมมาก มันไม่มีเหตุ ไม่มีความจำเป็น หรือแรงผลักที่สนับสนุนการกระทำนี้ของพระเอกเพียงพอเลย ตอนแรกโอนึกว่าสองคนนี้เขามีความขัดแย้งอะไรด้วยซ้ำ แต่ปรากฏว่าเปล่า พวกเขาแค่ห่างกันไปเฉย ๆ มันมีช่องว่างที่ไม่สบกันของเหตุผลอยู่ พูดง่าย ๆ คือโอว่ามันเป็นฉากที่ไม่จำเป็นและไม่สอดคล้องกับตัวละคร แต่แน่นอนว่ามันทำให้เกิดอารมณ์ความขื่นขมและขัดแย้งที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอ การบรรยายบางช่วงก็สร้างอารมณ์ได้ดี แต่บางช่วงจะอ่านยากโดยเฉพาะการแยกแยะตัวละคร ผู้เขียนใช้คำเรียกแทนพระเอก คือ ร่างสูง ดวงตาคม นายเอก คือ ร่างโปร่ง ดวงตากลม พอประกบคู่กันช่วงแรกโอมึนเลย บวกกับความรู้สึกส่วนตัวโอเองด้วย ที่รู้สึกว่าคำที่ใช้บรรยายนายเอกไม่สมชายนัก โอเคแหละ นายเอกของผู้เขียนคือผู้ชายที่ค่อนไปทางสวย ผู้เขียนก็น่าจะชอบนายเอกแนวนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่โอรู้สึกขัดเวลาอ่านเจอ ดวงตากลม ทุกครั้ง แม้แต่นิยายชายหญิงยังไม่ค่อยใช้เรียกผู้หญิงเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาพูดถึง สัตว์ เด็ก หรือสื่อถึงความอ่อนเยาว์ โทนมันจะใกล้เคียงกับความน่ารักบ้องแบ๊วอะไรอย่างนี้มากกว่าใช้เรียกแทนนายเอก ที่เป็นคุณชายเจ้าสำราญในเรื่อง อีกอย่างคือโอไม่อยากให้กำหนดคำตายตัว ว่าคำนี้คือนายเอก คำนี้แทนพระเอก มันเป็นตีกรอบความคิดของตัวเองและคนอ่านเกินไป สุดท้ายเราจะถูกกรอบนั้นบีบจนนึกไม่ออกว่านอกกรอบนั้นเป็นยังไง สิ่งที่โอกำลังรู้สึกตอนนี้คือ ผู้เขียนสนใจภาพ กำหนดกรอบ จนบางครั้งลืมความธรรมชาติไป
2.5 ดาว เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้เสียใจที่อ่านนะคะ ได้อ่านฉากใหม่ ๆ บ้าง ถึงอารมณ์จะไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่มันก็ให้ความรู้สึกขมอมหวานแบบที่ผู้เขียนต้องการ เหมือนจะดราม่าแต่ก็มีความนวล ๆ ผสม ถือว่าอ่านได้เพลินใช้ได้ โอชอบไดอารีของซูเหมยเป็นพิเศษ
คุณคนผ่านทางมาเจอ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและโหวตให้นะคะ
ขอบคุณคุณkatoyที่โหวตบล็อกให้ด้วยค่ะ โดย: ออโอ วันที่: 11 ธันวาคม 2563 เวลา:11:44:45 น.
|
โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
Friends Blog |
ดราม่านวลๆ
เข้าใจ นิยามจังค่ะ
น่าอ่านๆเลย
เพราะ จขบ แนะนำนี่แหละ