Group Blog All Blog
|
Not for Sale รักนี้ไม่มีขาย Lanlin เขียน 2/8/2019 Not for Sale รักนี้ไม่มีขาย Lanlin เขียน ครองขวัญ เหลืองอุบล แปล สำนักพิมพ์ Angpao 220 บาท 189 หน้า
หลังปก
ในวันเกิดอายุครบสามสิบปีอันโดดเดี่ยว หลินหานรวบรวมความกล้าไปที่บาร์โฮสต์ เพื่อจบความเวอร์จินของตนเอง แต่หลังจากผ่านวันไนต์สแตนด์ในคืนนั้นไป เขาก็ยังเลี้ยงดูเย่ซิวทั่วต่ออีกหนึ่งเดือนเต็ม แม้จะได้สัมผัสประสบการณ์คนรักเสมือนจริงระดับมืออาชีพ มีความสุขรวมกับอยู่ในความฝัน ทว่าก็ยังไม่สามารถลืมเพื่อนคนที่ตนแอบรักมาหลายปีได้
จู่ ๆ เพื่อนคนนั้นก็มาสารภาพรัก ทำเอาหลินหานถึงกับช็อก ทั้งที่ตัวเขาควรจะดีใจที่ความปรารถนาอันยาวนานนั้นจะได้เป็นจริงเสียที แต่เมื่อคิดว่าจะไม่ได้เจอกับเย่ซิวทั่วอีก หลินหานก็แอบเศร้าใจ ฝ่ายหนึ่งคือความปรารถนาที่ยาวนาน อีกฝ่ายคือคนรักที่ซื้อมา เขาควรจะเลือกอย่างไรดี?
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าหากต้องห่างจากเฉิงฮ่าวแล้ว เขาจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ แต่ช่วงเวลาที่ห่างจากเฉิงฮ่าวจริง ๆ ...กลับมีเย่ซิวทั่วคอยอยู่ข้างกาย ชีวิตก็เต็มไปด้วยความรู้สึกปลอดภัย
เย่ซิวทั่วตำหนิว่าเขาไร้ค่า ด่าว่าไม่มีศักดิ์ศรี กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง ตอนนั้นทั้งเสียใจทั้งโมโห แต่หลังจากนั้นพอมาคิด ๆ ดูแล้ว เย่ซิวทั่วก็พูดถูก
คนเราควรเคารพในตัวเองและมีขอบเขตที่ชัดเจน เหมือนกับการตั้งงบในการเล่นพนัน หากเกินขอบเขตไป ก็จะเล่นต่อไปไม่ได้...
คุยกันหลังอ่าน
เปิดเรื่องด้วยการที่หลินหาน นายเอกของเรา ไปซื้อตัวชายหนุ่มที่บาร์โฮสต์ เพื่อมาฉลองวันเกิดอายุสามสิบของตน เขาถูกใจชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง เลยชี้นิ้วร้องถามเขา แม้คนรอบข้างจะเงียบไป (และคนอ่านรู้ว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ แต่นายเอกของเราย่อมไม่รู้) ชายหนุ่มคนนั้นตอบตกลง แนะนำตัวกับเขาว่าชื่อเย่ซิวทั่ว วันไนต์สแตนด์ผ่านพ้น หลินหานเล่าเรื่องที่ตนหลงรักเพื่อนสนิทให้เย่ซิวทั่วฟัง
ความจริงหลินหานเป็นคนซื่อ ไม่ค่อยมีไหวพริบ และบื้อมากเรื่องคน แม้จะโดนตอกใส่ว่าโง่เง่าบ่อย ๆ แต่ใครก็ชอบคนแบบนี้ ไม่มีพิษมีภัย อยู่ใกล้ก็อดอยากรังแกไม่ได้ เย่ซิวทั่วเองก็ใช่ เฉิงฮ่าวเพื่อนสนิทของหลินหานเองก็ใช่ เรื่องที่โดนเพื่อนหลงรักก็ไม่ใช่ความลับอะไร ท่าทีชื่นชมบูชา กระดิกนิ้วก็ส่ายหางหา แค่ไม่ตาบอด ใครก็ดูออก
และเฉิงฮ่าวเองก็ชอบแสดงท่าทีให้หลินหานมีความหวังเล็ก ๆ แต่พอคิดจริงจังเข้าหน่อยก็ดับความหวังเขามอด หลินหานเจอเรื่องแบบนี้จนชิน แต่ก็ยังคงเฝ้าตามต้อย ๆ เป็นหมาที่โดนกระดูกผูกคอล่อ จะกินก็กินไม่ได้ ได้แต่มองน้ำลายสอ
เย่ซิวทั่วที่ต่อมากลายมาเป็นที่ปรึกษาด้านความรักของหลินหานได้แต่ส่ายหน้า ด่าว่าเขาทำตัวไร้ศักดิ์ศรี แต่ถึงอย่างนั้นคำแนะนำของเย่ซิวทั่วก็ดูจะทำให้เฉิงฮ่าวมีปฏิกิริยาตอบรับที่ดี หลินหานจึงยอมเชื่อฟัง
เย่ซิวทั่วเคยถามหลินหานว่านั่นใช่ความรัก หรือเป็นความเคยชินกันแน่ หลินหานดึงดันว่าใช่
แต่เมื่อถามคำถามคนไม่ฉลาด ก็ควรให้เวลาคิดให้มากกว่านี้นี่เนอะ
+++
เปิดเรื่องมาโอไม่ชอบเลย มันเร็วและง่ายไป แล้วก็ดูเบาไป แต่พออ่านไปเรื่อย ๆ แล้วชอบนะ โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ คือทั้งพระนาย เย่ซิวทั่วกับหลินหาน ไม่ได้เริ่มด้วยความรัก แต่เป็นความใคร่ ถูกใจหน้าตา แล้วก็คงเป็นเคมีบางอย่างเสริมด้วย แต่พออยู่ด้วยกันเรื่อย ๆ แล้วรู้สึกว่าคนนี้นี่แหละเหมาะกับเรา ใช่กับเรา แล้วคนอ่านก็สัมผัสได้
หลินหานไม่ใช่นายเอกแนวที่โอชอบเลย เขาทึมทื่อไป ขี้แงอีกต่างหาก (ซึ่งเจ้าตัวก็รู้ และไม่ชอบตัวเองที่ดูไม่เป็นผู้ชายเอาซะเลย) แต่มันมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่อ่านแล้วรู้สึกว่าเขาน่ารัก ความบื้อที่บางครั้งอยากเขกกะโหลก แต่ก็อยากเอาใจช่วยไปพร้อมกัน
ถึงไม่ฉลาดแต่ก็มุ่งมั่น ถึงจะโดนรังแกแต่ก็ไม่ท้อถอย เป็นคนซื่อตรงกับความรู้สึกตัวเอง
แต่เพราะไม่ฉลาดก็เลยโดนคนหลอกบ่อย โดนทั้งเฉิงฮ่าวเอาเปรียบ โดนทั้งเย่ซิวทั่วหลอกล่อต่อโปรฯ ให้ซื้อตัวเอง ลดนู่นแถมนี่ หลินหานก็โดนล่อให้ซื้อตามระเบียบ
ส่วนเย่ซิวทั่ว โอว่าตอนแรกก็คงแค่ถูกใจ ไป ๆ มา ๆ เห็นว่าหลินหานซื่อดีก็เลยอยากแกล้ง แกล้งไปแกล้งมาทนกับความโง่ไม่ไหวก็เลยช่วยแนะนำ แนะนำไปแนะนำมาดันหลงรักเข้าเอง ที่แย่ว่าการแอบชอบก็คือการหลงรักคนโง่ที่ไม่เข้าใจความรัก เย่ซิวทั่วก็เลยมักมีคำถาม หรือแบบทดสอบเนียน ๆ ให้หลินหานอยู่เรื่อย
ฉากบนเตียงเรื่องนี้มีพอสมควร แต่ที่ถูกใจโอจะเป็นโมเมนต์ของพระนาย และสารที่สื่อออกมา
เรื่องของเฉิงฮ่าวโอก็ชอบในแง่ที่เป็นดราม่าที่เรียลดี ดราม่าที่จะว่าหนักก็หนักนะ แต่ไม่ได้นาน และไม่ได้ตอกย้ำเท่าไร
โดยรวมชอบนะคะ 3 ดาว แต่อ่านค่อนข้างงงเลย แยกประโยครู้เรื่อง แต่พอรวมกันแล้วงงใจความ น่าจะเป็นที่การเลือกใช้คำ ความหมายของประโยค และการเรียงประโยค สะดุดค่อนข้างมากเลยค่ะ อารมณ์ที่จะมาเลยไม่ค่อยมาตามเรื่อง
ยกตัวอย่างบางท่อนที่คิดว่ามีปัญหามา (มีมากกว่านี้นะ แต่บางที่ที่โอสะดุดก็ไม่รู้ว่าปัญหาเกิดจากตรงไหน)
62 ไม่ว่าจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ ถึงอย่างไรตอนนี้ทำไม่ได้ก็ต้องรอจังหวะถูกโจมตี สู้เอากลับมากินเอง ก่อนที่จะถูกหมอนั่นกินหมดไม่มีเหลือยังดีเสียกว่า ‘ถึงอย่างไรตอนนี้ทำไม่ได้ก็ต้องรอจังหวะถูกโจมตี’ คืออะไรคะ ไม่เข้าใจเลย
98-99 หลินหานไม่รู้ว่าเขาได้เงินน้อยไปไหม คิดว่าเขาลำบากขนาดนั้น ต้องคิดรายเดือนแพงแน่ ๆ รอบนี้ดูเหมือนเย่ซิวทั่วจะดีใจมาก ดึงเขาเข้าไปจูบอยู่นาน ‘หลินหานไม่รู้ว่าเขาได้เงินน้อยไปไหม’ เงินที่ว่าคือรายได้ของเย่ซิวทั่ว หรือเงินที่หลินหานเพิ่งยื่นให้เย่ซิวทั่ว แล้วประโยค ‘ต้องคิดรายเดือนแพงแน่ ๆ’ ก็ไม่เชื่อมโยงกับ ‘เย่ซิวทั่วดูเหมือนจะดีใจมาก’
อาจเป็นราว ๆ นี้หรือเปล่าคะ
หลินหานไม่รู้ว่าเขาให้เงินน้อยไปไหม คิดว่าเย่ซิวทั่วลำบากขนาดนั้น ต้องคิดรายเดือนแพงแน่ ๆ แต่คราวนี้ดูเย่ซิวทั่วจะดีใจมาก ถึงดึงเขาเข้าไปจูบอยู่นาน
108 “อย่าโง่สิ ที่จริงต้องไปเล่นพนันนะ นี่เป็นแค่เงินที่ช่วยให้คุณหาเงินได้ เป็นไง ตอนนี้คุณได้ร้อยหยวนมาฟรี ๆ จะไปลองหน่อยไหม?” ‘อย่าโง่’ คือดุ ‘ที่จริงต้องไปเล่นพนัน’ คือข้อเท็จจริง ‘เป็นไง’ คือถามความเห็น ‘จะไปลองหน่อยไหม’ คือคำถามเยสหรือโน ตกลงประโยคนี้เย่ซิวทั่วต้องการสื่ออะไรกันแน่ โทนของประโยคนี้คืออะไร
122 หรงลิ่วหัวเราะไม่หยุดจนน้ำตาไหล หลินหานถูกขำจนไม่รู้จะทำยังไงจึงหันหน้าไปมองเย่ซิวทั่ว เขาเองก็กำลังหัวเราะอยู่ เราไม่ใช้ ‘ถูกขำ’ น่ะค่ะ ปกติภาษาไทยเราไม่ใช้ ถูก+V. อยู่แล้ว ยกเว้น กริยานั้นเป็นกริยาเชิงลบ เช่น ถูกตำหนิ ถูกตี
136 เย่ซิวทั่วเลิกคิ้วสูงขึ้น เห็นสีหน้าลังเลของหลินหานก็ขมวดคิ้ว จับมือเขาที่กำลังปิดปากตนอยู่ กอดเขาสูงขึ้น ‘กอดเขาสูงขึ้น’ คืออะไรคะ เจอกอดสูงขึ้นครั้งที่สองแล้ว กอดก็คือกอด แต่สูงนี่ว่านี่คือตำแหน่งมือหรือเปล่า
144 “เขาไม่ได้ชอบคุณอยู่แล้ว แต่คุณก็ยังตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะทำ? ถึงกับต้องลดคุณค่าของตัวเองขนาดนี้เลย” ‘แต่คุณก็ยังตั้งใจเด็ดเดี่ยวที่จะทำ?’ ? ? ? คำถามมันคือตรงไหน
น่าจะเป็นราว ๆ นี้หรือเปล่าคะ
“เขาไม่ได้ชอบคุณอยู่แล้ว แต่คุณก็ยังตั้งใจยืนหยัดที่จะเดินหน้าต่อ ถึงกับต้องลดทอนคุณค่าของตัวเองขนาดนี้เลยหรือไง”
145 เฉิงฮ่าวในตอนนั้นขอแค่ได้ดื่มเบียร์เย็น ๆ ก็มีความสุขแล้ว วันที่อากาศร้อนก็จะดื่มหนึ่งขวด เขาซื้อจักรยานเพื่อไปส่งเขา ตอนนั้นเขาจะคอยมองดูเฉิงฮ่าวดื่มทุกวัน เวลามองก็รู้สึกมีความสุข
‘เขาซื้อจักรยานเพื่อไปส่งเขา’ ...เขาไหนเนี่ย ไม่ควรเอาสรรพนามที่ไม่ระบุมาใส่เป็นทั้งประธานและกรรมในประโยคนะ แล้ว ‘ซื้อจักรยานไปส่ง’ ก็ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกับใจความประโยคเลย รวม ๆ แล้วงง
155 เขาพยายามขนาดนั้น ทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้อยู่กับเฉิงฮ่าว ในที่สุดก็มีโอกาสแล้วตอนนี้ แต่กลับถูก ‘ที่ปรึกษาด้านความรัก’ ที่ตนไว้ใจทำลายมันกับมือ เขาเพิ่งจะคิดได้ว่าเย่ซิวทั่วทำไม่ดีก็เริ่มไม่วางใจ ที่แท้ ‘กูรูด้านความรัก’ ก็เป็นตัวบ่อนทำลายเขา ล้อเขาเล่น
‘เขาเพิ่งจะคิดได้ว่าเย่ซิวทั่วทำไม่ดีก็เริ่มไม่วางใจ’ ไม่น่าใช้ประโยคนี้ในท่อนนี้นะ
เขาเพิ่งตระหนักว่าเย่ซิวทั่วทำอะไรไว้จึงไม่ไว้ใจอีกต่อไป
156 เปิดประตูห้องนอน แล้วปิด...แต่ปิดยังไงก็ไม่ได้ มือข้างหนึ่งของเย่ซิวทั่วอยู่ตรงประตู
ไม่รู้ทำไม ความรู้สึกตอนที่หันกลับไปนั้นน่ากลัวมากจริงๆ หลินหานไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ตกใจจนรีบปิดประตู แต่กลับถูกเปิดออกสุดแรง
หลินหานกลัวมาก เสียงทุบประตูดังปัง ๆ ๆ ทำเอาเขาถอยหลังไปหลายก้าว แต่ก็ต้องดันประตูเอาไว้ราวกับกระต่ายที่ถูกหมาป่าบุกเข้ามา
“ผมไม่ใช่คนที่จะยอมให้รังแกได้ง่าย ๆ นะ ถะ...ถ้าคุณทำให้ผมโกรธอีก ผมจะต่อยคุณ!”
เย่ซิวทั่วหัวเราะเมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ของเขา มือหนึ่งก็หยิบรูปวาดบนโต๊ะที่เสร็จไปแล้วเกินครึ่งขึ้นมา “คุณออกมาฟังผมดีกว่า ไม่งั้นผมจะฉีกรูปพวกนี้ทิ้งซะ”
หลินหานตกใจจนไม่กล้าขยับ มองรูปอันเป็นที่รักในมือเขา
ยกมายาว เพื่อจะถามว่าตอนนี้ ประตูปิดหรือเปิด ตอนแรกบอก ‘ปิดไม่ได้’ ต่อมา บอก ‘รีบปิด แต่ถูกเปิดออกสุดแรง’ (เอ้า ไหนบอกปิดไม่ได้) ต่อมาบอก ‘เสียงทุบประตูทำเอาถอยหลัง’ (ถ้าดันประตูทำไมถอยหลังได้) ต่อมาบอก ‘มือหยิบรูป’ (ถ้าผลักประตูทำไมเอื้อมมือไปหยิบรูป) ต่อมาบอก ‘หลินหานมองรูป’ (ก็คือประตูไม่ได้ปิด) สรุปคือโองงมาก
. . . “แต่ว่า ทะ...ที่พูดครั้งก่อน...”
“หืม?”
“รับผมเป็นลูกค้าแค่คนเดียว...”
เย่ซิวทั่วพูดเสียงเบา “เรื่องนั้นน่ะ ผมไม่ทำหรอกนะ เพราะการกระทำของคุณยังไม่ผ่านมาตรฐาน”
“หา? ตรงไหนที่ไม่ผ่านมาตรฐาน”
เย่ซิวทั่วหัวเราะ แล้วดีดหน้าผากเขา “คิดเองสิ”
“หือ?” หลินหานกลัวว่าคนจะพูดกับเขาด้วยประโยคนี้มากที่สุดก็เพราะเขาคิดไม่ออกถึงได้ถามยังไงล่ะ เวลานี้เขาจึงทำได้เพียงแค่ยอมรับว่า “ผมคิดไม่ออก”
“งั้นก็ยิ่งไม่ผ่านมาตรฐาน” เย่ซิวทั่วหัวเราะ ลูบหัวเขาเบา ๆ แล้วหันหลัง บอกให้รู้ว่าไม่อยากคุยแล้ว
หน้า 145 บทที่ 8
.
ขอบคุณคุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณnewyorknurse สำหรับโหวตนะคะ
โดย: ออโอ วันที่: 16 พฤศจิกายน 2563 เวลา:20:58:25 น.
|
โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
Friends Blog |