ธันวาคม 2563

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ข้าจะเป็นเซียน เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง เขียน


21/12/2019



 


 

ข้าจะเป็นเซียน (3 เล่มจบ) 

เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง เขียน  หยกน้ำแข็ง แปล 

สำนักพิมพ์อรุณ  ในเครืออมรินทร์ 

1,185 บาท  1,454 หน้า 



#แปลจีน #นิยายแปล #นิยายชายหญิง #ข้าจะเป็นเซียน #เยว่เซี่ยเตี๋ยอิ่ง #เย่ว์เซี่ยเตี๋ยอิ่ง #อรุณ #รีวิวนิยาย #ออโอ

 

หลังปก 


 

“คงโหว” องค์หญิงสิ้นบัลลังก์ผู้เติบโตในตำหนักลึกของวังหลวงโดยไมม่มีใครดูดำดูดี โชคชะตานำพาให้นางเข้าสู่แดนพ้นโศก ดินแดนแห่งการบำเพ็ญเพียร เพื่อมุ่งวิถีแห่งเซียนเมื่ออายุเกือบสิบขวบ 

 

ชีวิตใหม่มีผู้คนที่รักใคร่เอ็นดูนางมากมาย มีเรื่องราวสนุกสนานหลากหลาย จากองค์หญิงผู้แสนอาภัพในแดนมนุษย์ สู่ผู้บำเพ็ญเพียรหญิงผู้มีพรสวรรค์ น่ารักน่าเอ็นดู และมาพร้อมกับความดวงดี อุปสรรคนานาที่ต้องเผชิญ ทั้งปีศาจ มารร้าย ดินแดนลี้ลับน่ะหรือ แค่นี้ไม่ระย่อ! 






 

คุยกันหลังอ่าน 


 

ถ้านับจากเรื่องที่ออกในเครืออมรินทร์ที่โออ่านไปแล้ว เรื่อง ‘ข้าจะเป็นเซียน’ จะให้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับ ‘ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้’ และ ‘ตัดสินคนจากหน้าตาก็ต้องเจอแบบนี้’ (ขนาดชื่อเรื่องยังประกาศศักดาเหมือนกันเลยแฮะ!) เนื้อเรื่องจะเล่าช้า ออกไปในทางเรื่อย ๆ แทบจะวันต่อวัน ตัวเอกจะเก่งมาก เก่งแบบที่ตัวละครอื่นต้องร้องอู้หูอ้าหาประกอบฉากตลอดเรื่อง ส่วนตัวร้ายจะไม่ค่อยเก่งนัก หรือถ้าเก่ง ก็จะมีเหตุให้แพ้ภัยตัวเองไป ซึ่งเอาจริง ๆ โอไม่ค่อยชอบให้ตัวเอกเก่งมากไป เพราะมันทำให้ตัวร้ายดูอ่อนด้อย แล้วผลลัพธ์มันก็เดาได้อยู่แล้ว แต่โอค่อนข้างชอบตัวละครลักษณะนี้ของผู้เขียน เขาเกลาให้ตัวละครเหล่านั้นไม่ให้แหลมคมเกินไป มันมีความน่ารักน่าหยิกอยู่ในนั้น คือเก่งแต่ไม่กร้าว เว่อร์แหละ แต่พยายามหาเหตุผลรองรับให้เพียงพอ มีความนวล และพยายามสร้างสมดุลระหว่างเนื้อเรื่องและตัวละครได้ดีทีเดียว ที่สำคัญมันจะเป็นแนวคอมเมดี้ ออกตลกไปเลย ทำให้ลดความจริงจังของเนื้อเรื่องลง ผู้อ่านจะไม่รู้สึกว่าต้องแสวงหาความสมจริงมากเกินไป และจากสามเรื่องที่ว่าไว้ข้างต้น โอว่าเรื่องนี้กลมกล่อมที่สุด (แต่โอก็ชอบทุกเรื่องนะ ในแต่ละเรื่องเขาก็จะนำเสนอเรื่องราวที่ต่างกันไปคนละแบบ) 

 

นางเอกของเรื่อง ชื่อ คงโหว เป็นองค์หญิงของราชวงศ์ก่อน เพราะพระบิดาไม่ใช่ฮ่องเต้ที่ดี ราษฏรต้องทุกข์ยาก เลยโดนล้มราชวงศ์ ฮ่องเต้คนใหม่ขึ้นแทน แต่เก็บคงโหวไว้โดยอ้างว่านางเป็นตัวนำโชค (เอาจริง ๆ คือเก็บไว้เพื่อแสดงให้คนภายนอกเห็นว่าตนไม่ใช่ฮ่องเต้ที่โหดเหี้ยมเลวร้าย) คงโหวก็ยังคงมีสถานะเป็นองค์หญิง แต่เป็นองค์หญิงแบบกลวง ๆ คือมีแต่ตำแหน่ง ได้อยู่ในวัง แต่ไม่ได้รับการนับถือจริง ๆ ซึ่งคงโหวในวัยเด็กก็พยายามทำให้ตัวเองอยู่ง่าย ใครจะว่าอะไรก็ยิ้ม ถึงอย่างนั้นนางก็มีความฝัน จากการอ่านนิยายสองเรื่องในชีวิต คือนางอยากจะเป็นเซียน 

 

วันหนึ่งก็มีเซียนมารับนางไปอยู่ด้วยจริง ๆ เซียนที่ว่านั่นต่อมาก็คืออาจารย์ของคงโหว ถึงอย่างนั้น ไม่ใช่ใครอยากเป็นเซียนก็จะเป็นได้เลย ต้องผ่านการบำเพ็ญฌานครบสิบขั้นก่อน ซึ่งในแดนบำเพ็ญที่คงโหวไปอยู่นั้นไม่มีใครสำเร็จเป็นเซียนมานานมากแล้ว คงโหวได้กราบอาจารย์ กลายเป็นศิษย์ของสำนักเมฆาเรือง ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบของสำนักใหญ่ในแดนบำเพ็ญ  

 

จากเดิมที่เป็นองค์หญิงที่ไม่มีค่า พอไปอยู่แดนบำเพ็ญ คงโหวกลับเป็นคนที่สวรรค์รัก อาจารย์รักใคร่ ศิษย์พี่เอ็นดู สำนักเมตตา แถมคงโหวยังเป็นตัวดึงดูดโชคมหาศาล โชคดีทั้งหมดพร้อมใจกันหลั่งไหลมาหาคงโหว เวลาผ่านไปหลายปี ฌานก็เริ่มก้าวหน้า จนคงโหวอายุสิบหก นางก็ขออนุญาตอาจารย์ออกไปนอกสำนักเพื่อเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ตอนนั้นเองที่คงโหวเจอพระเอก 

 

พระเอกชื่อ หวนจง เก่งมาก แต่สุขภาพอ่อนแอ ฐานจิตมีปัญหา ทำให้ใช้กระบี่ไม่ได้ ต้องเสาะหาของวิเศษหลายอย่างมาปรุงยาจากสูตรลับที่หามาได้ ซึ่งตัวเขาก็ไม่คิดว่าจะเจอจริง ๆ หรอก เพราะมันเหมือนของในตำนานที่เล่าลือกันต่อ ๆ มา แต่ไม่มีใครพบเห็นนานแล้ว แต่พอเจอคงโหวเข้าไม่นาน ของที่หายากเหล่านั้น ก็ทยอยลอยละลิ่วเข้ามือหวนจงทีละอย่าง 

 

ย้อนกลับไปตอนที่หวนจงพบคงโหว หวนจงมีความรู้สึกดี ๆ ให้คงโหวตั้งแต่แรก เป็นความเอ็นดู ประทับใจความสดใส และมีไมตรีจิตของคงโหว เลยร่วมทางไปด้วยเพราะเห็นว่าอาจจะพอช่วยเหลืออะไรคงโหวที่เพิ่งออกจากสำนักมาผจญโลกกว้างครั้งแรกได้บ้าง แต่กลายเป็นว่าหวนจงกลับดูจะได้ประโยชน์มหาศาลจากการที่มีคงโหวอยู่ใกล้ ๆ มากกว่าด้วยซ้ำ เลยกลายเป็นมุกแซวขำ ๆ จากคนใกล้ชิด 

 

จากนั้นก็กลายเป็นเรื่องราวผจญภัยตามหาของวิเศษของพระนางกันไป ระหว่างนี้คงโหวก็ได้เห็นโลกในมุมมองใหม่ ๆ ได้ลองใช้ชีวิตด้วยตนเอง ได้พบเห็นคนหลากหลายแบบ ทำให้นางเกิดความเข้าใจ เกิดปัญญา ฌานก็ก้าวหน้า หวนจงที่อยู่กับคงโหวก็คอยช่วยสนับสนุนอยู่ข้าง ๆ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนา จากเดิมหวนจงอยากได้คงโหวเป็นศิษย์ เพราะนางน่าเอ็นดู อยากให้อยู่ด้วยใกล้ ๆ พอเวลาผ่านไปก็เริ่มรู้ตัวว่าความรู้สึกที่มีต่อคงโหวไม่ใช่แบบศิษย์อาจารย์ แต่เป็นแบบคนรัก  

 

จะว่าไปหวนจงนี่เป็นพระเอกประเภทที่เย็นชากับคนทั้งโลกแต่ดีต่อเธอคงเดียว กับคงโหวนี่เขาทุ่มเททุกอย่าง เป็นพระเอกสายซัพพอร์ตบวกสายเปย์ คงโหวอยากได้ อยากทำอะไร สนับสนุนหมด อ่อนโยนแบบที่สุดของที่สุด แต่กลายเป็นว่ายิ่งเขาให้ เขากลับได้กลับคืนมามากกว่าเดิม ยิ่งกว่านั้น การรู้จักคงโหวก็ทำให้เขามีมุมมองต่อโลกใหม่ ๆ ไม่มองโลกแต่เพียงด้านเดียว หรือเป็นเส้นตรง หรือเข้มงวดจนเกินไป ทำให้เขาเกิดการเรียนรู้พัฒนาขึ้นเช่นกัน 

 

ความรักของคู่นี้ดีเลยค่ะ เห็นพัฒนาการ เห็นความทุ่มเทและเชื่อใจที่มีต่อกัน แทนที่จะมีคนหนึ่งให้คนหนึ่งรับ พวกเขากลับแบ่งปันกัน พระเอกให้นางเอกรับ นางเอกให้พระเอกรับ ผลลัพธ์เลยกลายเป็นทวีคูณ มีแต่เรื่องดี ๆ เข้ามา นอกจากความรักในมุมมองพระนาง คนอ่านจะได้เห็นความรักของคู่รักอื่น ๆ ที่มาในรูปแบบของคนที่ผ่านมาและผ่านไป แต่ส่งผลต่อความรู้สึกของคงโหว ทำให้นางไม่ได้มองความรักเป็นแค่สีชมพูอย่างเดียว ซึ่งโอชอบมากที่เขาสอดแทรกเรื่องพวกนี้เขามา ทำได้ดีและกำลังพอดี ไม่ได้ยัดเยียดจนเกินไป 

 

อุปสรรคของเรื่องมีมาประปราย ในรูปแบบที่หลากหลาย แต่นางเอกและพระเอกก็อาศัยความเก่งกาจและโชคผ่านไปได้โดยไม่ยากเย็นนัก  

 

สิ่งที่นำเสนอนอกจากความรักระหว่างคู่รัก ก็มีความรักระหว่างเพื่อนพ้อง ความสามัคคี ความเสียสละ แบ่งปัน ดีต่อคนที่ดีต่อเรา และถ้าจำเป็นต้องร้าย ก็ร้ายให้สุดขั้ว โค่นศัตรูให้หน้าหงายกลับไปซะ! 

 

มุกตลกก็มีมาทั้งเรื่องค่ะ อย่างคงโหวที่มีความเป็นผู้ยิ้งผู้หญิง ห่วงสวย ห่วงหน้าตา ต้องตามเทรนด์แฟชั่น บ้านิยาย มีสัญชาตญาณเอาชนะของผู้หญิง หวนจงที่หน้าตาดีท่าทางสูงส่ง แต่เพื่อคนที่รักแล้วก็ทำเรื่องหน้าไม่อายได้โดยสีหน้าไม่เปลี่ยน บุคลิกน่าครั่นคร้ามที่หวนจงมีมาตลอด อยู่กับคงโหวมาก ๆ เข้าก็โดนคงโหวเป่ามนต์ใส่เลยทั้งขี้อ้อนและขี้เขิน (ความจริงคือคงโหวเป็นคนสอนให้หวนจงอ้อนเองแหละ) ทำให้คนที่บังเอิญพบเห็นตาค้างอยู่บ่อย ๆ หรือมุกอายุ เพราะหวนจงแก่กว่าคงโหวสามร้อยกว่าปี (งั่กเลยจ้ะพี่จ๋า) อาจารย์ของคงโหวที่แสนจะยากจนและอับโชค แต่กลับโชคดีเรื่องการมีศิษย์ดี ว่ากันว่าเขาเอาโชคที่ตนมีไปอยู่ที่การเลือกศิษย์ที่หมดแล้ว แถมยังมีศิษย์สำนักน้อยใหญ่ที่มีบุคลิกและคุณสมบัติต่างกันไปก็ยกขบวนพากันมาสร้างสีสันในเรื่อง  

 

ในเรื่องนี้มีความหลากหลาย ในความหลากหลายก็มีมุมมองที่ต้องการสอดแทรก มีแนวคิดที่นำเสนออย่างกลมกลืน ออกมาละมุน ภายใต้ความมหาเก่งและความหวานจนน่าหมั่นไส้ของพระนางนั่นแหละ!  

 

ข้อที่อาจจะทำให้รู้สึกว่าไม่เต็มร้อยก็คงเป็นเรื่องที่ยาวไปหน่อย ถ้ากระชับได้อีกจะกำลังดี และบางทีความหวานก็ทำให้สำลักได้เหมือนกัน ฮ่า ๆ 

 

ชอบค่ะ น่ารัก แนะนำ แม้แต่เล่มสุดท้ายที่โอว่าโอเริ่มอิ่มกับความรักของพระนาง มันก็ยังมีประเด็นและสถานการณ์ที่อ่านแล้วชอบ เป็นเรื่องราวประกอบของตัวละครที่ประกอบที่พอมาอยู่รวมกันแล้วทำให้เราเห็นภาพ และมองความรักของคงโหวและหวนจงได้สมบูรณ์ขึ้น 

 

4 ดาว 

 


 

ส่วนที่ติดขัด 

 

เล่ม 1 


 

46 สำนักเมฆาเรืองมีเจ้าเขาทั้งหมดห้าท่าน ผู้อาวุโสที่เข้าฌานสามท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไม่ข้องแวะกับกิจการงานใด 

อ่านตอนแรกโองง พอลองอ่านไปเรื่อย ๆ เลยเข้าใจ คือเจ้าเขา กับผู้อาวุโส คือคนละตำแหน่งกัน น่าจะขยายใหม่ค่ะ 

>> สำนักเมฆาเรืองมีเจ้าเขาทั้งหมดห้าท่าน มีผู้อาวุโสสามท่าน ท่านผู้อาวุโสที่เข้าฌานทั้งสามเป็นผู้ใหญ่ที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไม่ข้องแวะกับกิจการงานใด 

 

74-75 “น้อยนักที่จะมีผู้ถือกำเนิดมาพร้อมกับความกรุณาของฟ้าดิน ร่างกายมีพร้อมทั้งห้าธาตุ สามารถรุกรับได้พร้อมกัน แต่นี่อาจเป็นได้ทั้งดีและร้าย หากคนเหล่านี้ไม่ประสบความทุกข์ ผู้บำเพ็ญเพียรทั่วไปย่อมมิอาจเทียบเทียม และถ้าพวกเขาตั้งใจบำเพ็ญเพียร ย่อมกลายเป็นผู้ล้ำเลิศที่สุดในแดนบำเพ็ญชนิดไม่มีผู้ใดเปรียบปาน” 

>> หากคนเหล่านี้ไม่ประสบความทุกข์ ย่อมมิอาจเทียบเทียมผู้บำเพ็ญเพียรทั่วไป แต่ถ้าพวกเขาตั้งใจบำเพ็ญเพียร ย่อมกลายเป็นผู้ลำเลิศที่สุดในแดนบำเพ็ญชนิดไม่มีผู้ใดเปรียบปาน 

(เพราะใช้ประโยคแสดงการขัดแย้งกัน แล้วมีคำอธิบายเพิ่มย่อหน้าถัดไปว่า ‘ขอเพียงผู้บำเพ็ญเพียรผู้มีห้ารากจิตยินดีทนลำบาก เมื่อบำเพ็ญเพียรไปถึงด่านสุดท้ายแล้วย่อมเก่งกาจกว่าผู้ที่มีหนึ่งรากจิต’)  

 

174 “อย่าเวิ่นเว้อ ข้าปวดหัว” 

เวิ่นเว้อ มันเป็นภาษาวัยรุ่นน่ะค่ะ ไม่มีความหมายตามพจนานุกรม แผลงมาจากเยิ่นเย้อ จึงไม่สมควรใช้ 

 

217 เขามิอาจหลุดลอดสายตาที่คอยเฝ้าดูของคงโหวไปได้ 

น่าจะใช้ หลุดรอด มากกว่านะคะ เพราะในที่นี้คือ ไม่อาจพ้นไปจากสายตา (คล้ายกับ รอดหูรอดตา ที่หมายถึง หลงหูหลงตาไป) 

 

270 แม่นางน้อยคนนี้โชคดีเป็นพิเศษจริง ๆ โชคดีอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ อย่างนี้ต่อให้มองเห็นก็มิอาจสัมผัส ถ้าจะมีผู้บำเพ็ญเพียรดวงดีสักคน นั่นย่อมหมายถึงการที่เขาสำเร็จฌานอย่างปัจจุบันทันด่วน เพียงแค่นี้ก็ทำให้คนอื่นอิจฉาจะแย่แล้ว 

 

อ่านยากค่ะ โอว่าใจความที่จะสื่อ น่าจะเป็นประมาณนี้ 

>> แม่นางน้อยคนนี้โชคดีเป็นพิเศษจริง ๆ โชคดีอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ ต่อให้มองเห็นก็มิอาจสัมผัส เพราะถ้าจะกล่าวถึงผู้บำเพ็ญเพียรดวงดีสักคน แค่เขาสามารถสำเร็จฌานอย่างปัจจุบันทันด่วน ก็ทำให้คนอื่นอิจฉาจะแย่แล้ว 

 

441  

“เจ้าว่า...” สีหน้าของอานเหอไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึก “แม่นางคนเมื่อครู่เป็นบุรุษที่แต่งกายเป็นสตรีหรือไม่” 

“หา” ศิษย์ร่วมสำนักชะงัก แม่นางคนนั้นอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี รูปร่างอรชนอ้อนแอ้น น้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนหวาน ไม่ว่าจะมองจากมุมใดก็ล้วนเป็นสตรีแท้แน่นอน ซ้ำยังเป็นหญิงงามผู้เลอโฉมอีกด้วย 

“ศิษย์พี่ ท่านมองผิดไปแล้วกระมัง” ศิษย์ร่วมสำนักบ่นอุบอิบเสียงเบา “มีสตรีเทียมโฉมงามขนาดนี้ที่ใดเล่า” 

>> ต้องเป็น “มีบุรุษเทียมโฉมงามขนาดนี้ที่ใดเล่า” หรือเปล่าคะ 






 





 


 

บางครั้งการยึดติดอดีตก็เป็นเครื่องเหนี่ยวรั้งของผู้บำเพ็ญเพียร แม้การถูกผูกมัดทางกายจะน่ากลัว แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือการที่หัวใจของเราถูกตนเองกักขังเอาไว้ คงโหวรู้ว่าหากนางมิอาจเข้าใจเรื่องสามัญพวกนี้ นางจะไม่มีวันและไม่มีทางหลอมรวมตนเองให้เป็นหนึ่งเดียวกับอาวุธ และยิ่งมิอาจสำแดงอานุภาพยิ่งใหญ่ที่สุดของอาวุธออกมาด้วย 

 

นางเกลียดแค้นความเป็นทรราชไร้สามารถของพระบิดาและเศร้าเสียใจที่พระมารดาเชือดคอของตนเอง ความรักสนุกของพระบิดาทำร้ายหัวใจนาง และทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์ มิใช่สิ่งของหรือเครื่องดนตรี 

 

การดำรงอยู่ของสรรพสิ่งในโลกล้วนมีที่มาที่ไปของมัน พวกมันไม่มีความผิด ความผิดอยู่ที่คนที่ไม่รู้จักควบคุมความอยากของตนเอง 

 
 

หน้า 163  บทที่ 22 

เล่ม 1 
 


 

“เมื่อครู่จู่ ๆ ข้าก็มีความคิดประหลาดอย่างหนึ่งว่าผู้บำเพ็ญเพียรอย่างพวกเราคุ้นชินกับการเหาะเหินและยืนอยู่บนที่สูง เหมือนได้ควบคุมทุกสิ่งเอาไว้ในมือ...” มือของคงโหวเกาะราวหยกเย็นจัด “แต่พวกเรากลับเป็นแค่หนึ่งในสรรพชีวิตทั้งหลายเท่านั้น” 

 

หวนจงมองหน้าคงโหวอย่างอัศจรรย์ใจ เพราะเขาคิดไม่ถึงว่านางอายุน้อยเพียงนี้กลับมีความคิดรู้แจ้งในหลักธรรมแล้ว คำว่ารู้แจ้งในหลักธรรม สิ่งสำคัญคือคำว่ารู้แจ้ง เพราะนี่เป็นสิ่งที่มิอาจสอนสั่งและสั่งสอนกันไม่ไหว เพราะหลักธรรมอยู่ที่ใจ นอกจากตนเองก็ไม่มีผู้ใดสามารถบอกเรื่องหลักธรรมที่อยู่ในใจของผู้อื่นได้ง่าย ๆ  


 

หน้า 31  บทที่ 56 

เล่ม 2 
 


 

“หวนจง” คงโหวชะโงกตัวเข้ามาหาหวนจงในระยะประชิด “บอกข้ามาสิว่าท่านทำอะไรไม่เป็นบ้าง” 

 

นัยน์ตากลมโตสุกใสของนางทำให้หวนจงต้องหัวเราะ “ข้าทำไม่เป็นหลายอย่างมาก ต่อไปเจ้าจะค่อย ๆ รู้เอง” กลิ่นหอมจากเรือนกายของคงโหวเป็นกลิ่นของดอกไม้หรือผลไม้กันนะ 

 

“เช่นนั้นคงต้องใช้เวลาอีกนานมาก” คงโหวเอามือเท้าคางพลางถอนหายใจ “มิน่าเล่าสำนักพันแสงของพวกท่านถึงเป็นอันดับหนึ่ง” ขนาดหวนจงที่ไม่มีชื่อเสียงอยู่ในแดนบำเพ็ญยังเก่งกาจขนาดนี้ แล้วศิษย์สำนักพันแสนคงอื่น ๆ จะร้ายกาจถึงขั้นใด 

“เพราะเจ้ามองข้าด้วยสายตาเข้าข้างเลยรู้สึกว่าข้าทำเป็นหมดทุกอย่าง” หวนจงหัวเราะเบา ๆ “อันที่จริงนอกจากวิชากระบี่แล้ว ข้ายังทำอะไรไม่เป็นอีกมาก” เขาสมาคมกับผู้คนไม่เป็นและไม่รู้เรื่องของความรู้สึก 

 

ท่านอาจารย์บอกว่านิสัยสงบนิ่งแต่กำเนิดของเขาเป็นรากฐานที่ดีในการฝึกกระบี่ แต่ภายหลังท่านอาจารย์กลับบอกว่ารู้สึกเสียใจที่ให้เขาฝึกแต่วิชากระบี่ โดยลืมทำความเข้าใจเรื่องการใช้ชีวิต 

 

หน้า 164  บทที่ 69 

เล่ม 2 

.

.

.


 




Create Date : 21 ธันวาคม 2563
Last Update : 21 ธันวาคม 2563 11:48:02 น.
Counter : 3430 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ

  
เจิมๆ
ชอบๆเรื่องความรัก
เหมาะกับสาวไปอ่านเพลินๆ
โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 21 ธันวาคม 2563 เวลา:17:00:08 น.
  
คุณคนผ่านทางมาเจอ เรื่องนี้น่ารักดีค่ะ ขอบคุณที่โหวตให้นะคะ

ขอบคุณคุณสองแผ่นดิน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ สำหรับโหวตด้วยค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 23 ธันวาคม 2563 เวลา:10:04:13 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments