กันยายน 2563

 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ยอดบุรุษพลิกคดี ต้าเฟิงกวากั้ว เขียน

ทยอยเอารีวิวในเพจมาลงค่ะ 109 ช่วงนี้ก็จะเห็นโอบ่อยนะคะ คิดถึงกันมั้ย 117

รีวิวเมื่อ 11/3/2019





ยอดบุรุษพลิกคดี (5 เล่มจบ) 

ต้าเฟิงกวากั้ว เขียน  หลินหยาง แปล 

สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊ค 

1,450 บาท  1,712 หน้า 

#แปลจีน #ยอดบุรุษพลิกคดี #ต้าเฟิงกวากั้ว #สยามอินเตอร์บุ๊ค #รีวิวนิยาย #ออโอ


หลังปก 

  

“จางผิง” บัณฑิตยาจกผู้หมายเข้านครหลวงเพื่อสอบเป็นขุนนาง เนื่องเพราะขาดแคลนเงินตรา จางผิงต้องตั้งแผงขายหมี่ริมถนนเพื่อยังชีพ จนถูกผู้เข้าสอบรุ่นเดียวกันดูหมิ่นดูแคลน  

หากแต่เขากลับโปรดปรานการสันนิษฐานวินิจฉัยคดี โดยเฉพาะคดีแปลกพิสดารทั้งหลายแห่งเมืองหลวง เขาเป็นดาวไม้กวาดมากคราวเคราะห์ เรื่องราวมากเงื่อนงำและคดีฆาตกรรมมักบังเกิดรอบกาย  

จนกระทั่งเขาได้พบกับ “หลันเจวี๋ย” รองเสนาบดีกรมพิธีการโดยบังเอิญ นับแต่นั้นมาจากบัณฑิตยากจน กลับกลายเป็นขุนนาง จางผิงผู้พบปัญหาอุปสรรคนานาไม่ขาดสาย กลับไม่เคยคาดคิดว่า หนทางแห่งชีวิตขุนนางจะเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ 


คุยกันหลังอ่าน 

 

เป็นแนวสืบสวน ไม่มีเรื่องความรักมาเกี่ยวข้องค่ะ  

 

ตัวเอกหลัก จางผิง เข้าเมืองหลวงมาเพื่อสอบเคอจวี่ เป็นคนพูดน้อย ดูเหมือนคนว่าง่าย ใครว่าอะไรก็รับคำ แต่จริง ๆ มีความดื้อรั้นในตัวสูง ยิ่งถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความไม่ถูกต้องจะยิ่งรั้นเป็นพิเศษ ช่างสังเกตและจดจำ สนใจเรื่องการสืบสวน  

 

จางผิงเป็นตัวเอกที่มีอุปนิสัยแปลกและน่าสนใจ เขาไม่ใช่ตัวเอกแบบที่เกิดมาเพื่อเป็นจุดศูนย์กลาง ตรงกันข้าม เขาเป็นเงามืด ๆ มัว ๆ ถ้าไม่สังเกตคนก็จะมองผ่านเขาไปโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่ตัวเอกที่มากับดวงมหาโชค และไม่ใช่มาพร้อมดาวอับโชค เขาเป็นคนธรรมดา มีวันที่ดีสุดและซวยสุด ๆ แต่ข้อที่เด่นที่สุดของเขาไม่ใช่หน้าตา อำนาจ หรือวาสนา (ซึ่งเป็นสิ่งที่จางผิงล้วนไม่มี...) แต่เป็นการมองโลก เขามองโลกตามความเป็นจริง ไม่เคยตัดพ้อบ่นว่า เกิดอะไรก็ว่าไปตามเหตุและผล ดำเนินชีวิตแต่ละวันอย่างเป็นปกติสุข ซึ่งคนแบบนี้ มองในอีกแง่มุม ก็น่าอิจฉาที่สุดเช่นกัน 

 

ตัวเอกรอง  

 

คนแรก หลันเจวี๋ย เป็นรองเสนาบดีกรมพิธีการ แต่งงานแล้วและมีบุตรชายหนึ่งคน ภรรยาเสียชีวิตไปตั้งแต่บุตรชายยังเล็ก หน้าตาดีจนมีเรื่องเล่าขานว่าปีที่เขาเข้าสอบจริง ๆ แล้วควรได้ตำแหน่งจ้วงหยวน แต่เพราะหน้าตาที่โดดเด่นเกินไปเลยได้ตำแหน่งทั่นฮวาแทน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็มักแสดงสีหน้ายิ้มแย้มน่าคบหา รับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างเยือกเย็น รู้จักพูดจาและเข้าหาผู้คน ในอีกแง่ก็มีคนเกลียดนิสัยของเขาอย่างนี้เช่นเดียวกัน หลันเจวี๋ยเป็นคนแรกที่ให้ความสนใจจางผิงและค่อนข้างเอ็นดูจางผิงเป็นพิเศษ 

หลันเจวี๋ยเป็นตัวเอกอีกตัวที่ผู้เขียนกล่าวถึงค่อนข้างมาก และเขาก็มีแง่มุมที่น่าสนใจมากเช่นเดียวกัน ภายใต้หน้ากากยิ้มแย้ม หลันเจวี๋ยต้องดิ้นรนตั้งแต่เล็ก มีชีวิตยากลำบาก กัดฟันฮึดสู้จนมาสอบเคอจวี่ เรียนรู้การปรับตัวและอยู่รอดในสังคม รู้จักการไหลตามน้ำและปรับสภาพเพื่อการอยู่รอด กว่าจะเป็นหลันเจวี๋ยที่งดงามเยือกเย็นในวันนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา หลันเจวี๋ยจะเตือนจางผิงเรื่องการวางตัวให้เหมาะสมอยู่เสมอ เพราะการรับราชการในวังไม่ใช่แค่ต้องมีความสามารถเท่านั้น แต่การต้องอ่านสถานการณ์เป็นรวมถึงรู้รุกรู้ถอย จึงจะรอดในหมู่บุคคลที่แตกต่างกันมากมายแห่งนี้ คนส่วนใหญ่มักมองที่หน้าตารวมถึงฝีปากของหลันเจวี๋ย จนมองข้ามความสามารถของเขาไป 

 

คนที่สอง หวังเยี่ยน รองเสนาบดีกรมอาญา แต่งงานแล้วและมีบุตรหลายคน สนิทกับหลันเจวี๋ย หน้าตาดี ชาติตระกูลดี ท่าทางองอาจผึ่งผาย ทำงานรวดเร็วดุดัน จับคนน่าสงสัยไปก่อนแล้วค่อยว่ากันไม่เป็นไร ชอบแย่งงานสำนักศาลยุติธรรมและกรมการเขตพระนครไปทำ 

หวังเยี่ยนมักปรากฏตัวพร้อมคนรับใช้ที่เป็นลูกคอขานรับให้นาย มักมีชาวบ้านมารอชมขบวนม้าของหวังเยี่ยนเสมอ เป็นคนที่เจิดจรัส คนส่วนใหญ่จะคิดว่าหวังเยี่ยนได้ทำงานเพราะอาศัยบารมีของพ่อ คิดว่าเขาเป็นคนที่โชคดีเกิดมาพร้อม แต่ในเรื่องก็จะมีตอนที่บอกเราอ้อม ๆ ว่าหวังเยี่ยนนั้นก็ไม่ใช่ลูกชายคนโปรดนัก แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะมาคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเรื่องแบบนี้ หวังเยี่ยนเป็นคุณชายที่มีความเป็นนักเลงในตัวสูง ซึ่งก็จริง เขาเป็นอดีตหัวโจกอันธพาลของเหล่าคุณชาย ห้าวมุทะลุ กล้าทำกล้ารับ กล้าตัดสินใจ ไม่หวั่นไหวโลเล ไม่ให้อภัยเพียงเพราะเป็นความผิดของตน ในอดีตเขาไม่ถูกกับหลันเจวี๋ยนัก แต่เมื่อได้รู้จักมากขึ้นก็สนิทสนมร่วมงานกันได้ดี 

 

คนที่สาม เติ้งซวี่ ผู้ว่าการสำนักศาลยุติธรรม ทุ่มเทให้กับงาน มักลงไปอยู่หน้างานจริง ๆ หลักแหลมเฉียบขาด เขียนหนังสือหลายเล่ม และหลายเล่มนั้นจางผิงก็ได้ศึกษาเป็นแบบอย่าง 

 

คนที่สี่ เฝิงไถ เจ้ากรมกรมการเขตพระนคร เคร่งครัดกฎระเบียบ ทุกอย่างต้องตรงระเบียบแบบแผน ไม่ถูกกับหวังเยี่ยน และไม่ชอบหน้าจางผิงนัก 

 

มีตัวละครเด่นมากกว่านี้นะคะ แต่ขอยกมากล่าวเท่านี้ก่อน สิ่งที่รู้สึกได้จากตัวละครในเรื่องก็คือพวกเขามีความโดดเด่นในด้านที่แตกต่างกัน อุปนิสัยและวิธีการทำงานแตกต่างกัน ความถนัดก็แตกต่างกัน แต่สิ่งที่รู้สึกได้เหมือนกันคือ เท่จังเลยอะ แทบไม่รู้สึกแบบนี้กับตัวละครที่ไม่ใช่ตัวเอกกับหรือเด่นในเรื่องไหนเลย นี่ยังไม่รวมว่าพวกเขาค่อนข้างมีอายุแล้วด้วยนะ คือเรารู้เลยว่ากว่าจะได้ตำแหน่งเด่น ๆ นี่ไม่ใช่หลับหูหลับตาเป็น การจะอยู่ตรงนั้นได้ต้องเก๋าประมาณหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จางผิงยังขาดอยู่ ถึงแม้เรื่องการไขคดีจะไม่เป็นรองใคร แต่ชีวิตการทำงานมันไม่ใช่แค่หาถูกผิดหรือไขคดีออกมาอย่างเดียว จางผิงได้เรียนรู้จากพวกเขาเหล่านี้มากเลย 

 

หลันฮุย ลูกของหลันเจวี๋ยก็น่ารัก ผู้เขียนไม่ได้ใส่น้ำหนักความสัมพันธ์พ่อลูกนี้มากนัก เล่าน้อย แต่น่ารักมาก 

 

นอกจากตัวละครที่โอชอบมาก ๆ ในเรื่องนี้แล้ว ก็ชอบเรื่องราวข้อคิดเตือนใจที่สอดแทรกเข้ามา ชอบเรื่องราวเล็ก ๆ ระหว่างบรรทัดที่ทำให้ตัวละครดูมีชีวิต ชอบการใส่มุกที่ดูไม่ตั้งใจแต่ให้ผลที่ดี แถมทำให้เรื่องไม่เครียดเกินไป ชอบการเหน็บแนมเสียดสีแสบ ๆ คัน ๆ  

 

ส่วนที่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยดีในเรื่องคือ คดีในเรื่องแทบจะไม่เป็นคดีที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน หรือพบเห็นได้บ่อย ๆ เลย ส่วนใหญ่เป็นคดีแปลกที่มีความเชื่อมโยงหลาย ๆ อย่างเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ การเมือง ความเชื่อ และวัฒนธรรม ความรู้สึกเชื่อมโยงและเข้าถึงง่ายนั้นแทบไม่มีเลย คดีดีไหม ดีค่ะ ซับซ้อนไหม ซับซ้อนมาก เดายากไหม เดาไม่ออกเลย มันขาดความเชื่อมโยงอย่างที่ว่าไป คือเราไม่มีข้อมูลพอที่จะเดาออกมาได้เลย อีกทั้งผู้เขียนมักไม่อธิบายตรง ๆ จะอธิบายนิดหน่อย แล้วให้คนอ่านคิดต่อเอาเอง อ่านยากพอสมควร มันจะมีช่วงที่โอรู้สึกเวิ้งว้างกับข้อมูลที่ให้มามาก (หยกนั่น...) แต่ก็ไม่ใช่ว่ารู้สึกอย่างนั้นตลอดเวลา คนอ่านยังสามารถจับใจความหลักได้อยู่  

 

อีกเรื่องคือ มันจะมีบางประเด็นที่เหมือนเปิดมาให้คิดว่าจะมีอะไร แล้วก็ไม่เล่นประเด็นนั้นต่อ เหมือนอยากให้คิดต่อเอาเอง แต่โอคิดว่าเขาน่าจะอธิบายหรือกล่าวถึงมันมากกว่านี้ เช่น เรื่องการแบ่งฝักฝ่ายอำนาจในวัง ใครกันที่อันตราย เรื่องของไหวหวาง มีตอนที่จางผิงจ้องขาของไหวหวางนานจนเรารู้สึกว่ามันน่าจะมีอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่กล่าวถึงต่อ หรือที่ไหวหวางพูดกับหลิ่วถงอี่ว่าเคยเจอ เฉินโฉวที่สุดท้ายหายไปไหน ตัวละครต่าง ๆ ที่โผล่มาแบบน่าจะมีอะไรสักอย่าง แล้วสุดท้ายก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่ 

 

นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว ก็จะมีตอนพิเศษ ซึ่งจะกล่าวถึงคดีที่จางผิงไปเจอก่อนเข้ารับราชการ และคดีที่ใต้เท้าต่าง ๆ ทำสมัยหนุ่ม ๆ ซึ่งทุกตอนมีความน่าสนใจในตัว 

 

โดยรวมชอบค่ะ 4 ดาว 
 




Create Date : 07 กันยายน 2563
Last Update : 15 กันยายน 2563 20:39:11 น.
Counter : 1410 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments