|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ขายอาหารไทย...หาทุนช่วยเหลือเด็ก ที่เบลเยียม
ทำอาหารไทย ช่วยหาทุนให้มูลนิธิช่วยเหลือเด็กฯ ที่เบลเยี่ยม
เมื่อปีที่แล้วประมาณเดือนกันยายน เคยเล่าให้ฟังตอนที่ถีบจักรยานไปเที่ยวอีกเมืองไม่ไกลนัก แล้วเจอเจ้าหน้ามูลนิธิ Kiwanis ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า และผู้หญิงที่ถูกสามีทอดทิ้ง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หลังจากมีการประชุมปรึกษาหารือกันมาสองสามครั้งเรื่องการจัดงาน ครั้งหลังสุดมีประชุมอีกครั้งเมื่อต้นเดือนกุมพาฯ ที่ผ่านมา ลองเข้าไปอ่านเรื่อง เลี้ยงอาหารแขกแปลกหน้าดูได้นะจ๊ะ
สรุปก็คือ งานจะจัดขึ้นในวันที่ ๑๗ มีนาคม ตรงกับวันอาทิตย์ สถานที่จัดงานไม่ไกลมากจากบ้านขับรถไม่ถึง ๒๐ นาที หน้าที่ของแม่บุญและมิเชลคือ การทำอาหารไทยขาย รายได้ทั้งหมดมอบให้เป็นกองทุนสำหรับช่วยเหลือเด็กกำพร้า และหญิงที่ถูกสามีทอดทิ้งและมีลูกที่ต้องดูแล อาหารที่เราจะทำขายมี ๓ อย่างคือ ต้มข่าเห็ดรวมมิตร แกงเผ็ดไก่หน่อไม้ และผัดไทย
วันศุกร์เช้าตรู่
ท่ามกลางอุณหภูมิ -5 °c หกโมงเช้า ที่มิเชลกับแม่บุญพากันออกไปหาซื้อข้าวของที่จะต้องทำทั้งหมด ลิสรายการที่จะต้องซื้อ แม่บุญทำไว้ตั้งแต่วันพุธ ตั้งไว้ที่โต๊ะกินข้าว คิดอะไรออกก็จด ๆ ลงไป เพราะหากทำอะไรหลาย ๆ อย่างมันอาจจะลืมได้ แม้ว่าจะทำกันมาร่วมแปดปี แต่อายุขัยที่มากขึ้น ไม่ได้เป็นหลักประกันใด ๆ ว่าจะไม่ลืม...งานนี้ต้องไม่ให้ลืม โดยไม่จำเป็น ไม่งั้นมิเชลจะกินหัวแม่บุญแทนข้าว เพราะแกต้องขับรถกลับไปกลับมา มันเสียเวลา เสียอารมณ์คุณท่าน...
เราเริ่มกันที่ร้านขายของเฉพาะให้กับร้านอาหารซื้อกุ้งแช่แข็ง ๕ แพค จากนั้นไปอีกร้านซื้อไก่ ๘.๕ กิโลกรัมครึ่ง กับไข่ไก่อีก สองแพค ๔๘ ฟอง จะเอามาทำผัดไทยไง จากนั้นก็ดิ่งไปที่ร้านขายส่งอาหารไทย ร้านของคนไทย แม่บุญน่าจะเป็นลูกค้ารายแรก เขาเปิด ๙ โมง แม่บุญไปกดกริ่งประตู ๘ โมง ๕๕ นาที ว่าแล้วก็จัดการซื้อข้างของที่ต้องการทั้งหมด มิเชลขับรถมารับถึงหน้าประตูร้านเพราะมันหนัก จากนั้นก็ไปอีกแห่งซุปเปอร์มาร์เก็ต ซื้อผักอีกสองสามอย่าง แล้วก็กลับบ้าน ถึงบ้าน ๑๑.๓๐ น. ทำเวลาได้ดีทีเดียว
จากนั้นก็จัดแจงเก็บข้าวของไปใส่ในรถให้เรียบร้อย เพราะอุณหภูมิติดลบ เราเลยไม่ต้องใช้ตู้เย็นให้เปลืองที่ในตู้เย็น แค่ใส่ลังโฟม เก็บไว้ในโรงเก็บรถ แค่นี้ก็เย็นเฉียบสะใจ นี่ถือเป็นข้อดีของอากาศแบบนี้ ไม่ใช่จะไม่ดีเสียเลย อันนี้ลองมองสิ่งที่ไม่ดีในอีกแง่มุมหนึ่ง มันมักจะเป็นอย่างนี้เสมอแหละ อย่ามองอะไรในแง่มุมเดียว ให้มองเหมือนกระจกหกด้าน ...ได้แง่คิดอีกอย่างไว้สอนใจ
ที่บอกกล่าวเล่าสิบมาว่าซื้ออะไรบ้าง หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า มันจะมากไป หรือเปล่า จะพอหรือเปล่า นั่นสิ อันนี้ตอนประชุมกัน ไม่มีใครคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ว่า อาหารของแม่บุญจะถูกคนมารุมทึ้ง รุมซื้อ หรือจะถูกเมิน ไม่มามอง เพราะเป็นครั้งแรก ปีแรก ของการทำอาหารไทยในงานนี้ เราจึงสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์ว่า จะทำแบบพอดี ๆ เป็นกลาง ๆ เอาไว้ขายดีเมื่อไหร่ ปีหน้าค่อยมาว่ากันใหม่ ...ถ้าแม่ครัวไม่หนีหายตายจากไปเสียก่อน อันนี้ไม่มีใครรู้
เช้าวันเสาร์ที่ ๑๖
๙ โมงเช้า น้องเตย...นักศึกษาไทยปริญญาเอกที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นานนัก ถูกแม่บุญชักชวนให้มาช่วยงานก็มาถึง วันนี้แม่บุญเตรียมชุดไทยไป ๓ ชุด เพื่อให้น้อง ๆ ใส่กัน ว่าแล้วเราก็ออกเดินทางไปสถานที่จัดงานกันทันที วันนี้อากาศที่เริ่มอุ่นขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่หิมะที่ตกหนักเมื่อสองวันก่อนเริ่มละลายเพราะฝนตก และทำท่าว่าจะตกอีก สาธุ...ในใจแม่บุญอยากให้อากาศเย็น ๆ แบบนี้ เพราะคนที่นี่หากอากาสดีเมื่อไหร่ พวกเขาจะพากันไปเที่ยวทะเล เที่ยวที่อื่นหมด เดี๋ยวไม่มีคนมาในงาน ...สาธุ อีกรอบ
มิเชลขับรถมาถึงสถานที่จัดงาน ซึ่งเป็นอาคารสูงมาก ๆ ขนาดใหญ่ สามารถจุคนได้กว่า ๗ พันคน อันนี้เจ้าของเขาเล่าให้ฟัง ตั้งอยู่ในเนื้อที่ ๒๐ เอเคอร์ ที่จอดรถเหรอ...สุดลูกหูลุกตา เมื่อเราไปถึง เจ้าหน้าที่ ๆ รับผิดชอบดูเหมือนจะมากันตั้งแต่เช้าแล้ว พอเดินเข้าไปข้างใน แม้โตีะ เก้าอี้จะเริ่มถูกจัดวางตามตำแหน่งที่วางไว้ ด้านข้าง ๆ มีฉากเป็นไม้ตั้งอยู่ ข้างหน้ามีโต๊ะเก้าอี้สองตัว ไว้ให้เจ้าหน้าที่นั่งรับแลกคูปองสำหรับซื้อ อาหาร เครื่องดื่ม หลังฉาก คือ ครัว...สำหรับจัดเตรียมอาหาร หากจะบอกว่าเป็นครัวที่สงที่สุด ใหญ่ที่สุด ตั้งแต่เคยทำอาหารมาร่วมเจ็ดปี คงจะไม่ผิด แต่...มันไม่มีอะไรเลยนอกจากโต๊ะ วางไว้สองตัว
งานนี้วัดกันความสามารถกันจริง ๆ แม่บุญเริ่มคิดหนักว่าจะทำยังไงกับชีวิต...ข้าวของที่ซื้อมา และต้องเตรียมทั้งหมด ผักที่ต้องล้าง ต้องหั่น ว่าแล้วก็มองไปรอบ ๆ ตัว น้ำ...ไม่มี ตายละหว่าของสำคัญที่สุด ไม่มีน้ำแล้วจะทำอะไรได้ ว่าแล้วก็ถามเจ้าหน้าที่ ๆ บอกว่า เดินไปตักได้อยู่อีกมุม แต่มันก็ไกล กว่าจะทำเสร็จ คงได้ลมใส่กันแน่ ๆ พอดีเดินไปทักทายท่านประธานมูลนิธิฯ เห็นกำลังนั่งหน้ายุ่งกับเอกสาร ระหว่างนั้นก็มองรอบ ๆ ห้อง เห็นมีที่ล้างจาน มีน้ำ มีปลัีกไฟ ว่าแล้วก็ถามด้วยความรวดเร็วว่า ขอใช้ห้องนี้เป็นห้องครัวชั่วคราวเพื่อเตรียมอาหารได้ไหม ? ท่านประธานบอกได้...เท่านั้นแหละ แม่บุญกับน้องเตยรีบขนของย้ายจากครัววังเวงด้านนอก เข้ามายึดหัวหาดที่ห้องนี้ทันที
จากนั้นก็จัดโต๊ะสองตัวเอามาต่อกัน เอาของที่ต้องมา ๆ เรียง แล้วก็เริ่มลงมือกันเลย เวลาไม่คอยท่า ขืนชักช้าจะไม่ได้กลับบ้านไว น้องช่วยแกะกุ้ง ล้างผัก ส่วนแม่บุญหั่นเนื้อไก่เกือบสิบกิโลไปพลาง ๆ ข้างนอกหน้าห้อง ขอให้มิเชลเอาเตาแก๊สมาวางเพื่อจะทำอาหาร ระหว่างนั้นก็ต้มหน่อไม้กระป๋อง ทั้งหมด ๔ กระป๋องใหญ่ น้ำผัดไทยที่ผสมทุกอย่างไว้แล้วรอคิวต่อไป จากนั้นก็เอาเห็ดรวมมาล้างน้ำเตรียมต้ม เรียงคิวไว้ในหัว ไม่ให้ลืม
น้ำแกงต้มข่า ใส่เครื่องเทศเพียบ ทั้งรากผักชีบุบ ข่า ตะไค้ ใบมะกรูด หอมแดง ต้มทิ้งไว้ในน้ำกะทิ ทิ้งค้างคืนไว้แบบนั้นจะได้หอม ๆ พรุ่งนี้ค่อยมาอุ่นแล้วใส่เครื่อง น้ำแกงเผ็ด เอามาผัดแล้วใส่หัวกะทิ เคี่ยวจนได้ที่ แต่ยังไงหน้าตามันก็จืด เนื่องจากใส่พริกมากไม่ได้ ลูกค้าที่เขาไม่เคยกินก็ต้องคิดถึงข้อนี้ด้วย นี่ถ้าเป็นที่เมืองไทย พริกแกงหนึ่งกระปุกน่าจะเรียบในครั้งเดียว
น้ำผ้ดไทยเคี่ยวจนเหนียวข้นได้ที่ จากนั้นก็แช่เส้นจันทร์ผัดไทย แล้วเอามาผัด ใส่ถังพลาสติคใบใหญ่ รอให้เย็นแล้วปิดฝา เก็บไว้ผัดพรุ่งนี้ โชคดีที่มีตู้เย็นขนาดใหญ่ไว้ใส่ข้าวของที่เตรียมไว้ทั้งหมด กุ้ง...แม่บุญรวนให้สุกครึ่งหนึ่ง พรุ่งนี้เวลาผัดจะได้ไม่ใช้เวลามาก ไก่ที่จะใส่แกงก็รวนเช่นกัน กว่าจะเสร็จสิ้นภาระกิจทั้งหมดที่ว่ามา ก็ปาเข้าไปร่วมห้าโมงเย็น
ระหว่างที่เราวุ่นกันอยู่ในครัว ด้านนอก..เจ้าหน้าที่ก็จัดโต๊ะ เก้าอี้ เอาของรางวาลมาปิดหมายเลข เหรียญพลาสติคที่จะใช้แทนเงินสดสำหรับซื้ออาหารถูกนำมานับ เรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ เครื่องดื่มอีกมุม จัดไว้อย่างเป็นระเบียบเช่นกัน จากนั้นท่านประธานก็เดินมาบอกให้รอกินบาบีคิว ที่เขาจะทำเลี้ยงทุก ๆ คนที่มาช่วยงาน มิเชลเลยอาสาจุดเตาบาบีคิว งานนี้แม่บุญกับน้องเตย อาสาขอเป็นคนย่างบาบีคิว..ด้วยสายตาแปลกใจของกลุ่มผู้หญิงทั้งหลาย
การย่างบาบีคิวของคนที่นี่ ถือเป็นธรรมเนียมกันเลยว่า ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ชายเท่านั้น เราเองก็งง ว่าทำไม ? แต่คิดว่า ที่เขาทำแบบนี้ เพราะการย่างบาบีคิว ไฟมันร้อน และมีควัน จะทำให้เสื้อผ้า ผมเผ้าอบไปด้วยควัน มากกว่า เราสองคนเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่บ้านสมัยก่อน ก็จุดเตาถ่านหุงข้าว ควันโขมงไปทั้งบ้าน ถ้ามัวมากลัวกลิ่น มีหวังอดตาย ตกลงเราสองคนเลยเชิญท่านประธานผู้ซึ่งต้องมาย่างบาบีคิว ให้ไปนั่งดื่มให้สบายอุรา เล่นเอายิ้มแก้มปริ ที่สำคัญ...เราสองคนย่างเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ได้ดีโดยไม่ไหม้แต่แต่ชิ้นเดียว สุกกำลังดีว่างั้นเถอะ ...ส่วนผักสลัด เราสองคนก็ช่วยกันล้าง หั่น จัดใส่ชามใบโตตั้งแต่ห้าโมงเย็น เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็ลุยกันเลย
งานนี้มีเจ้าของไวน์จากฝรั่งเศสมาร่วมวง แถมใจปล้ำเอาไวน์ขวดละ ๓๙ ยูโรมาให้ชิมอีกสองขวด ไวน์แสนแพง อร่อยเหาะ หอมตั้งแต่เปิดขวด หมุน ๆ แก้วให้ไวน์ได้รับอากาศแล้วรออีกสักพัก พอยกขึ้นมาจะกระดกเข้าปาก กลิ่นหอมจากองุ่นที่หมักจนได้ที่ ลอยมาเตะจมูกทันที เลยถือโอกาสเปรียบเทียบกับไวน์ราคาไม่แพงที่เขาเปิดมาเลี้ยง ห่างกันไกลลิลลับ ว่าแล้วก็จัดการเสีย สองแก้ว อิ อิ ...ส่วนน้องเตยสาวน้อยผู้ไร้แอลกอฮอล์ เธอดื่มน้ำเปล่าเท่านั้นเอง สองทุ่มครึ่งที่แยกย้ายกันกลับเตรียมลุยต่อวันงานพรุ่งนี้
รออ่านต่อนะคะ ว่างานนี้อาหารไทยจะสร้างชื่ออีกหรือเปล่า ยังไม่จบค่ะ
Create Date : 23 มีนาคม 2556 |
|
23 comments |
Last Update : 23 มีนาคม 2556 13:42:44 น. |
Counter : 3474 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Taew IP: 94.109.124.199 23 มีนาคม 2556 2:05:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: moresaw 23 มีนาคม 2556 7:57:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่วิ IP: 125.26.34.50 23 มีนาคม 2556 8:17:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 23 มีนาคม 2556 13:51:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 23 มีนาคม 2556 14:57:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: kanyong1 23 มีนาคม 2556 15:42:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sai Eeuu 23 มีนาคม 2556 17:10:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ALDI 24 มีนาคม 2556 3:13:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: surya21 IP: 171.98.132.213 24 มีนาคม 2556 14:23:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: Wannipa IP: 91.86.65.58 1 เมษายน 2556 0:10:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: ธารนรินทร์ IP: 213.89.94.225 1 เมษายน 2556 19:31:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: Maeboon 3 เมษายน 2556 0:57:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: Maeboon 4 เมษายน 2556 11:36:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: suzuki IP: 178.51.125.65 6 พฤษภาคม 2556 21:01:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: suzuki IP: 178.51.113.107 7 พฤษภาคม 2556 19:17:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Belgium
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 87 คน [?]
|
แม่บุญ..เป็นหญิงไทยอายุเลยวัยรุ่นไปไกล จับพลัดจับพลูได้สามีเป็นฝรั่งแล้วก็หอบผ้าตามกันไปอยู่เมืองนอกเมืองนา พอได้เวลาหยุดงานก็กระเตงกันไปเที่ยวตามประสาตายาย ไม่มีลูกกวนตัวกวนใจ แม่บุญนั้นชอบเขียน ชอบเล่า ชอบถ่ายรูป เป็นที่สุด จะเก็บไว้คนเดียวก็กระไรอยู่ เอามาแบ่งบันกันให้ลูก ๆ หลาน ๆ ได้อ่าน ได้ดูกันดีกว่า ส่วนฝีมือด้านอื่น ๆ นั้นก็พอจะมีอยู่บ้าง เช่น ทำอาหาร ก็เอามาแบ่งปันกันอีกนั่นแหละ ค่อย ๆ รู้จักกันไป รู้จักกันแล้วก็อย่าลืมเข้ามาคุยกันนะ
ปล....รูปภาพต่าง ๆ หากต้องการนำไปใช้ช่วยบอกที่มาที่ไปด้วยนะคะ เป็นการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งสังคมไทยเราค่อนข้างมองข้ามในเรื่องนี้ค่ะ
|
|
|
|
|
|
|
|