เทคโนโลยี เปรียบเสมือน เวทมนต์ ที่บันดาลความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของเรา
หากถามคนในสมัยนี้ว่า ชอบชีวิตที่สะดวกสบาย หรือ ชอบแบบลำบาก เช่นจะอาบน้ำที
จะต้องเดินเป็นกิโลเพื่อไปตักน้ำมาอาบ หรือ จะส่งข้อความให้เพื่อนสักคนหนึ่ง ก็ต้องเขียนจดหมาย
ใส่ซองรอ บรุษไปรษณีย์ มารับ ก็คงไม่มีใคร เลือกชีวิตอย่างหลังแน่ เพราะเสียเวลาไม่ทันสมัย
พอวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีเปลี่ยนไป วิถีชีวิตของผู้คนย่อมปรับเปลี่ยนไปตามนั้น หากใครที่
ออกตัวปฏิเสธขอฉันอยู่แบบเดิมๆ ปิดประตูเงียบเพียงลำพัง ก็จะกลายเป็น คนขวางโลก
ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของโลก และสุดท้ายก็ตกโลก ก้าวไม่ทันความเจริญเสียนี่..
เทคโนโลยี ที่ทันสมัยแม้จะอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตคนเราอย่างมากมาย..
แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ถูก เทคโนโลยีทำร้าย จนเสียผู้เสียคน ไม่ว่าจะเป็น โลกไซเบอร์
ชุมชนออนไลน์ ที่มีนับไม่ถ้วน จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นข่าวสารทางหน้าหนังสือพิมพ์
หรือโทรทัศน์ เกี่ยวกับการถูกล่อลวงให้เสียทรัพย์ หรือถูกประทุษร้ายทางร่างกายและจิตใจ
ไม่ว่าจะเป็นผู้เยาว์ หรือ แม้แต่ผู้ไม่เยาว์ ก็โดนเล่นงานกันทั่วหน้า..
ความทันสมัยรวดเร็ว ทำให้คนสมัยนี้กลายเป็น โรค รออะไรไม่เป็น เพราะทุกอย่างเหมือนอยู่ในมือ
จะจับจะฉวยอะไรดูมันง่ายดายสะดวกรวดเร็วไปหมด หากมีอะไรที่ติดขัด ไม่คล่องตัว
ก็กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเสียง่ายๆ พาลให้อารมณ์ฉุนเฉียวขัดเคือง..
แค่โทรศัพท์ไปหาคนรักแล้วเขาไม่ยอมรับสายทันที ก็อาจเป็นเรื่องโศกนาฏกรรมขึ้นมาได้
อย่างไม่น่าเชื่อ..
นี่ตกลงว่า สิ่งที่มนุษย์กลุ่มหนึ่งลงทุนลงแรงสร้างสรรค์ มันขึ้นมาเพื่อทำให้ชีวิตเราทั้งหลายง่ายขึ้น
กลายเป็น ดาบสองคม ที่อีกด้านหนึ่งกลับทำให้เรา เคยตัว กับความสะดวกสบายอย่างนั้นหรือ..?
แล้วคุณค่าที่แท้จริงของมันอยู่ที่ไหนกัน..?
นี่เรากลายเป็น ทาสความสะดวกสบายไปแล้วหรือนี่..?
ไม่เคยมี โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไหน รายไหน เขียนในคู่มือการใช้งานว่า
ห้ามโทรเกินวันละกี่นาที กี่ครั้งต่อวัน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้คุณกลายเป็นคนติดโทรศัพท์
หรือ กรุณาใช้เท่าที่จำเป็น ไม่มี..!!
หรือการใช้รถยนต์ เท่าที่จำเป็นจะทำให้คุณประหยัดเงินค่าเชื้อเพลิงและลดการเกิดอุบัติเหตุได้
ถึงมีคำแนะนำอย่างนี้เราก็ไม่เชื่อหรอก เพราะเราทุกคนก็มีความจำเป็นทั้งนั้น..
ผู้สร้าง ย่อมหวังผลเป็นกำไรตอบแทน ผู้เสพ ย่อมหวังผลเป็นความ คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป
ดังนั้นโลกของ ความพอดี จึงไม่มีจริง ขึ้นอยู่กับว่า อัตตา ของใครจะใหญ่จะเล็กกว่ากัน
ใครได้ใครเสีย มากกว่ากัน สุดท้าย ผลประโยชน์แท้ๆอยู่กับใคร..
เทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ไม่เคยหยุดนิ่ง ต่างก็พยายามสร้างสรรค์ สิ่งอำนวยความสะดวก
สบายมา บำรุบำเรอกิเลส ของมนุษย์ให้พอกพูนหนาเตอะขึ้นทุกวัน
แต่ในด้านจิตใจเรากลับไม่พัฒนา ให้ก้าวทันเทคโนโลยีเอาเสียเลย...
มีแต่ สาละวันเตี้ยลง ถอยหลังลงคลอง จริยธรรมเสื่อมทราม คุณธรรมถดถอย ทั้งที่เรามี
การศึกษาสูงขึ้น มีมหาวิทยาลัยงอกเป็นดอกเห็ด ยอมรับได้แม้กระทั่งการ คอรับชั่น ติดสินบน
นี่หรือผู้ที่เจริญแล้ว..!!
ต่อไปนี้ หากเราจะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ รุ่นใหม่ล่าสุด หรือ รถยนต์รุ่นล่าสุด
กรุณา ตบหน้าตัวเอง แรงๆสักที เป็นการเรียกสติว่า..
ตกลงเราจะซื้อของใช้รุ่นล่าสุด ทันสมัยที่สุด เพื่ออะไร เป็นความจำเป้นจริงๆหรือไม่
หรือเป็นไปตาม อำนาจความอยาก ที่มีอยู่มันบังคับให้ต้องทำ...
คุณจะใช้อะไร ราคาถูกหรือแพงเท่าไหร่มันก็เป็นเรื่องของคุณเอง
แต่อย่าลืมพัฒนาหยิบยก จิตใจของคุณ ให้เป็น เวอร์ชั่นล่าสุด เหมือนของใช้ด้วยก็แล้วกัน...
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [