มกราคม 2561

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
ข่าวร้ายที่รอคอย ตอน ร้องไห้บนแจกัน..





ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน..

ผู้หญิงคนหนึ่งเคยยิ้มเยาะเย้ยโลกทั้งโลก ในฐานะผู้ชนะ

เธอเป็นผู้ชนะทั้งในโลกของความจริง และโลกของความฝัน

ชนะทั้งในสงครามแย่งชิงตำแหน่งหน้าที่การงาน 

และ สถาปนาตนเองว่าเป็นผู้ชนะตัวจริงใน สงครามหัวใจ



เธอคิดว่า เธอคือ ผู้คุมเกมชีวิต ของคนทุกคนที่ก้าวเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของเธอได้ทั้งหมด..

และนี้คือเรื่องราวบางส่วนของเธอ.. 



ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนนักศึกษา คนที่รับหน้าที่สำคัญในชั้นเรียน ในคณะ ไม่พ้นเธอ

ทั้งกิจกรรมหน้าห้อง จนถึง ระดับตัวแทนเขตการศึกษา เธอไม่เคยตกลงจากท๊อปทรี

สร้างความภาคภูมิใจแก่พ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และที่สำคัญที่สุดคือ ตัวเธอเอง



ด้วยคุณสมบัติและรูปสมบัติ ที่เธอมีอยู่ 

มันได้ทำให้เธอมีความ ทะเยอทะยาน เกินหนุ่มสาวในวัยเดียวกัน

หากคนอื่นกำลังนับสิบ เธอจะต้องนับเลยหลักพัน ข้ามพ้นคนอื่นๆไปไกล

ความฝันอันเรืองรองของเธอ มันจะเป็นความจริงในไม่ช้าไม่นานนี้..



เมื่อเธอได้มีโอกาสก้าวเข้ามาทำงานในองค์กรของ บริษัทพลังงาน อันดับหนึ่งของประเทศ

ด้วยโปรไฟล์อันโดดเด่น และ ความมั่นใจในตนเอง 

ทำให้เธอชนะใจผู้สอบสัมภาษณ์ และได้ผ่านเข้ามาทำงานในองค์กรแห่งนี้ได้แบบไม่ยากเย็นนัก



แม้จะเป็นเพียงตำแหน่ง วิศวกรฝึกหัด แต่ก็ทำให้เธอ ภาคภูมิใจหนักหนา

และคิดเล่นๆในใจว่า นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆของเธอ นี่เป็นแค่ ทางผ่าน ของเธอเท่านั้น..

เป้้าหมายของเธอมันยังอยู่สูงกว่านี้อีกมากมายนัก..

และคิดว่าจะฝังตัวกับที่ทำงานแห่งนี้เพียงสองสามปีเท่านั้น 

จะเอาไว้แค่เป็นประสบการณ์ เอาไว้แค่ประดับประวัติการทำงาน 

อย่างเธอต้อง โกอินเตอร์ เท่านั้น..



และก็เป็นไปอย่างที่เธอคาด 

เธอใช้เวลาเพียงสองปีก็สามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้จัดการแผนก

โดยแซงหน้าเพื่อนและรุ่นพี่หลายคนแบบไร้คู่แข่ง 

แต่นั่นก็ด้วยฝีมือและความสามารถล้วนๆของเธอเอง..




ในขณะที่หน้าที่การงานของเธอกำลังไปได้สวย

โชคชะตาก็พาให้เธอมาพบกับ วิศกรหนุ่มรุ่นพี่ คนหนึ่ง ที่พึ่งถูกดึงตัวมาช่วยงานในแผนกของเธอ

" มานพ " หนุ่มนักเรียนนอกอนาคตไกล ที่เคยร่วมงานกับมือสตาร์ทอัพระดับโลก

แบรนด์ปิโตรเคมียักษ์ใหญ่ และเป็นบริษัทข้ามชาติที่ทรงอิทธิพลในเอเชียแปซิฟิค



ด้วยท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตนและท่าทีที่เป็นมิตร รวมถึงการนำเสนองานที่เป็นมืออาชีพ

มานพ ก็กลายเป็น ขวัญใจ ของทีมงานอย่างรวดเร็ว


" รตา " แอบจ้องมองเขาอยู่อย่างห่างๆ 

มานพ คือ ชายหนุ่มคนแรก ที่ทำให้เธอเกิดอาการหวั่นไหว

มานพ ไม่ใช่ผู้ชายเหลาหล่อไปกว่า ผู้ชายคนอื่นๆที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ

แต่เธอรู้สึกว่า เขามีเสน่ห์ลึกลับ ยากเกินบรรยาย จนมันบอกไม่ถูกว่าเป็นเช่นไร



ตอนแรกๆเธอคิดว่ามันคงเป็น อาการของความ ตื่นตัว กับเพื่อนร่วมงานใหม่ธรรมดาๆ

แต่เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง หัวใจของเธอ มันฟ้อง มันบอกว่า เธอคิดผิด..

นั้นคือ ความรัก มันเป็นความเรียกร้องจากหัวใจ มันเป็น สันชาตญาณ ของมนุษย์ธรรมดาทั่วไป

ที่เธอยังแปลสัญญาณมันไม่ออก บอกไม่ได้..



รตา และ มานพ ทำงานร่วมกันในฐานะ เพื่อนร่วมงาน

แต่หัวใจของเธอมันร่ำร้องอย่างเงียบๆ อยากจะให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอก้าวข้ามผ่านเกินไปกว่านั้น

และหลายครั้งก็มีเหตุการณ์ ที่ทำให้เธอคิดเอาเองว่า เขาก็เริ่มมีใจ กับเธอบ้าง..



ทั้งที่ห้องชงกาแฟ ที่บังเกิดการสนทนาแบบเป็นกันเองอยู่นานสองนาน

หรือในที่ประชุมแผนก ที่เขาก็ช่วยเธออย่างจริงจังโดยให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ทีมงาน

หรือแม้แต่ในเมล์ส่วนตัว ที่มานพส่งคำทักทาย และแนบเพลงสากลเพราะๆมาให้เธอฟังเป็นประจำ



ใครจะไปอดคิดได้ว่า เขาจะไม่มีใจกับเธอบ้างเลย..

แต่ในฐานะอะไร เธอก็ไม่รู้..


                               ********************



วันนี้ รตา มาทำงานเช้าเป็นพิเศษ เพราะจะต้องโคงานกับมานพในโปรเจ็คหนึ่ง

เสียงสนทนาของ มานพ กับคู่สายที่เป็นภาษาอังกฤษดังแว่วออกมาหน้าห้อง

ด้วยทักษะทางภาษา ทำให้เธอพอจับใจความได้ว่า มานพกำลังคุยอยู่กับใครคนหนึ่ง


ที่สำคัญ มันไม่ใช่เรื่องงาน..



เธอยังไม่รีบร้อนเปิดประตูห้องเข้าไป  

และยืนอยู่หน้าห้องทำงาน ตั้งใจฟังจนพอจับใจความได้ว่า ทั้งคู่กำลังคุยเรื่องส่วนตัว


" ใจเย็นๆที่รัก ผมใกล้จะกลับไปแล้ว ผมเป็นห่วงคุณ "

" ได้โปรดเชื่อผม ผมสัญญา ผมรักคุณ "


เพียงแค่สองสามข้อความ รตา ก็รู้สึกร้อนผ่าวบนใบหน้า

ความรู้สึกสบสน หัวใจเต้นแรง และที่สำคัญ มันมีอาการผิดหวัง แทรกซึมเข้ามาในหัวใจเธอ..

เธอไม่ได้ฟังผิดแน่ แม้ว่าเขาจะพูดภาษาได้ดีเหมือนเจ้าของภาษาแท้ๆก็ตาม

แต่ถ้อยคำมันชัดเจนเหลือเกิน มันดังชัดกึกก้องอยู่ในหัวเธอตลอดเวลา



วันนั้นเธอแจ้งหัวหน้า ลากลับบ้านทันที โดยอ้างว่ารู้สึกปวดหัวกระทันหัน

และจะสรุปงานที่ค้างเอาไว้ให้ทันก่อน เส้นตายที่ลูกค้ากำหนดแน่นอน..



วันนั้นทั้งวัน รตา นอนหมกตัวอยู่ในห้องนอนของเธอที่คอนโดใจกลางเมือง

คำถามที่ตอกย้ำในใจซ้ำไปซ้ำมาก็คือ เธอกำลังอกหักใช่ไหม..?


" บ้าน่า..อกหักบ้าบออะไรกัน  เราไม่ได้รักเขาสักหน่อย " เธอตอบตัวเอง

แต่ทำไมมันรู้สึกเจ็บที่หัวใจ ทำไมมันสั่งให้เลิกคิดถึงมานพ แต่ทำไมมันทำไม่ได้..

และพรุ่งนี้ถ้าต้องเจอหน้าเขาเราจะทำอย่างไรดี..?



          เย็นนั้น รตา โทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนสนิท เพราะต้องการระบายปัญหาหัวใจ

เธอรู้สึกอายเหมือนกันที่ต้องมาพูดกับเพื่อน แต่ก็ยังดีกว่าที่จะเก็บมันเอาไว้คนเดียว

เธอยอมกลายเป็น เด็กน้อยผู้อ่อนต่อโลก ผิดกับภาพภายนอกที่ดูเป็นหญิงมั่น

ซึ่งเป็นภาพที่เพื่อนฝูงและคนรอบข้างต่างคุ้นเคย..



และสุดท้ายเธอได้รับคำตอบประมาณว่า

ถ้ารักเขาจริงก็ต้องลองสู้ดู เอาชนะใจเขาให้ได้..

แต่ถ้าทำใจได้ก็ปล่อยเขาไป มีคนดีๆอีกตั้งเยอะรอเราอยู่ 

คนที่รูปสวยรวยความสามารถอย่างเธอคงหาผู้ชายดีๆได้ไม่ยาก.. 



รตา ขอกลับไปคิดดูก่อน ขอไปค้นหาใจตัวเองให้แน่นอนก่อนว่า เธอรักเขาจริงหรือไม่

จะสู้หรือจะถอย จะถอยหรือจะสู้..? 



ถ้าสู้ต่อ ก็แค่เดินไปบอกเขาตรงๆว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขา แล้วถ้าเขาไม่รักเธอตอบล่ะ

หรือจะยอมถอย ยอมหลีกทางไป เปิดโอกาสให้ตัวเองจะดีไหม..? 

แต่ถ้ายอมถอย เราก็เหมือนคนยอมรับความพ่ายแพ้  ไม่.. ชีวิตเราไม่เคยแพ้

ถ้าสู้แล้วแพ้ อย่างมากก็แค่เจ็บ แค่อาย แต่ชนะใจตัวเองได้ ได้รู้ความจริง

ดีกว่ายอมแพ้โดยไม่ยอมทำอะไรเลย..


ตกลง ฉันจะลองสู้ดูสักครั้ง..!!






Create Date : 31 มกราคม 2561
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2561 8:33:51 น.
Counter : 885 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]