กันยายน 2560

 
 
 
 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
All Blog
ครั้งสุดท้ายได้ไหม..?




ก่อนอื่น ผู้เขียนต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

กับการที่ประเทศของเราต้องสูญเสีย ทหารกล้าผู้พิทักษ์ชายแดนภาคใต้ อีกหลายนาย

จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สีแดง ที่ยืดเยื้อยาวนานกินเวลา เกินเวลากว่าสิบปีเข้าไปแล้ว..



หนึ่งชีวิต ที่ยอมแลกกับความสุขสบายของคนส่วนใหญ่ เพื่อความสงบสุขของคนในชาติ

และอีกหลายๆชีวิตที่ต้องกลายเป็น เหยื่อของความไม่เข้าใจ เหยื่อของความขัดแย้ง

ที่ถึงวันนี้ก็ยังไม่รู้คำตอบจริงๆว่า เขาต้องการอะไรจากคนในประเทศนี้..



พวกคุณต้องการอะไรจากพวกเรากันแน่..?



แล้วจะอยู่กันต่อไปอย่างนี้หรือ..?

จะจองล้างจองพลาญกันไปอย่างนี้หรือ..?



ถึงทุกวันนี้ผู้เขียนก็ยังไม่อยากเชื่อว่า ประเด็นทางศาสนา จะกลายมาเป็นเครื่องมือ

ให้ใครมาแอบอ้าง ความชอบธรรมที่จะ สังหาร ใครก็ได้ที่เห็นแย้งกับพวกตน..

ไม่ว่าความขัดแย้งนั้นจะเกิดที่มุมใดของโลกเน่าๆใบนี้ก็ตาม..



ผู้เขียนเชื่อสุดหัวใจว่า ผู้ก่อตั้งสาสนาทุกศาสนา มีเจตนารมณ์ที่เป็นพื้นฐานเหมือนกันก็คือ

ความสงบสุข สันติ และความรักใคร่ปรองดองกันของมวลมนุษยชาติ

ฉะนั้นอย่าเอาความศรัทธาศาสนา ความเชื่อในลัทธิของใครๆมาทำลายกัน..

เพียงเพราะว่าเขา เชื่อไม่เหมือนเรา..



และมีอยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะทำให้คนบนโลกนี้

จะสามารถเข่นฆ่ากันได้โดยใจเบิกบานนั้นคือ ความเห็นผิด 

ที่ทางพระพุทธศาสนาเรียกกันว่า มิจฉาทิฏฐิ  นั่นเอง..



ความเห็นผิด มีพิษร้ายรุนแรงเกินคาดคะเน

มันสามารถพลิกโลกนี้จากเย็นให้เป็นนรกได้เลย

หากคนที่ครอบครองมัน มีอำนาจและอาวุธ อยู่ในมือ..



ความเห็นผิด เป็น ต้นตอ ของการเจริญงอกงามของความชั่วร้ายทั้งมวล

ไม่เว้นแม้แต่ ความเป็นตัวเป็นตน ของเราเอง..


ความเห็นผิด เป็นเชื้อโรคร้ายที่ ฆ่าไม่ตาย 

และพร้อมจะแพร่พันธุ์ขยายเหล่ากอได้รวดเร็วและซึมลึกจนยากที่จะไถ่ถอนได้โดยง่าย..



พระพุทธเจ้าท่านจึงได้วาง สัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ เอาไว้เป็นบันไดขั้นแรก

ของ มรรคมีองค์แปด..

เพราะหากว่าใจเรายังหมุนไม่ตรงกับ สัมมาทิฏฐิ ในเบื้องต้นแล้วละก้อ

ก็อย่าหวังว่า มรรค ตัวอื่นๆจะเกิดขึ้นได้เลย..

ความหลุดพ้น ย่อมไม่เกิดขึ้นกับผู้ที่ยังครอง มิจฉาทิฏฐิ เป็นอาภรณ์เป็นแน่แท้..



โลกของเรายังวุ่นวาย ยังเดือดร้อนดิ้นรน ก็เพราะคนทำให้มันเป็นอย่างนั้น

โลกภายนอกยังครุกรุ่น โลกภายในจิตใจก็ยังสับสนอลหม่านไม่สิ้นสุด ยากเกินเยียวยา..


คนที่จิตใจเหี้ยมโหดถึงขนาดลงมือปลิดปลงชีวิตของคนที่ไม่รู้จักกันได้นั้น

ก็ต้องบอกว่า สุดเลือดเย็น..


กฏแห่งกรรม คงยังไม่อาจจะแสดงให้เห็นได้ว่า คนที่ทำความเลวความชั่วนั้น

จะต้องได้รับสิ่งตอบแทนเป็นเช่นไร.. แต่คนดีๆบนโลกใบนี้เขารู้กันหมด

แต่มันอาจไม่ทันจะมาซับน้ำตาของความสูญเสีย

ไม่อาจมาทันชดเชย ความร้อนรุ่ม ระทมทุกข์ จากการพลัดพรากไปได้ทันเวลา..



วันนี้อยู่ที่เราแล้วว่า เราจะเลือกทำอะไรกับชีวิตของเรา..

แก้แค้น หรือ ให้อภัย อยู่ที่ใจของเราเอง..

ใบไม้หนึ่งใบยังมีค่ามีประโยชน์สำหรับต้นไม้ใหญ่..

ชีวิตหนึ่งชีวิต ย่อมมีค่ามีความหมาย สำหรับคนที่รู้คุณค่าของการได้มีชีวิต

ทุกการสูญเสีย ย่อมได้รับบทเรียน ไม่ต่างจากการได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเป็นสัจธรรม


อย่าปล่อยให้การเสียสละชีวิตของนักรบจากชายแดนใต้ กลายเป็นเรื่องที่ ชินชา..

อย่าให้ความสูญเสียของครอบครัวพี่น้องของเขาเหล่านั้นเป็นแค่เรื่อง น่าเห็นใจ..

อย่าให้ความสุขความทุกข์ของคนในพื้นที่ชายแดนใต้กลายเป็นเรื่องของ คนอื่น ที่ไกลตัว



หากเราคิดว่าคนตัวเล็กๆอย่างเราจะช่วยอะไรพวกเขาได้บ้าง

ง่ายๆ แค่เพียงร่วมกันส่ง กำลังใจเล็กๆ ที่มั่นคงจริงใจ 


ที่เราสามารถส่งผ่านความห่วงใยให้พี่น้องทหารและเพื่อนร่วมชาติของเราทางโน้น

อย่างน้อยก็สวดมนต์ ขอพรพระ ขอให้เรื่องราวเลวร้ายนี้สิ้นสุดลงเสียที

เชื่อมั่นในพลังของความดีว่า สันติสุข คงเกิดขึ้นในไม่ช้าไม่นาน




ร่วมกันส่งต่อแสงสว่างจากแท่งเทียนแห่งความสงบสุข

ให้เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวไทยไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตามที่ประสบภัยความขัดแย้ง 

ได้เห็นแสงสว่างที่ปลายฟ้างาม ในชั่วชีวิตเหลืออยู่นี้สักที..



อย่าปล่อยให้อีกหลายชีวิตที่ติดอยู่ในวังวนความขัดแย้ง สิ้นหนทาง ไร้ทางเดิน

ขอให้การสูญเสียครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายจะได้ไหม..? 



ขอเป็นกำลังใจให้ผู้สูญเสียทุกท่าน 

และ ขอสดุดีความกล้าหาญและเสียสละของทหารกล้าทุกนายอีกครั้ง





Create Date : 25 กันยายน 2560
Last Update : 25 กันยายน 2560 20:48:42 น.
Counter : 1317 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]